วันศุกร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2564

สภาองค์กรชุมชนตำบลโพนสา อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย เปิดหาดหินบ้านท่ามะเฟีอง จัดซุ้มในแม่น้ำโขงและร้านอาหารริมฝั่ง รับนักท่องเที่ยวเล่นน้ำโขงคลายร้อน พร้อมรับเทศกาลสงกรานต์ด้วยมาตรการป้องกันโควิด-19

จ.หนองคาย ระดับน้ำโขงลดลงทำให้เกิดหาดทรายขึ้นหลายแห่ง โดยเฉพาะที่บ้านท่ามะเฟือง หมู่ 5 ต.โพนสา อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย  มีหาดทรายแม่น้ำโขงที่ไม่เหมือนที่ไหนในจังหวัด เพราะเมื่อเข้าสู่ช่วงหน้าแล้ง จะเกิดเป็นหินกรวดในแม่น้ำโขงเป็นบริเวณกว้างกว่า 500 เมตร และมีน้ำใสสะอาด สภาองค์กรชุมชนตำบลโพนสา ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ จัดพื้นที่ให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ชื่อว่า "หาดหินบ้านท่ามะเฟือง" โดยทำร้านอาหารมากกว่า 20 ร้าน และทำซุ้มในแม่น้ำโขงกว่า 100 ซุ้ม รับนักท่องเที่ยวเล่นน้ำโขงคลายร้อน พร้อมทั้งจัดที่นั่งริมฝั่งโขงไว้สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบนั่งรับประทานอาหาร ชมเกาะดอนต่ำ-ดอนแตง และทัศนียภาพริมฝั่งโขงคลายร้อน โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ที่จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวในพื้นที่เป็นจำนวนมาก ซึ่งที่หาดหินบ้านท่ามะเฟือง ได้จัดเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทำการตรวจคัดกรองโควิด-19 ทั้งวัดอุณหภูมิร่างกาย ลงทะเบียนนักท้องเที่ยวทุกคน  และคุมเข้มไม่สวมหน้ากากอนามัยไม่ให้เข้าเที่ยวหาด เจ้าหน้าที่จึงขอให้ซื้อหน้ากากอนามัยสวมใส่ก่อนเข้าแถวเพื่อวัดอุณหภูมิร่างกาย และล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล นอกจากนี้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขยังเดินรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้พ่อค้า แม่ค้าที่มาจำหน่ายสินค้าบนฝั่งต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย และได้ให้ร้านค้าต่างๆ ระวังเรื่องสุขอนามัย เพราะเข้าสู่ภาวะอากาศร้อน




จุดเด่นของการบริการนักท่องเที่ยวอีกอย่างหนึ่งก็คือ การบริการอาหารลอยฟ้า ซึ่งนักท่องเที่ยวก่อนที่จะลงไปนั่งตามซุ้มต่างๆ ในแม่น้ำโขง ก็ต้องสั่งอาหารบนฝั่งก่อน หลังจากนั้นเจ้าของร้านอาหารก็จะนำอาหารที่สั่งใส่ลงในกระเช้าส่งอาหารให้กับลูกค้าที่มานั่งพักผ่อนเล่นน้ำคลายร้อน โดยจะมีคนคอยรับคอยบริการตามซุ้มต่างๆ ไม่ต้องเดินขึ้น-ลงให้เหนื่อยลำบาก



นางนงลักษณ์ นาผม ประธานสภาองค์กรชุมชนตำบลโพนสา กล่าวว่า หาดของบ้านท่ามะเฟืองตรงนี้จะเป็นหาดหินที่เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ ทางสภาองค์กรชุมชนตำบลโพนสาจึงเล็งเห็นว่าเมื่อในพื้นที่มีทรัพยากร จึงอยากจะสร้างรายได้ให้กับประชาชนในชุมชน จึงได้ทำการประชาคมกับชาวบ้าน ในเมื่อมีความเห็นว่าอยากทำหาดเพื่อสร้างรายได้ ทางสภาองค์กรชุมชนฯ จึงได้ทำหนังสือถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น อบต.โพนสา, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล, ที่ว่าการอำเภอท่าบ่อ, กรมเจ้าท่าหนองคาย และผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ว่าจะทำหาด หลังจากนั้นกรมเจ้าท่าฯจึงเรียกประชุมว่าได้มีมาตรการอย่างไรในการที่จะทำหาดเพื่อการท่องเที่ยว โดยได้เดินมาดูพื้นที่ แล้วให้ทางสภาองค์กรชุมชนฯ จัดทำบันไดขึ้นลงชายฝั่งเพื่อความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว และทำจุดคัดกรองโควิด-19 รวมทั้งกำหนดเวลาเล่นน้ำไว้ให้ชัดเจน จุดเด่นของหาดหินบ้านท่ามะเฟืองนี้จะมีเกาะกลางแม่น้ำโขง จะมีหาด และมีหินกรวด น้ำไม่ลึก และไม่มีหลุม พื้นจะเรียบ เมื่ออากาศร้อนก็จะคลายร้อน ชาวบ้านก็ชอบจะมาเล่นน้ำ ซึ่งระยะห่างออกจากตลิ่งไปประมาณ 80 เมตร ความสูงของน้ำก็จะประมาณ 80 เซนติเมตร






ในเรื่องของความปลอดภัย ได้มีการทำทุ่นป้องกันและมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้ออกไปนอกบริเวณ โดยจะมีทหารเรือมาช่วยดูแลด้านน้ำ และก็มีกู้ภัยช่วยดูแลด้านจราจร ส่วนในด้านการบริการอาหาร ทางพาณิชย์จังหวัดได้เข้ามาควบคุมดูแลเรื่องราคาอาหารไม่ควรจำหน่ายแพงเกินความเป็นจริง พร้อมกับกำชับทุกร้านเขียนป้ายราคา เพื่อให้ลูกค้าเลือกเองว่าชอบร้านไหน ส่วนค่าบริการนั้นจะคิดซุ้มละ 50 บาท เพื่อให้ร้านค้าได้มีรายได้ในส่วนนั่นบ้าง เพราะว่ามีการบริการนำอาหารส่งถึงซุ้ม และค่าเก็บขยะ ในส่วนของการเล่นน้ำ เมื่อถึงเวลา 17.30 น. ทางกองอำนวยการก็จะประกาศให้ทุกคนเตรียมขึ้นฝั่ง ซึ่งทางหาดมีกำหนดในการลงเล่นน้ำตั้งแต่เวลา 08.00 น. - 18.00 น. ทุกวัน โดยเจ้าหน้าที่ที่ดูแลด้านน้ำก็จะบอกให้ทุกคนขึ้นบนฝั่ง ส่วนนักท่องเที่ยวที่รับประทานอาหารอยู่บนฝั่งก็จะให้อยู่ได้ถึง 19.00 น. ซึ่งการเปิดหาดครั้งนี้สามารถสร้างรายได้ให้ร้านค้าต่างๆ วันละ 10,000-20,000 บาท ซึ่งสามารถสร้างรายได้เสริมให้กับชาวบ้านในพื้นที่หลังเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้วได้เป็นอย่างดี ซึ่งเราเน้นคนในพื้นที่ตำบลโพนสาเป็นหลัก คาดว่าจะเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เล่นน้ำได้ไปจนถึงต้นเดือนพฤษภาคม หรือจนกว่าน้ำโขงจะมีระดับสูงขึ้น แล้วแต่สถานะการณ์











ผู้ว่าฯหนองคาย พารณรงค์งดเผาฟางและตอซังพืช ปรับเปลี่ยนจากเผาตอซังมาเป็นไถกลบแทน

วันที่ 9 เม.ย. 64 ที่ แปลงนาสาธิตบ้านกวด หมู่ 1 ต.นาข่า อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานเปิด"โครงการผู้ว่าพาไปยาม" ครั้งที่ 4 พร้อมมอบแหล่งน้ำในไร่นานอกเขตชลประทาน ขนาด 1,260 ลูกบาศก์เมตร และมอบโครงการจัดระบบอนุรักษ์ดินและน้ำบนพื้นที่ลุ่ม-ดอน ปี 2564 แก่ตัวแทนเกษตรกร จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ และเกษตรกร ชมการสาธิตการไถกลบตอซังพืช และร่วมหว่านเมล็ดพันธุ์ปอเทืองบริเวณแปลงสาธิต โดยสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดหนองคาย ดำเนินโครงการขึ้น โดยมี น.ส.สิริมา วัฒโน รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย , นายนวน โทบุตร นายอำเภอท่าบ่อ , หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, จนท.สถานีพัฒนาที่ดินหนองคาย , จนท.สำนักงานเกษตรอำเภอท่าบ่อ , หัวหน้าส่วนระดับอำเภอ , ผู้นำท้องที่/ท้องถิ่น , ครู นักเรียน  และเกษตรกรในพื้นที่และพื้นที่ใกล้เคียงร่วมกิจกรรม




นายอำไพ ประเสริฐสังข์ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดหนองคาย กล่าวว่า การจัดโครงการผู้ว่าพาไปยาม ในครั้งนี้ ภายใต้กิจกรรม" โครงการรณรงค์งดเผาฟางและตอซังพืช ประจำปี 2564" โดยมีหน่วยงานสถานีพัฒนาที่ดินหนองคาย เป็นเจ้าภาพหลัก ซึ่งสถานที่จัดงานเป็นพื้นที่จำนวน 40 ไร่ สามารถรองรับจุดสาธิตการเรียนรู้การไถกลบตอซัง เช่น พื้นที่ปลูกข้าว อ้อย  ข้าวโพด และจัดรณรงค์ให้เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ 300 ราย ปรับเปลี่ยนจากการเผาตอซังมาเป็นไถกลบตอซังแทน พร้อมรู้จักใช้ประโยชน์จากตอซังพืช เพื่อลดผลกระทบจากการเผาตอซังหลังการเก็บเกี่ยวในพื้นที่เกษตรกรรม เพื่อพัฒนาศักยภาพและคุณภาพชีวิตตนเอง และสร้างรายได้ต่อไป.













