วันจันทร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565

ช่างรับเหมาทำสีรถยนต์ชาวศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ทำเมนูเด็ด"หนูนาอบโอ่ง" เลี้ยงเองชำแหละเอง ขายพ่อพันธุ์-แม่พันธุ์ สร้างรายได้งามยุคโควิด

ที่ฟาร์มหนูพุก หรือหนูนา ของนายนรากร ใจหาญ (หรือช่างนุ) อายุ 39 ปี บ้านเลขที่ 67 บ้านป่าสักเหนือ หมู่ที่ 3 ต.บ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ได้ใช้เวลาว่างจากงานรับเหมาทำสีรถยนต์ในช่วงอาทิตย์ เปิดฟาร์มเลี้ยงหนูพุก หรือหนูนา โดยเลี้ยงในบ่อซีเมนต์ จำนวน 30 บ่อ หนูพุกประมาณกว่า 100 ตัว ขายพ่อพันธุ์-แม่พันธุ์ และต่อยอดด้วย"หนูนาอบโอ่ง" ขายให้กับลูกค้าที่สั่งซื้อ ควบคู่ชำแหละเนื้อสดขาย สร้างรายได้นอกเหนือจากการทำงานรับเหมาทำสีรถยนต์เพียงอย่างเดียว  





ช่างนุ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนและภรรยา ทำงานโรงงานมะเขือเทศในพื้นที่อำเภอศรีเชียงใหม่ แต่รายได้ไม่พอค่าใช้จ่ายในครอบครัว ตนและภรรยาจึงจัดสินใจลาออก แล้วไปทำงานโรงงานทำสีรถยนต์ที่กรุงเทพฯ ทำงานได้ปีเดียวก็มาเจอวิฤกติโควิด-19  และงานก็เริ่มน้อยลง จึงตัดสินใจพาภรรยากลับมาอยู่บ้าน เมื่อมาอยู่ที่บ้านตนก็ไปหารับเหมาทำสีรถยนต์ตามอู่รถยนต์ในพื้นที่ และตนก็ได้ศึกษาวิธีเลี้ยงหนูนาทางสื่อออนไลน์ เห็นมีคนเลี้ยงกันเยอะ ก็เลยปรึกษาภรรยาว่ามาทดลองเลี้ยงหนูนาดีมั้ย ภรรยาก็เห็นด้วย จึงได้ผันตัวเองมาทำอาชีพเลี้ยงหนูนาขาย เสริมรายได้ช่วงโควิด-19 โดยลงทุนซื้อพ่อพันธุ์-แม่พันธุ์ที่ฟาร์มในพื้นที่อำเภอโพธิ์ตาก จ.หนองคาย ราคา 800 บาท ได้พ่อพันธุ์ 1 ตัว แม่พันธุ์ 2 ตัว ทำการเลี้ยงโดยใช้พื้นที่หลังบ้านพักเลี้ยงหนูไว้ 1 บ่อซีเมนต์ ทั้งผสมพันธุ์เอง ให้อาหารเพียงวันละ 1 ครั้ง เป็นอาหารหมูอ่อน, ข้าวเปลือก และอาหารเสริม เช่น ข้าวโพด, แตงกวา และหญ้าหวานอิสลาเอล ซึ่งเลี้ยงได้ประมาณ 45 วันก็ต้องทำการแยกแม่พันธุ์ออกจากลูก เพื่อผสมพันธุ์ใหม่ ปัจจุบันมีบ่อเลี้ยงหนูนาทั้งหมด 30 บ่อ เพื่อทำการขายพ่อพันธุ์-แม่พันธุ์ โดยขายในราคาเท่ากับที่ซื้อมา 800 บาท มีพ่อพันธุ์ 1 ตัว แม่พันธุ์ 2 ตัว แต่ท่าแม่พันธุ์ตัวไหนที่ทำลังตั้งท้องอยู่ ก็จะขายเป็นคู่กับพ่อพันธุ์ ราคาคู่ละ 1,200 บาท ขายดีจนโตไม่ทัน มีรายได้เสริมให้กับครอบครัว 3,000 - 4,000 บาทต่อเดือน



โดยในฟาร์มเลี้ยงหนูนาของตน จะมีหนูพระเอกประจำฟาร์มอยู่ 3 ตัว ชื่อว่าไอ้ไข่ดำและไอ้ไข่ขาว ทั้งสองตัวอายุ 8 เดือน ส่วนอีกตัวชื่อไอ้ทอง อายุ 6 เดือน ทั้งสามตัวจะมีนิสัยสนิทกับคน ไม่ดุร้าย เนื่องจากตนเอามาจับมาอุ้มตั้งแต่ตัวเล็กๆ โดยเฉพาะไอ้ไข่ดำ จะมีความผูกพันธ์เป็นพิเศษ สามารภอุ้มได้มือเปล่า ไม่กัดคน เวลาปล่อยออกมาจากบ่อก็ไม่หนีไปไหน  เมื่อตนจะเดินไปไหนก็จะเดินตามตลอด แต่ทั้งสามตัวเสียอยู่อย่างเดียว คือไม่ยอมผสมพันธุ์ เพราะมีนิสัยกลัวตัวเมีย จึงต้องแยกทั้งสามตัวออกจากแม่พันธุ์  




ช่างนุ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังจำหน่ายหนูอบโอ่งตามขนาดเล็กใหญ่ เริ่มต้นที่ตัวละ 120-140 และ 180 บาท ตามลำดับ แล้วแต่ขนาด และหนูนาชำแหละที่ขนาดโตพอขาย ประมาณ 4 เดือน จะขายตัวละ 120 บาท ซึ่งได้ผลตอบรับเป็นอย่างดี โดยลูกค้าสวนใหญ่เป็นขาประจำและประชาชนทั่วไป ด้วยหนูอบโอ่งของตน มีรสชาติสูตรเฉพาะกับหนังที่อบจนกรอบเหมือนกระจก บวกกับน้ำจิ้มสุดแซ่บ จึงทำให้ลูกค้าติดใจ  ทำให้มีรายได้ 2,000 -3,000 บาทต่อเดือน ซึ่งรายได้เลี้ยงหนูพุก หรือหนูนา นำมาชำแหละ โดยอบโอ่ง ถือว่าเป็นอาชีพเสริมให้กับครอบครัวได้เป็นอย่างดี และหากใครสนใจซื้อหนูสด พ่อพันธุ์-แม่พันธุ์ หรือสนใจจะเลี้ยง ยินดีให้คำปรึกษา   หรือใครที่อยากชิมเมนหนูอบโอ่งฝีมือช่างนุ ที่แสนอร่อยสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ เบอร์ 098-6208969 หรือเบอร์ 065-0505857







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

จ.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา" เฉลิมพระเกียรติฯ

สนง.พช.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา"...