วันพุธที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

จ.หนองคาย ตรวจยึดบัตรพลังงาน ลวงโลก อ้างสรรพคุณเกินจริง สามารถรักษาอาการปวดหลัง พบมีรังสีนิวเคลียร์ปนเปื้อน เสี่ยงก่อมะเร็ง เตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อ

วันที่ 12 พ.ค. 64 ที่ด่านศุลกากรหนองคาย นายณัฐวัสส์ วิริยานภาภรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย  พ.ต.อ. ณรัชต์พล เลิศรัชตะปภัสร์ นายด่านศุลกากรหนองคาย  พ.อ.วีระพงษ์ คำสิทธิ์ รอง ผอ.รมน.จังหวัด น.ค.(ท.) และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันแถลงข่าว การตรวจยึด “บัตรพลังงาน” จำนวน 655 ใบ ซึ่งบัตรพลังงานดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดไว้เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2564  ที่ผ่านมา โดยมี นาย ก. (นามสมมุติ ได้มายื่นใบแจ้งให้ไปรับสิ่งของส่งทางไปรษณีย์ระหว่างประเทศ แก่งานพิธีการด่านศุลกากรหนองคาย เจ้าหน้าที่ประจำเวรพิธีการ จึงได้ให้ นาย ก. เปิดพัสดุเพื่อตรวจสอบ พบว่าเป็นการ์ดกระดาษแข็งจำนวนหลายใบพร้อมใบอวดอ้าง โดยคนรู้จักที่อยู่ต่างประเทศให้นำไปใช้และแจกจ่าย ทางเจ้าหน้าที่สงสัยถึงหลักการทำงาน และความปลอดภัยของการ์ดดังกล่าว จึงได้ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม และทราบว่าการ์ด ดังกล่าวอาจจะเป็นการ์ดพลังงานที่แผ่รังสีจากวัสดุนิวเคลียร์ ตามที่สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.)เคยประกาศเตือนประชาชนที่บัตรดังกล่าวหวังรักษาโรค พบรังสีปนเปื้อน และไม่ควรมีไว้ครอบครอง เจ้าหน้าที่จึงรีบนำเครื่องมือวัดรังสีชนิดพกพา ที่มีประจำการที่อาคาร x-rays รถสินค้าของด่านฯ มาตรวจสอบพัสดุดังกล่าว จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าพัสดุมีการแผ่รังสีเกินค่าปกติ เจ้าหน้าที่จึงได้นำพัสดุนั้นไปเก็บไว้ในที่ห่างไกลผู้คน และประสานงานกับ ปส. เพื่อมาตรวจสอบพัสดุนี้โดยละเอียด



หลังจากการตรวจสอบจาก สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.). พบว่าภายใน มีการบรรจุกล่องที่มีการ์ดพลังงานอยู่จำนวน 655 ใบ มีการแผ่รังสีแกมม่าจากวัสดุนิวเคลียร์ ชื่อ ทอเรียม 232 (TH-232) จากแผ่นการ์ดพลังงาน โดยปริมาณรังสีสูงสุดที่วัดได้จากกล่องสินค้าอยู่ที่ประมาณ 27.06 ไมโครซีเวิร์ตต่อชั่วโมง ซึ่งค่าปริมาณรังสีตามธรรมชาติอยู่ที่ประมาณ 0.05 ไมโครซีเวิร์ตต่อชั่วโมง กรณีนี้จึงสูงกว่าค่าปริมาณรังสีในธรรมชาติถึง ประมาณ 541 เท่า ซึ่งหากใช้หรืออยู่ใกล้กับกล่องสินค้าไปรษณียภัณฑ์นี้เป็นเวลานาน อาจทำให้ได้รับปริมาณรังสีเกิดขีดจำกัดการได้รับปริมาณรังสีสำหรับประชาชนที่ 1 มิลลิซีเวิร์ตต่อปี ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อประชาชนที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ที่ใช้การ์ดนี้ตามคำบอกเล่า รวมทั้งเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ เจ้าหน้าที่ศุลกากร และเจ้าหน้าที่อื่นๆที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งพัสดุชิ้นนี้อีกด้วยการ์ดพลังงานนั้นเคยแพร่ระบาดมาครั้งหนึ่งในช่วง ปี 2562 



โดยสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติเคยออกมา เตือนว่าการ์ดนี้เป็นอันตรายต่อประชาชน เพราะพบค่าระดับรังสีสูงกว่าขีดจำกัด ประชาชนไม่ควรมีไว้ครอบครองหากนำไปผสมน้ำดื่ม มีโอกาสเพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็ง ทั้งนี้หากแร่ ทอเรียมเข้าสู่ร่างกายจะก่อให้เกิดการแผ่รังสีต่ออวัยวะภายใน และเกิดอันตรายต่อร่างกายได้ อีกทั้งวัตถุอันตรายดังกล่าว นอกจากจะไม่เกิดประโยชน์หรือคุ้มค่าแล้วยังทำให้ได้รับรังสีโดยไม่จำเป็นอีกด้วย และหากประชาชนที่มีสินค้าดังกล่าวอยู่ มีข้อกังวลใจไม่ทราบว่าจะนำการ์ดดังกล่าวไปกำจัดที่ไหน สามารถประสานไป สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) เพื่อจัดการต่อไป  หากพบเห็น หรือมีบัตรพลังงาน สามารถโทรแจ้งสายด่วนเหตุฉุกเฉินได้ที่หมายเลข 1296 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อทราบแนวทางการดำเนินการให้เกิดความปลอดภัยต่อไป








เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการป้องกันปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย จับหนุ่มหนองคาย พร้อมยาบ้าจำนวน 3.4 หมื่นเม็ด ยาไอซ์ 525 กรัม หลังผู้ต้องหานำยาบ้าจากประเทศเพื่อนบ้านมากระจายจำหน่ายในพื้นที่เมืองหนองคาย

เมื่อวันที่ 11 พ.ค.64  ที่ บริเวณหน้ากองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย พล.ต.ต.กิตติศักดิ์ จำรัสประเสริฐ ผบก.ภ.จังหวัดหนองคาย พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการป้องกันปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม นายคชา หรือเล มานะศิลป์ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 158 หมู่ 5 ต.ค่ายบกหวาน อ.เมืองหนองคาย จ.หนองคาย พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 3.4 หมื่นเม็ด ยาไอซ์ 525 กรัม ปืนพกสั้น 2 กระบอก เครื่องกระสุน จำนวน 50 นัด และรถจักรยานยนต์จำนวน 2 คัน



การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการป้องกันปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย นำโดย พ.ต.อ.สุรกิจ ค้วนเครือ ผกก.สส.ภ.จังหวัดหนองคาย ได้สืบทราบว่า นายคชา มานะศิลป์ ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ในครั้งนี้ มีพฤติกรรมนำยาบ้าจากประเทศเพื่อนบ้าน ที่มีชาวลาวชื่อต้น เป็นคนนำยาบ้ามาส่งให้ตามจุดที่นัดหมาย แล้วนายคชา ก็จะนำยาบ้าไปกระจายขายต่อในเขตอำเภอเมืองคาย จึงได้ติดตามพฤติกรรมมาโดยตลอด จนกระทั่งเวลาประมาณ 15.00 น. ของวันที่ 11 พ.ค.64 เจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการจับกุมนายคชาที่บ้าน ซึ่งนายคชา ยอมรับว่ามีพฤติกรรมกระจายยาบ้าจริง เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในบ้านพบยาบ้า ยาไอซ์ ปืน และเครื่องกระสุน ซุกซ่อนอยู่ภายในบ้าน จึงได้ทำการตรวจยึด พร้อมควบคุมตัวนายคชามาดำเนินคดี

ภายหลังการแถลงข่าวก็ได้ส่งตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ให้กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองคาย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.








วันอังคารที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

จนท.ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง สนธิกำลัง ตรวจยึดจับกุมยาบ้าล็อตใหญ่ต่อเนื่อง 2 วัน ยึดยาบ้า 8.4 ล้านเม็ด ผู้ต้องหา 4 คน มูลค่ากว่า 800 ล้านบาท

วันที่ 11 พ.ค. 64 เวลา 15.30 น. ที่ หน้าหอประชุมประจักษ์ศิลปาคม ศูนย์ราชการจังหวัดหนองคาย พลตรีบุญสิน พาดกลาง ผบ.กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี, พล.ต.ต.กิตติศักดิ์ จำรัสประเสริฐ ผบก.ภ.จ.หนองคาย, นายณัฐวัสส์ วิริยานภาภรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย, พันเอกประภาส อ้อชัยภูมิ เสนาธิการ กกล.สุรศักดิ์มนตรี, พันเอกมงคล หอทอง ผบ.บก.ควบคุมที่ 2 กกล.สุรศักดิ์มนตรี, ร้อยเอกคมกริช จันทสุข ผบ.ร้อยเคลื่อนที่เร็วที่ 2 บก.ควบคุมที่ 2 (ร.13) กกล.สุรศักดิ์มนตรี พร้อมเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง พิสูจน์หลักฐานหนองคาย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมคดียาเสพติดสำคัญ 4 เหตุการณ์ ผู้ต้องหา 4 คน ประกอบด้วย นายขัน, นายใหญ่ นายแหล่ ราษฎรชาวลาว และ น.ส.ณัฐยา ฆ้องมีเสียง อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50 หมู่ 17 ต.โพนสูง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี พร้อมของกลางยาบ้ารวม 8,491,000 เม็ด มูลค่าประมาณ 800 ล้านบาท และรถยนต์กระบะมิตซูบิชิ แบบแค็บ สีขาว ทะเบียน ผบ 1269 อุดรธานี



พลตรีบุญสิน พาดกลาง ผบ.กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี กล่าวว่า การตรวจยึดจับกุมในครั้งนี้ เป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องกัน 4 เหตุการณ์ โดยเหตุการณ์แรก ช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืนวันที่ 9 พ.ค.64 เจ้าหน้าที่ กกล.สุรศักดิ์มนตรี โดยหมวดเคลื่อนที่เร็วที่ 2 กองร้อยเคลื่ิอนที่เร็วที่ 2 ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวจะมีการลักลอบขนยาเสพติดบริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง หมู่ 2 ต.โพนสา อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย และสามารถจับกุมชาวลาว 3 คน พร้อมของกลางยาบ้า 6,401,200 เม็ด ต่อมาเวลา 03.00 น. ได้จับกุม น.ส.ณัฐยา ขณะขับรถยนต์กระบะ ขับรถยนต์เข้ามาจอดบริเวณจุดนัดส่งมอบยาบ้า , เหตุการณ์ที่ 2 เวลาประมาณ 03.00 น. วันที่ 9 พ.ค.64 เจ้าหน้าที่ ตชด.24 ได้ลาดตระเวนพบเรือหางยาวจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาเทียบฝั่งแม่น้ำโขง พื้นที่ หมู่ 2 ต.โพนสา อ.ท่าบ่อ มีการโยนกระสอบ 5 กระสอบ มาวางไว้ จากนั้นมีรถยนต์กระบะสีขาว ขับเข้ามาจอด มีการช่วยกันขนกระสอบขึ้นรถ 5 กระสอบ เจ้าหน้าที่ได้แสดงตัวเข้าตรวจสอบ รถกระบะได้ขับออกจากจุดเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตรวจยึดยาบ้าได้ 2 กระสอบ ประมาณ 840,000 เม็ด



เหตุการณ์ที่ 3 วันที่ 10 พ.ค.64 เวลาประมาณ 06.44 น. ตำรวจ สภ.ท่าบ่อ ได้รับแจ้งจากประชาชนพบวัตถุต้องสงสัย 2 กระสอบ อยู่ข้างถนน จึงได้ทำการตรวจยึด พบเป็นยาบ้า 840,000 เม็ด และเหตุการณ์ที่ 4 วันที่ 10 พ.ค. เวลาประมาณ 14.00 น. ฝ่ายปกครอง อ.ท่าบ่อ ได้รับแจ้งจากประชาชนอีกเช่นกันว่าพบวัตถุต้องสงสัย 2 กระสอบ วางอยู่บริเวณท้ายหมู่บ้านกุดบง ต.บ้านเดื่อ อ.ท่าบ่อ จึงไปตรวจสอบพบเป็นยาบ้า 409,800 เม็ด รวมยาบ้าทั้งหมด 8,491,000 เม็ด ทั้งนี้ทางตำรวจจะมีการสืบสวนขยายผลผู้ร่วมขบวนการ และจะดำเนินการยึดทรัพย์ พร้อมดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มงวดต่อไป






กกล.สุรศักดิ์มนตรี กอ.รมน.ภาค 2 สย.1 ร่วมกับ สพบ.ทภ.2 รุ่นที่ 3 มอบเครื่องมือสนับสนุนการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการแพทย์ป้องกันโควิด-19 ให้กับ รพร.ท่าบ่อ

วันที่ 11 พ.ค. 64 ที่ โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย พลตรี บุญสิน พาดกลาง ผู้บัญชาการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี / ผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 2 ส่วนแยก 1 พร้อมด้วยพันเอก ประภาส อ้อชัยภูมิ เสนาธิการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี , พันเอก มงคล หอทอง ผู้บังคับการกองบังคับการควบคุมที่ 2 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ร่วมกับคณะพัฒนาสัมพันธ์ระดับผู้บริหาร กองทัพภาคที่ 2 รุ่นที่ 3 (สพบ.ทภ.2 รุ่นที่ 3) มอบเครื่องมือสนับสนุนการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการแพทย์ป้องกันโควิด-19 ให้กับโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ ประกอบไปด้วย หน้ากากอนามัย  จำนวน 15,000 ชิ้น , หน้ากาก KN95 จำนวน 100 ชิ้น , สเปรย์แอลกอฮอล์ (100 ml.) 800 ขวด , ชุด PPE 100 ชุด , ชุดกาวน์ 100 ชุด , แอลกอฮอล์ 75 %  100 ลิตร และน้ำดี่ม 100 แพ็ค โดยมีนายแพทย์วัฒนา พารีศรี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลฯ พร้อมด้วยบุคลากรทางการแพทย์ร่วมรับมอบ 