วันพฤหัสบดีที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2564

รองผู้ว่าฯ หนองคาย นำพสกนิกรประกอบพิธีเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ 2 เมษายน 2564 และกิจกรรมเทศน์มหาชาติเวสสันดรชาดก เฉลิมพระเกียรติฯ

วันที่ 8 เม.ย. 64 ที่ วัดจำปาทอง บ้านหนองยางคำ หมู่ 13 ต.กองนาง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นางรณิดา เหลืองฐิติสกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานในพิธีเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ 2 เมษายน 2564 โดยมี นายนวน โทบุตร นายอำเภอท่าบ่อ พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ครู อาจารย์ นักเรียน นักศึกษาและประชาชนทั่วไป ร่วมพิธี โดยมีนายเผด็จ สุขเกษม วัฒนธรรมจังหวัดหนองคาย เป็นผู้กล่าวรายงาน มีพระเถระชั้นผู้ใหญ่ในจังหวัดฯ ร่วมสวดเจริญพระพุทธมนต์เฉลิมพระเกียรติฯ




เนื่องด้วย 2 เมษายน 2564 เป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จึงนับเป็นโอกาสอันดียิ่งที่พสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า จะได้แสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ด้วยการบำเพ็ญคุณงามความดีถวายพระราชกุศลแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงสร้างคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติอย่างอเนกอนันต์ 





ในการนี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ ในวาระโอกาสสำคัญดังกล่าว พร้อมทั้งส่งเสริมให้ประชาชนในจังหวัดหนองคาย ได้ร่วมกันทำความดีถวายพระราชกุศล แสดงออกถึงความรักชาติ ศาสนา สถาบันพระมหากษัตริย์ และธำรงรักษาไว้ให้มั่นคงสืบไป สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดหนองคาย จึงได้ร่วมกับวัดจำปาทอง หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาชน จัดกิจกรรมเทศน์มหาชาติเวสสันดรชาดก เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ 2 เมษายน 2564 ขึ้น โดยจัดขบวนแห่ผ้าผะเหวดเข้าเมือง มีช้าง 5 เชือกร่วมขบวนแห่อย่างยิ่งใหญ่​ตระการ​ตา หลังจากปีที่ผ่านมาต้องงดจัดงาน เนื่องจากเกิดการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 มาในปีนี้จึงหวนจัดงานอีกครั้ง เพราะถือเป็นประเพณีที่สำคัญ ซึ่งเป็นงานบุญหนึ่งในฮีต 12 ตามวิถีวัฒนธรรมของชาวอีสาน เป็นงานบุญประเพณีที่สำคัญอันเก่าแก่ที่อยู่คู่กับชาวบ้านมาช้านานกว่า 100 ปี การแห่พระเวสสันดรชาดกเป็นหนึ่งในประเพณีเทศน์มหาชาติ เป็นการอนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามของไทยของชาวอีสาน ให้ลูกหลาน เด็กรุ่นใหม่ ได้ดูได้เห็น





สำหรับวัดจำปาทอง สร้างเมื่อ พ.ศ. 2100 ตั้งอยู่บ้านหนองยางคำ หมู่ 13 ต.กองนาง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย สังกัดสำนักสงฆ์มหานิกาย มีเนื้อที่ 13 ไร่ 3 งาน 20 ตารางวา โดยมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์สำคัญ เป็นพระประธานในอุโบสถ คือหลวงพ่ออินทร์แปลง เป็นพระพุทธรูปเนื้อทรายปูนปั้น ปางมารวิชัย ศิลปะล้านช้าง ขนาดหน้าตัก 109 นื้ว หรือ 277 เซนติเมตร  สร้างขึ้นโดยนางเขียวค้อม พระชายาของพระเจ้าไชยเชษฐาฯ เจ้าผู้ครองนครเวียงจันทน์ในอดีต และด้านข้างของอุโบสถจะมีเจดีย์บรรจุอัฐิของนางเขียวค้อม ชื่อว่าเจดีย์สุธรรมา โดยแต่ละปีชาวชุมชนวัดจำปาทองหนองยางคำ จะจัดงานนมัสการสมโภช"หลวงพ่ออินทร์แปลง" และบุญเทศน์มหาชาติ ในวันแรม 10 ค่ำ - แรม 12 ค่ำ เดือน 5 เป็นเวลา 3 วัน 3 คืนทุกปี


















จ.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา" เฉลิมพระเกียรติฯ

สนง.พช.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา...