เทศบาลเมืองหนองคาย ร่วมกับสมาคมสันนิบาตเทศบาล จังหวัดหนองคาย จัดการแข่งขันกีฬาเทศบาลเทศบาลสัมพันธ์ต้านยาเสพติด ครั้งที่ 19

       วันที่ 29 มี.ค. 62 ที่ สนามกีฬาโรงเรียนหนองคายวิทยาคาร อ.เมือง จ.หนองคาย
นายจิระศักดิ์ ศรีคชา รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานในการเปิดงานการแข่งขันกีฬาเทศบาลเทศบาลสัมพันธ์ต้านยาเสพติด โดยทางเทศบาลเมืองและสมาคมสันนิบาตเทศบาลได้จัดขึ้น มีนายกำภล เมืองโคตร นายกเทศมนตรีเมืองหนองคายกล่าวต้อนรับคณะนายกเทศมนตรีและนักกีฬาจากทุกเทศบาลฯภายในจังหวัดหนองคาย ที่เข้าร่วมในการแข่งขันในครั้งนี้

       นายพรชัย ปุริวัฒน์ นายกเทศมนตรีอำเภอศรีเชียงใหม่ นายกสมาคมสันนิบาตเทศบาล จังหวัดหนองคาย กล่าวว่า  ด้วยสคามสันนิบาตเทศบาลจังหวัดหนองคาย ได้จัดตั้งขึ้นเพื่อให้เทศบาลในจังหวัดหนองคาย ได้มีโอกาสพบปะ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกัน ทั้งการพิจารณา แก้ไขปัญหาการปฏิบัติงานที่เกิดขึ้น เพื่อให้มีแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนในการแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน และได้ทำกิจกรรมสร้างสรรค์อันเป็นประโยชน์ต่อเทศบาล

        ทั้งนี้ทางสมาคมสันนิบาตจังหวัดหนองคาย จึงได้มีมติให้มีการจัดจัดการแข่งขันกีฬาเทศบาลต้านยาเสพติด ระหว่างเทศบาล ซึ่งจะมีการหมุนเวียนกันระหว่างเทศบาลทุกปี ในการจัดกิจกรรมแข่งขันกีฬาและให้ความสำคัญในการแข่งขันและให้ความสำคัญในการสร้างการรับรู้รณรงค์ให้ทุกเทศบาลตระหนักและเห็นความสำคัญในการแก้ไขปัญหายาเสพติดสนับสนุนนโยบายของภาครัฐในการสร้างชนชนเข้มแข็ง

       สำหรับการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ มีเทศบาลฯภายในจังหวัดหนองคายเข้าร่วมทั้งหมด 19 เทศบาลและจะแบ่งออกเป็น 6 กลุ่มสี มีชนิดกีฬาในการแข่งขันประกอบด้วย กีฬาสากลและกีฬาพื้นบ้าน ได้แก่ ฟุตบอลชาย,วอลเล่บอลหญิง,กีฬาเซปักตะกร้อชาย,,กีฬาเปตอง ,การแข่งขันชักกะเย่อ,วิ่งผล้ดกระสอบ,และอีกหลายชนิดกีฬา สร้างความสนุกสนานและความสามัคคีได้เป็นอย่างดี

หนองคาย - พายุถล่มอำเภอศรีเชียงใหม่ พัดโครงหลังคาท่าเทียบเรือพัง บ้านเรือนประชาชนสังกะสีปลิวว่อน

       เมื่อวันที่ 27 มี.ค. 62 เวลา 15.30 น. ได้เกิดพายุฤดูร้อนถล่มพื้นที่อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย ทำให้ท่าเทียบเรือศรีเชียงใหม่ เฟอร์รี่ จำกัด หมู่ที่ 8 ตำบลบ้านหม้อ ของนายพิจิตร ฮามใส พังเสียหาย โดยแรงพายุได้พัดโครงหลังคาสำนักงานที่เป็นโครงเหล็กเปิดออก ฝ้าเพดานหล่นและกระจกสำนักงานแตกกระจาย ข่าวของเครื่องใช้ได้รับความเสียหาย สังกะสีหลังคาได้ลอยปลิวว่อนไปตกริมแม่น้ำโขง คนงานที่นอนเฝ้าสำนักงาน ต้องวิ่งหนีตายไปหลบอยู่ที่ป้อมยาม