สำหรับการมอบเครื่องมือสนับสนุนการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการแพทย์ป้องกันโควิด-19  ครั้งนี้ เนื้องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกที่ 3 ที่กำลังแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว และขยายวงกว้างในพื้นที่มากขึ้น คณะพัฒนาสัมพันธ์ผู้บริหาร กองทัพภาคที่ 2 รุ่นที่ 3 จึงได้มอบเครื่องมือสนับสนุนการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการแพทย์ป้องกันโควิด-19 ให้กับ กกล.สุรศักดิ์มนตรี เพื่อมอบให้กับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานตามแนชายแดนในพื้นที่จังหวัดหนองคาย  เพื่อเป็นกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ ในห้วงการแพร่ระบาดของโควิด-19










ชาวบ้านออกหาแมงดา เจอกระสอบถูกทิ้งวางอยู่ป่าริมถนน เรียกกำนัน ผู้ใหญ่บ้านไปตรวจสอบ เปิดดูเป็นยาบ้า 2 กระสอบ 69 มัด แจ้งฝ่ายความมั่นคงอำเภอท่าบ่อตรวจสอบนับได้ 409,800 เม็ด คาดแก๊งค้ายาอาจทิ้งหนีความผิดกลัวถูกจับ

วันที่ 11 พ.ค. 64 ที่ ห้องประชุมชั้น 2 ที่ว่าการอำเภอท่าบ่อ จ.หนองคาย นายนวน โทบุตร นายอำเภอท่าบ่อท่าบ่อ พร้อมด้วยนายภูมิพัฒน์ ทยาน ปลัดอำเภองานป้องกันอำเภอท่าบ่อ นายอุทัย นามมัน กำนันตำบลบ้านเดื่อ  นายพิษณุ คำศรี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ต.บ้านเดื่อ เจ้าหน้าที่กองรอย อส.อำเภอท่าบ่อ และฝ่ายปกครองตำบลบ้านเดื่อ ร่วมกันแถลงข่าวตรวจยึดยาบ้าจำนวน 409,800 เม็ด




สำหรับการตรวจยึดครั้งนี้ เมื่อวันที่ 10 พ.ค. 64 เวลาประมาณ 12.00 น. ได้มีชาวบ้านในพื้นที่ตำบลบ้านเดื่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ได้ออกไปหาแมงดา สังเกตุเห็นกระสอบต้องสงสัย 2 กระสอบถูกทิ้งไว้ในป่าริมทาง ซึ่งเป็นเส้นทางเข้าหมู่บ้าน ห่างจากที่ทำการ อบต.บ้านเดื่อ ประมาณ 70 เมตร จึงได้โทรฯแจ้งให้นายพิษณุ คำศรี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ต.บ้านเดื่อ มาตรวจสอบ จึงเดินทางทางไปพร้อมนายอุทัย นามมัน กำนันตำบลบ้านเดื่อ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองตำบลตรวจสอบยังที่รับแจ้ง


ถึงที่เกิดเหตุจึงทำการตรวจกระสอบทั้ง 2 ใบ พบยาบ้า 34 มัดหนึ่งกระสอบ และอีกหนึ่งกระสอบพบยาบ้า 35 มัด รวม 69 มัด จึงแจ้งมายังฝ่ายความมั่นคงอำเภอท่าบ่อเข้าทำการตรวจยึด นำยาบ้าทั้งหมดมาตรวจนับที่กองร้อย อส.อำเภอท่าบ่อ รวมยาบ้าที่ตรวจยึดได้จำนวน 409,800 เม็ด คาดว่ากระสอบบรรจุยาบ้าดังกล่าวน่าจะเป็นของขบวนการขนยาเสพติดข้ามโขง ที่ถูกทหาร กกล.สุรศักดิ์มนตรี จับกุมได้เมื่อวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา และมีขบวนบวนการกลุ่มหนึ่งหนีรอดมาได้ คาดกลัวความผิด แล้วอาจจะทิ้งระหว่างขับรถหนี จากนั้นเจ้าหน้าที่จะนำของกลางทั้งหมด ดำเนินการตามขั้นตอนทางกฏหมายต่อไป




จ.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา" เฉลิมพระเกียรติฯ

สนง.พช.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา...