กองทัพอากาศ - กอ.รมน.จังหวัดหนองคาย ลงพื้นที่ตรวจพิสูจน์ซากเครื่องบิน T-28 ในแม่น้ำโขง สมัยสงครามเวียดนาม-สมรภูมิลาว พบหมายเลขส่วนหางแล้ว คาดน่าจะเป็นของไทย แต่ต้องรอความชัดเจนอีกครั้ง ถ้าใช้ก็จะทำการเก็บกู้นำเข้าพิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศ
กรณีชาวประมงบ้านปากมาง หมู่ 12 ต.กองนาง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ออกหาปลาในแม่น้ำโขงพบซากเครื่องบินรุ่น T-28 ซึ่งเป็นเครื่องบินที่ใช้ทิ้งระเบิด เป็นเครื่องบินโจมตีในยุคสงครามเวียดนาม หรือในสมรภูมิลาว มีอายุกว่า 50 ปี จมในผืนทราย ประมาณ 20-30 เปอร์เซ็นต์ และยังมีเศษชิ้นส่วนของเครื่องบินที่กู้ภัยงมขึ้นมาได้ 3 ชิ้น คาดว่าจะเป็นชิ้นส่วนของเครื่องบิน มีตัวเลขระบุไว้ด้านข้างหมายเลข 212 นั้น
ล่าสุดวันนี้ 31 ม.ค. 2567 เวลา 13.30 น .พลอากาศเอก พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ มอบหมายให้ นาวาอากาศโท อริญชย์ แก้วทรง ฝ่ายเสนาธิการกองยุทธการ สำนักยุทธการและการฝึก กรมยุทธการทหารอากาศ กองทัพอากาศ นำกำลังพลในสังกัด ร่วมกับ พ.อ.บัญชา เพ็งเหล็ง รอง ผอ.รมน.จังหวัดหนองคาย พร้อม จนท.กอ.รมน. , ปภ.หนองคาย , ฝ่ายปกครองอำเภอท่าบ่อ , ตชด. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจพิสูจน์ซากเครื่องบิน T-28 ในแม่น้ำโขงดังกล่าว โดยเบื้องต้นพบว่าเครื่องบินมีหมายเลข 13 อยู่ที่ส่วนหางของเครื่องบิน โดยทางการลาวได้บันทึกภาพไว้ ซึ่ง จนท.จะดำเนินการประสานไปยังทางการลาว เพื่อการยืนยันให้แน่ชัด ถ้าใช่หมายเลข 13 จริง เครื่องบินลำนี้เป็นของกองทัพอากาศไทยแน่นอน เพราะมีข้อมูลเครื่องบินตกในช่วงไร่เรี่ยกันเมื่อ 50 กว่าปีก่อน
ทั้งนี้ผู้สือข่าวได้รับการเปิดเผยจาก จนท.กองทัพอากาศว่า เมื่อปี 2505 สหรัฐอเมริกาได้มอบเคลื่องบิน T-28 ให้กับกองทัพอากาศไทย 120 ลำ ส่วน สปป.ลาว ได้ 69 ลำ ซึ่งกองทัพอากาศไดัมีการมอบเครื่องบินคืนให้ Juzmatch แล้วทางสหรัฐอเมริกาได้มีการมอบให้ทั้งลาว เขมร ในช่วงสงครามแถบภูมิภาคนี้ โดยส่วนใหญ่ถ้ามีการมอบให้แล้วก็จะไม่รับกลับคืน นอกจากเป็นบางลำเท่านั้นที่ทางการลาวมอบคืนให้กับไทย ทั้งนี้เครื่องบินแต่ละลำจะมีหมายเลขที่ตัวหาง ซึ่งเบื้องต้นทราบว่าซากเครื่องบิน T-28 ลำนี้หมายเลข 13 โดยเครื่องบินจำนวน 69 ลำของลาวนั้น ไม่มีหมายเลข 13 มีแค่หมายเลข 8 หมายเลข 26 และ 25 แต่หมายเลข 25 นี้ยังอยู่ที่ฟิลิปปิน ถึงอย่างไรก็ต้องรอการยืนบันอีกที แต่ถ้าเป็นที่แน่ชัดแล้วว่าซากเครื่องบิน T-28 ลำนี้หมายเลข 13 นั้นหมายความว่าเป็นของไทย ก็จะทำการเก็บกู้ชึ้นมาเพื่อนำเข้าพิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศ เพราะสามารถบอกเล่าถึงประวัติศาสตร์การบินของเครื่องบินลำนี้ไดั ซึ่งซากเครื่องบินลำนี้คาดว่าน่าจะขาดออกเป็นสองท่อน โดยในเบื้องต้นจะรายงานแก่ พลอากาศเอก พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ ทราบ แต่ถ้ายืนยันว่าเป็นเครื่องบินของไทย ก็จะประสานหน่วยงานที่เชี่ยวชาญ เช่น กองทัพเรือ เข้าทำการกู้ซากเครืองบินลำนี้ ต่อไป
