วันอังคารที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2564

กกล.สุรศักดิ์มนตรี โดย ตชด.244 บูรณาการหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดหนองคาย จับ 3 หนุ่มชาวสระบุรี รับจ้างขนไอซ์ 164 กก.แลกเงิน 3 หมื่น อ้างหารายได้เลี้ยงครอบครัวเนื่องจากตกงานเพราะพิษโควิด-19

วันที่ 22 มิ.ย. 2564 ที่ บริเวณหน้ากองร้อยเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดนที่ 245 หนองคาย  พ.ต.อ.เผ่าภากร  รามนุช  รองผู้บังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค ภาค 2 พร้อมด้วย พ.ต.อ.เพิ่มศักดิ์ ตาตะนันทน์ ผกก.ตชด.24, พ.อ.ศิวดล  ยาคล้าย  รองผู้บังคับการกองบังคับการควบคุมที่ 2 กกล.สุรศักดิ์มนตรี , เจ้าหน้าที่จากกองร้อยเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดนที่ 244  กองร้อยทหารพรานที่ 2106  นรข.สถานีรัตนวาปี  ทหารหมวดเคลื่อนที่เร็วที่ 2 กองบังคับการควบคุมที่ 2 กกล.สุรศักดิ์มนตรี และหน่วยงานความมั่นคงในพี้นที่ ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม นายนิรุตติ วงษ์นาค อายุ 39 ปี, นายสุทิน  ชุ่มเครือบ อายุ 37 ปี และนายโสภณ  คำพรหม อายุ 39 ปี ทั้ง 3 รายเป็นชาว จ.สระบุรี  พร้อมของกลางยาไอซ์ จำนวน 164 กิโลกรัมและรถยนต์ จำนวน 2 คัน ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.วิชิต ปักษา ผบช.ตชด,พล.ต.บุญสิน พาดกลาง ผบ.กกล.สุรศักดิ์มนตรี



การจับกุมครั้งนี้ จากการสืบทราบของเจ้าหน้าที่ ชุดปฏิบัติการการข่าว ตชด.244  จะมีกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ พยายามลับลอบนำเข้ายาเสพติด มาส่งให้กลุ่มผู้ค้าชาวไทยในพื้นที่อำเภอปากคาด จ.บึงกาฬ จึงได้บูรณาการเข้าตรวจสอบบริเวณ สวนยางพาราริมฝั่งแม่น้ำโขง บ้านเวินโดน ต.ปากคาด อ.ปากคาด จ.บึงกาฬ  จนกระทั่งวันที่ 20 มิถุนายน 2564 เวลา ประมาณ 21.30 น.   พบเจ้าหน้าที่ พบรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นปาเจโร่ สีขาวทะเบียน 1กฮ 7682 กรุงเทพมหานคร ต้องสงสัย ขับออกมาจากทางริมฝั่งแม่น้ำโขง  จึงได้ติดตามพบรถยนต์คันดังกล่าวจอดอยู่บริเวณริมถนนสายบ้านรัตนวาปี – บ้านนาชุมช้าง อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย จึงเข้าตรวจสอบไม่พบผู้ใด จึงได้วางกำลังดักซุ่มบริเวณสวนยาพารา  


จากนั้นพบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า ซีวิค สีบรอนซ์เทา ขับมาจอดใกล้รถยนต์คันดังกล่าว  มีชายต้องสงสัย 2 คน เดินมาเปิดประตูรถยนต์คันที่จอดทิ้งไว้ เจ้าหน้าที่ จึงได้แสดงตนเข้าตรวจค้น จากการตรวจค้นรถยนต์ยนต์ปาเจโร่ สีขาว พบกระสอบสีขาวซุกซ่อนอยู่บริเวณท้าย ภายในบรรจุยาไอซ์ 164 กิโลกรัม จึงได้จับกุมผู้ต้องหาและยึดของกลาง มาทำการสอบสวน



จากการสอบสวนผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหารับสารภาพว่า ได้ค่าจ้าง 3 หมื่นบาท ทำครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 อ้างการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตกงานรายได้ไม่เพียงพอเลี้ยงครอบครัว  จึงตัดสินใจรับจ้างขนยาเสพติด เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1(เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนนำตัวมาแถลงข่าว ก่อนส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

ธนารักษ์พื้นที่หนองคาย จัดโครงการ "เปลี่ยนชุมชน เป็นห้องประชุมในที่ราชพัสดุ" เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน ส่งเสริมตลาดสินค้าเกษตรและ OTOP หนองคาย

วันที่ 22 มิ.ย. 2564 ที่ ตลาดสดบ้านเดื่อ ต.บ้านเดื่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย สำนักงานธนารักษ์พื้นที่หนองคาย พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมจัดโครงการ "เปลี่ยนชุมชน เป็นห้องประชุมในที่ราชพัสดุ" โดยมีนางสาวสิริมา วัฒโน รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานในโครงการฯ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำของสังคมและสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานรากตามนโยบายรัฐบาล ด้วยการลงพื้นที่จัดประชุมทุกเดือน ๆ ละ 1 ครั้ง พร้อมเปิดให้เกษตรกร หรือผู้ประกอบการสินค้า OTOP นำสินค้ามาจำหน่ายให้แก่ส่วนราชการที่มาประชุมและประชาชนทั่วไปโดยไม่คิดค่าเช่าที่ เพื่อสร้างอาชีพ สร้างรายได้ และสร้างโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินทุน       





