วันอังคารที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2564

เหล่ากาชาดจังหวัดหนองคาย มอบบ้านโครงการ “กาชาดห่วงใย ใส่ใจที่อยู่ ประจำปี 2564” ให้กับประชาชนผู้มีฐานะยากจนและมีความประพฤติดี และออกเยี่ยมผู้ป่วยติดเตียงและผู้สูงอายุ ในพื้นที่ตำบลด่านศรีสุข อ.โพธิ์ตาก จ.หนองคาย

วันที่ 31 ส.ค. 2564 ที่ บ้านเลขที่ 109 หมู่ที่ 3 ต.ด่านศรีสุข อ.โพธิ์ตาก จ.หนองคาย นายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย / นายกเหล่ากาชาดจังหวัดหนองคาย เป็นประธานในพิธีมอบบ้านให้กับนางสาวฤทธิ์ วารินทร์ อายุ 57 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน ตามโครงการ “กาชาดห่วงใย ใส่ใจที่อยู่ ประจำปีงบประมาณ 2564”  โดยมีนางทัศนาวัลย์ วิริยานภาภรณ์ รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดหนองคาย พร้อมด้วยว่าที่พันตรี อภิญญา ศักดินันท์ นายอำเภอโพธิ์ตาก, ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น, หัวหน้าส่วนราชการ, คณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดหนองคาย, กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้ที่เกี่ยวข้องร่วมพิธีมอบบ้านครั้งนี้ 



จากนั้นได้มอบถุงยังชีพให้กับผู้สูงอายุที่ยากไร้จำนวน 8 ราย และยังได้ไปเยี่ยมบ้านและมอบถุงยังชีพให้ผู้สูงอายุที่ป่วยติดเตียงในชุมชนจำนวน 2 ราย ที่กำลังประสบปัญหาความเดือดร้อนและความยากลำบากในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 




สำหรับการมอบบ้านโครงการ “กาชาดห่วงใย ใส่ใจที่อยู่ ประจำปีงบประมาณ 2564” สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดหนองคาย มีเป้าหมายเพื่อสร้างบ้านที่อยู่อาศัยให้กับผู้ที่มีฐานะยากจนและมีความประพฤติดี ในพื้นที่จังหวัดหนองคาย โดยจัดสร้างบ้านที่อยู่อาศัยแบบบ้านชั้นเดียว ในวงหลังละ 100,000 บาท ซึ่งอำเภอโพธิ์ตากได้รับอนุมัติงบประมาณในการก่อสร้างบ้านตามโครงการดังกล่าว ให้กับนางสาวฤทธิ์ วารินทร์ อายุ 57 ปี ซึ่งเป็นบุคคลพิการ เป็นโรคความดันสูง ไม่มีอาชีพ มีสมาชิกในครอบครัวอาศัยอยู่ร่วมกัน จำนวน 9 คน สภาพบ้านอยู่อาศัยเป็นบ้านไม้ยกใต้ถุนไม่มีฝาพนังกั้น ไม่มั่นคงถาวร ฝนตกครั้งใดหลังคาก็จะรั่วซึม มีความเป็นอยู่ลำบาก และต้องเลี้ยงดูหลานซึ่งอายุยังน้อย จำนวน 7 คน สร้างความปลื้มปิติยินดีแก่นางสาวฤทธิ์ วารินทร์ เป็นอย่างยิ่ง ที่ได้มีโอกาสอาศัยอยู่ในบ้านหลังใหม่ อีกทั้งมีความมั่นคง แข็งแรง และปลอดภัยอีกด้วย









วันศุกร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2564

ริเป็นโจรแต่เด็ก! โจรลักรถมอเตอร์ไซค์ชาวบ้าน แท้เป็นเด็กทอมแสบประจำหมู่บ้าน ชอบลักเล็กขโมยน้อย ก่อเหตุลักรถไม่พอ แถมยังขโมยน้ำมันของร้านค้าในหมู่บ้าน ก่อนขับไปรับเพื่อนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่หลบหนี พอถูกจับ ตร.ไม่อยากดำเนินคดี เพราะยังเป็นเด็ก

จากกรณีได้มีคนแจ้งรถ จยย.ยี่ฮ้อฮอนด้า รุ่น MSX สีแดงดำ หมายเลขทะเบียน 1 กช บึงกาฬ 997 หายใครพบเห็นรถยี่ฮ้อนี้ให้แจ้งผู้ใหญ่บ้าน บ้านน้อย หมู่ที่ 1 ต.บ้านเดื่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย รถจยย.หายไปตั้งแต่เมื่อคืนที่ 24 ส.ค.ที่ผ่านมา กระทั่งวันที่ 25 ส.ค. 2564 เวลา13:00 น. ฝ่ายปกครองตำบลบ้านเดื่อ นำโดยนายอุทัย นามมัน กำนันตำบลบ้านเดื่อ พร้อมนายหาร ผิวเหลือง ผู้ใหญ่บ้านเสี่ยน หมู่ 5 ต.บ้านเดื่อ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองตำบล ร่วมกันสกัดจับผู้ที่ลักขโมยรถจยย. 2 คน พร้อมรถของกลาง ได้ที่ทางแยกบ้านเสี่ยน ทางเข้า รร.เดื่อวิทยาคาร แล้วนำตัวทั้ง 2 คนส่งตำรวจ สภ.ท่าบ่อ

.

หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสอบถามเจ้าหน้าที่ ได้ให้ข้อมูลว่า ผู้ที่ลักรถ จยย.คันดังกล่าว มีอายุ 12 ปี และ 13 ปี เป็นราษฎรบ้านน้อย หมู่ 1 ต.บ้านเดื่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย เป็นการเข้าใจผิดกัน เนื่องจากทั้งสองเป็นลูกเป็นหลาน ของคนที่แจ้งรถจยย.หาย และบ้านก็อยู่ติดกัน โดยวันที่เกิดเหตุ ทั้งสองคนเห็นกุญแจเสียบคาไว้ที่รถ จึงชักชวนกันขับออกมาเพื่อขี่เที่ยวเล่น โดยไม่ได้บอกกล่าวใคร หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงแจ้งไปยังเจ้าของรถ ที่ญาติของทั้งสองคน ให้มารับรถคืน พร้อมแยกย้ายกันกลับบ้านไป นั้นกลายเป็นหนังคนละม้วน




ล่าสุดวันที่ 26 ส.ค. 2564 เจ้าของรถจยย.ที่ถูกขโมย ได้ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวมาว่า โจรลักรถจยย.ไปนั้น ไม่ใช่ญาติกัน เป็นเด็กทอมบอย อายุ 13 ปี อาศัยในหมู่บ้านเดียวกัน คืนที่ก่อเหตุเวลาประมาณ 22.00 น. เด็กทอมบอยได้เข้าไปขโมยรถจยย. ที่จอดอยู่ในบริเวณบ้านพักของตน ที่ไม่ได้ถอดกุญแจไว้ หลังจากนั้นเวลาประมาณ 23.30 น. ในคืนเดียวกัน ของวันที่ 24 ส.ค. เด็กทอมบอยคนเดิมยังไปก่อเหตุขโมยน้ำมันของร้านค้าในหมู่บ้านเดียวกัน ได้ไป 2 ถังใหญ่ เพื่อไว้เติมเวลาน้ำมันรถหมด แล้วขับขี่ไปรับเพื่อนชายอายุ 13 ปี จากนั่นก็ขับรถจยย.หนี ทั้งที่เพื่อนชายไม่เกี่ยวอะไรด้วย และไม่ทราบว่ารถที่เด็กทอมบอยขับขี่มารับนั้นขโมยมา โดยหลบหนีไปอำเภอเมืองหนองคาย และตระเวนตามริมแม่น้ำโขงไปเลื่อนๆ

.

จนกระทั่งเมื่อวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา เพื่อนของเจ้าของรถ ได้มาพบทั้ง 2 คนขับขี่รถคันดังกล่าวที่บริเวณหน้า รร.เทคโนโลยีรักไทย ฝั่งขาออกอำเภอท่าบ่อ และรถถูกถอดทะเบียนออก แต่เพื่อนจำได้ ทั้งรถทั้งคน จึงขี่รถตามไป แล้วก็บอกให้จอดรถ แล้วเพื่อนของผู้เสียหายจึงไปยึดกุญแจรถไว้ทันที ก่อนโทรแจ้งตำรวจ สภ.ท่าบ่อ แล้วโทรบอกฝ่ายปกครองตำบลบ้านเดื่อ ตามลำดับ

.

พอไปถึง สภ.ท่าบ่อ พนักงานสอบสวน ได้ทำการเรียกผู้เสียหาย และญาติของเด็กทั้ง 2 คน มาทำการไกล่เกลี่ย เนื่องจากเห็นว่าทั้ง 2 คนยังเป็นเด็ก ถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อน จะดำเนินคดีส่งสถานพินิจไม่ได้ นอกจากครอบครัวจะพาไปเอง จึงได้ยอมความกันไป

.

ทั้งนี้ทราบว่า ทางญาติของเด็กผู้ชายได้มาขอโทษแล้ว เหลือแต่ญาติของเด็กทอมบอย ที่ยังเงียบอยู่ และเด็กทอมบอยที่ขโมยรถไป สาเหตุเพราะเกลียดเจ้าของรถ และยังเป็นเด็กแสบประจำหมู่บ้าน ชอบลักเล็กขโมยน้อยเป็นประจำ แต่ไม่สามารถเอาผิดได้ เพราะยังเป็นเด็ก

วันอังคารที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2564

ซุปเปอร์มาร์เก็ตชุมชน ชาวบ้านด่านศรีสุขเดินเข้าป่าหาเก็บเห็ดมาเลี้ยงชีพและขายสร้างรายได้ช่วงฤดูฝน


วันที่ 24 ส.ค. 2564 ที่ ป่าชุมชนบ้านดอนขนุน หมู่ที่ 5 ต.ด่านศรีสุข อ.โพธิ์ตาก จ.หนองคาย ได้มีชาวบ้านในพื้นที่และพื้นที่ใกล้เคียง รวมกันเข้าป่าเพื่อหาเก็บ “เห็ดระโงกขาว เห็ดระโงกเหลือง" ของดีในป่าป่าชุมชนกว่า 500 ไร่ เป็นผลพวงจากที่มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เห็ดกำลังผุดขึ้นจากดินจำนวนมากในช่วงฤดูฝน หรือที่เกิดขึ้นตามป่า หรือที่คนในพื้นที่เรียกว่า "ซูเปอร์มาร์เก็ตป่าชุมชน"



ทั้งนี้ในป่าจะมีอาหารทุกชนิดตามฤดูกาลเช่น หน้าฝนจะมีเห็ดป่า หวายป่า กระชายขาวป่า หน่อไม้ป่า ดอกกระเจียวป่า ส่วนหน้าแล้งก็จะมีไข่มดแดง เป็นต้น ชาวบ้านต่างแห่ออกไปเก็บมาเพื่อนำมาประกอบอาหารจุนเจือครอบครัว ส่วนที่เหลือก็จะแบ่งขายตามตลาดชุมชนหรือในหมู่บ้าน หารายได้เลี้ยงชีพไปอีก


สำหรับเห็ดระโงก เมื่อโตเต็มที่จะมีลักษณะของดอกแผ่บานขาว ส่วนที่ยังไม่โตเต็มไว ก็จะลักษณะอวบ ดอกสีเหลืองบ้าง สีขาวบ้าง สูงจากดิน 2-4 ซม.โดยชาวบ้านจะใช้เสียมเขี่ยหาตามกองเศษใบไม้ที่ทับถมกันบริเวณโคนต้นไม้ หรือกอหญ้าที่เปียกชื้น นำไปทำเป็นเมนูอาหารเด็ด ที่เหลือก็จำนำไปขายในราคา กิโลกรัมละ 250 บาท สามารถสร้างรายได้วันละ 500-600 บาท เป็นค่าใช้จ่ายในครัวเรือน ถือเป็นการสร้างรอยยิ้มให้กับชาวบ้านในช่วงฤดูแบบนี้ได้เป็นอย่างดี




จนท.ป่าไม้สังคม ร่วมกับฝ่ายปกครองอำเภอโพธิ์ตาก ตร.สภ.โพธิ์ตาก หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จับแม่เฒ่าวัย 64 ลักลอบตัดไม้หวงห้ามในพื้นที่ ส.ป.ก.4-01 แถมยังตั้งโรงเผาถ่านเถื่อนกลางป่า อ้างพิษโควิดหากินลำบาก จึงต้องตัดไม้เผาถ่าน

วันที่ 24 ส.ค. 2564 นายสุรศักดิ์ อัคคะปะชะ หัวหน้าหน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้สังคม พร้อมนายปิยะชาติ อินทรสันติ์ ปลัดอำเภองานป้องกันอำเภอโพธิ์ตาก, นายบุญศรี ชาติมูลตรึ ประธานอาสาพิทักษ์ป่าชุมชนอำเภอโพธิ์ตาก, นายจิตวัด อินดา ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 5 ต.ด่านศรีสุข นำกำลังเจ้าหน้าที่ หน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้สังคม, เจ้าหน้าที่โครงการพัฒนาลุ่มน้ำทอนตอนบน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดหนองคาย, เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์ตาก, อาสาพิทักษ์ป่าชุมชนฯ และผู้รักษาความสงบหมู่บ้าน(ผรส.) เข้าตรวจสอบหลังรับแจ้งว่ามีการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย ในที่ดิน ส.ป.ก.4-01 พื้นที่ติดป่าชุมชนบ้านดอนขนุน หมู่ 5 ต.ด่านศรีสุข อ.โพธิ์ตาก จ.หนองคาย ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าพานพร้าวและป่าแก้งไก่



เมื่อไปถึงพบว่ามีการสร้างเพิงพัก มีกองไม้ถูกโค่นตัดจำนวนมาก ทั้งต้นยางเหียง และต้นประดู่ รวมทั้งยังมีเตาเผาถ่านอีกจำนวน 3 เตา มีลักษณะปั้นด้วยดินเหนียว โดยพบชาย 1 คนกำลังทำเตาเผาถ่าน และหญิงอีก 1 คน อ้างเป็นเจ้าของพื้นที่ ทราบชื่อคือ นางหนูปิ่น สูบกำปัง อายุ 64 ปี ที่อยู่ 180 บ้านดอนขนุน หมู่ 5 ต.ด่านศรีสุข อ.โพธิ์ตาก จ.หนองคาย  โดยได้ถือหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดินเกษตรกรรม ส.ป.ก.4-01 เนื้อที่ 17 ไร่ 36 ตารางวา  แสดงต่อเจ้าหน้าที่ แต่เป็นชื่อของนายเฉลิม โชติทุม ราษฎรตำบลหนองปลาปาก อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย



นางหนูปิ่น กล่าวว่า เจ้าของที่คนเดิมได้เสียชีวิตไปแล้ว แต่ตนนั้นเป็นญาติกับภรรยาของเจ้าของเดิม ปกติตนจะหาเผือก หากรอยและหน่อไม้ ไปขายตามหมู่บ้านและตลาด เห็นที่ดิน ส.ป.ก.ของญาติไม่มีใครมาทำประโยชน์ อีกอย่างช่วงนี้เกิดการระบาดของโรคโควิด-19 ลูกชายที่อยู่ที่กรุงเทพฯ ไม่ค่อยมีงาน จึงไม่ค่อยมีเงินส่งมาให้ใช้ รวมทั้งตนต้องเลี้ยงหลานชายอีก 1 คน ทำให้ค่าใช้จ่ายในครอบครัวไม่ค่อยพอใช้ จึงเข้ามาทำกินในพื้นที่ตรงนี้ที่เป็นของญาติตนเอง โดยได้ทำการตัดไม้และจะปลูกข้าว เพื่อหารายได้เลี้ยงชีพ โดยเข้ามาทำเพิงพักและตัดไม้ทั้งหมดเผาถ่าน รวมทั้งตัดไม้เพื่อนำใช้ประโยชน์อย่างอื่น ซึ่งตนนั้นไม่ทราบว่าการตัดไม้ในที่ ส.ป.ก.นั้นจะมีความผิด และไม่ทราบว่าไม้ที่ตัดไปนั้นเป็นไม้สงวน  เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการยึดไม้ทั้งหมด พร้อมควบคุมตัวส่ง พนักงานสอบสวน สภ.โพธิ์ตาก ดำเนินการตามกฎหมาย พ.ร.บ.ป่าไม้ ต่อไป.













วันเสาร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2564

พบแล้ว! เจ้าของสร้อยพระเลี่ยมทอง ที่แม้ค้าขายส้มตำเก็บได้ ที่แท้เป็นแม่ค้าขายปลาที่ซื้อขายกันเป็นประจำ เจ้าตัวเผยรู้สึกดีใจ ไม่คิดว่าจะได้คืน

จากกรณีนางจันทร์เพ็ญ วงชาลี อายุ 55 ปี แม่ค้าขายส้มตำที่ตลาดสดชุมชนบ้านน้ำโมง เก็บสร้อยคอทองคำพร้อมพระเลี่ยมทอง ที่ตกอยู่บนพื้นทางเดิน บริเวณแผงขายปลา ในตลาดสดเทศบาลเมืองท่าบ่อ ขณะที่นางจันทร์เพ็ญกำลังเดินหาซื้อปลานิลเพื่อนำไปขาย   ช่วงเวลาประมาณตี 4 ของเช้าวันที่ 18 ส.ค. 2564  แล้วไปแจ้งกับ ว่าที่ร้อยตรี สงวนศักดิ์ ใจดี สมาชิกสภาเทศบาลเมืองท่าบ่อ หลังจากนั้นได้พากันไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.ท่าบ่อ เพื่อตามหาเจ้าของนั้น



ล่าสุดวันนี้ 21 ส.ค. 2564 ที่ สถานีตำรวจภูธรท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นางจันทร์เพ็ญ วงชาลี แม่ค้าขายส้มตำ พร้อมว่าที่ร้อยตรี สงวนศักดิ์ ใจดี สมาชิกสภาเทศบาลเมืองท่าบ่อ ได้ส่งมอบสร้อยทองพร้อมพระเลี่ยมทอง น้ำหนัก 2 บาท คิดเป็นมูลค่ากว่า 60,000 บาท ที่เก็บได้คืนให้กับ นางสุพัด ศรีเชียงขวาง อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 455 หมู่ 11 ต.ท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย มีอาชีพขายปลา ในตลาดสดเทศบาลเมืองท่าบ่อ ที่ได้ทำล่นตั้งแต่เวลาประมาณตี 4 ของวันที่ 18 ส.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งการส่งมอบสร้อยคอทองคำพร้อมพระเลี่ยมทองให้กับเจ้าในครั้งนี้ มี ร.ต.อ.ปวริศน์ งามโนนทอง รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.ท่าบ่อ และแม่ค้าในตลาดสดเทศบาลเมืองท่าบ่อ ร่วมเป็นสักขีพยานในการส่งมอบด้วย



นางสุพัด กล่าวด้วยความดีใจว่า ตนเองเป็นแม่ค้าขายปลา และทำการซื้อขายกับนางจันทร์เพ็ญ เป็นประจำ ในช่วงวันเวลาดังกล่าว ตอนนั้นตนยุ่งมาก เพราะมีลูกค้าอีกรายได้สั่งปลาไว้ ตนก็ก้มๆเงยๆ ยุ่งอยู่กับขายปลา ไม่รู้เลยว่าสร้อยหลุดออกจากคอตอนไหน และตอนนั้นตนก็ไม่ได้อยู่ที่แผงปลา เพราะกำลังเอาปลาไปส่งให้กับลูกค้าอีกราย จนกระทั่งกลับถึงบ้านพักช่วงเวลาประมาณ 08.00 น. รู้สึกคันที่คอเลยจะเอามือไปเกา ก็ตกใจเพราะสร้อยไม่อยู่ที่คอ คิดว่าคงหล่นหายแต่จำไม่ได้ว่าหล่นหายช่วงไหน รู้สึกใจคอไม่ดีมาก คิดว่าคงไม่ได้คืนแล้ว จนกระทั่งตนไปไว้พระที่วัดนาโพธิ์ หลวงพ่อที่วัดก็ถามตนว่า โยมเป็นอะไร ดูเหมือนจิตใจไม่ค่อยดี จึงบอกหลวงพ่อไปว่า ได้ทำสร้อยหาย ไม่รู้หล่นหายไปตอนไหน ชาวบ้านได้ยินเข้า บอกว่าเห็นลงข่าวว่ามีคนเก็บได้ แล้วนำสร้อยไปแจ้งความไว้ที่ สภ.ท่าบ่อ ให้ตามหาเจ้าของ หลังจากนั่นตนจึงรีบมาที่ สภ.ท่าบ่อ เพื่อแสดงว่าสร้อยพระเหลี่ยมทองดังกล่าวเป็นของตน แต่ทางเจ้าหน้าที่ให้รอไว้ก่อน แล้วจะติดต่อกลับไปใหม่


ร.ต.อ.ปวริศน์ งามโนนทอง รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.ท่าบ่อ กล่าวว่า หลังจากที่นางจันทร์เพ็ญ พร้อมสท.สงวนศักดิ์ นำสร้อยพระเหลี่ยมทองมาลงบันทึกประจำวัน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตามหาเจ้าของ ในวันเดียวกันก็มีคนมาแสดงตนว่าเป็นเจ้าของสร้อยดังกล่าวถึง 2 ราย ซึ่งให้ข้อมูลไม่ตรงกับลักษณะของสร้องที่เหลี่ยมพระอะไร และนางสุพัด เป็นรายที่ 3 ที่บอกลักษณะของสร้อยครบทุกอย่าง รวมทั้งบริเวณที่เกิดเหตุก็ใกล้เคียง จากการพิจารแล้วสร้อยพระเหลี่ยมทองเส้นนี้น่าจะเป็นของนางสุพัด วันนี้จึงเรียกให้มารับสร้อยคืน ซึ่งนางสุพัดยังได้มอบสิ่งของและเงินสดจำนวนหนึ่ง ให้กับนางจันทร์เพ็ญ เพื่อเป็นค่าตอบแทนด้วย




จ.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา" เฉลิมพระเกียรติฯ

สนง.พช.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา"...