วันที่ 10 เม.ย. 64 เวลา 13.00 น. ที่ห้องประชุมปทุมเทวาภิบาล ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดหนองคาย นายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย พร้อมด้วยนายณัฐวัสส์ วิริยานภาภรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย, นายแพทย์ชัชวาลย์ ฤทธิ์ฐิติ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดหนองคาย และนางสาวสิริมา วัฒโน รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ร่วมกันแถลงข่าวพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 1 ราย เมื่อวันที่ 9 เมษายน ที่ผ่านมา เป็นผู้ป่วยชาย อายุ 21 ปี อาชีพนักศึกษา ภูมิลำเนาอยู่ที่ ต.หนองหลวง อ.เฝ้าไร่ จ.หนองคาย แต่ไปเรียนที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมื่อปิดเทอมจึงกลับมาบ้านเพื่อขอผ่อนผันการเกณฑ์ทหาร ผู้ป่วยอาศัยอยู่กับครอบครัวรวม 4 คน ก่อนเดินทางมาจังหวัดหนองคาย 14 วัน มีประวัติเสี่ยงสัมผัสผู้ป่วยโควิด โดยได้ไปที่สถานบันเทิงในจังหวัดเชียงใหม่
สำหรับไทม์ไลน์ของผู้ป่วยมีดังนี้
วันที่ 20 มี.ค. 64 เวลา 16.00 น. เดินทางไปห้างเซ็นทรัลเฟสติวัล จ.เชียงใหม่
วันที่ 2 เม.ย. 64 เวลา 11.00 น. ไปโรงอาหารในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่, เวลา 20.00-24.00 น.ไปร้านทูไนท์ จ.เชียงใหม่ (สถานที่เสี่ยง)
วันที่ 3 เม.ย. 64 เวลา 19.30 น. กลับหนองคายโดยรถทัวร์เพชรประเสริฐ สายเซียงใหม่-นครพนม ที่ขนส่งอาเขตเชียงใหม่
วันที่ 4 เม.ย. 64 เวลา 07.30 - 09.30 น. ถึง บขส.หน้าเซนทรัลอุดรฯ นั่งรถโดยสารประจำทาง อุดรฯ-โซ่พิสัย, เวลา 12.30 น. ถึง อ.เฝ้าไร่ ลงรถบริเวณหน้าร้านกุ๊กกิ๊กดิจิตอล นั่งรถสามล้อรับจ้างกลับบ้าน ต.หนองหลวง อ.เฝ้าไร่
วันที่ 5 เม.ย. 64 เวลา 09.30-09.45 น. ไปที่ว่าการอำเภอเฝ้าไร่กับน้องชาย เพื่อติดต่อเอกสารการคัดเลือกทหารกองเกิน, เวลา 13.00 น. ช่วยพ่อทำงานก่อสร้างบ้าน ต.หนองหลวง อ.เฝ้าไร่, เวลา 18.00 น. กลับบ้าน
วันที่ 6 เม.ย. 64 เวลา 07.00 น. ถวายจังหันที่วัดป่าหนองหลวง, เวลา 13.30 น.ไป อ.โพนพิสัย กับพระ 2 รูปและคนขับรถ 1คน เพื่อหาซื้อโทรศัพท์, เวลา 13.45 น. ไปร้านโทรศัพท์ ร้านป๊อปสโตร์ไอทีโฟน ร้านเอเชียสโตร์ ร้านบีโฟน และร้านบ้านมือถือ (สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาและใช้ระยะเวลาน้อยกว่า 5 นาที), เวลา 14:30 น. แวะ ปตท.ถิ่นดง อ.โพนพิสัย เข้าเซเว่นและอเมซอน (สวมหน้ากากตลอดเวลา), เวลา 15.30 น. ถึงห้างสรรพสินค้าอัศวรรณหนองคาย ตึกไอที ร้าน ทีจีโฟน, เวลา 16.20 น. แวะส่งพระ 1 รูป ที่วัดป่าแสงธรรมมงคล บ้านไผ่ ม.5 ต.วัดหลวง อ.โพนพิสัย, เวลา 17.30 น. กลับถึงบ้าน เริ่มมีอาการครั่นเนื้อครั่นตัว มีไข้ ปวดศีรษะ เจ็บคอ ซื้อยาลดไข้กินเอง
วันที่ 7 เม.ย. 64 เวลา 07.00-12.00 น. เดินทางไปกับน้องชายเพื่อไปผ่อนผันทหาร ณ ที่ว่าการอำเภอเฝ้าไร่, เวลา 12.00 น. เดินทางกลับบ้าน
วันที่ 8 เม.ย. 64 เวลา 13.00 น. ทราบข่าวว่าเพื่อนในมหาวิทยาลัยติดเชื้อโควิด-19 และมีประวัติไปสถานที่เสี่ยง ผู้ป่วยจึงเดินทางไปยัง รพ.เฝ้าไร่ เพื่อขอรับการตรวจหาเชื้อโควิด รอผล และกักตัวที่บ้าน กระทั่งเวลา 01.00 น. ทราบผลทางห้องปฏิบัติการตรวจพบเชื้อโควิด-19