สำหรับในการจัดโครงการฯ ครั้งนี้ เป็นการประชุมผู้บริหารการคลังประจำจังหวัด (ศบจ.) จังหวัดหนองคาย ครั้งที่ 5 / 2564  ในเรื่องผลการจัดโครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการเพิ่มองค์ความรู้ ด้านการเงินการคลังให้แก่นักบริหารหารคลัง ขององค์กรส่วนท้องถิ่นจังหวัดหนองคาย ประจำปีงบประมาณ 2564 , เรื่องดัชนีชี้ภาวะเศรษฐกิจจังหวัดหนองคาย เดือนมิถุนายน 2564 ซึ่งดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจลดลง เนื่องจากสถาณการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVD-19 ซึ่งคาดว่าอนาคตเศรษฐกิจภาพรวมในอีก 6 เดือนข้างหน้า มีทิศทางที่ดีขึ้นจากเดือนก่อน เนื่องจากประชาชนได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไวรัส COVID-19 แล้ว รวมถึงการมีมาตรการเยียวยาส่งเสริมและสนับสนุนเศรษฐกิจจากภาครัฐ และเรื่องการดำเนินงานด้านนโยบายที่สอดรับกับนโยบายรัฐบาล/กระทรวงการคลัง (Top down/Agenda Based) ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 - พฤษภาคม 2564 นอกจากนี้ ยังเปิดโอกาสให้ร้านค้าได้มีส่วนร่วมเสนอความคิดเห็น ในการพัฒนาตลาดแห่งนี้ให้มีความยั่งยืน และเป็นที่สนใจของประชาชนอีกด้วย














วันศุกร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2564

เทศบาลเมืองท่าบ่อ จัดอบรมและทำประชาคมท้องถิ่นเพื่อการจัดทำแผนพัฒนาเทศบาล ประจำปีงบประมาณ 2564 เพื่อรับฟังสภาพปัญหาความต้องการของประชาชนในชุมชน

 

วันที่ 18 มิ.ย. 2564 ที่ หอประชุมเอนกประสงค์เทศบาลเมืองท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นายกิตติศักดิ์ วรรณวิเชษฐ์ นายกเทศมนตรีเมืองท่าบ่อ เป็นประธานเปิดโครงการอบรมและทำประชาคมท้องถิ่นเพื่อการจัดทำแผนพัฒนาเทศบาล ประจำปีงบประมาณ 2564 โดยกองยุทธศาสตร์และงบประมาณ เทศบาลเมืองท่าบ่อ จัดขึ้น เพื่อรับฟังสภาพปัญหาความต้องการของประชาชนในชุมชน และสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมของประขาขนในชุมชน ร่วมคิด ร่วมทำ และแก้ปัญหาร่วมกัน เพื่อนำไปสู่การพัฒนาท้องถิ่นอย่างยั่งยืน ทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐาน ด้านเศรษฐกิจและสังคม ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยมีนายประดับ สังฆะมณี ปลัดเทศบาลเมืองท่าบ่อ กล่าวรายงาน มีนายมนูญ อิสิ ประธานสภาเทศบาลเมืองท่าบ่อ  นายทวีพร จิตกูลสัมพันธ์ รองนายกเทศมนตรีฯ, นายอนันท์ ศรีพา รองนายกเทศมนตรี, นายวิชิต หน้นคำ รองนายกเทศมนตรีฯ พร้อมสมาชิกสภาเทศบาล, ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ประจำกองยุทธศาสตร์และงบประมาณฯ ร่วมชี้แนะและรับฟังความต้องการของชุมชนในครั้งนี้



สำหรับการจัดทำโครงการฯ ดังกล่าว เพื่อเป็นไปตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย  ว่าด้วยการจัดทำแผนพัฒนาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2548 แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2561 กำหนดให้เทศบาลต้องจัดทำแผนพัฒนาเทศบาล  อันเป็นแผนพัฒนาทั้งด้านเศษฐกิจ สังคม ของเทศบาล ทั้งนี้เพื่อเป็นการพัฒนา และแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน โดยในกระบวนการจัดทำแผนพัฒนาทศบาลนั้น  เพื่อให้แผนพัฒนาเทศบาลเป็นเครื่องมือในแก้ไขปัญหาในชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ  สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่ 




