จังหวัดหนองคาย จัดกิจกรรมปลูกป่า โครงการ “เพาะกล้าด้วยใจจิตอาสา สู่ผืนป่าที่ยั่งยืน” เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2561

        วันที่ 16 ส.ค. 2561 ที่ บริเวณริมถนนสายสังคม – ปากชมตำบลบ้านม่วง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย  จังหวัดหนองคาย ร่วมกับสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดหนองคาย  สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดหนองคาย กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดหนองคาย ศูนย์คุ้มครองพันธุ์พืชป่าจังหวัดหนองคาย และองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านม่วง จัดกิจกรรมปลูกป่า ตามโครงการ “เพาะกล้าด้วยใจจิตอาสา สู่ผืนป่าที่ยั่งยืน” เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2561  โดยมีนายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานในพิธีเปิด ,มีนางวัชรินทร์ จิตรวิเศษ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดหนองคาย กล่าวรายงาน

  

         การจัดกิจกรรมครั้งนี้ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2561 และเพื่อให้คณะกรรมการ สมาชิก จิตอาสา และอาสาสมัครสภากาชาดไทยจังหวัดหนองคาย ตระหนักถึงความสำคัญในการปลูกป่าตามแนวพระราชดำริ อันเป็นการเพิ่มพื้นที่สีเขียว ช่วยรักษาสภาพแวดล้อมและลดภาวะโลกร้อน

        สำหรับกล้าไม้ที่ปลูก ได้แก่  สัก พะยูง ยางนา มะค่าโมง ประดู่ ตะเคียน อินทนิล สน ไผ่ และไม้อื่นๆ จำนวน 6,000 ต้น ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าพานพร้าวและป่าแก้งไก่ อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย บนเนื้อที่ 30 ไร่ มีผู้เข้าร่วมกิจกรรม ประกอบด้วย คณะกรรมการ สมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดหนองคาย ส่วนราชการ ข้าราชการ จิตอาสา นักเรียน นักศึกษาและประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก

เทศบาลเมืองหนองคาย ร่วมกับโรงพยาบาลหนองคาย จัดโครงการส่งเสริมสุขภาพเด็กดี ลูกพัฒนาการสมวัยครอบครัวอบอุ่น ประจำปีงบประมาณ 2561

        วันที่ 16 ส.ค. 2561 ที่ ห้องประชุมชื่น  ระวิวรรณ ชั้น 4 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลหนองคาย อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย นายวีระชัยโชค  มงคลภูมิรัตน์ รองนายกเทศมนตรีเมืองหนองคาย เป็นประธานเปิดโครงการส่งเสริมสุขภาพเด็ดดี ลูกพัฒนาการสมวัยครอบครัวอบอุ่น ประจำปีงบประมาณ 2561

       ด้วยงานอนามัยแม่และเด็กเป็นงานที่สำคัญในด้านการบริการพัฒนาคน ซึ่งเด็กเป็นอนาคตของชาติเป็นกำลังหลักในการพัฒนาประเทศในอนาคต กระทรวงสาธารณสุข ได้ให้ความสำคัญในการพัฒนาแม่และเด็กในแต่ละวัยตั้งแรกอยู่ในครรภ์จนถึงสถาบันครอบครัว เพื่อพัฒนาคุณภาพบริการอนามัยแม่และเด็กในสถานบริการสาธารณสุข  โดยเน้นการดูแลทารกตั้งแต่อยู่ในครรภ์ หลังคลอด เด็กแรกเกิดถึง 6 ปี ให้ลูกรอกแม่ปลอดภัย เด็กเจริญเติมโตมีพัฒนาการสมวัยทั้งทางร่างการและจิตใจมีความอบอุ่นในครอบครัว ส่งเสริมให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการดูแลสุขภาพหญิงมีครรภ์ และหลังคลอด ซึ่งมีผู้เข้าร่วมครั้งนี้ ประกอบด้วย ผู้ปกครองเด็ก พ่อ แม่ เด็ก ในชุมชนที่รับผิดชอบเข้าร่วมจำนวน 100 คน

ฤาษีลภ/ ทีมข่าวจังหวัดหนองคาย

ศุลกากรหนองคาย รวบหนุ่มโคราชพ่อค้ามือถือพร้อมคนขับรถแท๊กชี่รับจ้าง ลักลอบขนโทรศัพท์ I-Phone กว่า 150 เครื่อง เข้าประเทศ เพื่อนำมาขายหน้าร้านที่โคราชและขายออนไลน์ สารภาพเดินทางข้ามไปซื้อที่ลาวเคยทำมาแล้วหลายครั้ง

        วันที่ 16 ส.ค. 2561 ที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 1 (ฝั่งขาเข้า) อ.เมือง จ. หนองคาย นายนิมิตร แสงอำไพ นายด่านศุลกากรหนองคาย พร้อมเจ้าหน้าที่ศุลกากรหนองคาย ได้แถลงข่าวการตรวจยึด โทรศัพท์ I-Phone หลายรุ่น เนื่องจากเจ้าหน้าที่ศุลกากรปฏิบัติหน้าที่ตรวจรถยนต์ส่วนบุคคลและรถแท็กซี่โดยสารระหว่างประเทศตามปกติ จึงได้เรียกตรวจรถยนต์แท็กซี่ยี่ห้ออีซูซุ ไทยรุ่ง สีแดง ทะเบียน ฌข 8 หนองคาย มีนายวิสูตร รัตนะ อายุ 46 ปี เป็นคนขับรถแท๊กชี่รับจ้าง และนายสมศักดิ์ อุปถัมภ์วิเชียร อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 78 หมู่ 6 ต.ปรุใหญ่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา เป็นผู้โดยสารนั่งมาในรถ

       เมื่อเจ้าหน้าที่เรียกตรวจ พบพิรุธบริเวณใต้เบาะรถใช้ผ้าปกปิดบางอย่างไว้ เปิดดูพบว่าเป็นกล่องโทรศัพท์มือถือ I-Phone หลายกล่อง จึงได้ควบคุมตัวไว้ก่อน เมื่อทำการตรวจสอบรถยนต์โดยละเอียดพบว่าบริเวณใต้เบาะรถ ทั้งบริเวณคนขับและคนนั่งด้านหน้าและด้านหลังมีการวางกล่องใส่โทรศัพท์ I-Phone รุ่นต่างๆ เป็นจำนวนมาก  เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบมือถืออยู่ในสภาพใหม่แกะกล่อง และมือถือทั้งหมดเป็นโทรศัพท์ I-Phone เครื่องแท้ จำนวน 150 เครื่อง

       นายนิมิตร แสงอำไพ นายด่านศุลกากรหนองคาย กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ศุลกากรหนองคายได้เข้มงวดตรวจสอบรถยนต์ที่ผ่านเข้าออกบริเวณด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย – ลาว เป็นการสุ่มตรวจ ก็พบมีการกระทำผิดดังกล่าว สอบถามเบื้องต้นนายสมศักดิ์ ให้การว่า เปิดร้านขายโทรศัพท์มือถือที่ จ.นครราชสีมา โดยขายทั้งหน้าร้านและขายออนไลน์ ซึ่งได้ข้ามไปซื้อเครื่องมือถือหลายรุ่นที่ สปป.ลาว ครั้งละประมาณ 50-80 เครื่อง ซึ่งเคยทำมาแล้ว 3 ครั้ง เพราะราคาซื้อเครื่องในประเทศไทยกับ สปป.ลาว ค่อนข้างแตกต่างกันมาก เมื่อไปซื้อมาแล้วก็จะนำมาวางขายหน้าร้านและขายออนไลน์

      ทั้งนี้ทางด้านศุลกากรจะทำการยึดไว้ทั้งหมด เนื่องจากเป็นการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 มาตรา 242 นำของต้องห้ามต้องจำกัดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งจะมีอัตราโทษปรับ 2 เท่าของมูลค่าสินค้า นอกจากนี้ต้องยึดรถที่ใช้ในการกระทำความผิดและจะได้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาตามกฎหมายต่อไป

 

สำนักงานเกษตรจังหวัดหนองคาย ประชุมชี้แจงและบันทึกข้อตกลงกิจกรรมพัฒนาการเกษตรเพื่อความยั่งยืน ชุมชนละ 300,000 บาท โครงการส่งเสริมสร้างทักษะส่งเสริมอาชีพด้านการเกษตร

        วันที่ 16 ส.ค. 2561 ที่หอประชุมประจักษศิลปาคม อำเภอเมืองหนองคาย นายร่มไม้ นวลตา เกษตรจังหวัดหนองคาย ได้จัดการประชุมชี้แจงและบันทึกข้อตกลงกิจกรรมพัฒนาการเกษตรเพื่อความยั่งยืน ชุมชนละ 300,000 บาท โครงการส่งเสริมสร้างทักษะส่งเสริมอาชีพด้านการเกษตร โดยมีนายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานเปิดการประชุม

       นายร่มไม้ นวลตา เกษตรจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า โครงการเสริมสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรรายย่อย ภายใต้โครงการเสริมสร้างทักษะส่งเสริมอาชีพด้านการเกษตร เป็นโครงการที่สำคัญของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่จัดทำขึ้นเพื่อให้เกิดการพัฒนาของชุมชนอย่างแท้จริง ส่งเสริมให้เกษตรกรรายย่อยสามารถเข้าถึงแหล่งความรู้และนวัตกรรมด้านเกษตร สามารถติดอาวุธทางปัญหาให้เกษตรกรให้มีความเข้มแข็ง เพิ่มศักยภาพให้กับเกษตรกรในทุกมิติ ตอบโจทย์ในการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเกษตรกรให้สามารถพึ่งพาตนเองได้ ก่อให้เกิดความยั่งยืนในการประกอบอาชีพ อีกทั้งสนับสนุนการดำเนินการ ประกอบการของเกษตรกรชุมชนละ 300,000 บาท ของภาครัฐ ทำให้เกิดการพัฒนาในรูปแบบของโครงการที่เกิดจากความร่วมมือของชุมชนอย่างแท้จริง

       สำหรับการจัดกิจกรรมครั้งนี้ เพื่อสร้างความเข้าใจกับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกระดับ และการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้การดำเนินกิจกรรมทุกขั้นตอนของโครงการ รวมทั้งการบันทึกข้อตกลงรับเงินอุดหนุนโครงการจากสำนักงานเกษตรจังหวัดหนองคาย มีเจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรจังหวัด/อำเภอและตัวแทนคณะกรรมการพัฒนาด้านการเกษตรระดับชุมชนทั้ง 77 ชุมชน ลงนามบันทึกข้อตกลงการขอรับเงินอุดหนุนโครงการที่ผ่านการอนุมัติจากคณะกรรมการพัฒนาด้านการเกษตรระดับอำเภอ ทั้ง 9 อำเภอ จำนวน 240 โครงการ เป็นเงินทั้งสิ้น 23,100,000 บาท (ยี่สิบสามล้านหนึ่งแสนบาทถ้วน)