ผู้ว่าฯหนองคาย พาเยี่ยมชมแปลงศึกษาและทดสอบปลูกอะโวคาโด ภายใต้กิจกรรม "อะโวคาโด @หนองคาย ผลไม้สุขภาพ ปลูกง่าย สร้างรายได้ดี" ณ ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพจังหวัดหนองคาย

วันที่ 20 ก.ย. 2565 ที่ ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพจังหวัดหนองคาย หมู่ที่ 2 ต.พระธาตุบังพวน อ.เมือง จ.หนองคาย นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานเปิดโครงการ "ผู้ว่าพาไปยาม" ซึ่งหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยคณะทำงานประชาสัมพันธ์การเกษตรและสหกรณ์จังหวัดหนองคาย จัดให้มีขึ้นจำนวน 11 ครั้ง โดยครั้งนี้เป็นครั้งที่ 11 ของรอบสุดท้ายในปีงบประมาณ 2565 เป็นการดำเนินโครงการฯภายใต้กิจกรรม "อะโวคาโด @หนองคาย ผลไม้สุขภาพ ปลูกง่าย สร้างรายได้ดี" โดยมี นายอำไพ ประเสริฐสังข์ เกษตรกรและสหกรณ์จังหวัดหนองคาย เป็นผู้กล่าวรายงานของการจัดโครงการฯ , นางฉวีวรรณ อินทรายศ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพจังหวัดหนองคาย เป็นผู้กล่าวรายงานผลการดำเนินงานฯ และมีผู้เข้าร่วมโครงการฯประกอบด้วย นายประทีป อุ่ยเจริญ นายอำเภอเมืองหนองคาย , หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ , หัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัด/ระดับอำเภอ , หน่วยงานในภาคีเครือข่าย , ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น , ผู้นำท้องที่/ท้องถิ่น , รัฐวิสาหกิจ , เกษตรกร ,เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องและสื่อมวลชน

หลังจากพิธิเปิด ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคายได้เยี่ยมชมนิทรรศการด้านการเกษตร เยี่ยมชมสวนแปลงศึกษาและทดสอบปลูกอะโวคาโด รวมทั้งพาผู้ร่วมโครงการฯนั่งรถไถพ่วง เยี่ยมชมภายในศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพฯ ซึ่งมีพื้นที่แปลงเรียนรู้ รวม 355 ไร่ ประกอบด้วย จุดเรียนรู้ด้านไม้ดอก-ไม้ประดับ , พืชไร่ , พืชผักสมุนไพร , แปลงเศรษฐกิจ, ไม้ผล-ไม้ยืนต้น และจุดเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ประมาณ 85 ไร่ และแปลงฝึกกรีดยางพารา จำนวน 270 ไร่

ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพจังหวัดหนองคาย ได้ทดสอบการปลูก "อะโวคาโด" เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2561 นับอายุได้ 3 ปี 10 เดือน โดยเริ่มปลูกจำนวน 3 สายพันธุ์ ซึ่งให้ผลผลิตแล้ว ได้แก่ พันธุ์พิ้งเคอร์ตัน (Pinkerton), พันธุ์บัคคาเนีย (Buccaneer) และพันธุ์ปีเตอร์สัน (Peterson) เนื่องจากแนวโน้มในอนาคต มีความต้องการบริโภคอะโวคาโด ทั้งในประเทศและต่างประเทศมีเพิ่มมากขึ้น ทั้งรูปแบบการบริโภคผลสด และผลิตภัณฑ์แปรรูปแบบต่าง ๆ รวมถึงอะโวคาโดเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง อาทิ มีสารลูทีนและซีแซนทีน ที่มีส่วนลดความเสี่ยงของการเกิดโรคทางสายตา ลดความดันโลหิตสูง ลดไขมันไม่ดีในหลอดเลือด มีสารต้านอนุมูลอิสระเป็นต้น และราคาจำหน่ายอะโวคาโดในท้องตลาดอยู่ที่ 80 - 110 บาท/กิโลกรัม แต่ยังไม่มีการส่งเสริมการปลูกในเขตพื้นที่จังหวัดหนองคาย

ส่วนพันธุ์ที่นำมาทดลองปลูกเพิ่มเติมภายหลังมี 7 สายพันธ์ ซึ่งในปัจจุบันมีเกษตรกรเข้ามาศึกษาดูงานและรับการสนับสนุนกิ่งพันธุ์ รวมทั้งข้อมูลวิชาการอย่างต่อเนื่อง และในอนาคตทางศูนย์ฯ มีเป้าหมายในการส่งเสริมพันธุ์อะโวคาโดที่หมาะสมสำหรับการปลูกในเขตภาคอีสานตอนบน ไปยังพื้นที่รับผิดชอบ 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดหนองคาย, บึงกาฬ, นครพนม และจังหวัดสกลนคร เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการพัฒนาอาชีพและสร้างรายได้ให้กับพี่น้องเกษตรกรต่อไป

จ.หนองคาย เปิดงานพุทธศิลป์ หลวงพ่อพระใสนาคปรก รุ่น “พรนาคาธิบดี บารมีพระใส 2566” มี 3 ประเภท ทั้งพระพุทธรูปจำลองหลวงพ่อพระใส 18 นิ้ว- พระพุทธรูปจำลองหลวงพ่อพระใสนาคปรก 9 นิ้ว -นาคปรก 3 สี 7 นิ้ว - เหรียญนาคปรก 3 สี และเหรียญ “พรนาคาธิบดี บารมีพระใส 2566” มีจำนวนจำกัด

วันที่ 19 ก.ย. 2565 ที่ พระอุโบสถวัดโพธิ์ชัย พระอารามหลวง อ.เมือง จ.หนองคาย ได้มีพิธีเปิดงานพุทธศิลป์ หลวงพ่อพระใสนาคปรก รุ่น “พรนาคาธิบดี บารมีพระใส 2566” โดยมี พระราชรัตนาลงกรณ์ เจ้าคณะจังหวัดหนองคาย / เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ชัย พระอารามหลวง เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ , นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานฝ่ายฆราวาส กล่าวแสดงความยินดีและกล่าวเปิดงานฯ , นายแพทย์ชวมัย สืบนุการณ์ ผอ.โรงพยาบาลหนองคาย และแพทย์หญิงฤดีมน สกุลคู ผอ.โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ กล่าวแสดงความรู้สึก

นายศัตภัทร สหัชพงษ์ (นัจ) ผู้จัดการร้านแดงแหนมเนือง ผู้อุปถัมภ์การจัดสร้าง กล่าวถึงโครงการจัดการสร้างหลวงพ่อพระใส รุ่น “พรนาคาธิบดี บารมีพระใส 2566” กล่าวว่า โครงการจัดการสร้างหลวงพ่อพระใส รุ่น “พรนาคาธิบดี บารมีพระใส 2566” ที่มีขึ้นในครั้งนี้ว่า เพื่อเป็นการสืบทอดสัญลักษณ์ของพระพุทธศาสนา และเพื่อจัดสร้างชั้น สงฆ์อาพาธ พร้อมจัดหาเครื่องมืออุปกรณ์การแพทย์ ให้โรงพยาบาลหนองคายและโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ อีกทั้งเพื่อการบูรณปฏิสังขรณ์ถาวรวัตถุในวัดโพธิ์ชัย พระอารามหลวง รวมไปถึงสาธารณประโยชน์อื่น ๆ ในจังหวัดหนองคาย

สำหรับการจัดสร้างหลวงพ่อพระใสจำลอง รุ่น “พรนาคาธิบดี บารมีพระใส 2566” ได้ดำเนินการจัดสร้างพระพุทธรูปจำลอง ทั้งหมด 3 ประเภท ประกอบด้วย พระพุทธรูปจำลองหลวงพ่อพระใส พิมพ์ “ หลวงพ่อพระใส 2566 ” หน้าตัก 18 นิ้ว เนื้อโลหะบรอนซ์ออสเตรเลีย , พระพุทธรูปจำลองหลวงพ่อพระใสนาคปรก พิมพ์ “พรนาคาธิบดี บารมีพระใส 2566” หน้าตักขนาดหน้าตัก 9 นิ้ว เนื้อโลหะบอนซ์ออสเตรเลีย นาคปรก 3 สี (สีเขียว สีทอง สีเงิน) และขนาดหน้าตัก 7 นิ้ว เนื้อโลหะบอนซ์ออสเตรเลีย นาคปรก 3 สี (สีเขียว สีทอง สีเงิน), และเหรียญ “พรนาคาธิบดี บารมีพระใส 2566” จำนวน 17 แบบ ซึ่งเป็นการจัดสร้างจำนวนจำกัด ผู้ที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่เพจ “พรนาคาธิบดี บารมีพระใส 2566”

"เพื่อไทย" พ่ายยับศึกเลือกตั้งซ่อมท้องถิ่น "สอบ.จ.หนองคาย" เขต 2 อ.ศรีเชียงใหม่ นอกจากไม่แลนด์สไลด์ ยังถูกกลุ่มรักหนองคายแลนด์สไลด์เสียเอง

ผลการตั้งซ่อมสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองคาย (สอบ.จ.หนองคาย) เมื่อวันที่ 18 ก.ย.65 ที่ผ่านมา ซึ่งผลคะแนนการเลือกตั้งซ่อมอย่างไม่เป็นทางการในครั้งนี้ นายกิตติโชติ พัดพรม ผู้สมัครหมายเลข 2 กลุ่มรักหนองคาย คว้าชัยด้วยคะแนนเสียง 3,723 คะแนน เหนือคู่แข่ง อย่างนายกฤฎา เข็มรัตน์ ผู้สมัคร หมายเลข 3 พรรคเพื่อไทย ที่ได้คะแนนเสียง 1,444 คะแนน และนายสังวาร พรมมา ผู้สมัครอิสระ หมายเลข 1 ที่ได้คะแนนเสียง 1,221 คะแนน

ดังนั้น เมื่อพิจารณาจากผลของคะแนนที่เห็นแล้ว ก็ต้องถือว่า "กลุ่มรักหนองคาย" ที่นำโดยนายยุทธนา ศรีตะบุตร นายก อบจ.หนองคาย ถือว่าเป็นกลุ่มการเมืองท้องถิ่นที่ประชาชนเชื่อมั่นในการบริหารจังหวัดหนองคายมาย่างยาวนาน เพราะเมื่อเปรียบเทียบผลคะแนนกับการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ นายกฤษฎา เข็มรัตน์ ผู้สมัครหมายเลข 3 พรรคเพื่อไทย ที่ได้คะแนนเสียง 1,444 คะแนน ต้องพ่ายยับต่อนายกิตติโชติ พัดพรม ผู้สมัครหมายเลข 2 กลุ่มรักหนองคาย ที่ได้คะแนนเสียง 3,723 คะแนน โดยผลต่างคะแนนเสียงห่างกันถึง 2,279 คะแนน บ่งบอกได้ว่า"พรรคเพื่อไทย" นอกจากจะไม่ "แลนด์สไลค์"ที่หนองคายแล้ว ยังถูก"กลุ่มรักหนองคาย" แลนด์สไลด์เสียเอง แน่นอนว่าผลการเลือกตั้งซ่อม สอบ.จ.หนองคาย เขต 2 อ.ศรีเชียงใหม่ ครั้งนี้ "กลุ่มรักหนองคาย" ยังคงได้รับความนิยมมากกว่า 

เปิดศูนย์การเรียนรู้พัฒนาสตรีและครอบครัว พื้นที่ตลาดสดชุมชนน้ำโมง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ให้เป็นศูนย์ประสานงานระดับพื้นที่การเรียนรู้การพัฒนาสตรีและสถาบันครอบครัว การเข้าถึงสิทธิของสตรีการพัฒนาสตรีและครอบครัว กิจกรรมส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ และเป็นศูนย์เครือข่ายการรณรงค์ความเท่าเทียมระหว่างเพศชุมชน

 

เมื่อวันที่ 16 ก.ย. 2565 เวลา 15.00 น. ที่ ตลาดสดชุมชนน้ำโมง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นายโสภณ แก้วล้อมทรัพย์ ผู้อำนวยการศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวรัตนาภาจังหวัดขอนแก่น ร่วมกับนายธีรพงา หมื่นภักดี นักพัฒนาสังคมชำนาญการ สนง.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดหนองคาย พร้อมด้วยนายจักรี อุทัยสา นักพัฒนาสังคมชำนาญการ ศูนย์เรียนรู้ฯรัตนาภา จ.ขอนแก่น, น.ส.นวลจันทร์ ภาคเจริญ นักพัฒนาสังคม ปฏิบัติการหัวหน้ากลุ่มงานพัฒนาสังคมและสวัสดิการ สนง.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดหนองคาย, เจ้าหน้าที่กลุ่มแผนงานและวิชาการ ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวรัตนาภาฯ, เจ้าหน้าที่กลุ่มงานพัฒนาสังคมและสวัสดิการ, นางพวง โคตรชมภู สมาชิกสภาเทศบาลเมืองท่าบ่อ เขต 1 และผู้นำชุมชนเมืองท่าบ่อ ร่วมเปิด "ศูนย์การเรียนรู้พัฒนาสตรีและครอบครัว" (ด้านความเท่าเทียมระหว่างเพศ) เพื่อเรียนรู้เรื่องการวิเคราะห์พัฒนาศักยภาพความเท่าเทียมระหว่างเพศในครอบครัว กิจกรรมการสร้างเครือข่ายการรณรงค์ความเท่าเทียมระหว่างเพศ ในพื้นที่อำเภอท่าบ่อ และจังหวัดหนองคาย 

โดยให้กลุ่มเป้าหมายร่วมคิดกิจกรรมรณรงค์สร้างความเท่าเทียมระหว่างเพศ  หลังจากผ่านการเข้าร่วมโครงการฯ โดยใช้สื่อหรือกิจกรรมในชุมชน จะยกระดับจากศูนย์การเรียนรู้สวัสดิการชุมชนฯ เป็นศูนย์แห่งการเรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวด้านความเท่าเทียมระหว่างเพศ ในพื้นที่ภายในอาคารตลาดสดชุมชนน้ำโมง ให้เป็นศูนย์ประสานงานระดับพื้นที่การเรียนรู้การพัฒนาสตรีและสถาบันครอบครัว การเข้าถึงสิทธิของสตรีการพัฒนาสตรีและครอบครัว กิจกรรมส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ และเป็นศูนย์เครือข่ายการรณรงค์ความเท่าเทียมระหว่างเพศชุมชน

ตามแผนการจัดสวัสดิการสังคม การพัฒนาสตรีและครอบครัว ของตลาดสดชุมชนน้ำโมง (กลุ่มกิจการเพื่อสังคม) และองค์กรสวัสดิการประชาชนชุมชนเมืองท่าบ่อ-น้ำโมง (องค์กรสวัสดิการชุมชน) โครงการยกระดับ ศูนย์การเรียนรู้สวัสดิการชุมชนฯ เป็นศูนย์แห่งการเรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัว โดย ตลาดสดชุมชนน้ำโมง ผ่านการใช้พื้นที่ตลาดสดชุมชนน้ำโมง และทำให้สมาชิก แม่ค้า พ่อค้า ผู้ช่วยขาย องค์กรสวัสดิการประชาชนชุมชนเมืองท่าบ่อ-น้ำโมง (องค์กรสวัสดิการชุมชน) ประชาชน ผู้นำในพื้นที่ สามารถรับองค์ความรู้ ได้อย่างทันสมัย มีประสิทธิผลอย่างชัดเจนขึ้น

ทั้งนี้ศูนย์การเรียนรู้พัฒนาสตรีและครอบครัว เป็นจุดสื่อประชาสัมพันธ์ในตลาดสดชุมชนน้ำโมง ขององค์กรสวัสดิการประชาชนชุมชนเมืองท่าบ่อ-น้ำโมง (องค์กรสวัสดิการชุมชน) ที่ต่อยอดมาจากโครงการ "สร้างความตระหนักรู้ด้านการส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศในชุมชนเมืองท่าบ่อ-น้ำโมง" ซึ่งจัดให้มีขึ้นระหว่างวันที่ 15-16 กันยายน 2565 โดยได้รับการสนับสนุนจาก กองทุนส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์