วันจันทร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

กองทุนสงเคราะห์เกษตรกร มอบสัญญาเงินกู้กว่า 3.956 ล้านบาท ดอกเบี้ยต่ำ ให้แก่วิสาหกิจชุมชนคนเลี้ยงปลาดุกตำบลปะโค อ.เมืองหนองคาย ในโครงการเลี้ยงปลาดุกในบ่อผ้าใบ

วันที่ 31 พ.ค. 2564 ที่  ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร หมู่ที่ 4 ต.ปะโค อ.เมืองหนองคาย จ.หนองคาย นายอำไพ ประเสริฐสังข์ เป็นประธานและสักขีพยานในพิธีลงนามในสัญญาค้ำประกันเงินทุนกู้ยืมจากกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร ซึ่งวิสาหกิจชุมชนคนเลี้ยงปลาดุกตำบลปะโค ได้ขอรับสนับสนุนเงินกู้ยืมในวงเงิน 3,956,670 บาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อปี เพื่อเพิ่มเงินทุนหมุนเวียนในการทำบ่อผ้าใบ และติดตั้งอุปกรณ์ให้อากาศ  จัดซื้อปลาดุก จัดซื้ออาหารเมล็ดและวัสดุอื่นๆ ในโครงการเลี้ยงปลาดุกในบ่อผ้าใบ โดยมี นายทองพูน สมสา ประธานวิสาหกิจชุมชนคนเลี้ยงปลาดุกตำบลปะโค, นายสุวพิษ ศรีวงษ์ รองประธานวิสาหกิจชุมชนฯ พร้อมคณะกรรมการวิสาหกิจชุมชนฯ และนางสาวไพรินทร์ ผลตระกูล นักวิเคราะห์นโยบายและแผนปฏิบัติการ กองทุนสงเคราะห์เกษตรกร พร้อมเจ้าหน้าที่กองทุนสงเคราะห์เกษตรกร ร่วมกันลงนามในครั้งนี้ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการผลิตปลาดุกให้มากขึ้น เพียงพอต่อความต้องการของตลาด และสร้างรายได้เพิ่มให้กับสมาชิกวิสาหกิจชุมชนคนเลี้ยงปลาดุกตำบลปะโค



ทั้งนี้วิสาหกิจชุมชนคนเลี้ยงปลาดุกตำบลปะโค จัดตั้งขึ้นเพื่อรวมกลุ่มเลี้ยงปลาดุก ซึ่งเป็นสัตว์น้ำเศรษฐกิจชนิดหนึ่งที่สำคัญชองจังหวัดหนองคาย ซึ่งผู้บริโภคนิยมรับประทานอย่างแพร่หลาย สามารถประกอบอาหารได้หลากหลายชนิด โดยมีเกษตรกรให้ความสนใจและนิยมเลี้ยง ทั้งในบ่อดิน และในกระชัง ทั้งนี้ในช่วงหน้าแล้งที่มีปริมาณน้ำไม่เพียงพอ รวมทั้งคุณภาพน้ำไม่เหมาะสมต่อการเพาะเลี้ยง ทำให้เกษตรกรประสบภาวะขาดทุน  สมาชิกกลุ่มได้ศึกษารายละเอียดรูปแบบการเลี้ยงปลาดุกในบ่อผ้าใบ โดยได้รับคำแนะนำจากประมงอำเภอเมืองหนองคาย  ได้นำกลุ่มผู้สนใจเลี้ยงปลาดุกในบ่อผ้าใบ ไปศึกษาดูงานที่บ่อเลี้ยงปลาดุกของ นายกฤช มิคาระเศรษฐเหมาะรักษ์  เจ้าของฟาร์มปลาดุกหนองคาย โดยนำคณะเยี่ยมชมฟาร์ม  และให้คำแนะนำการเลี้ยงปลาดุกในบ่อผ้าใบ ร่วมกับการนำระบบการเลี้ยงจุรินทรีย์ไบโอฟลอคมาใช้ (Biofloc) ในการบำบัดน้ำให้มีคุณภาพที่เหมาะสมต่อการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ซึ่งสอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบันที่เข้าสู่ช่วงฤดูแล้ง ทำให้มีปริมาณน้ำและคุณภาพน้ำไม่เหมาะสมต่อการเลี้ยงสัตว์น้ำ ซึ่งในการเบีลี้ยงปลาดุกในบ่อผ้าใย ใช้เวลาในการเลี้ยงประมาณ 3 เดือน สามารถจับขายได้ในราคากิโลกรัมละ 60 บาท เลี้ยงได้ 3 รอบต่อปี  จึงเป็นอาชีพที่มีความมั่นคงสร้างรายได้อย่างยั่งยืน รวมทั้งมีตลาดรองรับที่แน่นอน 



โดยวิสาหกิจฯ ได้จัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ด้านการค้าและการจัดการฟาร์ม กับกลุ่มปลาดุกหนองคาย ซึ่งบริหารจัดการด้านการตลาด และส่งผลผลิตยังพื้นที่ในเขตจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และตลาด สปป.ลาว จึงเป็นโอกาสในการสร้างรายได้เพิ่ม และสร้างความมั่นคงจากอาชีพเลี้ยงปลาดุกในบ่อผ้าใบ  ในอนาคตสามารถพัฒนาเป็นแหล่งเรียนรู้ให้แก่เกษตรกรรายอื่นๆ ที่มีความสนใจในการเลี้ยงปลาคุกรูปแบบดังกล่าวต่อไป



นางสาวไพรินทร์ ผลตระกูล นักวิเคราะห์นโยบายและแผนปฏิบัติการ กล่าวว่า กองทุนสงเคราะห์เกษตรกร เป็นกองทุนภายใต้การดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อส่งเสริมการผลิต การจำหน่าย การพยุงราคา การวิจัยและการดำเนินงานที่จำเป็นเร่งด่วนให้กับองค์กรด้านการเกษตรหรือหน่วยงานของรัฐ โดยเปิดให้จัดทำโครงการเพื่อขอกู้เงินช่วยเหลือในอัตราดอกเบี้ยต่ำ เพียงร้อยละ 0-2 และมีกำหนดระยะเวลาผ่อนชำระ 3-7 ปี ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และประเภทของโครงการที่ยื่นขอกู้ขององค์กรด้านการเกษตรและส่วนราชการต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้กลุ่มเกษตรกรที่ขาดเงินลงทุน และมีปัญหาในเรื่องหลักประกัน สามารถกู้เงินได้ง่ายขึ้นและมีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าการกู้เงินปกติ โดยทางวิสาหกิจชุมชนคนเลี้ยงปลาดุกตำบลปะโค ได้ทำสัญญาเงินกู้ 5 ปี วงเงิน 3,956,670 บาท ซึ่งเป็นวงเงินไม่เกิน 5 ล้านบาท ไม่ต้องมีลักทรัพย์ค้ำประกัน คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อปี ซึ่งการลงนามในสัญญาค้ำประกันในครั้งนี้ เป็นไปตามขั้นตอนของกองทุนฯ ก่อนที่จะดำเนินขั้นตอนการเบิกจ่ายต่อไป






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

จ.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา" เฉลิมพระเกียรติฯ

สนง.พช.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา"...