วันที่ 7 ม.ค. 64 นายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหนองคาย และในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานะฉุกเฉินจังหวัดหนองคาย ลงนามในประกาศจังหวัด คำสั่งที่ 1/2564 เรื่อง ควบคุมการดำเนินการตามมาตรการควบคุมป้องกันโรคที่สำคัญในสถานบริการ และปิดสถานที่ ซึ่งมีโอกาสเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) ดังนี้
1. ให้ผู้เดินทางเข้ามา หรือกลับภูมิลำเนาจากพื้นที่เสี่ยง (พื้นที่ควบคุมสูงสุด) 28 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร กาญจนบุรี จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชุมพร ชลบุรี ตราด ตาก นครนายก นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี พระนครศรีอยุธยา เพชรบุรี ราชบุรี ระนอง ระยอง ลพบุรี สิงห์บุรี สมุทรปราการ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สุพรรณบุรี สระแก้ว สระบุรี และอ่างทอง ให้กักตัวที่บ้านหรือในที่พักอาศัย (Home Quarantine) เป็นระยะเวลา 14 วัน
2. ให้สถานที่ต่อไปนี้ มีการจัดลำดับการเข้าใช้บริการ การกำหนดพื้นที่ การกำหนดเวลา นัคคิว จองคิ้ว และมีการจัดการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) อย่างเต็มขีดความสามารถ ประกอบด้วย
-ร้านอาหาร ให้มีการจัดแบ่งพื้นที่การให้บริการร้อยละ 25 โดยให้จัดโต๊ะเว้นระยะห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร และจัดให้นั่งไม่ตรงข้ามกัน
-สถานประกอบการเพื่อสุขภาพทั้งภาครัฐและเอกชน ร้านเสริมสวย ร้านตัดผม ร้านนวดแผนไทย/แผนโบราณ/นวดเพื่อสุภาพ ให้ใช้การจองคิวแทนการนั่งรอในร้าน
-สวนสาธารณะ ให้มีการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) อย่างเคร่งครัด โดยเว้นระยะห่างของประชาชน ที่เข้าไปพักและออกกำลังกายในสวนสาธารณะ
3.หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ที่มีการจัดอบรมสัมมนา ให้งดหรือเลื่อนออกไปก่อน
4. ให้ปิดสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคไว้เป็นการชั่วคราว ดังนี้
-ศูนย์พระเครื่อง-พระบูชา, สนามพระเครื่อง-พระบูชา
- สถานที่บริการสัก หรือเจาะผิวหนัง หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกาย
- สนามกีฬาในร่ม โรงยิม ฟิตเนส สนามชกมวย สนามกีฬาที่มีผู้เล่นมีโอกาสการสัมผัสตัวกัน เช่น ฟุตบอล บาสเก็ตบอล วอลเล่ย์บอล เป็นต้น ที่อยู่ในความรับผิดชอบของทั้งภาครัฐและเอกชน
-ร้านเกมส์/ร้านอินเตอร์เน็ต
-โต๊ะสนุกเกอร์ บิลเลียด
-สวนสนุก บ้านบอล บ้านลม เครื่องเล่นเกมส์ทุกประเภท
ข้อกำหนดประกาศคำสั่ง หรือการกระทำที่อาศัยอำนาจตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ตามคำสั่งนี้ไม่อยู่ในบังคับของกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง และกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง ตามมาตรา 16 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 คู่กรณีไม่มีอำนาจใช้สิทธิโต้แย้งคำสั่งนี้ได้
"หากผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้อาจมีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ต้องระหว่างโทษจำคุก ไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจมีความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ต้องระหว่างโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ"
นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ได้ลงนามประกาศคำสั่งที่ 2/2564 เรื่อง ให้งดบริการเป็นการชั่วคราว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 35 (1) แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติตต่อจังหวัดหนองคาย ในคราวประชุมครั้งที่ 2/2564 เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2564 ให้งดบริการเป็นการชั่วคราวในสถานที่บริการประขาชน ตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม ถึงวันที่ 31 มกราคม 2564 ดังนี้
1.การบริการด้านเด็กและเยาวชน
2.การบริการด้านคนพิการ
3.การบริการด้านผู้สูงอายุ
โดยมีรายละเอียดดังนี้