วันจันทร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2564

จ.หนองคาย ประกาศยกเลิกคำสั่งฉบับที่ 6/2563 ฉบับที่ 1/2564 ส่วนผู้เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง 28 จังหวัดยังต้องกักตัวเอง 14 วัน พร้อมผ่อนคลายบางกิจกรรม แต่ต้องมีมาตรการตามกระทรวงสาธารณสุข

วันที่ 25 ม.ค. 64 นายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหนองคาย และในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานะฉุกเฉินจังหวัดหนองคาย ลงนามในประกาศจังหวัด คำสั่งที่ 2/2564 เรื่อง กำหนดมาตรการสำคัญเพื่อควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) ในจังหวัดหนองคาย ดังนี้


1. ให้ยกเลิกคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหนองคาย ที่ 6/2563 ลงวันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2563 และคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหนองคาย ที่ 1/2564 ลงวันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2564


2. ให้ผู้เดินทางเข้ามา หรือกลับภูมิลำเนาจากพื้นที่เสี่ยง (พื้นที่ควบคุมสูงสุด) 28 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร กาญจนบุรี จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชุมพร ชลบุรี ตราด ตาก นครนายก นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี พระนครศรีอยุธยา เพชรบุรี ราชบุรี ระนอง ระยอง ลพบุรี สิงห์บุรี สมุทรปราการ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สุพรรณบุรี สระแก้ว สระบุรี และอ่างทอง ให้กักตัวที่บ้านหรือในที่พักอาศัย (Home Quarantine) เป็นระยะเวลา 14 วัน


3. ให้ปิดสนามชกมวย, สนามชนไก่, สนามช้อมไก่ และสนามกัดปลา


4. สถานที่ต่อไปนี้เปิดให้บริการหรือทำกิจกรรมได้ โดยให้เจ้าของ ผู้จัดการสถานที่ หรือผู้จัดกิจกรรม มีหน้าที่รับผิดชอบการดูแลรักษาความสะอาดของสถานที่ ภาชนะและอุปกรณ์ที่ใช้และจัดให้มีมาตรการป้องกันโรคตามที่ทางราชการกำหนด เช่น มาตรการเว้นระยะหว่างบุคคลอย่างน้อย 1-2 เมตร , การสวมใส่หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยเมื่อออกจากที่พักอาศัยหรือเข้าไปในที่ชุมชน , การล้างมือด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ให้สะอาดอยู่เสมอ , การวัดอุณหภูมิก่อนเข้าไปในสถานที่ และการลงทะเบียนเข้าไปในสถานที่ด้วยแอพลิเคชั่นไทยชนะ ทั้งนี้พนักงานเจ้าหน้าที่สามารถเข้าตรวจและให้คำแนะนำ หรือตักเตือนห้ามปรามได้ตลอดวลา หากพบว่ามีการฝ่าฝืนหรืออาจเป็นอันตรายต่อการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค ให้เสนอผู้มีอำนาจสั่งปิดสถานที่นั้นเฉพาะราย ตามมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ประกอบด้วย

- สถานประกอบการฯบระเภทต่างๆ สถานประกอบการโรงแรม ฯลฯ

- สถานบันเทิง ร้านค้า ร้านอหาร โรงภาพยนตร์ ตลาดนัด หรือตลาดสดต่างๆ และสถานที่ต่างๆ ที่มีการจัดกิจกรรมรวมคน

- สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ร้านเสริมสวย ร้านตัดผม ร้านนวดแผนไทย/ แผนโบราณ/ร้านนวดเพื่อสุภาพ

- สนามกีฬาในร่ม โรงพลศึกษา สนามกีฬา โดยห้ามจัดการแข่งขัน

- ฟิตเนส สนามฝึกซ้อมมวย (โดยไม่มีคู่ชก)

- ศูนย์พระเครื่อง-พระนูชา สนามพระเครื่อง-พระบูชา

- สถานที่บริการสักหรือเจาะผิวหนังหรือส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกาย

- ร้านเกม ร้านอินเตอร์เน็ต

- สวนสนุก บ้านบอล บ้านลม ครื่องเล่นเกมทุกประเภท

- สวนสาธารณะ

- สถานที่ที่จัดกิจกรรมทางศาสนา


5. การปฏิบัติในพื้นที่ชายแดนให้หน่วยงานความมั่นคงในจังหวัดหนองคาย ให้เข้มงวดควบคุมการลักลอบเข้าประเทศ และการเคลื่อนย้ายแรงานต่างด้าว เพิ่มการลาดตระเวนตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเฝ้าระวังและสกัดกั้นป้องกันมิให้มีการสักลอบเดินทางเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย หากพบการลักลอบเข้าประเทศ ให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มข้น


6. การปฏิบัติในพื้นที่จังหวัดหนองคาย ให้ตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย ตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่สาธารณสุข รวมทั้งเจ้าหน้าที่ศุลกากรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ดังนี้

- จัดตั้งจุดคัดกรองบุคคลที่เดินทางเข้าจังหวัดหนองคาย (1) ด่านตรวจหนองสองห้อง ตำบลค่ายบกหวาน อำเภอเมืองหนองคาย (2) ด่านตรวจผาตั้ง ตำบลผาตั้ง อำเภอสังคม (3) ด่านตรวจรัตนวาปี ตำบลรัตนวาปี อำเภอรัตนวาปี จังหวัดหนองคาย โดยให้มีการบูรณาการร่วมระหว่างตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข โดยมีมาตรการคัดกรองให้เป็นไปตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข

- การคัดกรองบุคคลและรถขนส่งสินค้าตามแนวชายแดน กำหนดจุดรับส่งสินค้าให้อยู่ในพื้นที่และระยะเวลากำหนด โดยถือปฏิบัติให้เป็นไปตามมาตรการทางสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

- กรณีมีแรงงานต่างด้าวเดินทางเข้ามาในพื้นที่จังหวัดหนองคาย ให้เจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจหรือตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย ให้ดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หร้อมทั้งแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่และคัดกรองโรคตามมาตรการทางสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

ข้อกำหนดประกาศคำสั่ง หรือการกระทำที่อาศัยอำนาจตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ตามคำสั่งนี้ไม่อยู่ในบังคับของกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง และกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง ตามมาตรา 16 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 คู่กรณีไม่มีอำนาจใช้สิทธิโต้แย้งคำสั่งนี้ได้

"หากผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้อาจมีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ต้องระหว่างโทษจำคุก ไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจมีความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ต้องระหว่างโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ"

โดยมีรายละเอียดดังนี้





วันศุกร์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2564

เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตำรวจรวบแก๊งขี้ยาพร้อมของกลางยาบ้าคาบ้านพัก เจอข้อหาหนัก ทั้งค้า เสพ และพรก.ฉุกเฉิน

เมื่อวันที่ 21 ม.ค.64 เวลา 21.00 น. นายจรัล กลางประดิษฐ ปลัดอาวุโส รักษาราชการแทนนายอำเภอศรีเชียงใหม่, พ.ต.อ.สันติ บุญชูผกก.สภ.ศรีเชียงใหม่ มอบหมายให้นายเอกพิสิฐ ธีรนันท์ภาคิน ปลัดอำเภองานป้องกัน พร้อมสมาชิก อส.อำเภอศรีเชียงใหม่ และชุดสืบสวน สภ.ศรีเชียงใหม่ ร่วมกันจับกุมนายปฎิภาณ  ปราบคนพาล(หนึ่ง)อายุ 19 ปี ที่อยู่เลขที่ 135 หมู่ที่ 5 ต.ท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย, นายวีระพงษ์  พานุรัตน์ อายุ 33 ปี ที่อยู่เลขที่ 87 หมู่ที่ 5 ต.ปะโค อ.เมือง จ.หนองคาย และนายธีระศักดิ์  เดชศักดิ์ศรีชัยอายุ 42 ปี ที่อยู่เลขที่ 205/1 หมู่ที่ 1  ต.พานพร้าว อ.ศรีเชียงใหม่ พร้อมของกลางยาบ้า 23 เม็ด คณะที่ทั้ง 3 คนกำลังนังเสพยาอยู่ภายในตัวบ้านของนายธีระศักดิ์



