วันพุธที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

ทหารหมวดเคลื่อนที่เร็วที่ 2 กกล.สุรศักดิ์มนตรี รวบหนุ่มสาวชาวสกลนคร ขับรถกระบะมารับยาบ้าริมฝั่งแม่น้ำโขง 198,000 เม็ด มูลค่ากว่า 9.9 ล้านบาท

วันที่ 17 ก.พ. 64 ที่ฐานปฏิบัติการหมวดเคลื่อนที่เร็วที่ 2 ร้อยเคลื่อนที่เร็วที่ 2 กองบังคับการควบคุมที่ 2 วัดศิลาเลข ต.โพนสา อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นายเจริญจิต สืบสาววงศ์ นายอำเภอเมืองหนองคาย, พันเอกศิวดล ยาคล้าย รองผู้บังคับการกองบังคับการควบคุมที่ 2 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี, พันเอกสาธิต อุ่นกาย รองผอ.รมน.จ.หนองคาย, นาวาเอกราฆพ เทวะประทีป รักษาการ ผบ.นรข.เขตหนองคาย, พ.ต.ท.สิทธิรักษ์ สิริสิงห์ รอง ผกก.(ป.).สภ.เวียงคุก พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายอำคา อนุมาทร์ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21 หมู่ 5 ต.หนองแปน อ.เจริญศิลป์ จ.สกลนคร และ น.ส.เมษา พลศักดิ์ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 74 หมู่ 10 ต.หนองกว้าง อ.บ้านม่วง จ.สกลนคร พร้อมของกลางยาบ้า 198,000 เม็ด เรือหางยาวพร้อมเครื่องยนต์ 1 ลำ, รถยนต์กระบะโตโยต้า แค็บ สีบรอนด์ทอง ทะเบียน ผฉ 5664 นครปฐม, อุปกรณ์การเสพจำนวนหนึ่ง และโทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง ได้ที่ริมฝั่งแม่น้ำโขง บ้านนาเหล่า หมู่ 1 ต.เวียงคุก อ.เมืองหนองคาย




สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 16 ก.พ.64 ทหารชุดเคลื่อนที่เร็ว ที่ 2 ได้ทำการลาดตระเวนตามพื้นที่แนวชายแดน ไปจนกระทั่งถึงบริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง บ้านนาเหล่า หมู่ 1 ต.เวียงคุก อ.เมืองหนองคาย ได้พบเรือหางยาว 1 ลำ แล่นมาจากประเทศเพื่อนบ้านโดยมีผู้ต้องสงสัย 2 คนนั่งมาในเรือ แล้วเข้ามาจอดริมฝั่งแม่น้ำโขงฝั่งประเทศไทย จากนั้นทั้ง 2 คนได้ช่วยกันถือกระสอบสายรุ้ง 2 ใบขึ้นจากเรือ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวขอตรวจค้น แต่ผู้ต้องสงสัยทั้งสองคนรีบทิ้งกระสอบสายรุ้งไว้ แล้วกระโดดลงน้ำหลบหนีไปในความมืด โดยทิ้งเรือไว้ เจ้าหน้าที่ได้จึงทำการดักซุ่มอยู่บริเวณใกล้เคียง



ต่อมาเวลา 19.30 น. ได้มีนายอำคา และ น.ส.เมษา ขับรถยนต์คันดังกล่าวเข้ามาจอดแล้วจะมาขนกระสอบขึ้นรถ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวขอตรวจสอบ พบวัตถุห่อด้วยถุงสีดำ ภายในถุงมีลักษณะเป็นแท่ง แยกเป็นก้อนๆ จำนวนหลายก้อน ซึ่งพบว่าเป็นยาบ้า เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการจับกุมคนทั้งสองคนและควบคุมตัวพร้อมของกลางมายังฐานปฏิบัติการหมวดเคลื่อนที่เร็วที่ 2 เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียด พบเป็นยาบ้าจำนวนประมาณ 198,000 เม็ด มูลค่าประมาณ 9,900,000 บาท โดยทั้งสองคนให้การรับสารภาพว่าจะนำยาบ้าทั้งหมดเข้าไปส่งยังพื้นที่ตอนในของประเทศ เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวทั้งสองคนพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เวียงคุก ดำเนินการตามกฎหมาย








ผู้ว่าฯ หนองคาย เป็นประธานเปิดโครงการจังหวัดเคลื่อนที่แบบบูรณาการ และหน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ในพื้นที่ตำบลพานพร้าว อำเภอศรีเชียงใหม่

วันที่ 17 ก.พ. 64 ที่ หอประชุมโรงเรียนพานพร้าว ต.พานพร้าว อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย นายประเสริฐ  ลือชาธนานนท์  ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการจังหวัดเคลื่อนที่แบบบูรณาการและหน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข จังหวัดหนองคาย ประจำปี 2564 ในโอกาสนี้ ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคายได้มอบเงินและสิ่งของให้แก่ราษฎร ประกอบด้วย มอบทุนอุปการะเด็ก กองทุนพัฒนาเด็กในชนบทในพระราชูปธัมภ์ฯ, มอบพันธุ์ปลาให้แก่ผู้แทนตำบล, มอบเงินสงเคราะห์เด็กในครอบครัวที่ยากจน และสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดหนองคาย มอบเครื่องอุปโภคบริโภคให้กับประชาชน รวมทั้งตรวจเยี่ยมหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว และมอบยาสามัญประจำบ้านให้แก่ผู้นำหมู่บ้านและ อสม. พร้อมออกเยี่ยมหน่วยบริการของหน่วยงานราชการในจังหวัดหนองคายที่นำมาให้บริการประชาชนและผลผลิตทางการเกษตรของเกษตรกร




จากนั้นท่านผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคายลงพื้นที่เยี่ยมและมอบถุงยังชีพซึ่งบรรจุเครื่องอุปโภคบริโภคที่ได้รับการสนับสนุนจากชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดหนองคายและภาคส่วนต่างๆ อาทิ ข้าวสาร อาหารแห้ง ผ้าห่ม เครื่องใช้ที่จำเป็น หน้ากากอนามัยและเงินสงเคราะห์ แก่ผู้ป่วยติดเตียง ผู้พิการ และผู้สูงอายุ ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 3 ราย เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายและบรรเทาความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชนที่เป็นกลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิดในครั้งนี้


















วันอังคารที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

ปราชญ์ชุมชนผู้สืบทอดและอนุรักษ์การทำพิณเครื่องดนตรีพื้นบ้านอีสานไว้ให้ลูกหลานก่อนสูญหาย

"พิณ" เป็นเครื่องดนตรีพื้นบ้านที่นับวันจะกลายเป็นตำนาน ที่คนรุ่นใหม่คิดว่าเป็นเครื่องดนตรีล้าหลังแต่ปราชญ์ชุมชน ศิลปินผู้รักหลงใหลเสียงพิณมาตั้งแต่วัยเด็ก ยังคงสืบสานศิลปวัฒนธรรมถ่ายทอดความรู้ด้านพิณให้กับผู้สนใจ และทำพิณขายเป็นที่ยอมรับมานานกว่า 35 ปี ตั้งปณิธานจะทำพิณไปเรื่อยๆ แม้จะไม่มีผู้ซื้อ ตั้งเป็นศูนย์ถ่ายทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านพิณให้กับคนรุ่นใหม่ได้เรียนรู้และอนุรักษ์ให้คงอยู่ ก่อนที่จะเลือนหายไป

“เมื่อได้ยินเสียงพิณ เสียงแคน อยากร้อง อยากรำ” เป็นคำพูดของ นายทองขัน  พาไสย์ อายุ 80 ปี ชาวบ้านบ้านกองนาง อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย  ที่ได้เล่าเรื่องราวตั้งแต่วัยเยาว์ว่า ตนชอบเสียงพิณ  เสียงแคนตั้งแต่อายุ 13 ปี พ่อได้ให้นำเอาควายไปเลี้ยง ได้ฟังคนแก่เขาดีดพิณเพลงลายต้อนวัวขึ้นภูเขา นั่งฟังเพลินจนควายไปกินต้นข้าวของชาวบ้าน เพราะรักและหลงใหลในเสียงพิณ เมื่อปี พ.ศ. 2528 ก็ได้ไปชมการแสดงการดีดพิณของ อ.ทองใส ทับถนน วงเพชรพิณทอง ดีดพิณลายต้อนวัวขึ้นภูเขาอีกครั้ง ยิ่งฟังยิ่งชอบมาก และพูดกับตัวเองว่าหลังจากดูการแสดงดนตรีเสร็จ ว่าพรุ่งนี้จะทำพิณ พอตื่นเช้าขึ้นมาก็ได้ไปตัดต้นขนุน มาทำพิณในวันเดียวเสร็จ ออกแบบเองไม่มีคนสอน ได้หัดดีด โดยไม่รู้โน้ต จากนั้นได้ไปหาครูดนตรีพิณเพื่อให้ตั้งเสียงพิณให้ อาศัยจำเสียง ดีดไปดีดมาจนเป็น  ซึ่งเริ่มทำพิณครั้งแรกเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2528 จำนวน 6 ตัว ขาย 3 ตัวแจกฟรี 3 ตัว จากนั้นก็จะไปดีดพิณในงานบุญต่างๆ ภายในหมู่บ้าน ก่อนจะมาทำพิณขาย เมื่อปี พ.ศ. 2530  เรื่อยมา ซึ่งครูพิณทั่วประเทศต่างยอมรับในเสียงพิณที่ไพเราะ กังวาน ความละเอียดในงานฝีมือ และเอกลักษณ์รูปหัวพญานาค เพราะอยู่เมืองพญานาค ออกแบบเอง เป็นผู้ผลิตพิณให้กับนักเล่นพิณมืออาชีพของเมืองไทยมากว่า 30 ปี  จนได้ฉายาว่า ตำนานพิณแห่งลุ่มน้ำโขง เมืองหนองคาย



ลุงทองขันฯ กล่าวว่า พิณสมัยก่อนชาวพื้นบ้านอีสานจะเรียกว่า บักกะจับปี่ หรือบักกะจับต่ง โดยใช้ไม้ต้นขนุน ต้นสะเดาและต้นกระท้อน ซึ่งชาวบ้านนำมาขายให้  โดยจะทำพิณ 2 ประเภท คือ พิณธรรมดา และพิณไฟฟ้า พิณตัวหนึ่งจะใช้เวลาทำประมาณ 1 อาทิตย์  จะมีราคาตั้งแต่ 1,600-10,000 บาท ซึ่งจะต้องอาศัยประสบการณ์ ความชำนาญในการเป็นช่างไม้ มีความพยายามและใจรัก ส่วนหัวของพิณจะเป็นรูปพญานาค รูปใบโพธิ์เสี้ยว ซึ่งแต่ละเดือนจะมีรายได้จากการจำหน่ายพิณ 8,000-10,000 บาท บางเดือนจะมีลูกค้าสั่งซื้อ 5- 10 ตัว โดยพิณแต่ละตัวถือเป็นของมงคล เพราะทุกครั้งที่ผู้ซื้อไปตนจะทำพิธีตามความเชื่อก่อนมอบให้ไป  



ปัจจุบันบ้านของลุงทองขันฯ ได้เปิดเป็นศูนย์เรียนรู้ให้กับผู้ที่สนใจในเครื่องดนตรีพื้นบ้าน ได้มาเรียนรู้วิธีการทำพิณ และบางครั้งก็จะมีหน่วยงานเชิญไปเป็นวิทยากรพิเศษ ซึ่งลุงทองขันจะมีวิธีการสอนที่ไม่เหมือนใคร คือใช้วิธีสอนด้วยนิ้วจำเสียงเป็นหลัก  มีลูกศิษย์หลายรุ่น  แต่ช่วงหลังคนรุ่นใหม่ไม่นิยมมาเรียนเพราะคิดว่ามันล้าหลัง แต่ลุงทองขันฯ ก็ยังทำพิณขายเช่นเดิม ตั้งปณิธานว่า จะสืบสานเครื่องดนตรีพื้นบ้านไว้ จะถ่ายทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นเกี่ยวกับพิณ ให้ผู้ที่สนใจได้เรียนรู้ และจะอนุรักษ์ไว้ตลอดไป

จากความพยายามจนประสบผลสำเร็จ ในการสืบทอดและอนุรักษ์พิณเครื่องดนตรีพื้นบ้านอีสานมานานตลอดชีวิต  และเป็นปราชญ์ชุมชนด้านพิณดนตรีอีสาน ได้รับ รางวัลผลิตภัณฑ์ดีเด่น   รางวัลทำพิณ ระดับสี่ดาว ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เมื่อปี พ.ศ. 2546 - 2547  และศิลปินดีเด่นจังหวัดหนองคาย สาขา ศิลปะการแสดง ปี พ.ศ. 2548  เป็นเครื่องยืนยันคุณภาพของลุงทองขัน พาไสย์ ตำนานพิณแห่งลุ่มน้ำโขงเมืองหนองคาย






กกต.เทศบาลตำบลบ้านถ่อน ร่วมกับ กกต.หนองคาย เดินหน้าเสริมสร้างความรู้การเลือกตั้งเชิงสมานฉันท์ เลือกตั้ง สท.-นายกเทศมนตรีบ้านถ่อน

วันที่ 16 ก.พ. 64 ที่ หอประชุมโรงเรียนบ้านถ่อนวิทยา ต.บ้านถ่อน อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นายปราโมทย์ สุทธากรณ์ ปลัดเทศบาลตำบลบ้านถ่อน ในฐานะผู้อำนวยการคณะกรรมการการเลือกตั้งเทศบาลตำบลบ้านถ่อน เป็นประธานเปิดอบรมเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการเลือกตั้งเชิงสมานฉันท์ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล(สท.)และนายกเทศมนตรีตำบลบ้านถ่อน โดยมีผู้สมัครนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบ้านถ่อน เช่น นายศิริวุฒิ โคตรชมภู หมายเลข 1, นายอภิวัฒน์ โคตรชมภู อดีตนายกเทศมนตรีฯ หมายเลข 2, นายสงกรานต์ สาริกา หมายเลข 3 และผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาลตำบลบ้านถ่อนทั้ง 2 เขตเลือกตั้งเดินทางมาร่วมการประชุมอย่างพร้อมเพียง เพื่อปฎิบัติตามกฎหมายเลือกตั้งของ กกต. เพื่อให้เกิดความสุจริตโปร่งใส เที่ยงธรรม รักษาไว้ซึ่งการปกครองในระบอบประชาธิปไตย 




ในการจัดอบรมครั้งนี้ มีเจ้าหน้าที่จาก กกต.ประจำจังหวัดหนองคาย เป็นวิทยากรให้ความรู้ความเข้าใจและชี้แจงงานให้ผู้สมัครทุกคนทำตามกฎหมายเลือกตั้งทุกขั้นตอน ทำหน้าที่อย่างถูกต้อง รักษากฎหมายเพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างสมานฉันท์ เพื่อการเลือกตั้งเป็นไปตามหลักเกณฑ์ กติกา สุจริต โปร่งใส เที่ยงธรรม และชอบด้วยกฎหมายเลือกตั้ง โดยได้มีการบรรยายให้ความรู้แก่ผู้สมัครในหัวข้อสำคัญ เช่น การยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน, ค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง สท. และนายกเทศบาล, กฎหมายการเลือกตั้ง, วิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้ง ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19









จ.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา" เฉลิมพระเกียรติฯ

สนง.พช.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา...