วันที่ 29 ส.ค.2565 นายยุทธนา ศรีตะบุตร นายก อบจ.หนองคาย พร้อมด้วยนายอุรุยศ เอียสกุล นายกเทศมนตรีเมืองหนองคาย , นายมนนิภา โกวิทศิริกุล ประธานหอการค้าจังหวัดหนองคาย และนางสุกานดา พันธุ์เสือ นายกสมาคมส่งเสริมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดหนองคาย ได้ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจการทำกะลาไฟ หรือภาษาถิ่นเรียกว่า "กะโป๋ไฟ" ของสมาคมเวียดนามหนองคาย ที่จะใช้ลอยในวันออกพรรษา ปี 2565 นี้
นางอารยา กุลธัญวัฒน์ นายกสมาคมเวียดนามหนองคาย กล่าว่า ทุกปีที่ผ่านมาชาวชุมชนป่าพร้าว ในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย ได้มีการนำกะโป๋ไฟมาลอยบูชาพระแม่คงคาในช่วงออกพรรษาของทุกปี ซึ่งทางสมาคมฯเห็นว่าเป็นประเพณีอันดีงาม จึงได้เข้ามาสนับสนุน ที่ผ่านมาทุกปีจะทำ 1 – 2 หมื่นอัน ปีนี้ตั้งเป้าไว้ที่ 5 หมื่นอัน ซึ่งมีหน่วยงานราชการเข้ามาให้การสนับสนุน โดยจะใช้ลอยในวันออกพรรษา ปีนี้ตรงกับวันที่ 10 ตุลาคม 65 จึงอยากเชิญชวนชาวหนองคายและนักท่องเที่ยวมาร่วมชมความสวยงาม เพราะเป็นดวงไฟที่ลอยกลางแม่น้ำโขง เป็นสายยาวตามลำแม่น้ำโขง จุดเริ่มต้นที่สะพานมิตรภาพไทย-ลาว กระโป๋ไฟแต่ละอันไฟจะติดยาวนานไม่ต่ำกว่า 3 ชั่วโมง ซึ่งจะติดลอยไปจนถึงอำเภอโพนพิสัย
นายกสมาคมเวียดนามหนองคาย กล่าวต่อไปอีกว่า กะโป๋ไฟที่ทำมีการนำเศษเทียนจากวัดต่าง ๆ มาเป็นส่วนประกอบสำคัญ โดยเฉพาะเศษเทียนที่วัดโพธิ์ชัย พระอารามหลวง วัดประดิษฐานองค์หลวงพ่อพระใส พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองหนองคาย จากนั้นก็จะนำเศษเทียนมาต้มก่อนจะเทใส่กะโป๋มะพร้าวที่ปักไส้เทียนไว้แล้ว ซึ่งกะโป๋มะพร้าวทางสมาคมก็จะซื้อจากร้านทำขนมหวานในจังหวัดหนองคาย ในราคากะโป๋ละ 1 บาท ซื้อสะสมมาไว้ตลอดทั้งปี
สำหรับความเชื่อในการลอยกะโป๋ไฟนั้น เป็นการหลอมรวมสิ่งศักดิ์สิทธิ์จากหลาย ๆ วัดไว้ในกะโป๋ไฟที่ทำขึ้นนี้ ก่อนจะนำไปลอยเพื่อบูชาพระแม่คงคา จึงอยากเชิญชวนให้มาร่วมขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โดยจะเริ่มลอยในเวลาประมาณ 17.00 น.เป็นต้นไป จนถึงเวลาประมาณ 20.00 น. เป็นวันเดียวกันกับวันที่คาดว่าจะมีปรากฏการณ์ “บั้งไฟพญานาค” เป็นการทำกะโป๋ไฟทั้งปี เพื่อลอยในวันนี้เพียงวันเดียว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น