วันเสาร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2564

พบแล้ว! เจ้าของสร้อยพระเลี่ยมทอง ที่แม้ค้าขายส้มตำเก็บได้ ที่แท้เป็นแม่ค้าขายปลาที่ซื้อขายกันเป็นประจำ เจ้าตัวเผยรู้สึกดีใจ ไม่คิดว่าจะได้คืน

จากกรณีนางจันทร์เพ็ญ วงชาลี อายุ 55 ปี แม่ค้าขายส้มตำที่ตลาดสดชุมชนบ้านน้ำโมง เก็บสร้อยคอทองคำพร้อมพระเลี่ยมทอง ที่ตกอยู่บนพื้นทางเดิน บริเวณแผงขายปลา ในตลาดสดเทศบาลเมืองท่าบ่อ ขณะที่นางจันทร์เพ็ญกำลังเดินหาซื้อปลานิลเพื่อนำไปขาย   ช่วงเวลาประมาณตี 4 ของเช้าวันที่ 18 ส.ค. 2564  แล้วไปแจ้งกับ ว่าที่ร้อยตรี สงวนศักดิ์ ใจดี สมาชิกสภาเทศบาลเมืองท่าบ่อ หลังจากนั้นได้พากันไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.ท่าบ่อ เพื่อตามหาเจ้าของนั้น



ล่าสุดวันนี้ 21 ส.ค. 2564 ที่ สถานีตำรวจภูธรท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นางจันทร์เพ็ญ วงชาลี แม่ค้าขายส้มตำ พร้อมว่าที่ร้อยตรี สงวนศักดิ์ ใจดี สมาชิกสภาเทศบาลเมืองท่าบ่อ ได้ส่งมอบสร้อยทองพร้อมพระเลี่ยมทอง น้ำหนัก 2 บาท คิดเป็นมูลค่ากว่า 60,000 บาท ที่เก็บได้คืนให้กับ นางสุพัด ศรีเชียงขวาง อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 455 หมู่ 11 ต.ท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย มีอาชีพขายปลา ในตลาดสดเทศบาลเมืองท่าบ่อ ที่ได้ทำล่นตั้งแต่เวลาประมาณตี 4 ของวันที่ 18 ส.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งการส่งมอบสร้อยคอทองคำพร้อมพระเลี่ยมทองให้กับเจ้าในครั้งนี้ มี ร.ต.อ.ปวริศน์ งามโนนทอง รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.ท่าบ่อ และแม่ค้าในตลาดสดเทศบาลเมืองท่าบ่อ ร่วมเป็นสักขีพยานในการส่งมอบด้วย



นางสุพัด กล่าวด้วยความดีใจว่า ตนเองเป็นแม่ค้าขายปลา และทำการซื้อขายกับนางจันทร์เพ็ญ เป็นประจำ ในช่วงวันเวลาดังกล่าว ตอนนั้นตนยุ่งมาก เพราะมีลูกค้าอีกรายได้สั่งปลาไว้ ตนก็ก้มๆเงยๆ ยุ่งอยู่กับขายปลา ไม่รู้เลยว่าสร้อยหลุดออกจากคอตอนไหน และตอนนั้นตนก็ไม่ได้อยู่ที่แผงปลา เพราะกำลังเอาปลาไปส่งให้กับลูกค้าอีกราย จนกระทั่งกลับถึงบ้านพักช่วงเวลาประมาณ 08.00 น. รู้สึกคันที่คอเลยจะเอามือไปเกา ก็ตกใจเพราะสร้อยไม่อยู่ที่คอ คิดว่าคงหล่นหายแต่จำไม่ได้ว่าหล่นหายช่วงไหน รู้สึกใจคอไม่ดีมาก คิดว่าคงไม่ได้คืนแล้ว จนกระทั่งตนไปไว้พระที่วัดนาโพธิ์ หลวงพ่อที่วัดก็ถามตนว่า โยมเป็นอะไร ดูเหมือนจิตใจไม่ค่อยดี จึงบอกหลวงพ่อไปว่า ได้ทำสร้อยหาย ไม่รู้หล่นหายไปตอนไหน ชาวบ้านได้ยินเข้า บอกว่าเห็นลงข่าวว่ามีคนเก็บได้ แล้วนำสร้อยไปแจ้งความไว้ที่ สภ.ท่าบ่อ ให้ตามหาเจ้าของ หลังจากนั่นตนจึงรีบมาที่ สภ.ท่าบ่อ เพื่อแสดงว่าสร้อยพระเหลี่ยมทองดังกล่าวเป็นของตน แต่ทางเจ้าหน้าที่ให้รอไว้ก่อน แล้วจะติดต่อกลับไปใหม่


ร.ต.อ.ปวริศน์ งามโนนทอง รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.ท่าบ่อ กล่าวว่า หลังจากที่นางจันทร์เพ็ญ พร้อมสท.สงวนศักดิ์ นำสร้อยพระเหลี่ยมทองมาลงบันทึกประจำวัน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตามหาเจ้าของ ในวันเดียวกันก็มีคนมาแสดงตนว่าเป็นเจ้าของสร้อยดังกล่าวถึง 2 ราย ซึ่งให้ข้อมูลไม่ตรงกับลักษณะของสร้องที่เหลี่ยมพระอะไร และนางสุพัด เป็นรายที่ 3 ที่บอกลักษณะของสร้อยครบทุกอย่าง รวมทั้งบริเวณที่เกิดเหตุก็ใกล้เคียง จากการพิจารแล้วสร้อยพระเหลี่ยมทองเส้นนี้น่าจะเป็นของนางสุพัด วันนี้จึงเรียกให้มารับสร้อยคืน ซึ่งนางสุพัดยังได้มอบสิ่งของและเงินสดจำนวนหนึ่ง ให้กับนางจันทร์เพ็ญ เพื่อเป็นค่าตอบแทนด้วย




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

จ.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา" เฉลิมพระเกียรติฯ

สนง.พช.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา"...