พุทธศาสนิกชนชาวหนองคาย สืบทอดประเพณีบุญห่อข้าวสาก"สลากภัต"ตามประเพณีฮิตสิบสองที่สืบทอดกันมาตั้งแต่โบราณ

วันที่ 21 ก.ย. 2564 ที่ ศาลาการเปรียญวัดแก้วพิจิตร หมู่ 9 ต.ท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย พุทธศาสนิกชนในพื้นที่และพื้นที่ใกล้เคียงจำนวนมาก ร่วมกันทำบุญประเพณีห่อข้าวสาก"สลากภัต" เพื่อเป็นการสืบสานอนุรักษ์งานประเพณีเก่าแก่และเป็นการอุทิศส่วนกุศลทำบุญให้บรรพบุรุษและญาติพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้ว โดยถวายสลากภัตแด่พระสงฆ์ที่จำพรรษาอยู่ที่วัดแก้วพิจิตร จำนวน 8 รูป

ประเพณีสลากภัต หรือที่ภาคอีสานเรียก ว่า“บุญข้าวสาก” โดยนิยมทำในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 10 เป็นประจำทุกปีของประเพณีสิบสองเดือน หรือ “ฮิตสิบสอง” ซึ่งชาวบ้านจะนำอาหารคาวหวาน และสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น สบู่ ยาสีฟัน พร้อมด้วยปัจจัยหรือที่ชาวบ้านนิยมเรียกคือ"ใส่ยอด" ก็คือใส่ซองเงินเสียบยอดไม้ไผ่ลงไป เพื่อเป็นการอุทิศส่วนกุศลไปหาญาติสนิทมิตรสหายที่ได้ล่วงลับไปแล้ว ตามความเชื่อเพื่อให้ผู้ที่ล่วงลับไปแล้วได้มีของกินของใช้ในโลกหลังความตาย

จากนั้นก็จะนำเบอร์สลากไปติดที่หาบเพื่อให้พระสงฆ์ได้ทำการจับเบอร์ด้วยหลักอุปโลกกรรม คือ ของที่ถวายในหาบนั้นมีทั้งของมากและของน้อยแล้วแต่เจ้าภาพจัดมา พระสงฆ์รูปใดจับได้เบอร์ไหนทางเจ้าภาพก็จะหาบๆนั้นไปถวาย โดยก่อนที่จะถวายข้าวสากแด่พระภิกษุสามเณร จะกล่าวคำถวายข้าวสาก หรือสลากภัตพร้อมกัน เมื่อเสร็จพิธีถวายข้าวสากแล้ว ชาวบ้านที่ไปร่วมพิธีก็จะเอาชะลอมหรือห่อข้าวสากไปวางไว้ตามที่ต่างๆ รอบบริเวณวัด พร้อมจุดเทียนและบอกกล่าวให้ญาติ หรือเปรตผู้ล่วงลับไปแล้วมารับเอาอาหารต่างๆ ที่วางไว้ และขอให้มารับส่วนกุศลที่ทำบุญอุทิศไปให้ด้วย ซึ่งการทำบุญข้าวสาก"สลากภัต"ในพระพุทธศาสนาเป็นประเพณีสืบเนื่องมาแต่โบราณจนถึงปัจจุบัน

ฝ่ายปกครองตำบลพานพร้าว ร่วมกับเทศบาลตำบลศรีเชียงใหม่ จัดกิจกรรม“จิตอาสาพัฒนาวัดสะพานทอง”

วันที่ 10 ก.ย. 2564 ที่ วัดสะพานทอง หมู่ที่ 5 บ้านสะพานทอง ต.พานพร้าว อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย นายไพฑูรย์ มีบุญ กำนันตำบลพานพร้าว, นายเจริญศักดิ์ บุญดี รองนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลศรีเชียงใหม่, นายประเวช งามวิเศษ ที่ปรึกษานายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลศรีเชียงใหม่  พร้อมด้วยจิตอาสาพระราชทาน และประชาชนจิตอาสาในพื้นที่ ร่วมทำกิจกรรม“จิตอาสาพัฒนาวัดสะพานทอง”  ซึ่งฝ่ายปกครองตำบลพานพร้าว ร่วมกับเทศบาลตำบลศรีเชียงใหม่ จัดขึ้น เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดี ความสามัคคี และความสมานฉันท์ของคนในชาติ ส่งเสริมให้มีความรัก เทิดทูนในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ โดยการร่วมกันบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ปรับปรุงสภาพภูมิทัศน์โดยรอบวัดสะพานทองให้สะอาด สวยงาม เป็นระเบียบเรียบร้อย ปลูกจิตสำนึกให้ทุกภาคส่วน รู้จักเสียสละเพื่อส่วนรวม โดยระดมพลังความรัก ความสามัคคีของภาคส่วนต่างๆในพื้นที่ ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ อีกทั้งยังเป็นการเสริมสร้างความปรองดองสมานฉันท์ให้กับประชาชนในพื้นที่ ให้อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข

นายอำเภอศรีเชียงใหม่ มอบธงฟ้าหมู่บ้านนี้ไม่มีโควิด-19 #หมู่บ้านสีฟ้า ให้แก่หมู่บ้านปลอดโควิด-19 ในพื้นที่ 43 หมู่บ้าน ผ่านกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน

วันที่ 10 ก.ย. 2564 ที่ หอประชุมเทสรังสี อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย นายทศพล สินยบุตร นายอำเภอศรีเชียงใหม่ เป็นประธานมอบธงฟ้าหมู่บ้านนี้ไม่มีโควิด-19 #หมู่บ้านสีฟ้า ให้แก่กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เพื่อให้เห็นว่าหมู่บ้านนี้ปลอดโควิด-19 และเป็นการแสดงเจตนารมณ์ “หมู่บ้านสีฟ้า ปลอดโควิด-19” ของอำเภอศรีเชียงใหม่ โดยมีนายจรัล กลางประดิษฐ ปลัดอาวุโสฯ กล่าวรายงาน มีหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมพิธี

ตามที่จังหวัดหนองคายได้ดำเนินโครงการ หมู่บ้านนี้ไม่มีโควิด-19 #หมู่บ้านสีฟ้า โดยเน้นบทบาทคณะกรรมการหมู่บ้าน/ชุมชน เป็นผู้ทำหน้าที่ประสานให้ทุกฝ่ายมาร่วมกันป้องกัน และแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในระดับครัวเรือน สู่ระดับหมู่บ้าน/ชุมชน 

สำหรับผลการดำเนินการของอำเภอศรีเชียงใหม่ มีตำบลและหมู่บ้านที่ผ่านเกณฑ์ตามหลักเกณฑ์โครงการหมู่บ้านนี้ไม่มีโควิค -19 #หมู่บ้านสีฟ้า ทั้งสิ้น 4 ตำบล 43 หมู่บ้าน คิดเป็นร้อยละ 100 % ซึ่งการมอบธงสีฟ้าให้แก่ 43 หมู่บ้าน ในครั้งนี้ จึงเป็นเชิงสัญลักษณ์ที่ทุกภาคส่วนระดมสรรพกำลัง ภาคีเครือข่ายเป็น “หมู่บ้านสีฟ้า ปลอดโควิด-19” ให้เกิดความยั่งยืน เป็นไปตามลักษณะของหมู่บ้านตามเกณฑ์ มาตรฐานที่วางไว้ ซึ่งเป็นการสร้างฐานรากของชุมชนให้มีความเข้มแข็งและเป็นหมู่บ้านสีฟ้าอย่างยั่งยืนตลอดไป.

พ่อเฒ่าวัย 104 ปี หายออกจากบ้าน ลูกหลานตามหากันทั้งคืนไม่เจอ ก่อนแจ้งฝ่ายปกครองอำเภอศรีเชียงใหม่ระดมออกค้นหา พบเดินในทุ่งนาห่างจากบ้านประมาณ 800 เมตร

ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายเอกพิสิฐ ธีรนันท์ภาคิน ปลัดอำเภองานป้องกัน ว่าวันนี้ 9 ก.ย. 2564 นายทศพล สินยบุตร นายอำเภอศรีเชียงใหม่ และนายจรัล กลางประดิษฐ ปลัดอาวุโสฯ ได้มอบหมายให้นำกำลังเจ้าที่ อส. จำนวน 10 นาย ร่วมกับฝ่ายปกครองตำบลหนองปลาปาก ระดมออกตามหาคุณตาบุญถิ่น พิชัยชื่น อายุ 104 ปี อยู่บ้านเลขที่ 152 บ้านเสียว หมู่ 7 ต.หนองปลาปาก อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ได้หายออกจากบ้านช่วงเวลาประมาณ 17.30 น. ของวันที่ 8 ก.ย. ที่ผ่านมา จนกระทั่งเวลาประมาณ 09.00 ของวันนี้ (9 ก.ย.) ก็พบคุณตาบุญถิ่นฯ เดินวนอยู่ในทุ่งนา ห่างจากบ้านประมาณ 700-800 เมตร เจ้าหน้าที่จึงเข้าช่วยเหลือนำตัวออกมาจากทุ่งนา และพาไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลนาโพธิ์ ก่อนพาตัวมาพบญาติ

ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปสอบถามนายพงษ์พันธ์ พิชัยชื่น ซึ่งเป็นหลานชายของคุณตาบุญถิ่นฯ เล่าว่า ปกติตนนั้นจะนั่งอยู่หน้าบ้านเป็นประจำเพื่อเฝ้าดูแลคุณตาไม่ให้เดินออกจากบ้านไปไหนใกล เนื่องจากป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ จะหลงลืมตามวัยของคุณตา แต่เมื่อวันที่ 8 ก.ย. ที่ผ่านมา ช่วงเวลาประมาณ 17.13 น. ตนได้ขับรถ จยย.ออกไปซื้อของที่ร้านค้าในหมู่บ้าน ปล่อยให้คุณตาอยู่กับแม่ของตนเพียงลำพังสองคน เป็นจังหวะที่แม่กำลังอยู่ในห้องครัวทำข้าวต้มให้กับคุณตา จนกระทั่งตนได้กลับมาถึงบ้านก็ไม่เห็นคุณตาอยู่ในบ้านแล้ว ถามแม่ๆก็ไม่ทราบว่าเดินออกไปตอนไหน หลังจากนั้นจึงเดินตามหาแต่ไม่พบ ซึ่งปกติแล้วคุณตาจะออกไปไหนไม่ใกลจากบ้านมากนัก สอบถามชาวบ้านก็ได้บอกว่าเห็นเดินลงไปทางทุ่งนา ตนก็เดินหาตามที่ชาวบ้านบอกแต่ก็ไม่พบ และช่วงที่กำลังตามหาอยู่นั้นเกิดมีฝนตกลงมาจึงต้องหยุดหลบฝน พอฝนซาลงลูกหลานก็ออกตามต่อ ร้องตะโกนเรียกหาก็ไม่ได้ยินเสียงตอบรับ จนถึงเที่ยงคืนก็ไม่พบตัวคุณตา  ก็เลยไปแจ้งกับนายสะไกร ประเสริฐศรี ผู้ใหญ่บ้าน ให้ช่วยระดมชาวบ้านออกตามหาอีกทางแต่ก็ยังไม่พบคุณตา จนกระทั่งเช้าผู้ใหญ่บ้านได้แจ้งไปยังนายอำเภอฯ ให้ช่วยจัดเจ้าหน้าที่มาวางแผนช่วยตามหาอีกทาง สุดท้ายก็พบคุณตากำลังเดินวนอยู่ในทุ่งนาดังกล่าว ซึ่งตนก็ได้สอบถามคุณตาว่าเมื่อคืนที่ผ่านมาไปนอนอยู่ที่ไหน ก็ทราบว่าได้เข้าไปหลบฝนและนอนอยู่ในฟาร์มไก่ของชาวบ้าน  จนรุ่งเช้าก็เดินออกจากฟาร์มไก่มาในทุ่งนาเพื่อจะกลับบ้าน แต่จำทางกลับบ้านไม่ได้ จึงเดินวนอยู่ในทุ่งนาอย่างนั้น กระทั่งมีเจ้าหน้าที่มาพบดังกล่าว