        นอกจากนี้ในพื้นที่หมู่ 3 บ้านป่าสัก พบว่าหลังคาบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายไปจำนวน 4 หลัง ยุ้งข้าว 1 หลัง และไร่ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 5 ไร่ หมู่ 6 บ้านยางคำ ต้นไม้ล้มทับหลังคาโรงจอดรถเสียหาย 1 หลัง และพื้นที่หมู่ 6 บ้านยอยไฮ ตำบลพานพร้าว มีบ้านเรือนประชาชนเสียหาย 1 หลัง เบื้องต้นกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ลงพื้นที่สำรวจผู้ได้รับผลกระทบจากพายุพัดถล่มในครั้งนี้ และประเมินค่าความเสียหายเพื่อให้การช่วยเหลือต่อไป

หนองคาย - รพร.ท่าบ่อ เตรียมจัดงานเดิน-วิ่งเฉลิมพระเกียรติในหลวงรัชกาลที่ 10 ครั้งที่ 1 พร้อมรับนักวิ่งชาวไทยทั่วประเทศ และนักวิ่งชาวต่างชาติสู่สนามแข่งขัน

      วันที่ 27 มี.ค. 62 ที่ห้องประชุมลำโขง โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นายศรัณย์ศักด์ ศรีเครือเนตร นายอำเภอท่าบ่อ, นายแพทย์วัฒนา พารีศรี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดแถลงข่าวการแข่งขันเดิน-วิ่งเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ภายใต้ชื่อ "TCPH RUN 2019 MINI - HALF MARATHON IN HONOR OF THE KING"

       นายแพทย์วัฒนา พารีศรี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ กล่าวว่า การจัดโครงการเดิน-วิ่ง เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ดำเนินการจัดขึ้นเป็นครั้งแรก ซึ่งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ และมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช สาขาท่าบ่อ เป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่ในการดูแลประชาชนในเขตพื้นที่อำเภอท่าบ่อและใกล้เคียง รวมทั้งประเทศเพื่อนบ้าน โดยไม่คำนึงถึงเชื้อชาติ ศาสนา ตามพระราชดำริที่องค์ในหลวงได้ทรงมอบไว้ เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวของเหล่าเจ้าหน้าที่  โครงการนี้จะเป็นส่วนร่วมดูแลประชาชนในด้านของการป้องกันโรค และสุขภาพให้กับประชาชนจำนวนมาก  และได้เผยแพร่กิจกรรมดีๆ ของโรงพยาบาล เพื่อเป็นการแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 โดยพร้อมเพียงกัน รวมทั้งยังเป็นการนำรายได้เป็นกองทุน เพื่อสนับสนุนและจัดซื้อยาและเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ให้โรงพยาบาลฯ และส่งเสริมความร่วมมือทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน

       สำหรับผู้ที่สมัครเดิน-วิ่ง เฉลิมพระเกียรติฯ รับเสื้อวิ่งคนละ 1 ตัว แข่งขันในประเภทวิ่งฮาล์ฟมาราธอน ระยะทาง 21 กม. ค่าสมัคร คนไทย 500 บาท ต่างชาติ 600 บาท, วิ่งซูเปอร์มินิมาราธอน ระยะทาง 14 กม. ค่าสมัครคนไทย 400 บาท ต่างชาติ 500 บาท และวิ่งฟันรัน ระยะทาง 5.5 กม. ค่าสมัครคนไทย 300 บาท ต่างชาติ 400 บาท ซึ่งผู้ที่เข้าเส้นชัยอันดับ 1-10 รับเหรียญรางวัลและถ้วยรางวัล และเดินเพื่อสุขภาพ ระยะทาง 2 กม. ค่าสมัครคนไทย 200 บาท ต่างชาติ 300 บาท

      การแข่งขันครั้งนี้ นักวิ่งที่แต่งกายแฟนซี สวยงาม สร้างสรรค์ จะได้รับถ้วยรางวัล 30 ใบ   และผู้ที่มารายงานตัวในวันเสาร์ ที่ 18 พฤษภาคม 2562 จะได้รับเสื้อวิ่ง และช่วงเย็นจะมีอาหารแก่ผู้เข้าร่วมแข่งขัน ฟรี ณ ใต้อาคารเรียนโรงเรียนอนุบาลดารณีท่าบ่อ และในวันอาทิตย์ ที่ 19 พฤษภาคม 2562 ก็จะทำการปล่อยตัวนักวิ่ง ณ บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภออำเภอ จังหวัดหนองคาย