วันที่ 9 เม.ย. 64 เวลา 09.30 น. รพ.เฝ้าไร่รับผู้ป่วยมาที่ห้องความดันลบ รพ.เฝ้าไร่ จากนั่นเวลา 14.30 น. ส่งต่อผู้ป่วยไปรักษาที่รพ.หนองคาย
สำหรับสถานการณ์โควิด-19 ของจังหวัดหนองคาย มีผู้ป่วยยืนยันโรคโควิด-19 รายใหม่ จำนวน 1 ราย (สะสม 3ราย รวมสะสมจากปี 2563 รวมเป็น 6 ราย รักษาหายและกลับบ้าน 5 ราย) ผู้เข้าเกณฑ์สอบสวน 8 ราย (สะสม 591 ราย) รอผลตรวจ 8 ราย การเฝ้าระวังผู้เดินทางจากพื้นที่เสี่ยง (ข้อมูลตั้งแต่ 14 มิ.ย. 63) SQ ต่างประเทศ จำนวน 732 ราย กักตัวที่บ้านพัก (HQ) ครบ 732 ราย การกักตัวในสถานกักตัวของภาครัฐ (LQ) จำนวน 2,229 ราย ครบ 2,144 ราย คงเหลือ 85 ราย
ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า จะเห็นได้ว่า การระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่นี้ ยังคงมีความน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง จึงฝากขอความร่วมมือสื่อมวลชน ประชาชน และทุกภาคส่วน ให้ปฏิบัติตนตามคำแนะนำของบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ได้แก่ การเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล 1-2 เมตร, การใส่หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย, การล้างมือด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ให้สะอาดอยู่เสมอ, การวัดอุณหภูมิก่อนเข้าไปในสถานที่ และการลงทะเบียนเข้าไปในสถานที่ด้วยการใช้แอพลิเคชั่นไทยชนะ
สำหรับผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง สงสัยว่าตัวเองเสี่ยง ขอให้แจ้งแก่ผู้นำชุมชน หรือ อสม. และขอให้ดูแลตัวเอง โดยกักตัวเองสังเกตอาการที่บ้านพัก 14 วัน หากมีอาการอย่างน้อย 1 อาการ ดังต่อไปนี้ คือ มีไข้/วัดอุณหภูมิร่างกายได้ตั้งแต่ 37.5 องศาเซลเชียสขึ้นไป ไอ มีน้ำมุก เจ็บคอ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส หายใจเร็ว หายใจเหนื่อย หรือหายใจลำบาก ให้รีบพบแพทย์โดยด่วน โดยการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ล้างมือด้วยน้ำและสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์บ่อยๆ ปิดดปากจมูกด้วยกระดาษทิชชู่ทุกครั้งที่ไอจาม หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดบุคคลอื่นในที่พักอาศัย โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง และอยู่ห่างจากคนอื่นไม่น้อยกว่า 1 - 2 เมตร หรือ 1 - 2 ช่วงแขน ใช้เวลาพบปะผู้อื่นให้สั่นที่สุด แยกห้องนอน แยกของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น เสื้อผ้า ผ้าเช็ดหน้า ผ้าห่ม ผ้าเช็ดตัว จาน ชาม ช้อน แก้วน้ำ หลอดดูดน้ำ โทรศัพท์ รวมทั้งให้แยกทำความสะอาด แยกน้ำดื่มเฉพาะ แยกสำรับอาหาร ไม่รับประทานอาหารร่วมกับคนในครอบครัว เป็นต้น ที่สำคัญเมื่อพบแพทย์ ห้ามปกปิดข้อมูลเป็นอันขาด
ตอนนี้วัคซีนป้องกันโควิดเริ่มทะยอยเข้ามา และได้มีการฉีดให้แก่กลุ่มเป้าหมายต่างๆแล้ว คาดว่าเดือนมิถุนายน ปีนี้ ก็จะได้ฉีดกันอย่างทั่วถึง แต่ถึงแม้ได้รับวัคซีนแล้ว ก็คงยังจะต้อง "สวมแมส อยู่ห่าง ล้างมือ"ให้เป็นนิสัยปกติต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น