วันพฤหัสบดีที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2566

สำนักงานพื้นที่พิเศษเลย (อพท.5 ) นำคณะชุมชนการท่องเที่ยวอำเภอนาแห้ว จ.เลย ศึกษาเส้นทางตามรอยพญานาคริมแม่น้ำโขงหนองคาย


สำนักงานพื้นที่พิเศษเลย (อพท.5 ) นำคณะชุมชนเพื่อการท่องเที่ยวอำเภอนาแห้ว จ.เลย  เยี่ยมชมและศึกษาดูงานดอนป่าเปือยบ้านหม้อ ในการศึกษาเส้นทางตามรอยพญานาคริมแม่น้ำโขงหนองคาย มุ่งสร้างชุมชนการท่องเที่ยว เพื่อให้มีการกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น


วันที่ 31 ส.ค. 2566 นายศราวุธ กลันทะกะสุวรรณ รักษาการผู้จัดการสำนักงานพื้นที่พิเศษเลย องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท.5 ได้จัดทำโครงการศึกษาเส้นทางตามรอยพญานาคริมน้ำโขงหนองคาย โดยการนำเจ้าหน้าที่ อพท.5 และคณะชุมชนเพื่อการท่องเที่ยวอำเภอนาแห้ว จ.เลย เข้าเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติดอนป่าเปือยบ้านหม้อ หมู่ที่ 7 ต.บ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย เพื่อการส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยมีคณะกรรมการจิตอาสาพัฒนาดอนป่าเปือยบ้านหม้อ นำโดย นายสนอง เข็มพรหมมา ประธานคณะกรรมการฯ ให้การต้อนรับและพาชมพื้นที่กว่า 36 ไร่




ทั้งนี้ดอนป่าเปือยบ้านหม้อ เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ มีต้นเปือยหรือต้นตะแบกขนาดใหญ่ที่มีอายุกว่า 300-400 ปี โดยมีขนาดใหญ่ทึ่สุดในประเทศไทย ที่มีเส้นรอบวงลำต้นถึง 5 เมตร 30 เซนติเมตร สูงกว่า 3 เมตร แตกลำต้นออกเป็น 4 ทิศ และยังเป็นสถานที่ถ่ายทำหนังเรื่อง 15 ค่ำ เดือน 11 เมื่อปี พ.ศ. 2544 เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีลักษณะเด่นเฉพาะตัว ชาวไทพวนบ้านหม้อได้เล็งเห็นความสำคัญของป่าเปือย จึงได้ทำเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ โดยทำสะพานเดินเยี่ยมชมต้นเปือยทุกต้น ตามกำลังทรัพย์ของชาวบ้านที่มีความเชื่อและศรัทธา



นายศราวุธ กลันทะกะสุวรรณ รักษาการผู้จัดการสำนักงานพื้นที่พิเศษเลย (อพท.5) กล่าวว่า  วันนี้ได้นำเจ้าหน้าที่ของ อพท.5 และชุมชนเพื่อการท่องเที่ยวอำเภอนาแห้ว จ.เลย มาศึกษาเส้นทางตามรอยพญานาคริมน้ำโขงหนองคาย  และก็ให้ทางชุมชนที่มาร่วมกิจกรรมได้มาศึกษาดูงานในพื้นที่จังหวัดหนองคาย ก็เพื่อนำไปประยุคใช้และพัฒนาตัวเองในการสร้างชุมชนการท่องเที่ยวของตัวเองขึ้นมา เพื่อให้มีการกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น




นายศราวุธ กล่าวอีกว่า ในการได้มาเยี่ยมชมและศึกษาดูงานดอนป่าเปือยบ้านหม้อ เห็นแล้วรู้สึกประทับใจในการที่ชุมชนได้ร่วมกันพัฒนาดอนป่าเปือยสามารถบริหารจัดการได้ดี มีการแบ่งกลุ่มการทำงานได้เป็นกลุ่มๆ และก็บริหารจัดการโดยไม่ใช้งบประมาณของหน่วยงานภาครัฐ โดยเป็นการใช้เงินบริจาคจากการท่องเที่ยว ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ทาง อพท.นั้นอยากเห็น เพราะว่ามันจะนำไปสู่การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน











วันจันทร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2566

พ่อเมืองศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย บูรณาการภาคีเครือข่ายระดับอำเภอ ขับเคลื่อนโครงการอำเภอบำบัดทุกข์ บำรุงสุขแบบบูรณาการอย่างยั่งยืน


นอภ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย บูรณาการภาคีเครือข่ายระดับอำเภอ ขับเคลื่อนโครงการอำเภอบำบัดทุกข์ บำรุงสุขแบบบูรณาการอย่างยั่งยืน ลงพื้นที่เพื่อตรวจเยี่ยมให้กำลังใจในการร่วมแรงร่วมใจกันสร้างบ้านให้แก่ประชาชนผู้ยากไร้  ตามโครงการ "บ้านกาชาดสร้างสุข จังหวัดหนองคาย"


วันที่ 28 ส.ค. 2566 เวลา 10.00 น. ว่าที่ร้อยตรีนครชัย แสงมณี นายอำเภอศรีเชียงใหม่ มุ่งมั่นขับเคลื่อนโครงการอำเภอบำบัดทุกข์ บำรุงสุข แบบบูรณาการอย่างยั่งยืน เพื่อส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนให้มีความสุขมากยิ่งขึ้น จึงได้บูรณาการภาคีเครือข่ายระดับอำเภอลงพื้นที่เยี่ยมเยียนเพื่อตรวจเยี่ยมให้กำลังใจในการร่วมแรงร่วมใจกันสร้างบ้านให้แก่ประชาชนผู้ยากไร้ ตามโครงการ "บ้านกาชาดสร้างสุข จังหวัดหนองคาย" เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 91 พรรษา ประจำปี 2566 ณ บ้านโนนสวรรค์ หมู่ที่ 2  ต.หนองปลาปาก และ หมู่ที่ 10 ต.พานพร้าว  อำเภอศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย โดยมี กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนจิตอาสา ที่มีความตั้งใจร่วมกันทำงานดูแลช่วยเหลือประชาชนผู้ยากไร้ในพื้นที่ของตน 




โครงการ "บ้านกาชาดสร้างสุข จังหวัดหนองคาย" เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถฯ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดหนองคาย และสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดหนองคาย ซึ่งอำเภอศรีเชียงใหม่ มีประชาชนที่ได้รับการพิจารณาคัดเลือกเข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 3 ราย ประกอบด้วย 1.ครอบครัวนางสาคร บุตรสี อายุ 77 ปี ที่อยู่ 40/2  บ้านพานพร้าว หมู่ที่ 10 ตำบลพานพร้าว , 2.ครอบครัวนางประยูร เทพธิดา อายุ 76 ปี ที่อยู่ 35  บ้านโนนสง่า หมู่ที่ 15 ตำบลพานพร้าว และ 3. ครอบครัวนายทองสุข  เบ้านำโฮง อายุ 64 ปี ที่อยู่ 28 บ้านโนนสวรรค์ หมู่ที่ 2 ตำบลหนองปลาปาก โดยมีผลการดำเนินงานในภาพรวมทั้ง 3 หลัง มีคืบหน้าแล้วกว่า 60 เปอร์เซ็น










          

วันอังคารที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2566

ผู้ตรวจฯสำนักนายกรัฐมนตรี ตรวจติดตามแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติดอนป่าเปือยบ้านหม้อ จ.หนองคาย

นายวิฑูร เอี่ยมโอภาส ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขตตรวจราชการที่ 10 พร้อมคณะลงพื้นที่ตรวจติดตามการขับเคลื่อนประเด็นสำคัญของรัฐบาล เรื่องการท่องเที่ยว ณ แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติดอนป่าเปือยบ้านหม้อ จ.หนองคาย เผยดีใจที่ทางชุมชนไทพวนบ้านหม้อได้มีการสืบสานต่อยอดวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น ประเพณี และชื่นชอบหวานหมอน้อย ชิมแล้วรู้สึกสดชื่น อยากให้ต่อยอดประชาสัมพันธ์ให้เป็นที่รู้จักแพร่หลาย


วันที่ 22 ส.ค. 2566 ที่ แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติดอนป่าเปือยบ้านหม้อ หมู่ที่ 7 ต.บ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย  นายวิฑูร เอี่ยมโอภาส ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขตตรวจราชการที่ 10 (บึงกาฬ  เลย หนองคาย หนองบัวลำภู อุดรธานี) พร้อมด้วยนายชาญชัย คงทัน รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย และคณะได้ลงพื้นที่ตรวจติดตามการขับเคลื่อนประเด็นสำคัญของรัฐบาล เรื่องการท่องเทึ่ยว ของแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติดอนป่าเปือยบ้านหม้อ ซึ่งมีต้นเปือยขนาดใหญ่จำนวนมาก โดยมี  หลวงปู่ฉลวย อชิโต เจ้าอาวาสวัดป่าโนนหินเสื่อ/ประธานอุปถัมป์พัฒนาดอนป่าเปือยบ้านหม้อ  ว่าที่ร้อยตรีนครชัย แสงมณี นายอำเภอศรีเชียงใหม่ นายพิทยา ชำนาญเนียม ปลัดอาวุโสฯ  นายอภินันท์ อุตตมะ นายก อบต.บ้านหม้อ  นายสนอง เข็มพรหมมา ประธานคณะกรรมการจิตอาสาพัฒนาดอนป่าเปือยบ้านหม้อ และคณะกรรมการฯ หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งชาวบ้านในพื้นที่และผู้ที่เกี่ยวข้องร่วมให้การต้อนรับ พร้อมจัดชุดการแสดงชองชาวไทพวน ชื่อชุด"มนต์เสน่ห์ไทพวนบ้านหม้อ" ให้แขกผู้มาเยือนได้รับชม และพาเยี่ยมชมป่าเปือยบนพื้นที่กว่า 36 ไร่ และเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์สินค้าโอทอปของชุมชน






นายวิฑูร เอี่ยมโอภาส ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า  การมาครั้งนี้เป็นการเดินทางมาตรวจราชการแบบบูรณาการซึ่งมีอยู่ 2 เรื่อง คือ เรื่องการท่องเที่ยว และเรื่องการพัฒนาศักยภาพคน  สำหรับเรื่องการท่องเที่ยว ก็จะมาดูเรื่องการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ ซึ่งลักษณะของการท่องเที่ยวในจังหวัดหนองคายนั้นมีแหล่งท่องเที่ยวจำนวนมาก ทั้งแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและประเพณีต่างๆ  จะเห็นได้ว่าจะมีวัดตามริมแม่น้ำโขงตั้งแต่อำเภอสังคมไปจนถึงอำเภอโพนพิสัย ซึ่งเมื่อก่อนมีไปจนถึงอำเภอบึงโขงหลงซะด้วยซ้ำ ตั้งแต่บึงกาฬยังไม่แยกเป็นจังหวัด การท่องเที่ยวนั้นส่วนใหญ่จะเป็นการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมและประเพณีค่อนข้างเยอะ  และก็ดีใจที่ทางชุมชนไทพวนบ้านหม้อได้มีการสืบสานต่อยอดวัฒนธรรม โดยเฉพาะภูมิปัญญาท้องถิ่นต่างๆรวมทั้งประเพณี และอีกอย่างที่มาวันนี้นั้น ยังไม่เคยชิมหวานหมอน้อย ซึ่งผี้งเคยเจอ แต่พอได้ชิมแล้วรู้สึกสดชื่น คล้ายๆกับเฉาก๋วยกำแพงเพชร  ซึ่งก็ไม่ต่างกัน เพียงแต่ต้องมีการประชาสัมพันธ์เล่าเรื่องการต่อยอดในสิ่งเหล่านี้ เพื่อให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น 






ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ในส่วนของการท่องเที่ยวของดอนป่าเปือยแห่งนี้หรือหลายๆที่ สิ่งสำคัญก็คือเรื่องของความสะอาด ความปลอดภัย ซึ่งความสะอาดนั้นคงต้องอาศัยความร่วมมือพี่น้องประชาชน รวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ต้องเข้ามาช่วย และที่สำคัญคือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดต้องเข้ามาข่วยกัน แล้วในส่วนของการท่องเที่ยวต้องช่วยกันอนุรักษ์และคงไว้ซึ่งประเพณีที่ดีงาม รวมทั้งวัฒนธรรมจากรุ่นสู่รุ่นให้คงไว้สืบไป




สำหรับดอนป่าเปือยแห่งนี้ ถือเป็นป่าช้าเก่าแก่นับร้อยปีของชาวไทพวนบ้านหม้อ และมีต้นเป็อย หรือต้นตะแบกขนาดใหญ่จำนวนมากกว่า 92 ต้น แต่ละต้นมีอายุไม่ต่ำกว่า 300-400 ปี และมีต้นเปือยขนาดใหญ่ทึ่สุดในประเทศไทย โดยมีเส้นรอบวงของลำต้นขนาด 5.30 เมตร และยังเป็นป่าเปือยผืนสุดท้ายที่มีความอุดมสมบูรณ์ที่สุดในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าพานพร้าว-ป่าแก้งไก่ ที่สำคัญป่่าเปือยแห่งนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของการถ่ายทำภาพยนต์เรื่อง 15 ค่ำ เดือน 11 เมื่อปี พ.ศ. 2544 อีกด้วย




โดยในพื้นที่ยังมีต้นไม้หวงห้ามขนาดใหญ่ อาทิเช่น ต้นตะเคียนทอง ต้นพะยูงหิน ต้นพะยอม ต้นอ้อยช้าง ต้นมะดูกใหญ่ และไม้สมุนไพรหลากหลายชนิด  ชาวบ้านในพื้นที่ได้เร็งเห็นความสำคัญ จึงได้ร่วมกันพัฒนาเพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวชมธรรมชาติของป่าเปือย  โดยเมื่อวันที่ 21 มี.ค.65 ได้ทำการสร้างสะพานชื่อว่า "สะพานทางไปสู่สวรรค์" เพื่อเดินเข้าไปชมป่าเปือยทุกต้นในป่าธรรมชาติแห่งนี้ ซึ่งปัจจุบันได้สร้างสะพานไปแล้ว 312 เมตร และจะสร้างไปเลื่อยๆไปจนครบต้นเปือยทุกต้น ตามกำลังทรัพย์ของชาวบ้านที่มีความเชื่อและศรัทธา




พร้อมทั้งสร้างสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจและสร้างอนุสรณ์สถานใหับรรพบุรุษ เช่น ศาลตา-ยาย สถูปเจดีย์พระทองคำ และมูลเจดีย์ (มู-ละ-เจดีย์) หรือเจดีย์รากเหง้า โดยวันที่ 9 เมษายนของทุกๆปี ได้จัดงานประเพณีไทพวนบ้านหม้อ "บุญจ้างหนังให้ผีเบิ่ง" (บุญจ้างหนังให้ผีดู) เพื่อเป็นการทำบุญให้แก่บรรพบุรุษ และในวันออกพรรษา จะมีการจุดเทียนบนสะพานเดินชมต้นเปือย 1,511 เล่ม ตามชื่อหนังเรื่อง 15 ค่ำ เดือน 11 เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาและเฉลิมฉลองวาระที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จลงสู่โลกมนุษย์ ซึ่งถือว่าเป็นกิจกรรมในการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดหนองคาย อีกด้วย













จ.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา" เฉลิมพระเกียรติฯ

สนง.พช.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา"...