เตรียมจัดอย่างยิ่งใหญ่ ”งานส่งเสริมการท่องเที่ยว สืบสานวัฒนธรรมไทยพวน 23 จังหวัด ครั้งที่ 63” ที่อ.โพธิ์ตาก จ.หนองคาย ภายใต้การวางมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 อย่างเข้มงวด

วันที่ 15 มี.ค. 2565 ที่ หอประชุมโรงเรียนบ้านโพธิ์ตาก ต.โพธิ์ตาก อ.โพธิ์ตาก จ.หนองคาย นายณัฐวัสส์ วิริยานภาถรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย, นายรักษ์พงษ์ เซ่งเจริญ ประธานมูลนิธิร่วมพัฒน์ , ดร.สมเกียรติ ตระกูลฟาร์มธวัช รองนายก อบจ.หนองคาย พร้อมผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงข่าวเตรียมจัด ”งานส่งเสริมการท่องเที่ยว สืบสานวัฒนธรรมไทยพวน 23 จังหวัด ครั้งที่ 63”  โดยมีผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ และชาวไทยพวนอำเภอโพธิ์ตาก ร่วมงานแถลงข่าวครั้งนี้

นายณัฐวัสส์ วิริยานภาถรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า ”งานส่งเสริมการท่องเที่ยว สืบสานวัฒนธรรมไทยพวน 23 จังหวัด ครั้งที่ 63” จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 24-27 มีนาคม 2565 ทั้งนี้เพื่อจะได้มีการพบปะและแลกเปลี่ยนความรู้ในวัฒนธรรมประเพณีเพื่อที่จะร่วมกันสืบไว้  และงานนี้สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานผ้าไตร 1 ไตร ทอดถวายงานผ้าป่าสามัคคี สหภูมิสงฆ์/มูลนิธิชมรมไทยพวนแห่งประเทศไทย ในวันที่ 26 มีนาคม 2565  ณ วัดโพธืรุกขาราม ต.โพธิ์ตาก อ.โพธิ์ตาก จ.หนองคาย   

ด้านนายรักษ์พงษ์ เซ่งเจริญ ประธานมูลนิธิร่วมพัฒน์ กล่าว่า ในประเทศไทยมีชาวไทยพวนอาศัยอยู่กว่า 40 จังหวัด โดยงานในปีนี้จะมีชาวพวนจากทั่วประเทศ  23 จังหวัดที่จะมาร่วมงาน ซึ่งจะนำของดีที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละชุมชนมาแสดง มีทั้งการแสดงทางวัฒนธรรม การละเล่น และงานฝีมือ ของกินของใช้ก็จะมีการนำมาให้ชิมกัน โดยผู้มาร่วมงานในงานครั้งนี้จะต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์ และมีผลตรวจ ATK เป็นลบภายใน 72 ชั่วโมง  โดยจะมีการตรวจคัดกรองก่อนเข้างานด้วย TST  หรือแอปฯอื่นๆ และต้องปฏิบัติตามมาตรการ DMHTA   เชื่อว่าไม่มีการระบาดของเชื้อโควิดในงานไทยพวนที่จัดขึ้นในครั้งนี้ ก็ขอเชิญชวนพี่น้องชาวไทยและพี่น้องชาวพวน ให้มาร่วมร่วมเที่ยวชมงาน ที่จะจัดขึ้น ณ บริเวณโรงเรียนบ้านโพธิ์ตาก อ.โพธิ์ตาก จ.หนองคาย

วัดศรีชมภูองค์ตื้อ ประกอบพิธีบวงสรวงเทวดาตาพลี ในงานประเพณีบุญเดือน 4 นมัสการหลวงพ่อพระเจ้าองค์ตื้อ ครบรอบ 460 ปี ปีนี้จัดรูปแบบ New normal งดการแสดงมหรสพ-เครื่องเล่น พร้อมวางตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างเข้มงวด

วันที่ 12 มี.ค. 2565 ที่ วัดศรีชมภูองค์ตื้อ บ้านน้ำโมง ต.น้ำโมง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย พระศรีญาณวงศ์ รองเจ้าคณะจังหวัดหนองคาย เจ้าอาวาสวัดศรีชมองค์ตื้อ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นำคณะสงฆ์ อุบาสก อุบาสิกา จัดพิธีบวงสรวงเทวดาตาพลี ในงานประเพณีบุญเดือน 4 ประจำปี 2565 นมัสการหลวงพ่อพระเจ้าองค์ตื้อ ครบรอบ 460 ปี  

โดยจัดพิธีพุทธ พิธีพราหมณ์ อ่านโองการชุนนุมเทวดา ถวายเครื่องบวงสรวง สังเวยโปรยดอกไม้ บวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อความเป็นสิริมงคล และให้การจัดงานประเพณีบุญเดือน 4 ระหว่างวันที่ 13-17 มีนาคม 2565 เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีปัญหาอุปสรรคใด ๆ ตลอดของการจัดงาน ซึ่งการจัดงานบุญเดือน 4 นมัสการหลวงพ่อพระเจ้าองค์ตื้อ ครบรอบ 460 ปี ในปีนี้จัดภายใต้มาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งทางวัดได้งดจัดงานมหรสพ รวมทั้งงดเครื่องเล่นและร้านค้าภายในงานฯอีกด้วย  แต่ยังเปิดให้พุทธศาสนิชนเข้าทำบุญปิดทององค์หลวงพ่อพระเจ้าองค์ตื้อได้ตามปกติ แต่จะต้องเว้นระยะห่างอย่างน้อย 1 เมตร รวมทั้งจำกัดจำนวนคนเข้าไปปิดทองหลวงพ่อพระเจ้าองค์ตื้อภายในวิหาร โดยได้จัดองค์หลวงพ่อพระเจ้าองค์ตื้อจำลองไว้รอบนอกเพื่อให้ประชาชนได้ปิดทอง  เพื่อลดความแออัดของผู้มีความศรัทธา รวมทั้งกิจกรรมอื่น ๆ เช่น ตักบาตร 108, ถวายสังฆทาน และสะเดาะเคราะห์ ยังมีตามปกติ

สำหรับวัดศรีชมพภูองค์ตื้อ เป็นวัดสำคัญและเก่าแก่ของจังหวัดหนองคาย สิ่งสำคัญที่สุดในวัดนี้ก็คือ"หลวงพ่อพระเจ้าองค์ตื้อ"เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ประชาชนทั้งสองฝั่งแม่น้ำโขงเคารพนับถือกันมาก เป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่ หล่อด้วยทอง ฝีมือของช่างฝ่ายเหนือและช่างล้านช้าง มีพุทธลักษณะงดงามมาก นั่งขัดสมาธิปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 3.29 เมตร สูง 4 เมตร จากหลักฐานศิลาจารึกกล่าวว่า พระเจ้าองค์ดื้อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2105 โดยพระไชยเชษฐาธิราช กษัตริย์นครเวียงจันทน์ พร้อมด้วยพระโอรส พระธิดา และบริวารช่วยกันหล่อโดยใช้ทองคำ ทองเหลือง และเงินผสมกัน รวมได้ 1 ตื้อ ซึ่งเป็นมาตราโบราณของอีสานจึงได้นามว่า " องค์ดื้อ " (มาตราโบราณภาคอีสานถือว่า 10 ชั่งเป็นหมื่น,  10 หมื่นเป็นแสน, 10 แสนเป็นล้าน, 10 ล้านเป็นโกฎิ, 10 โกฏิเป็นหนึ่งกือ, 10 ถือเป็นหนึ่งตื้อ) ซึ่งทุก ๆ ปีทางวัดจะจัดงานนมัสการหลวงพ่อพระเจ้าองค์ดื้อ เป็นประจำในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 4

พลเรือเอก พงษ์เทพ หนูเทพ องคมนตรี ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์และคณะ เดินทางไปตรวจเยี่ยมโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 14 อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย

วันที่ 11 มี.ค.2565 ที่โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 14  อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย พลเรือเอก พงษ์เทพ หนูเทพ องคมนตรี ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์และคณะ เดินทางไปตรวจเยี่ยมโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 14 เพื่อติดตามผลการดำเนินงานปีการศึกษา 2564   โดยมี นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย กล่าวต้อนรับ มี นายสุพรม ทาเภา รองผู้อำนวยการโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 14 รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 14 กล่าวรายงานและรายผลการดำเนินงาน

นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า จังหวัดหนองคายให้ความสำคัญกับการพัฒนาการศึกษาของเด็กและเยาวชนโดยจัดการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างทั่วถึง ตามหลักสูตรที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนดผสมผสานกับภูมิปัญญาท้องถิ่น พร้อมทั้งมุ่งเน้นให้เด็กมีระเบียบ วินัย มีสุขภาพกายสุขภาพใจที่ดี สามารถอยู่ร่วมกับคนในสังคมได้อย่างมีความสุข มีความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ และด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019  หรือโควิด 19 จังหวัดหนองคายโดยคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหนองคาย ได้ร่วมกับส่วนราชการสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ และโรงเรียน กำหนดจัดการเรียนการสอนให้มีความเหมาะสมกับสถานการณ์ เพื่อให้เด็กนักเรียนได้มีความรู้ตามมาตรฐานหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ การเดินทางมาตรวจเยี่ยมโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 14 ครั้งนี้ จะเป็นขวัญกำลังใจให้กับครู และบุคลากรทางการศึกษาของโรงเรียนในการให้ความรู้ และการเป็นแม่พิมพ์ที่มีคุณภาพของนักเรียน ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศในอนาคต

โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 14 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองคาย เขต 1 เปิดทำการสอน 4 ระดับ ระดับอนุบาล 4 ปีบริบูรณ์ จำนวน 59 คน , ระดับประถมศึกษาปีที่ 1-6 จำนวน 510 คน ,ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ม.1-3 จำนวน 320 คน และระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ม.4-6 จำนวน 112 คน นักเรียนรวมทั้งสิ้น 1,001 คน

ในปีการศึกษา 2565 การบริหารการจัดการเรียนการสอน ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ( Covid -19 ) โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 14 ปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดการเรียนการสอน ตามสถานการณ์ ในแบบของ onsite on hand online ตามความเหมาะสมและ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 14 ได้ปฏิบัติตามมาตรการการป้อกงกันอย่างเคร่งครัด โดยให้ข้าราชการครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียนได้รับวัคซีนเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด มีข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ได้รับวัคซีน 3 เข็ม คิดเป็นร้อยละ 100 มีนักเรียน อายุ 5-11 ปี ได้รับวัคซีน 1 เข็ม จำนวน 285 คน อายุ 12-18 ปี ได้รับวัคซีน 2 เข็ม จำนวน 487 คน รวม 772 คน คิดเป็นร้อยละ 77