เทศบาลเมืองท่าบ่อ โดยกองยุทธศาสตร์และงบประมาณ จึงต้องส่งเสริมให้คนในชุมชนมีส่วนร่วมในกระบวนการจัดทำแผน โดยการจัดประชุมประชาคม ให้ชุมชนได้เกิดกระบวนการเรียนรู้ร่วมกันของคนในชุมชน ที่ร่วมกันคิดร่วมกันต้นหา ปัญหา สาเหตุของปัญหา และความต้องการในการแก้ไขปัญหา โดยการค้นหาศักยภาพของชุมซนในท้องถิ่น  นำมาผ่านกระบวนการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย จนนำไปสู่การกำหนดวิสัยทัศน์ ยุทธศาสตร์การพัฒนาท้องถิ่นที่ตอบสนองต่อวัตถุประสงค์ ในการพัฒนาของท้องถิ่น ตลอดจนการแปลงยุทธศาสตร์ไปสู่แผนงาน โครงการอันจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาและสนองตอบความต้องการของประชาชนในท้องถิ่นได้อย่างแท้จริง



การอบรมและประซาคม ของเทศบาลเมืองท่าบ่อในครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมการประชุมประกอบด้วย คณะกรรมการชุมชน, กลุ่ม อสม., กลุ่มสตรี, ผู้ทรงคุณวุฒิ, คณะกรรมการพัฒนาเทศบาล, สมาชิกสภาเทศบาล, ส่วนราชการในพื้นที่ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้ง คณะผู้บริหารเทศบาล, พนักงาน, เจ้าหน้าที่ รวม 100 คน ที่จะได้มาร่วมพลังทางความคิด กลั่นกรอง ค้นหาทิศทาง พร้อมทั้งเสนอแนวทางเพื่อกำหนดอนาคตของท้องถิ่นด้วยตัวเองให้ยั่งยืนต่อไป











วันพฤหัสบดีที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2564

ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดหนองคาย รวบแก๊งค้ากัญชา จับผู้ต้องหาได้ 4 คน พร้อมของกลางกัญชาหนัก 142 กิโลกรัม สารภาพสั่งซื้อจากเพื่อนบ้าน สปป.ลาว นำมาเพื่อขายออนไลน์

วันที่ 16 มิ.ย. 2564 ที่หน้ากองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย พล.ต.ต.กิตติศักดิ์ จำรัสประเสริฐ ผบก.ภ.จ.หนองคาย, พ.ต.อ.สุรกิจ ค้วนเครือ ผกก.สส.ภ.จ.หนองคาย พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม นายศตวรรษ ศิริวัฒน์ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51 หมู่ 3 ต.หาดคำ อ.เมืองหนองคาย, นายไสว ศรีสุระ อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72 หมู่ 3 ต.โพธิ์ชัย อ.เมืองหนองคาย, นายจุลลินธ์ ศรีสงคราม อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59 หมู่ 3 ต.โพธิ์ชัย และนายธนาดล เพ็งไธสง อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41 หมู่ 5 ต.กวนวัน อ.เมืองหนองคาย พร้อมของกลางกัญชาแห้งอัดแท่ง 142 แท่ง น้ำหนักประมาณ 142 ก.ก.อาวุธปืนพกสั้น 1 กระบอก และเครื่องกระสุนปืน 9 นัด



พล.ต.ต.กิตติศักดิ์ จำรัสประเสริฐ ผบก.ภ.จ.หนองคาย กล่าวว่า พ.ต.อ.สุรกิจ ค้วนเครือ ได้สืบทราบว่ามีขบวนการค้ากัญชาในพื้นที่รับผิดชอบ จึงวางแผนจับกุม โดยเมื่อวันที่ 15 มิ.ย.64 เวลาประมาณ 14.30 น. ตำรวจจับกุมนายศตวรรษ ได้พร้อมของกลางกัญชา 70.5 กรัม ซื้อนายศตวรรษซัดทอดว่ารับมาจากนายไสว จึงติดตามจับกุมนายไสวได้ที่บ้าน เจอกัญชาของกลาง 93 กรัม นายไสวก็ซัดทอดต่อว่ารับมาจากนายจุลลินธ์อีกทีหนึ่ง ตำรวจตามไปจับกุมนายจุลลินธ์ ได้ที่บ้านพัก โดยพบกัญชาซุกซ่อนอยู่ในบ้านพัก 4 กระสอบ น้ำหนักประมาณ 140 ก.ก. โดยนายจุลลินธ์ รับสารภาพว่าเป็นแหล่งพักกัญชาให้กับนายธนาดล แต่ก็เป็นคนขายด้วยเช่นกัน




จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ขยายผลจับกุมนายธนาดลได้ที่บ้านพักพร้อมของกลางกัญชา 2.2 ก.ก. อาวุธปืนพกสั้น 1 กระบอก และเครื่องกระสุนปืน 9 นัด  จากการสอบสวนนายธนาดล ให้การรับสารภาพว่า ตนได้ติดต่อซื้อกัญชาจากเพื่อนชาวลาวครั้งละประมาณ 100 ก.ก. ๆ ละ 3,000 บาท จากนั้นนำมาพักไว้ที่บ้านของนายจุลลินธ์ โดยจะขายออนไลน์ ขีดละ 1,500 บาท มีลูกค้าตามต่างจังหวัดสั่งซื้อ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองเพื่อนจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย,เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) โดยผิดกฎหมาย และมีอาวุธเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน คุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองคาย และ สภ.เวียงคุก ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.





จ.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา" เฉลิมพระเกียรติฯ

สนง.พช.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา...