วันจันทร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2562

กลุ่มแม่บ้านสมุนไพรบ้านถ่อนใต้ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย คิดค้นนวัตกรรมกำจัดยุงลายด้วย "ตะไคร้หอม" ภูมิปัญญาพื้นบ้าน ตัวช่วยป้องกันโรคไข้เลือดออก


“ตะไคร้หอม” ถือเป็นสมุนไพรไล่ยุงและถือเป็นภูมิปัญญาพื้นบ้าน ประกอบช่วงนี้ข่าวคราวของโรคไข้เลือดออกระบาดและมีผู้เสียชีวิต ดังนั้นจึงมีคำเตือนเกี่ยวกับการป้องกันโรคดังกล่าวออกมาเป็นระยะ โดยเฉพาะผู้ปกครองที่มีลูกเล็ก หรือกลุ่มคนสูงวัยที่อาศัยอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มียุงลายเป็นพาหะ เช่น มีต้นไม้รกทึบและแหล่งน้ำเน่าเสีย เพื่อเป็นการป้องกันโรคไข้เลือดออก กลุ่มแม่บ้านสมุนไพรบ้านถ่อนใต้ หมู่ 3 ตำบลบ้านถ่อน อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย ได้มีการคิดค้นนวัตกรรมสเปรย์ตะไคร้หอมไล่ยุง เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากวัตถุดิบจากธรรมชาติ ไม่มีสารเคมีที่เป็นอันตรายเจือปน มีกลิ่นหอมของมะกรูดและตะไคร้หอม ซึ่งตะไคร้เป็นพืชที่ปลูกภายในบ้านของสมาชิกกลุ่มทั้ง 21 คน




วิธีการทำ นำมะกรูดมาเฉือนเอาเฉพาะผิว และนำตะไคร้หอมที่มีอายุ 8 เดือนมาหั่น จากนั้นนำผิวมะกรูดน้ำหนัก 4 ขีดห่อด้วยผ้าขาวบาง และตะไคร้หอมน้ำหนัก 4 ขีดห่อด้วยผ้าขาวบาง แล้วนำไปใส่ขวดโหลเพื่อจะทำการหมักด้วยแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ 3 ลิตร ทิ้งไว้ 15 วันก็สามารถนำไปบรรจุในขวดสเปรย์แบบพกพา ขนาด 60 cc จำหน่ายราคา 50 บาท ขนาด 30 cc จำหน่ายราคา 20 บาท  และ 10 cc จำหน่าย 10 บาท  สรรพคุณ ใช้ฉีดพ่นตามแขน ขา ป้องกันยุงและแมลงรบกวน และยังสามารถใช้เป็นสเปรย์ฉีดพ่นปรับอากาศ เช่นในรถยนต์ ตู้เสื้อผ้าได้อีกด้วย เนื่องจากตัวละอองสเปรย์มีกลิ่นหอม และไม่มีสารเคมีที่เป็นพิษเจือปน





นางไพริน โสภานิตย์ เหรัญญิกกลุ่มแม่บ้านสมุนไพรบ้านถ่อนใต้  กล่าวว่า เริ่มแรกที่จะลงมือทำสเปรย์ตะไคร้หอมไล่ยุง ได้มีการแข่งขันประกวดนวัตกรรมแข่งขันกำจัดยุงลายของ รพ.สต.บ้านถ่อนและเทศบาลตำบลบ้านถ่อน ซึ่ง อสม.หมู่ 3 ไม่หยุดการพัฒนาจึงได้คิดค้นวิธีใหม่ในการกำจัดยุงในหมู่บ้าน ก็เลยได้น้ำยาสเปรย์สมุนไพรจากตะไคร้หอมขึ้นมา โดยการค้นคว้าจากยูทูป หลังจากนั้นก็เริ่มทดลองหลายวิธี จนกระทั้งได้ผล กลายมาเป็นส่วนผสมจากสูตรตะไคร้หอมและผิวมะกรูด หมักด้วยแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ ซึ่งเริ่มแรกที่ทำนั้นจะไปซื้อตะไคร้หอมมาจากที่อื่น ทำให้มีต้นทุนเพิ่มขึ้น จึงให้สมาชิกในกลุ่มทั้ง 21 คนปลูกตะไคร้ห้อมภายในบริเวณบ้านของสมาชิกทกคน จะได้ไม่ต้องไปซื้อ และสมาชิกก็มีรายได้จากการทำสเปรย์ตะไคร้หอมจำหน่าย ก็เลยไปจดทะเบียนเป็นสิ้นค้าโอทอปของตำบล ซึ่งการจำหน่ายนั้นก็จะไปตามที่หน่วยงานต่างๆ ที่จัดขึ้น





นายพรชัย รัตนวิบูรย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านถ่อน กล่าวว่า สเปรย์สมุนไพรไล่ยุงโดยทำจากตะไคร้หอม ทางเทศบาลฯและกองทุนหลักประกันสุขภาพ รวมทั้งผู้นำตำบล/หมู่บ้านได้สนับสนุนงบประมาณ และ กศน,ตำบลบ้านถ่อนก็มีส่วนวนร่วมในการทำสเปรย์สมุนไพรไล่ยุง  ซึ่งการคิดค้นตัวนี้ก็คือ ผมจะแนะนำให้ทุกหมู่บ้านทั้ง 8 หมู่บ้านของตำบลบ้านถ่อน โดย อสม.ของแต่ละหมู่บ้านคิดค้นออกมาว่าจะทำอะไรในการกำจัดยุง เพื่อไม่ให้เกิดโรคไข้เลือดออก ซึ่งหมู่ 3 บ้านถ่อนใต้ก็ได้คิดค้นตัวนี้ออกมา ซึ่งเป็นความคิดจากตัว อสม.เองที่ทำเป็นกลุ่มขึ้นมา และก็ได้มีการประกวดโดยเทศบาลตำบลบ้านถ่อน / รพ.สต. และกำนัน ซึ่งหมู่ 3 บ้านถ่อนใต้รับรางวัลชนะเลิศประกวดนวัตกรรมดีเด่น และในการพัฒนาต่อยอดเราไม่หยุดแค่นี้ ซึ้งจะมีการพัฒนาไปเลื่อยๆ เพื่อให้พี่น้องประชาชนในหมู่บ้านได้มีการใช้ทุกครัวเรือน และทุกหลังคาเรือนในตำบลบ้านถ่อน ซึ่งจะขยายพื้นที่ต่อไปเลื่อยๆ ทั้ง 8 หมู่บ้าน ซึ่งเมื่อเราได้จดทะเบียนเรียบร้อยแล้ว ต่อไปก็จะมีการทำการตลาด อาจจะส่งขายในอำเภอ ต่างอำเภอ และต่างจังหวัด เพื่อเป็นการต่อยอดและสร้างรายได้ให้กับกลุ่มแม่บ้าน กลุ่ม อสม.หมู่ 3 บ้านถ่อนใต้ ต่อไป





ส่วนทางด้าน นายอภิวัตน์ โคตรชมพู นายกเทศมนตรีตำบลบ้านถ่อน กล่าวว่า ทางเทศบาลตำบลบ้านถ่อน ได้มีนโยบายเกี่ยวกับการป้องกันควบคุมโรค ซึ่งโรคไข้เลือดออกเป็นโรคที่อันตรายต่อประชาชน จึงได้ตั้งงบประมาณสนับสนุนกลุ่มนี้ เพื่อให้ดำเนินการในการป้องกันโรคให้มีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะให้ประชาชนมีความอยู่ดี กินดี สุขภาพร่างกายแข็งแรง ปลอดจากโรคภัยต่างๆ ซึ่งกลุ่มแม่บ้านสมุนไพรกลุ่มนี้มีความเข้มแข็ง ซึ่งสเปรย์สมุนไพรตะไคร้หอมสามารถป้องกันโรคไข้เลือดออกภายในหมู่บ้านและตำบลได้ และยังเป็นการเสริมรายได้ให้กับกลุ่ม เพื่อที่จะให้มีความอยู่ดีกินดีต่อไป และทางเทศบาลก็สนับสนุนไปเลื่อยๆ จนกว่าจะยั่งยืน ขยายต่อไป สมารถจัดตั้งกลุ่มได้ทั้งตำบล และประชาชนปลอดจากโรคไข้เลือดออก ซึ่งสถานการณ์ปัจจุบันนั้นประชาชนในตำบลไม่มีใครเป็นโรคได้เลือดออกมานานหลายปีแล้ว เนื่องจากเทศบาลได้มีการรณรงค์ให้ความรู้กับพี่น้องประชาชน ประชาสัมพันธ์ มีการส่งเสริมนวัตกรรม ซึ่งแต่ละหมู่บ้านก็มีนวัตกรรมป้องกันควบคุมเพื่อเป็นการลดใช้สารเคมี เช่น การใช้ทรายอะเบท การฉีดพ่นควันไล่ยุงลดลง ซึ่งช่วยให้ประหยัดงบประมาณและทำให้ประชาชนไม่มีสารพิษตกค้าง




รพ.สต.พระพุทธบาท ร่วมกับภาคีเครือข่ายและกองทุนหลักประกันสุขภาพ ต.พระพุทธบาท จัดมหกรรม"คนพระพุทธบาท สุขภาพดี" ตามโครงการหมู่บ้านปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ลดเสียง ลดโลก ประจำปี 2562


วันที่ 30 ก.ย. 62 ที่โรงเรียนพระพุทธบาทวิทยาคม ตำบลพระพุทธบาท อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลพระพุทธบาท ร่วมกับภาคีเครือข่ายและกองทุนหลักประกันสุขภาพตำบลพระพุทธบาท ได้จัดกิจกรรมมหกรรม"คนพระพุทธบาท สุขภาพดี" ตามโครงการหมู่บ้านปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ลดเสียง ลดโรค ประจำปี 2562 โดยมี พ.จ.อ.พิเชษฐ์ ไพรพยอม นายกองค์การบริหารส่วนตำบลพระพุทธบาท เป็นประธานเปิดงาน






นางเพชรสมร ไพรพยอม ผู้อำนยการโรงพยบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลพระพุทธบาท กล่าวว่า จากสถานการณ์ของไรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลพระพุทธบาท จากการตรวจคัดกรองเบาหวานความคันโลหิตสูง ปี  2562 พบว่ามีปะชากรอายุ 45-58 ปีขึ้นไป ทั้งหมด 707 คน มีกลุ่มเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูง จำนวน 42 คน คิดเป็นร้อยละ 5.9 มีกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวาน จำนวน 12 คน คิดเป็นร้อยละ 1.6 คน และประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไป ทั้งหมด 233 คน มีกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวาน จำนวน 10 คน คิดเป็นร้อยละ 4.2 กลุ่มเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูง จำนวน 23 คน คิดเป็นร้อยละ 9.8  ดังนั้นโรงพยาบาส่งเสริมสุขภาพตำบลพระพุทธบาท จึงได้จัดโครงการหมู่บ้านปรับเปลี่ยนพฤติกรณ ลดเสี่ยง ลตโรค ปิงบประมาณ 2562 ขึ้น เพื่อให้ประชาชนลดโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคดังกล่าว นอกจากนี้ย้งเป็นการรณรงค์ให้ประชาชนได้รู้จักการปรับพฤติกรรมสุขภาพในการดูแลสุขภาพตนเองแบบพอเพียง ประชาชนมีผักสวนครัวที่ปลูกเอง มีลานกีฬาในรูปถนนออกกำลังกายและดูแลรักษาความสะอาดแบบยั่งยืน




สำหรับกิจกรรมภายในงาน มีการประกวดบูธนิทรรศการ "คนพระพุทธบาท สุขภาพดี" , กิจกรรม "Show And Share คนพระพุทธบาท สุขภาพดี" เช่น การประกวด "คนพระพุทธบาท ออกแฮง แยงคีง", การสาธิตการประกอบอาหารเมนูสุขภาพรายหมู่บ้าน, การแสดงของโรงเรียนพระพุทธบาทเทศรังสีวิทยา/โรงเรียนพระพุทธบาทวิทยาคม และโรงเรียนอนุบาลฯ






















วันศุกร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2562

สสจ.หนองคาย ร่วมกับ รพ.หนองคาย จัดการประชุมการส่งเสริมการใช้ยาอย่างสมเหตุผล และการจัดการเชื้อดื้อยา เขตสุขภาพที่ 8 ปีงบประมาณ 2562


วันที่ 27 ก.ย. 62 ที่โรงแรมอมันตาหนองคาย อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย นายแพทย์สวัสดิ์ อภิวัจนีวงศ์  สาธารณสุขนิเทศ เขตสุขภาพที่ 8 เป็นประธานเปิดการประชุมการส่งเสริมการใช้ยาอย่างสมเหตุผล และการจัดการเชื้อดื้อยา เขตสุขภาพที่ 8 ปีงบประมาณ 2562 โดยมี เครือข่ายสหวิชาชีพทั้ง 7 จังหวัด ประกอบด้วย หนองคาย, อุดรธานี, สกลนคร, เลย, นครพนม, หนองบัวลำภู และบึงกาฬ รวมทั้งพยาบาล นักเทคนิคการแพทย์  เจ้าหน้าที่จาก รพ.สต. นักคอมพิวเตอร์ เจ้าหน้าที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์อุดรานี และเกสัชกรที่รับผิดขอบงาน RDU จากสำนักงานเขตสุขภาพที่ 8  ร่วมประชุม






นายแพทย์อสุรกิจ ยศพล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหนองคาย กล่าวว่า เนื่องด้วยปัจจุบัน ปัญหาค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ ของประเทศไทยนับวันจะสูงขึ้นเรื่อยๆ จะเห็นได้จากงบประมาณดำรักษาพยาบาลของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ( สปสช.) งบประมาณค่ารักษาพยาบาลในสิทธิข้าราชการที่เพิ่มขึ้นทุกปี  ในปี 2557 ประเทศไทยมีค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ 409,313 ล้านบาท เป็นค่าใช้จ่ายด้านยาประมาณ 163,000 ล้านบาท หรือประมาณร้อยละ 40 นอกจากนี้ปัญหาการใช้ยาปฏิชีวนะที่พร่ำเพรื่อ ไม่สมหตุผลของคนไทย ยังส่งผลให้เกิดปัญหาเชื้อดื้อยาแพร่กระจายไปทั่วปะเทศ จากข้อมูลสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) พบว่า ปัญหาเชื้อดื้อยาทำให้คนไทยเสียชีวิต ประมาณปีละ 38,000 คน คิดเป็นความสูญเสียทางเศรษฐกิจโดยรวมสูงถึง 42,000 ล้านบาท หรือประมาณร้อยละ 0.6 ของดัชนีชี้วัดผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ  กระทรวงสาธารณสุขได้เล็งเห็นความสำคัญของการส่งเสริมการใช้ยาอย่างสมเหตุผล จึงกำหนดให้มีการพัฒนาระบบบริการเพื่อให้เกิดการใช้ยาอย่างสมเหตุผล เป็น Service Plan สาขาที่ 15






ดังนั้นจังหวัดหนองคาย โดยความร่วมมือระหว่าง สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดหนองคาย และโรงพยาบาลหนองคาย ได้รับมอบหมายจากสำนักงานเขตสุขภาพที่ 8 ให้เป็น Focal Point ในเรื่องนี้เป็นปีที่ 2  ไห้ดำเนินการจัดประชุม เรื่องการส่งเสริมการใช้ยาอย่างสมเหตุผล และการจัดการเชื้อดื้อยา เขตสุขภาพที่ 8 ปีงบประมาณ 2562 ขึ้น เพื่อสรุปผลการดำเนินงานในปีงบประมาณ 2562 และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ในการพัฒนางานของ 7 จังหวัด, วิเคราะห์ GAP และระดมสมองทำ Gap Analysis และแผนการดำเนินงาน ปีงบประมาณ 2563






จ.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา" เฉลิมพระเกียรติฯ

สนง.พช.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา"...