จังหวัดหนองคาย ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ 300,910 ตัว เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2565

วันที่ 21 ก.ค. 2565 ที่บริเวนริมฝั่งบึงกำแพง บ้านโนนสง่า หมู่ที่ 8 ต.พานพร้าว อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์  ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานในพิธีปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว  28 กรกฎาคม 2565 พร้อมกันนี้ยังได้มอบพันธุ์สัตว์น้ำและพันธุ์กล้าไม้ให้แก่ผู้นำหมู่บ้าน โดยสำนักงานประมงจังหวัดหนองคาย ร่วมกับศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดหนองคาย , อำเภอศรีเชียงใหม่ และองค์การบริหารส่วนตำบลพานพร้าว ร่วมจัดกิจกรรมขึ้น

ด้วยวันที่ 28 กรกฎาคม เป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระวชิระเกล้าเจ้าอยู่หัว กรมประมงจึงได้จัดพิธีปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไป มีส่วนร่วมในการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ ตลอดจนมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำ ให้สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างยั่งยืน และเป็นการเพิ่มผลผลิตพันธุ์สัตว์น้ำในแหล่งน้ำธรรมซาติ

สำหรับพันธุ์สัตว์น้ำที่ปล่อยในวันนี้ ได้รับการสนับสนุนจากศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดหนองคาย ประกอบด้วย ปลานิล , ปลาไน , ปลาตะเพียนขาว และปลายี่สกไทย จำนวนทั้งสิ้น 300,910 ตัว ปล่อยลงในแหล่งน้ำธรรมชาติบึงกำแพง มีพื้นที่ประมาณ 308 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่บ้านพานพร้าวหมู่ที่ 10 , บ้านหัวทรายหมู่ที่ 11 , บ้านโนนสง่าหมู่ที่ 7 หมู่ที่ 8 และหมู่ที่ 15 เป็นแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร ใช้กักเก็บน้ำในช่วงฤดูแล้ง เป็นที่อยู่อาศัยของปลา และสิ่งมีชีวิตต่างๆ เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และเป็นสถานที่ออกกำลังกายของประชาชน

เกษตรกรชาวอำเภอศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ตัดสินใจตัดต้นยางพาราทิ้ง หันมาปลูก"อินทผลัม" บนเนื้อที่ 40 ไร่ มีรสชาติ "หวาน กรอบ อร่อย ปลอดภัยจากสารเคมี” ลูกค้าแห่เข้าจองถึงสวน พร้อมเตรียมปรับพื้นที่เป็นสถานที่ให้ นทท.เข้าเที่ยวชมในรูปแบบแคมป์ปิ้ง

ที่ "ไร่อินทผลัมภูมาลี" บ้านยางคำ หมู่ที่ 6 ต.บ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ได้ปลูก "อินทผลัม" จำนวน 800 ต้น บนเนื้อที่ 40 ไร่ ที่กำลังออกผลผลิตจำนวนมาก โดยปีนี้ให้ผลผลิตเป็นที่น่าพอใจ และ"อินทผลัม"เป็นหนึ่งในผลไม้ทางเลือกที่กำลังได้รับความนิยมสูงในกลุ่มผู้รักสุขภาพ

น.ส.เพ็ญประภา เลิศนามล อายุ 30 ปี กล่าวว่า "ไร่อินทผลัมภูมาลี" เป็นของคุณป้ายุวรัตน์ ชุมพลภักดี อายุ 58 ปี คุณป้าได้มอบให้ตนดูแล เนื่องจากคุณป้าทำงานอยู่ที่สหรัฐอเมริกา เดิมทีพื้นที่ตรงนี้คุณป้าได้ปลูกยางพารา พอต้นยางพารามีอายุครบ 6 ปีเต็ม ได้ทำการกรีดยางพาราในครั้งแรก แต่น้ำยางพาราออกมาน้อย คุณป้าจึงตัดสินใจตัดต้นยางพาราทิ้ง แล้วหันมาทดลองปลูกอินทผลัม โดยซื้อต้นกล้าฯในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น มาทดลองปลูก จำนวน 600 ต้น แต่เนื่องจากผลผลิตไม่ดีและกลายพันธุ์รสชาติไม่ดี มีรสฝาด  คุณป้าได้ตัดสินใจสั่งซื้อต้นพันธุ์อินทผลัมที่เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อโดยตรงมาปลูก ได้แก่ สายพันธุ์บาร์ฮี สายพันธุ์อัมเอ็ดดาฮาน จำนวน  800 ต้นๆ ละ 2,500 บาท ซึ่งนับตั้งแต่ปลูกมาจนถึงปัจจุบันก็ประมาณ 6-7 ปีได้ ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง 

น.ส.เพ็ญประภา กล่าวอีกว่า "ไร่อินทผาลัมภูมาลี” แห่งนี้ ได้รับความสนใจจากเกษตรกร ประชาชน เข้ามาเยี่ยมชมกิจการเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในการปลูกอินทผลัม เนื่องจากสวนแห่งนี้เป็นสวนแรกในพื้นที่อำเภอศรีเชียงใหม่ ที่ใช้ต้นพันธุ์จากเนื้อเยื่อโดยตรง การให้น้ำจะใช้ระบบสปริงเกอร์เพื่อให้กระจายให้ทั่ว  และเป็นสวนอินทผลัมปลอดสารเคมี ก่อนเก็บเกี่ยวผลผลิตระยะเวลา 3 เดือนจะไม่มีการใช้สารเคมีอย่างเด็ดขาด อินทผลัมที่สวนจึงสามารถเด็ดจากต้นกินได้เลย จนมีลูกค้าเข้ามาจองถึงสวนกันจำนวนมาก ซึ่งเอกลักษณ์ของอินทผลัมที่นี่คือ “หวาน กรอบ อร่อย ปลอดภัยจากสารเคมี” โดยอินทผลัมจะทยอยสุกและเริ่มตัดขายได้ตั้งแต่กลางเดือน ก.ค.-ส.ค. คาดว่าในช่วงนี้จะสร้างรายได้ไม่น้อยกว่า 1 แสนบาท ราคาขายหน้าสวนอยู่ที่ 350 บาทต่อกิโลกรัม ตลาดหลักคือเปิดขายหน้าสวน แต่ท่าพ่อค้าแม่ค้าจะนำไปขายต่อ ทางสวนก็จะลดราคาให้ เพื่อให้มีกำไรในการค้าขาย 

อีกทั้งคุณป้ายุวรัตน์ มีความตั้งใจจะให้ "ไร่อินทผาลัมภูมาลี” แห่งนี้ เป็นแหล่งท่องเที่ยวของอำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย ช่วงนี้กำลังปรับปรุงพื้นที่ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวในบรรยากาศแบบแคมป์ปิ้ง กางเต๊นท์นอนค้างแรม ซึ่งใน "ไร่อินทผาลัมภูมาลี" จะมีร้านกาแฟ ร้านอาหารไว้คอยบริการ รวมทั้งห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ อำนวยความสะดวกครบครัน สนใจสอบถามได้ที่เบอร์  089-2305929

ผู้ตรวจราชการกรมการพัฒนาชุมชน เขตตรวจราชการที่ 10 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน พร้อมคณะกรรมการฯ ลงพื้นที่จังหวัดหนองคาย ตรวจคัดเลือกคนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีดีเด่น ระดับเขตตรวจราชการ ประจำปี 2565

วันที่ 20 ก.ค. 2565 ที่ องค์การบริหารส่วนตำบลพระพุทธบาท อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย นายคมกริช ชินชนะ ผู้ตรวจราชการกรมการพัฒนาชุมชน เขตตรวจราชการที่ 10 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน (อุดรธานี หนองคาย หนองบัวลำภู เลย และบึงกาฬ) เป็นประธานคัดเลือกคนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีดีเด่น ระดับเขตตรวจราชการ กรมการพัฒนาชุมชน ตามโครงการเชิดชูเกียรติคนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ประจำปี 2565 พร้อมคณะกรรมการคัดเลือกฯ ดำเนินการตรวจประเมินคณะทำงานขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีตำบลพระพุทธบาท อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย โดยมี ว่าที่ร้อยตรีนครชัย แสงมณี นายอำเภอศรีเชียงใหม่ กล่าวต้อนรับ มีนายจักรวรรดิ วิทาโน พัฒนาการอำเภอศรีเชียงใหม่ ,  พ.จ.อ.พิเชษฐ์ ไพรพยอม นายกองค์การบริหารส่วนตำบลพระพุทธบาท พร้อมด้วยกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่พัฒนาการอำเภอ และประชาชนในพื้นที่ร่วมกิจกรรม

โดยมีนางสาวนฤมล ชาวผาตั้ง ประธานคณะทำงานขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบบทบาทสตรีตำบลพระพุทธบาท และคณะทำงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี เข้าร่วมนำเสนอผลงาน คนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี 3 ประเภท ได้แก่ 1. ประเภทสำนักงานเลขานุการคณะอนุกรรมการกลั่นกรองและติดตามการดำเนินงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีอำเภอดีเด่น , 2. ประเภทคณะทำงานขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีตำบลดีเด่น และ 3. ประเภทกลุ่มอาชีพสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีดีเด่น ซึ่งคณะทำงานขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีตำบลพระพุทธบาท ได้รับรางวัลขนะเลิศ ระดับจังหวัด โดยมีผลงานที่โดดเด่นเป็นที่ประจักษ์ทั้งตำบลพระพุทธบาท และตำบลอื่นๆ อีกทั้งได้เสียสละเวลาส่วนตัว เพื่อสร้างประโยชน์ให้แก่อำเภอศรีเชียงใหม่ เป็นที่ยอมรับแก่คนทั่วไป

สำหรับในการคัดเลือกฯครั้งนี้ เพื่อเชิดชูคนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีดีเด่น เพื่อส่งเสริม สนับสนุนให้สตรีได้เข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ยกย่องเชิดชูเกียรติ สร้างขวัญกำลังใจแก่คนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีดีเด่นที่มีผลการปฏิบัติงาน มีประสิทธิภาพ สามารถเป็นแบบอย่างได้ และสร้างขวัญ กำลังใจ แก่ผู้ปฏิบัติงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีในพื้นที่ อีกด้วย