หนองคาย - ไทย, ลาว, เวียดนาม, กัมพูชา ผนึกกำลังปังกันป้องโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร ยันไม่ติดต่อตน

        วันที่ 27 มี.ค. 62 ที่หน้าโรงแรมอัศวรรณ อ.เมือง จ.หนองคาย นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เป็นประธานปล่อยขบวนรถเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษของกรมปศุสัตว์ เพื่อออกปฏิบัติงานพ่นน้ำยาฆ่าเชื่อเพื่อป้องกันโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (African Swine Fever : ASF) ตามพื้นที่ชายแดนและประเทศเพื่อนบ้าน โดยมี นายรณชัย จิตวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย พร้อมคณะให้การต้อนรับ

       อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคม 2561 เป็นต้นมา ก็เกิดโรค ASF ในประเทศจีน มองโกเลีย และเวียดนาม ซึ่ง ณ ตอนนี้ประเทศไทย ลาว และกัมพูชา ยังไม่เกิดโรคระบาดดังกล่าวขึ้น และในวันนี้มีความสำคัญมาก เพราะว่าทางผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคายและก็ทางอธิบดีกรมปศุสัตว์จากประเทศลาว กัมพูชา และเวียดนาม ได้เดินทางมาประชุมเพื่อที่จะหาข้อในเรื่องของการดำเนินการ เพื่อที่จะป้องกันในภูมิภาคแห่งนี้ปลอดจากโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร เพราะฉะนั้นความเข้มแข็งในภูมิภาค อย่างวันนี้ทางกรมปศุสัตว์  กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ปล่อยขบวนคาราวานเพื่อที่จะไปดำเนินการพ่นยาฆ่าเชื้อที่ สปป.ลาว เพราะว่าความเสี่ยงในแถบริมแม่น้ำโขง อาจจะมีความเสี่ยงกับสุกรที่เลี้ยงแบบปล่อย โดยการสนับสนุนจากสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ซึ่งมีความเข้มแข็งมาก ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าว่าโรคนี้จะไม่เข้ามาในประเทศไทย ลาว และกัมพูชา ซึ่งปัจจุบันได้มีการทำคู่มืประชาสัมพันธ์ผ่านทางปศุสัตว์จังหวัดและเจ้าหน้าที่ ซึ่งโรคนี้จะคล้ายโรคอหิวาต์ธรรมดา มีอาการป่วยการตายสูง แต่ให้ท่องไว้คือ 4+1 ซึ่ง 1 ก็คือไม่ติดคน เพราะฉะนั้นไม่ต้องตระหนักว่าโรคนี้จะติดคน ที่แพร่กระจายในโซเชียลนั้นไม่จริง อันที่ 2 คือไม่มียารักษาและก็ไม่มีวัคซีน เชื้อทนทานต่อสภาพแวดล้อม และอัตราการตายสูง ซึ่งอยู่ใน 4+1 ซึ่งเกษตรกรนั้นเข้าใจ และอีกเรื่องหนึ่งก็คือเจ้าของผู้เลี้ยงสุกรรายใหญ่เร่งดำเนินการในเรื่องความปลอดภัยทางชีวภาพ ส่วนรายย่อยเราได้ดำเนินการให้มีความเข้าใจว่าโรคนี้มีความสำคัญอย่างไร และเวลาเกิดโรคนั้นมีความเสียหายอย่างไร ซึ่งรัฐบาลได้ยกระดับของโรคนี้เป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งทุกหน่วยงานราชการต้องมาช่วยกันเหมือนกับโรคไข้หวัดนกในอดีต แต่เนื่องจากว่าโรคนี้ไม่ใช่โรคสัตว์ติดคน จึงมีลึกดำเนินการอีกแบบหนึ่ง ประชาชนไม่ต้องตื่นตระหนก เพราะติดเฉพาะสุกร ซึ่งประชาชนก็ทราบและเข้าใจดีอยู่แล้วว่าโรคนี้ไม่ติดคน