เหล่ากาชาดจังหวัดหนองคาย เปิดรับบริจาคโลหิต ตามโครงการ “จิตอาสา ร่วมทำความดี บริจาคโลหิต ดวงตา และอวัยวะ” เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

วันที่ 2 ธ.ค. 2565 ที่  สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดหนองคาย  เหล่ากาชาดจังหวัดหนองคาย ได้เปิดรับบริจาคโลหิต ตามโครงการ “จิตอาสา ร่วมทำความดี บริจาคโลหิต ดวงตา และอวัยวะ” เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรประจำปีงบประมาณ 2566    โดยมีนางสาวสิริมา วัฒโน รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย , นางทัศนาวัลย์  วิริยานภาภรณ์ รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดหนองคาย พร้อมคณะกรรมการ สมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดหนองคาย  ให้การต้อนรับและตรวจเยี่ยมให้กำลังผู้ที่มาร่วมบริจาค

สำหรับกิจกรรมครั้งนี้ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร  และ เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ 5 ธันวาคมของทุกปี วันชาติและวันพ่อแห่งชาติ อีกทั้งเพื่อแสดงความจงรักภักดีน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่องานบริการ โลหิต ดวงตา และอวัยวะ 

อำเภอเฝ้าไร่ จ.หนองคาย จัดงานสืบสวนประเพณีบุญคูณลาน เล่าขาน ตำนานข้าว ระหว่างวันที่ 1–7 ธ.ค. 2565 เพื่อสืบสานอนุรักษ์ประเพณีและภูมิปัญญาท้องถิ่น และเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว เพิ่มช่องทางการ จำหน่ายสินค้า และผลิตภัณฑ์พืชผลทางการเกษตร

 เมื่อช่วงเย็นวันที่ 1 ธ.ค. 2565 ที่บริเวณสนามหน้าที่ว่าการอำเภอเฝ้าไร่ จังหวัดหนองคาย ได้จัดงานสืบสวนประเพณีบุญคูณลาน เล่าขาน ตำนานข้าว อำเภอเฝ้าไร่ ประจำปี 2565  โดยมีนายณัฐวัสส์ วิริยานภาภรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานในพิธีเปิดงาน  ภายในงานได้มีพิธีรำบูชาพระแม่โพสพ และการแข่งขันตีข้าว ตำข้าว และฝัดข้าว 

 

ว่าที่ร้อยตรีพงษ์สิทธิ์ เปรยะโพธิเดชะ นายอำเภอเฝ้าไร่ กล่าวว่า อำเภอเฝ้าไร่พร้อมด้วยส่วนราชการ สถานศึกษา รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ภาคเอกชน ตลอดจน พ่อค้าและประชาชนชาวอำเภอเฝ้าไร่ ได้ร่วมกันจัดงานสืบสานประเพณีบุญคูณลาน เล่าขาน ตำนานข้าว อำเภอเฝ้าไร่ ประจำปี 2565 ในครั้งนี้ขึ้น   ประกอบด้วย การจัดสร้าง เจดีย์รวงข้าว ที่ถือเป็นไฮไลท์ มีความสูงกว่า 30 เมตร ที่ประดับตกแต่งด้วยมัดข้าวนับแสนมัด รวงข้าวนับล้านรวง  เพื่อให้ผู้มาร่วมงานได้ไหว้สักการะ , มีพิธีสู่ขวัญข้าวมงคล , การจัดนิทรรศการเศรษฐกิจพอเพียง , การจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าของดีอำเภอเฝ้าไร่ , การจัดแสดงสินค้า OTOP และผลิตภัณฑ์พืชผลทางการเกษตร 

สำหรับการจัดงานครั้งนี้ เพื่อสืบสานอนุรักษ์ประเพณีและภูมิปัญญาท้องถิ่น เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว เพิ่มช่องทางการ จำหน่ายสินค้า OTOP ผลิตภัณฑ์พืชผลทางการเกษตร และเพื่อให้เยาวชนคนรุ่นหลังได้เรียนรู้ประเพณีที่สำคัญของพื้นถิ่น ซึ่งงานจัดให้มีขึ้น ระหว่างวันที่ 1 – 7 ธันวาคม 2565 ณ สนามที่ว่าการอำเภอเฝ้าไร่ จังหวัดหนองคาย

"หาดท่ามะเฟือง" ความงามที่กำลังถูกพัฒนาให้สวยงามมากขึ้น เพิ่มคุณภาพชีวิต เพิ่มรายได้ให้กับชุมชนกับหาดทรายแคมป์ปิ้ง พร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์ คาดกลางเดือน ธ.ค.นี้ พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว

 

วันที่ 2 ธ.ค. 2565 นายอภิสิทธิ์ วงศรีแก้ว นายกองค์การบริหารส่วนตำบทลโพนสา เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า หาดท่ามะเฟือง เป็นหาดทรายกลางแม่น้ำโขง ระหว่างชายฝั่งบ้านท่ามะเฟือง กับเกาะดอนต่ำ-ดอนแตงของไทย ในพื้นที่ หมู่ 5 ต.โพนสา อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ในช่วงนี้ทาง อบต โพนสา กำลังพัฒนาเป็นหาดทรายท่องเที่ยวที่มีความสวยงาม เป็นหาดหรายแคมป์ปิ้ง จุดกางเต็นท์ไว้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชนและนักท่องเที่ยว ในบรรยากาศน้ำใสหาดสวย ชมทัศนียภาพของแม่น้ำโขงได้อย่างสวยงาม และสัมผัสวิถีชาวบ้าน

โดยขณะนี้ หาดท่ามะเฟืองแคมป์ปิ้ง กำลังเตรียมปลูกดอกทานตะวัน ปอเทือง ปรับภูมิทัศน์ในส่วนต่างๆ ซึ่งคาดว่ากลางเดือนธันวาคมนี้ พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวมาแคมป์ปิ้งเล่นน้ำ และจะจัดงานเปิดอย่างเป็นทางการ โดยจะมีกิจกรรม เช่น ดนตรี การแสดง มวย แข่งเรือ มีบริการล่องเรือพาเที่ยวชมทัศนียภาพรอบเกาะดอนต่ำ-ดอนแตง  เป็นต้น เพื่อสร้างรายได้ให้กับชุมชน อีกทั้งยังยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาขนชาวตำบลโพนสา ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการท่องเที่ยวอีกด้วย

รถบรรทุกดิน ยังคงวิ่งฝ่าบ้านน้ำโมง 100 รอบ/วัน ทำฝุ่นตลบ ทั้งยังขับเร็วโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย ฝากถามหาหน่วยงานรับผิดชอบหายหัวไปไหน ทั้งท้องถิ่น ส่วนราชการ จังหวัด หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไร้การตรวจสอบ

จากกรณีชาวบ้านหมู่บ้านน้ำโมง หมู่ 1 และหมู่ 2 ต.น้ำโมง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ร้องเรียนผู้สื่อข่าว เมื่อวันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมา ว่า ในหมู่บ้านได้มีผู้ประกอบการรถบรรทุก 6 ล้อบรรทุกดินเข้ามาใช้เส้นทางมาจากบ้านสามขา หมู่ 6 ต.กองนาง ข้ามสะพานลำห้วยโมง ผ่านบ้านน้ำโมง หมู่ 2 และหมู่ 1 ต.น้ำโมง วิ่งผ่านแยกหน้าวัดศรีชมภูองค์ตื้อ แล้วข้ามสะพานลำห้วยโมง ไปบ้านห้วยมาง หมู่ 12 ต.กองนาง อ.ท่าบ่อ เป็นจำนวน 100 รอบต่อวัน จนทำให้ชาวบ้านในพื้นที่กว่า 50 ครัวเรือน ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก จากฝุ่นละออง และยังใช้ความเร็วสูงเวลาตีรถเปล่ากลับไปบรรทุกดินยังต้นทางพื้นที่ตำบลกองนาง ทั้งที่เป็นเส้นทางคับแคบ จนหวั่นเกรงว่าจะเกิดอันตราย

ล่าสุดวันนี้ 1 ธ.ค. 2565 ผู้ข่าวได้รับร้องเรียนจากชาวบ้านอีกว่า ในหมู่บ้านยังมีผู้ประกอบการรถบรรทุก 6 ล้อบรรทุกดิน วิ่งเข้ามาใช้เส้นทางฝ่าหมู่บ้าน 100 รอบต่อวันอย่างต่อเนื่อง โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก รวมทั้งยังคงขับรถเร็ว ฝ่าเขตชุมชน ที่เสี่ยงต่อการเกิดอันตรายให้กับชาวบ้านในพื้นที่ อีกทั้งในการบรรทุกดินนั้นก็ไม่มีการปิดคลุมใดๆ เกรงว่าดินที่เลยขอบกระบะมาจะตกหล่นลงถนน อยากฝากถามว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหายหัวไปไหน ช่วยมาตรวจสอบด้วย ซึ่งถ้าหากเป็นแบบนี้อยู่โดยที่ท้องถิ่น ส่วนราชการ จังหวัดหรือหน่วยงานที่รับผิดชอบไม่ทำอะไร หรือทำเป็นมองไม่เห็น ชาวบ้านในเขต ต.กองนาง ต.น้ำโมง จะอยู่กันอย่างไร