วันเสาร์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

ผู้ว่าฯหนองคาย ออกคำสั่งปิดสถานที่ สถานบันเทิง ห้ามรวมกลุ่มสังสรรค์ ต้องสวมหน้ากากออกจากบ้าน ส่วนร้านอาหาร เปิดไม่เกิน 5 ทุ่ม ห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านค้าเปิดไม่เกิน 3 ทุ่ม พร้อมให้คัดกรองเข้มผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง และคุมเข้มตามแนวชายแดนตลอด 24 ชม.

.

วันที่ 30 เม.ย. 64 นายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ได้ลงนามคำสั่งที่ 14 /2564 เรื่อง ข้อกำหนดการปฏิบัติตามมาตรการสำคัญเพื่อควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในจังหวัดหนองคาย ระบุว่า ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในประเทศไทย ขณะนี้ได้ทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น โดยมีการกระจายไปในทุกจังหวัดอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้พบว่าปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่มีความสัมพันธ์ต่อการแพร่กระจายของโรค ได้แก่ ในสถานบันเทิง กิจกรรมเสี่ยงที่มีการรวมกันของคนจำนวนมาก งานเลี้ยงสังสรรค์ เป็นต้น จากนั้นได้มีการแพร่ระบาดไปยังบุคคลในครอบครัวเดียวกัน สถานที่ทำงาน สถานบริการ และอาจเป็นเหตุของการลุกลาม แพร่กระจายอย่างรุนแรงขึ้น จนเกินศักยภาพของระบบบริการทางแพทย์และสาธารณสุขได้ หากไม่มีมาตรการและวิธีการเพื่อการป้องกันยับยั้งควบคุมและสกัดกั้นที่เข้มงวดและเหมาะสม


เพื่อให้การเฝ้าระวังสกัดกั้นยับยั้งป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิต -19) ในพื้นที่จังหวัดหนองตาย เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และสอดคล้องตามมาตรการควบคุมโรค ของกระทรวงสาธารณสุข ฉะนั้นอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 22(7) มาตรา 34 มาตรา 35 มาตรา 39 และมาตรา 40 แห่งพระราชบัญญัติโรค พ.ศ.2558 ประกอบกับข้อกำหนดออกตามความมาตรา 9  แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 1) ข้อ 7 (1) ลงวันที่ 25 มีนาคม 2563 ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 15) ข้อ 3  ลงวันที่ 25 ธันวาคม 2563 ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 16) ลงวันที่ 3 มกราคม 2564 ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 17) ลงวันที่ 6 มกราคม 2564 ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 18) ลงวันที่ 29 มกราคม 2564 ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 20) ลงวันที่ 16 เมษายน 2564 และ ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 22) ลงวันที่ 29 เมษายน 2564 ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์กรณีฉุกเฉินใน้ขตพื้นที่จังหวัดหนองคาย และประธานคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดหนองคาย โดยคามเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหนองคาย ลงมติที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดหนองคาย ครั้งที่ 9/2564 ลงวันที่ 28 เมษายน 2564  จึงมีคำสั่งดังนี้

ข้อ 1 ให้ยกเลิก คำสั่งคณะกรรมการโรคติตต่อจังหวัดหนองคายที่ 8/2564 ลงวันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2564 และคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหนองคายที่ 12/2564 ลงวันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2564


ข้อ 2 การปฏิบัติงานของพนักงานเจ้าหน้าที่

2.1 การปฏิบัติการของพนักงานเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ขายแดน ให้หน่วยงานความมั่นคงในจังหวัดหนองคาย ประกอบด้วย กอ.รมน.นค. , หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโซง เขตหนองลาย (นรข.) , กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 245 ให้เข้มงวดควบคุมการลักลอบเข้าประเทศ และการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างตัาว เพิ่มการลาดตระเวนตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเฝ้าระวังและสกัดกั้นป้องกันมีให้มีการลักลอบเดินทางเช้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย หากพบการลักลอบเข้าประเทศ ให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด

2.2 การปฏิบัติการของพนักงานเจ้าหน้าที่ในพื้นที่จังหวัดหนองตาย ให้ตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย, ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดหนองคาย, เจ้าหน้าที่ฝ้ายปกครอง , เจ้าหน้าที่สาธารณสุข รวมทั้งเจ้าหน้าที่ศุลกากรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ดังนี้

-  จัดตั้งจุดคัดกรองบุคคลที่เดินทางเข้ามาในจังหวัดหนองคาย ณ ด่านตรวจหนองสองห้อง ตำบลค่ายบกหวาน อำเภอเมืองหนองตาย โดยให้มีการบูรณาการร่วมระหว่างตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกลรอง และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข โดยมีมาตรการคัตกรองให้เป็นไปตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข

- คัดกรองบุคคลและรถขนส่งสินต้าตามแนวชายแตน กำหนดจุดรับส่งสินค้าให้อยู่ในพื้นที่ และระยะเวลาที่กำหนด โดยถืปฏิบัติให้เป็นไปตามมาตรการทางสาธารณสุขอย่างเศร่งครัด


ข้อ 3 การสกัดกั้นการแพร่กระจายขยงโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(ควิต-19) ในพื้นที่

3.1 ประซาชนที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่จังหวัดหนองศายจากพื้นที่กรุุงเทพมหานคร และอีก 35 จังหวัดต้องรายงานตัวต่อกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.)ในพื้นที่ โดยต้องกักกันตัวที่บ้านหรือที่พักอาศัย (Home Quarantine) อย่างเคร่งครัดและเข้มข้นเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 14 วัน โดยการแยกห้องพัก ห้องสุขา อุปกรณ์เครื่องใช้ส่วนตัว ฯลฯ เว้นแต่เป็นบุคคล ได้แก่ 1.ผู้ใด้รับการฉีดวัครีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบ 2 เข็มมาแล้วระยะเวลาไม่น้อยกว่า 14 วัน และมีใบรับรองการฉีควัคซีน (Vaccine Certifcate : VC) ฉบับจริงแสดงแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ หรือ 2.มีผลการตรวจหาเชื้อโควิต-19 ที่แสดงว่าไม่พบเชื้อด้วยวิธี RT-PCR หรือ Rapid test ในเวลาภายใน 72 ชั่วโมง ทั้งนี้ยังคงต้องเฝ้าระวังสังเกตอาการตนเอง ปฏิบัติตามมาตรการและแนวทางในการป้องกันควบคุมโรคอย่างเข้มงวดและเคร่งครัด (Self-Quarantine) อีกเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 14 วัน

3.2 หากเจ้าหน้าที่ตรวจพบบุคคลที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ที่มีซอบตัวยกฎหมาย อันเป็นพื้นที่เขตติตโรคติตต่ออันตรายและพื้นที่ระบาดต่อเนื่อง ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงผู้สัมผัสและผู้อยู่ในเหตุการณ์ที่พบผู้ป่วยยืนยันและผู้สงสัยติดเชื้อ ต้องเข้ารับการตรวจคัตกรองและคุมไว้ลังเกตตามเกณฑ์ที่กำหนด เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 14 วัน


ข้อ 4 การห้ามดำเนินการหรือจัดกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการแพรโรคใบพื้นที่จังหวัดหนองคาย

4.1 ทุกกิจกรรมที่มีการรวมคนจำนวนมาก ให้ระงับหรือเลื่อนออกไป เช่น การอบรมสัมมนา งานเลี้ยงสังสรรค์ การจัดงานคอนเสิร์ต งานกิจกรรมกีฬา สภากาแฟ เป็นต้น ยกเว้นกิจกรรมทางศาสนา งานประเพณีท้องถิ่น ที่ใด้กำหนดและดำเนินการตามมาตรการในการป้องกันควบคุมโรค ไว้อย่างเข้มงวดแล้ว

4.2 ห้ามการใช้อาคารหรือสถานที่ของโรงเรียนและสถาบันการศึกษาทุกประเภทเพื่อการจัตการเรียนการสอน การสอบ การฝึกอบรม หรือการทำกิจการใต ๆ ที่มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมากทำให้เสี่ยงต่อการแพรโรค เว้นแต่ 1. เป็นการเรียนการสอนหรือกิจกรรมเพื่อการสื่อสารแบบทางไกล (On Line) หรือด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์อื่น ,2. เป็นการใช้อาคารหรือสถานที่เพื่อให้ความช่วยเหลือ สงเคราะห์ อุปถัมภ์ หรือให้การอุปการะแก่บุคคล , 3. เป็นการจัดกิจกรรมทางราชการเพื่อประโยชน์สาธารณะ และได้รับอนุญาตจากผู้ว่ราชการจังหวัดแล้ว และ 4. เป็นโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาที่มีขนาดเล็ก ที่มีจำนวนนักเรียนรวมทั้งโรงเรียนไม่เกินหนึ่งร้อยยี่สิบคน

4.3 ห้ามการจัดกิจกรรมซึ่งมีการรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจำนวนรวมมากกว่าห้าสิบคน เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือเป็นกิจกรรมที่ดำเนินการโดยพนักงานเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ต้องตำเนินการตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนดอย่างเหมาะสมเคร่งครัดและเข้มข้น เช่น มาตรการ D-M-H-T.T.A ของกระทรวงสาธารณสุข ได้แก่ D-Distancing การเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล อย่างน้อย 1-2 เมตร M - Mask Wearing การสวมใส่หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย เมื่อออกจากที่พักอาศัยหรือเข้าไปในที่ชุมชน H.Hand Washing การล้างมือต้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ให้สะอาดอยู่เสมอ T-Temperature Checked การวัดอุณหภูมิก่อนเข้าไปในสถานที่ T-Testing การตรวจคัดกรองหาเชื้อโควิต-19 และ A- Application การมีและใช้แอพลิเคชั่นที่เกี่ยวข้องในการป้องกันโรคโควิต-19 เป็นต้น

4.4 ห้ามมีให้มีการชุมนุม การทำกิจกรรม การมั่วสุมหรือกระทำการใดๆ อันเป็นการสุ่มเสี่ยงต่อการติตและแพร่เชื้อโรคได้ เช่น การรวมตัวเล่นการพนันทุกชนิด เป็นตัน


ข้อ 5 การควบคุมการแพร่กระจายโรคจำแนกตามพื้นที่สถานการณ์

5.1 ให้ร้านอาหาร สามารถบริการจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม โดยสามารถบริโภคในร้านไต้แต่ไม่เกินเวลา 23.00 นาฬิกา

5.2 ให้ร้านอาหารหรือสถานที่จำหน่ายสุรา สามารถให้บริการจำหน่ายสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ไต้ แต่ห้ามการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้าน

5.3 ให้ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ หรือสถานประกอบการอื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน สามารถเปิดตำเนินการไต้ตามเวลาปกติของสถานที่นั้น ๆ แต่ไม่เกินเวลา 21.00 นาฬิกา โดยให้จำกัดจำนวนผู้ใช้บริการและงดเว้นกิจกรรมส่งเสริมการขาย ยกเว้นส่วนที่เป็นตู้เกม เครื่องเล่น ร้านเกม และสวนสนุก ต้องงดการให้บริการ


ข้อ 6 การปิดสถานที่ที่มีโอกาสลุ่มเสี่ยงต่อการติดและแพร่เชื้อโรค ดังนี้

6.1 สนามมวย สนามชนไก่ สนามซ้อมไก่ สนามกัดปลา

6.2 ฟิตเนส สนามฝึกซ้อมมวย

6.3 สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ร้านนวดแผนไทย/แผนโบราณ/ร้านนวดเพื่อสุขภาพ

6.4 สถานที่บริการสักหรือเจาะผิวหนัง หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกาย

6.5 สนามกีฬาที่อยู่ในความรับผิดชอบของทั้งภาครัฐและเอกซน ซึ่งมีผู้ชมเป็นจำนวนมากและที่ผู้เล่นที่มีโอกาสสัมผัสตัวกัน เช่น ชกมวย ทุ่ตบอล บาสเก็ตบอล วอลเล่ย์บอล เป็นต้น สำหรับสนามกีฬาที่ไม่มีลักษณะต้องห้ามดังกล่าว ให้มีใด้เฉพาะกิจกรรมการออกกำลังกายเล่นกีฬาประเภทนั้นืๆ เท่านั้น ห้ามมีให้มีการรับประทานอาหารและเครื่องดื่ม หรือกระทำกิจกรรมอื่นใดในลักษณะเข้าข่ายการรวมกลุ่มหรือการสังสรรค์อย่างเต็ดขาด

6.6 ให้ปิตสถานบริการ สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ หรือสถานที่อื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน


ข้อ 7 การป้องกันการติดเชื้อและแพร่กระจายโรคส่วนบุคคล ให้ประชาชนทุกคน ต้องสวมใส่หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธี เมื่อจำเป็นต้องออกจากเคหสถานหรือสถานที่ทำงาน เพื่อติตต่อธุระหรือกระทำการอื่นใด รวมทั้งเมื่อมีเหตุอันควรต้องสวมใส่ เช่น เมื่อต้องปฏิบัติหน้าที่ในสถานที่ทำงานการอยู่ในสถานที่สุ่มเสี่ยงจะแพร่ หรือได้รับเชื้อโรค การอยู่รวมกันกับคนหมู่มาก เป็นตัน อันเป็นการปฏิบัติตามสุขอนามัยในการป้องกันโรคต่อตัวบุคคล และประชาชนทั่วไป


ข้อ 8 การปฏิบัติสำหรับผู้ยนส่งที่เข้ามาในราชอาณาจักรไทย

8.1 มาตรการก่อนการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย ให้ผู้ขนส่งสินค้าแสดงเอกสารที่ใช้ในการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย ได้แก่ หนังสือแสดงการขนส่งสินค้า ซึ่งระบุเวลาที่จะเข้ามาและออกจากราชอาณาจักรไทย ระบุชนิดและจำนวนสินค้า ชื่อสกุลและสถานที่ที่สามารถติดต่อของผู้ขนส่งสินค้า ผู้ส่งสินค้าและผู้รับสินค้า

6.2 มาตรการเมื่อเดินทางถึป/ระหว่างอยู่ในราซอาณาจักรไทย 1.ให้ผู้ขนส่งสินค้าปฏิบัติภารกิจในการขนส่งสินค้า ในราชอาณาจักรไทยเท่าที่จำเป็น เมื่อเสร็จภารกิจแล้วให้กลับไปโดยเร็ว, 2.ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจตัดกรองอาการทางเดินหายใจ และวัดไข้ผู้ขนส่งสินค้า ณ ด่านควบคุมโรคติตต่อระหว่างประเทศ ก่อนเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร (Entry Screening) , 3. ให้ผู้ขนส่งสินค้านำยานพาหนะไปจอดและขนส่งสินค้า ณ จุดที่กำหนด คือ ศูนย์ควบคุมทางศุลกากร ด่านศุลกากรหนองคาย เท่านั้น เว้นแต่ ผู้ขนส่งสินค้าจะมีหนังสือรับรองการตรวจหาเชื้อโควิต-19 ว่ามีผลเป็นลบ (Covid-Free) ซึ่งตรวจมาแล้วไม่เกิน 72 ชั่วโมง สามารถนำมาใช้ได้ภายใน 7 วัน แสดงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ โดยผู้ขนส่งสินค้าสามารถเข้ามาขนถ่ายสินค้า ได้ในเขตพื้นที่เขตอำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย รวมทั้งให้ใช้ระบบติตตามหรือแอปพลิเคชันเพื่อการติดตามป้องกันโรคโควิต-19 ตามที่ทางราชการกำหนด

อนึ่ง ข้อกำหนด ประกาศ คำสั่ง หรือการกระทำที่อาศัยอำนาจตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ตามคำสั่งนี้ไม่อยู่ในบังคับของกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง และกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง ตามมาตรา 16 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 คู่กรณีไม่อาจใช้สิทธิโต้แย้งคำสั่งนี้ได้


หากผู้ใดฝ้าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้ อาจมีความผิดตามมาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท มาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ มาตรา 54 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจมีความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี ปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

จ.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา" เฉลิมพระเกียรติฯ

สนง.พช.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา"...