สอบสวนนายหนึ่งรับสารภาพว่า ยาบ้าทั้งหมดเป็นของตน เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท1(เมทแอมเฟตามีน)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย, เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย  ,ร่วมกันกระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนข้อกำหนด ที่ออกตามความในมาตรา 9  แห่งพระราชกำหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 


ส่วนนายวีระพงษ์ และนายธีระศักดิ์ เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา มียาเสพติดประเภท1(เมทแอมเฟตามีน)ไว้ในครอบครองโดยผิดกฏหมาย, เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย  ,ร่วมกันกระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนข้อกำหนด ที่ออกตามความในมาตรา 9  แห่งพระราชกำหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548  จึงควบคุมตัวคนทั้ง 3 นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ศรีเชียงไหม่ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

หน่วยเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดนที่ 24,ชุดปฏิบัติการ 30(หมวดจักรยานยนต์ กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 243), ร่วมกับ หน่วยเคลื่อนที่เร็วที่ 2 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี,พร้อมด้วยหน่วยงานเกี่ยวข้อง ตรวจยึดรถยนต์เตรียมข้ามโขงส่งขายลาว ได้ 1 คัน รอดไปได้ 1 คัน คาดเป็นขบวนการใหญ่

เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 64  ที่ หน่วยเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดนที่ 24 พ.ต.อ.เพิ่มศักดิ์  ตาตะนันท์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดนที่ 24, พ.ต.ท.ธีรศักดิ์ โพธิ์ศรีมา รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดนที่ 24 ร่วมกับ ฝ่ายปกครอง,ทหาร,ตำรวจ ตรวจยึดรถยนต์ โตโยต้า รุ่นรีโว่ สีดำ หมายเลขทะเบียน กจ 5060 นครนายก จำนวน 1 คัน ได้ที่บริเวณริมตลิ่งฝั่งแม่น้ำโขงด้านหลังวัดปากน้ำฮวย ต.บ้านม่วง อ.สังคม จ.หนองคาย 

         




การตรวจยึดครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่  19 ม.ค.64 พ.ต.อ.เพิ่มศักดิ์  ตาตะนันท์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดนที่ 24, พ.ต.ท.ธีรศักดิ์ โพธิ์ศรีมา รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดนที่ 24  ได้รับแจ้งจากสาย จะมีการลักลอบนำรถยนต์ส่งข้ามไปขายที่ประเทศเพื่อนบ้าน จากนั้นจึงได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติงานการข่าวหน่วยเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดนที่ 24  (หมวดจักรยานยนต์ กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 243) ร่วมกับหน่วยกำลังในพื้นที่ คุมเข้มตามแนวชายแดน ทำการลาดตระเวน พื้นที่ อ.สังคม จ.หนองคาย เพื่อป้องกันการลักลอบนำเข้ายาเสพติด พร้อมทั้งแรงงานต่างที่ลักลอบเข้าเมืองที่อาจนำเชื้อไวรัสโควิด-19 เข้ามาแพร่ระบาดในประเทศไทย รวมถึงการกระทำความผิดตามแนวชายแดน ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.วิชิต  ปักษา  ผู้บัญชาตำรวจตระเวนชายแดน, พล.ต.ต.สุภัทร  ม่วงสมัย ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ภาค 2, พล.ต.บุญสิน  พาดกลาง ผบ.กกล.สุรศักดิ์มนตรี ,พล.ต.ต.กิตติศักดิ์ จำรัสประเสริฐ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย ,พ.ต.อ.เพิ่มศักดิ์  ตาตะนันท์ บังคับหน่วยเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดนที่ 24

จากนั้นเวลา ประมาณ  22.15 น.(19 ม.ค.64) เจ้าหน้าที่ ชุดปฏิบัติงานการข่าวหน่วยเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดนที่ 24  (หมวดจักรยานยนต์ กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 243) ตรวจพบ รถยนต์โตโยต้า รุ่นรีโว่ สีดำ หมายเลขทะเบียน กจ 5060 นครนายก จำนวน 1 คัน ตามที่ได้รับแจ้ง จอดอยู่บริเวณริมตลิ่งฝั่งแม่น้ำโขงด้านหลังวัดปากน้ำฮวย ต.บ้านม่วง อ.สังคม จ.หนองคาย เพื่อเตรียมข้ามโขงไปยังประเทศเพื่อนบ้าน และยังพบรถยนต์จำนวน 1 คัน อยู่บนเรือ 2 ลำ ที่ยึดติดกันดัดแปลงเป็นแพ เพื่อบรรทุกรถยนต์ ติดเครื่องยนต์ บริเวณริมน้ำโขงหลังวัดปากน้ำหวย ได้ขับหลบหนีมุ่งหน้าไปยังฝั่ง ประเทศเพื่อนบ้าน



ทั้งนี้ตามปรากฏข่าวสารที่สื่อเคยได้นำเสนอไปแล้วหลายครั้ง พื้นที่ อ.สังคม จ.หนองคาย เป็นพื้นที่ที่มีขบวนการต่างๆ พยายามลักลอบกระทำผิดกฎหมาย ทั้งการนำเข้า และส่งออกเป็นประจำ อีกทั้งกลุ่มขบวนการฝั่ง  สปป.ลาว ก็มีออเดอร์รถยนต์สั่งเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า 4 ประตู เป็นที่ต้องการของลูกค้าใน สปป.ลาว เชื่อว่ารถยนต์ที่นำข้ามไปขายนั้น จะเป็นรถยนต์ที่ถูกโจรกรรม รถหนีไฟแนนซ์  และรถขาดจำจากบ่อนต่างๆ ซึ่งเชื่อว่าแต่ละครั้งจะต้องผ่านกลุ่มบุคคลในพื้นที่ก็อาจเป็นได้ ซึ่งรถยนต์โตโยต้า รุ่นรีโว่ สีดำ หมายเลขทะเบียน กจ 5060 นครนายก คันที่ยึดได้ดังกล่าว ได้ติดตั้งระบบ GPS เจ้าหน้าที่ได้ติดตามและสกัดกั้นจนสามารถตรวจยึดได้ดังกล่าว จากนั้นได้นำของกลางมาที่ หน่วยเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดนที่ 24 บก.ฉก.ตชด.24  ทำบันทึกและทำการสืบสวนขยายผลถึงเครือข่ายขบวนการ ก่อนนำส่งหน่วยงานเกี่ยวข้องดำเนินคดีตามตามกฎหมาย ต่อไป

 






จิตอาสาพระราชทานอำเภอศรีเชียงใหม่ ร่วมทำแนวกันไฟ เพื่อป้องกันไฟป่า ประจำปี 2564

วันที่ 22 ม.ค.64 ที่ป่าชุมชนบ้านทุ่งสว่าง หมู่ 5 ต.บ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย นายจรัล กลางประดิษฐ ปลัดอาวุโสฯ รักษาราชการแทนนายอำเภอศรีเชียงใหม่ นำจิตอาสาพระราชทาน ประกอบด้วย หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนจิตอาสา ประมาณ 30 คน ร่วมทำกิจกรรม“จิตอาสาทำแนวกันไฟ ประจำปี 2564” ซึ่งป่าชุมชนบ้านทุ่งสว่าง มีพื้นที่ 21 ไร่ อยู่ในพื้นที่ป่าสงานแห่งชาติป่าสัก บ้านป่าสัก-บ้านทุ่งสว่าง เป็นพื้นที่ที่มีต้นสักอุดมสมบูรณ์ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และมีอายุมานานกว่า 400 ปี



สำหรับในการทำแนวกันไฟครั้งนี้ เพื่อป้องกันไฟป่าที่เกิดขึ้นในป่าชุมชน และเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนัก และเห็นโทษของการเกิดไฟป่า โดยเฉพาะในหน้าแล้งระหว่างเดือน กุมภาพันธ์- เมษายน พื้นที่บริเวณใกล้เคียงป่าส่วนใหญ่จะเกิดไฟป่าบ่อยครั้ง และต้นเหตุส่วนใหญ่เกิดจากมนุษย์เป็นต้นเพลิง ที่ผ่านมาผู้นำหมู่บ้านได้ทำการย้ำเตือนในการที่ทุกคนต้องช่วยกันดูแลรักษาผืนป่าสักอันเก่าแก่ของพวกเราไว้แก่ชนรุ่นหลัง และเป็นการสืบสานความเป็นทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ดี แบบยั่งยืนอยู่คู่ชุมชนตลอดไป












มาดูกันบ้าง! ชายวัย 62 ปี ชาวอ.โพธิ์ตาก จ.หนองคาย ถูกรถเก๋งเสียหลักพุ่งข้ามเลนชนในพื้นที่อ.ภูกระดึง จ.เลย จนกลายเป็นคนพิการ นอนติดเตียง คู่กรณีไม่รับผิดชอบ แถมให้เจ้าหน้าที่โทรมาไกล่เกลี่ย ขอจ่ายเป็นค่าทำขวัญแค่ 1 หมื่นบาท

วันที่ 22 ม.ค. 64 ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 6 ต.โพนทอง อ.โพธิ์ตาก จ.หนองคาย ได้ร้องผ่านสื่อเพื่อขอให้ช่วยนำเสนอเรื่องราวของนายพิจิตร แสงสว่าง อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31 หมู่ 6 ต.โพนทอง อ.โพธิ์ตาก ต้องกลายมาเป็นผู้พิการ กล้ามเนื้ออ่อนแรง นอนติดเตียง หลังประสบอุบัติเหตุรถเก๋งเสียหลักข้ามเลน มาชนรถกู้ภัย อบต.โพนทอง ที่กำลังไปส่งลูกชายของนายพิจิตร ไปบำบัดที่โรงพยาบาลจิตเวชเลยราชนครินทร์ จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 7 คน หนึ่งในนั้นมีนายพิจิตร อาการสาหัส กระดูกคอหักสองข้อ กลายมาเป็นผู้พิการ นอนติดเตียงไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ และไม่มีความคืบหน้าเรื่องคดี ทางคู่กรณีไม่รับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 19.50 น. ของวันที่ 9 ธ.ค.63 บนถนนสายภูกระดึง-เมืองเลย ช่วงตำบลห้วยส้ม อ.ภูกระดึง จ.เลย


นางสุบิน แสงสว่าง อายุ 53 ปี ซึ่งเป็นภรรยาของนายพิจิตร กล่าวว่า วันที่เกิดเหตุตนกับสามีและเพื่อนบ้านรวม 7 คน พากันไปส่งลูกชายอายุ 28 ปีไปบำบัดที่โรงพยาบาลจิตเวชเลยฯ ขากลับก็มาถูกรถยนต์เก๋งของคู่กรณีชนรถกู้ภัยอบต.โพนทองเข้าอย่างจัง หลังเกิดอุบัติในครั้งนั้นจนถึงวันนี้ คู่กรณีไม่เคยมาเยี่ยมผู้บาดเจ็บเลย ไม่เคยมาแสดงความรับผิดชอบใดๆกับสิ่งที่เกิดขึ้น แม้แต่การเข้าถามไถ่อาการของสามีตน ที่ต้องกลายเป็นผู้ป่วยนอนติดเตียง ที่ผ่านมาคดีความกลับไม่มีความคืบหน้าใดๆ ทั้งๆที่คู่กรณีเมาแล้วขับ แต่ถูกปรับแค่ 500 บาท คงเป็นเพราะคู่กรณีตำแหน่งเป็นถึงผู้ช่วยศาสตราจารย์ สอนหนังสือในมหาวิทยาลัยในพื้นที่จ.เลย จึงทำให้เจ้าหน้าที่เกรงใจ ครอบครัวตนก็มีเพียงสามพ่อแม่ลูก สามีตนนั้นเป็นเสาหลักของครอบครัว ยึดอาชีพขับรถเร่ขายของชำ ซึ่งแต่ละวันจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 2,000 บาท แล้วสามีต้องมานอนติดเตียงอย่างนี้ จะหาเงินที่ไหนมาใช้จ่าย ทุกวันนี้ต้องพาสามีไปตรวจที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานีทุกๆหนึ่งอาทิตย์ หมดเงินไปแล้ว 6-7 หมื่นบาท วันไหนไม่มีเงินก็ต้องไปหายืมญาติและเพื่อนบ้าน บอกเลยว่าตอนนี้หนี้ท่วมหัวหมดแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าของคดีก็โทรมาใช้ความพยายามให้เดินทางไปพูดคุยกับคู่กรณีอยู่หลายครั้ง ตนจะไปได้ใง ในเมื่อไปแต่ละครั้งตนต้องจ้างรถไปครั้งละ 3,500 บาท แล้วตำรวจยังโทรมาบอกว่าคู่กรณีขอไกล่เกลี่ย โดยจะมอบเงินช่วยเหลือให้เป็นค่าทำขวัญในจำนวน 1 หมื่นบาท ตนก็อยากให้คู่กรณีเข้ามาดูกันบ้าง







วันพฤหัสบดีที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2564

ที่ว่าการอำเภอศรีเชียใหม่ ฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อโควิด-19 เพื่อความปลอดภัยของประชาชนที่เข้ามาติดต่อราชการ

วันที่ 21 ม.ค.64 ณ ที่ว่าการอำเภอศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย นายจรัล กลางประดิษฐ ปลัดอาวุโส รักษาราชการแทนนายอำเภอศรีเชียงใหม่ ได้ให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุข เข้ามาพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อไวรัส โควิด 19 ภายในบริเวณที่ว่าการอำเภอ เนื่องจากในแต่ละวันมีประชาชนเข้ามาติดต่อราชการจำนวนมาก  ทั้งงานบัตรประชาชน งานทะเบียนราษฎร์ และเรื่องอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง โดยทำการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อภายในห้องที่บริการฝ่ายต่างๆ โดยเฉพาะห้องฝ่ายทะเบียนราษฎร์และห้องทำบัตรประชาชน ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงเพราะในแต่ละวันจะมีประชาชนมาใช้บริการกันทุกวันราชการ จึงจำเป็นต้องพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อเพื่อความปลอดภัยของประชาชนที่เข้ามาติดต่อราชการ ร่วมไปถึงตัวเจ้าหน้าที่ที่คอยให้บริการ



ขณะเดียวกันได้จัดให้มีเจ้าหน้าที่คอยคัดกรองตรวจวัดไข้ และอุณหภูมิในร่างกาย โดยใช้เครื่องตรวจที่หน้าผาก มีเจลล้างวางไว้ล้างมือ รวมถึงหน้ากากอนามัยให้กับประชาชนที่มาติดต่อราชการ ที่ไม่มีหน้ากาก ได้สวมใส่เพื่อความปลอดภัยของตัวเองและเจ้าหน้าที่อีกด้วย







จ.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา" เฉลิมพระเกียรติฯ

สนง.พช.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา...