วันเสาร์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2564

รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย พร้อมชมรมแม่บ้านมหาดไทยฯ ติดตามเยี่ยมนักเรียนทุนพระราชทานมูลนิธิร่วมจิตต์น้อมเกล้าฯ เพื่อเยาวชน ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ในพื้นที่จังหวัดหนองคาย

วันที่ 14 ส.ค. 2564 นายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย มอบหมายให้ นางสาวสิริมา วัฒโน รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย, นางทัศนาวัลย์ วิริยานภาภรณ์ รองประธานชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดหนองคาย พร้อมชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดหนองคาย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ติดตามเยี่ยมนักเรียนทุนพระราชทาน มูลนิธิร่วมจิตต์น้อมเกล้าฯ เพื่อเยาวชน ในพระบรมราชินูปถัมภ์  พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ ในพื้นที่อำเภอหนองคาย, อำเภอสระใคร, อำเภอท่าบ่อ, อำเภอโพธิ์ตาก, อำเภอสังคม และอำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย จำนวน 13 คน เพื่อติดตามแนวทางการกำกับและการช่วยเหลือแก่นักเรียน จากทางคณะผู้บริหารโรงเรียน ครู อาจารย์ ซึ่งได้มีการดูแล เอาใจใส่ ให้คำแนะนำและจัดระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนเป็นอย่างดี เพื่อให้นักเรียนสามารถเรียนและดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุข 



ด้วยมูลนิธิร่วมจิตต์น้อมเกล้าฯ เพื่อเยาวชน ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ได้มอบทุนการศึกษา เพื่อช่วยเด็กและเยาวชน รวมทั้งสามเณร มีความประพฤติดียากไร้ ที่ขัดสนจากหมู่บ้านต่างๆ ทั่วประเทศ ให้ได้มีโอกาสรับการศึกษาและการอบรมคุณธรรมอย่างต่อเนื่อง จนสามารถประกอบอาชีพที่สุจริตได้ตามอัตภาพของตน เพื่อจะได้เป็นกำลังสำคัญช่วยกันรับช่วงสืบทอด รักษาเอกราช วัฒนธรรมและพัฒนาประเทศชาติให้เจริญรุ่งเรืองสืบไปในอนาคต



ทั้งนี้จังหวัดหนองคาย โดยสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดหนองคาย ในฐานะผู้แทนกระทรวงศึกษาธิการ ได้ดำเนินการติดตามดูแลนักเรียนทุนพระราชทานฯ ในด้านการเรียน ความประพฤติ การใช้จ่ายเงินทุนพระราชทานฯ ตลอดจนช่วยเหลือกรณีนักเรียนทุนพระราชทานฯและครอบครัวต้องเผชิญปัญหาในด้านต่างๆ ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย








วันศุกร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2564

ป.ป.ช.จ.หนองคาย จัดอบรมเพิ่มศักยภาพเครือข่ายเฝ้าระวังการทุจริตจังหวัดหนองคาย เพื่อร่วมกันช่วยกันดูแลสอดส่องและสร้างจิตสำนึกต้านการทุจริต

 


 วันที่ 13 ส.ค. 2564 ที่ อาคารเอนกประสงค์เทศบาลเมืองท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นายนวน โทบุตร นายอำเภอท่าบ่อ เป็นประธานเปิดโครงการอบรมเพิ่มศักยภาพเครือข่ายเฝ้าระวังการทุจริตจังหวัดหนองคาย ของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จังหวัดหนองคาย จัดขึ้น




นายปพน โคตรจรัส หัวหน้าโครงการเพิ่มศักยภาพเครือข่ายเฝ้าระวังการทุจริตจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือสำนักงาน ป.ป.ช. ได้จัดตั้งชมรม STRONG-จิตพอเพียงต้านทุจริต ตามแนวคิด STRONG Model เพื่อร่วมกันช่วยกันดูแลสอดส่องและสร้างจิตสำนึกต้านการทุจริต  สามารถแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนรวมและผลประโยชน์ส่วนตัว รวมถึงการสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชนเพื่อต่อต้านการทุจริต  นอกจากนี้สำนักงาน ป.ป.ช. ยังตั้งกองทุนป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เพื่อให้การสนับสนุนงบประมาณแก่ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ที่จะของบประมาณมาดำเนินโครงการที่จะสนับสนุนการดำเนินงานของ สำนักงาน ป.ป.ช. ในการประชาสัมพันธ์ให้ความรู้การป้องกันการทุจริตแก่ภาคประชาชน



กองทุน ป.ป.ช. จึงให้ดำเนินโครงการเพิ่มศักยภาพเครือข่ายเฝ้าระวังการทุจริตจังหวัดหนองคาย ขึ้น โดยมีผู้เข้ารับการอบรมจากอำเภอท่าบ่อ จำนวน 50 คน และอำเภอโพธิ์ตาก จำนวน 50 คน รวม 100 คน มีวิทยากรบรรยายจากสำนักงาน ป.ป.ช.จังหวัดหนองคาย บรรยายให้ความรู้สร้างความเข้าใจ แก่ผู้เข้าร่วมอบรมดังกล่าว





วันพุธที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2564

ผู้ว่าฯหนองคาย ส่งมอบโรงพยาบาลสนามอำเภอศรีเชียงใหม่ ขนาด 40 เตียง เพื่อรองรับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19

วันที่ 11 ส.ค. 2564 ที่ โรงพยาบาลสนามอำเภอศรีเชียงใหม่ ณ โรงพลศีกษาเทศบาลตำบลศรีเชียงใหม่ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย นายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานเปิดและส่งมอบโรงพยาบาลสนาม โดยมีนายทศพล สินยบุตร นายอำเภอศรีเชียงใหม่, นายภุชงค์ ชานันโท นายกเทศมนตรีตำบลศรีเชียงใหม่, นพ.ชัชวาลย์ ฤทธิ์ฐิติ นายแพทย์สาธารณสุข จ.หนองคาย, นพ.แหลมทอง แก้วตระกูลพงษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศรีเชียงใหม่, พ.ต.อ.สันติ บุญชู ผกก.สภ.ศรีเชียงใหม่ รวมทั้งคณะผู้บริหารเทศบาลตำบลศรีเชียงใหม่, บุคคลากรทางการแพทย์ ,เจ้าหน้าที่สาธารณสุขประจำอำเภอ ตลอดจนคณะหัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมพิธีส่งมอบ และร่วมกันตรวจสอบความพร้อมและเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ




ทั้งนี้โรงพยาบาลสนามแห่งนี้ได้ปรับปรุงอาคารโรงพลศึกษาฯ ที่ได้รับการสนับสนุนจากเทศบาลตำบลศรีเชียงใหม่ ให้เป็นโรงพยาบาลสนาม ประจำอำเภอ เพื่อรองรับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ขนาด 40 เตียง มีการกั้นแยกห้องชาย/หญิงที่ชัดเจน มีพัดลมขนาดใหญ่เป็นระบบระบายอากาศทั้งอาคาร มีการติดตั้งระบบไฟฟ้าไว้ให้ผู้ป่วยได้ใช้งานเตียงละ 1 จุดพร้อมกับพัดลม 1 เครื่อง มีระบบอินเทอร์เน็ตและระบบติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่แพทย์ พยาบาล มีการบริหารจัดการขยะติดเชื้อที่เจ้าหน้าที่จะมีการจัดเก็บเพื่อทำลายทุกวัน ส่วนระบบรักษาความปลอดภัยจะมีระบบกล้องวงจรปิดและเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกตลอด 24 ชั่วโมง














ศุลกากรหนองคาย ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวบนายหน้าค้าไม้เถื่อน ลอบขนไม้ประดู่-ไม้ชิงชันข้ามประเทศ มูลค่ากว่า 2 ล้านบาท

วันที่ 10 ส.ค. 2564 ที่ด่านศุลกากรหนองคาย พ.ต.อ.ณรัชต์พล เลิศรัชตะปภัสร์ นายด่านศุลกากรหนองคาย พร้อมเจ้าหน้าที่ศุลกากร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม นายปรีชา แดนมะโฮง อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 45 หมู่ 7 ต.โนนสมบูรณ์ อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น ของกลาง รถยนต์กระบะสีบรอนด์ มีหลังคาตู้ทึบ ยี่ห้อ โตโยต้า ไทเกอร์ ทะเบียน บว 2263 พิษณุโลก ไม้ชิงชัน 14 ท่อน และไม้ประดู่ 19 ท่อน รวม 33 ท่อน มูลค่าไม้ของกลางประมาณ 2 ล้านบาท



การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรหนองคาย ได้รับแจ้งจากสายลับ ว่าจะมีการลักลอบขนไม้หวงห้ามออกนอกราชอาณาจักร ช่วงบริเวณ อ.โพนพิสัย – อ.รัตนวาปี โดยใช้รถยนต์กระบะโตโยต้า ไทเกอร์ ทะเบียน บว 2263 พิษณุโลก เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนและปราบปรามด่านศุลกากรหนองคาย จึงได้ประสานกับ นรข. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามและตรวจสอบ



จนกระทั่งเวลาประมาณ 19.00 น. ของวันที่ 9 ส.ค. 2564 เจ้าหน้าที่พบรถกระบะตรงตามที่ได้รับแจ้ง ขับอยู่บนถนนโพนพิสัย - รัตนวาปี ช่วงตำบลกุดบง อ.โพนพิสัย กำลังมุ่งหน้าไปยัง อ.รัตนวาปี จึงได้แสดงตัวและขอตรวจค้น โดยมีนายปรีชา เป็นคนขับรถ ตรวจสอบหลังกระบะพบไม้ชิงชัน และไม้ประดู่ จำนวนดังกล่าว ซุกซ่อนอยู่ ซึ่งนายปรีชาไม่มีเอกสารการครอบครองไม้มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ จึงได้ทำการจับกุมและยึดของกลางไว้



จากการสอบสวนนายปรีชา ให้การว่า ตนเป็นนายหน้าค้าไม้พะยูงมาก่อน และเคยถูกจับดำนินคดีเกี่ยวกับไม้พะยูงมาแล้ว 2 ครั้ง จากนั้นตนเองได้เข้าไปทำงานที่กรุงเทพ แต่พอมีโรคโควิด-19 ระบาด จึงเดินทางกลับมาหาทำงานเป็นนายหน้าค้าไม้ในเขต จ.หนองคาย โดยเช่าบ้านอยู่ในพื้นที่ อ.โพนพิสัย จากนั้นจะนำไม้มาจากโรงไม้แถวหมู่บ้านหนองปลาไหล อ.โพนพิสัย ซึ่งในครั้งนี้ตนจะนำไม้ชิงชันและไม้ประดู่ โดยส่วนหนึ่งเป็นไม้ของตนเองและอีกส่วนหนึ่งเป็นของนายทุนฝั่งลาว อีกทั้งรถที่ใช้บรรทุกไม้ก็เป็นของนายทุนฝั่งลาวซื้อไว้ให้ตนใช้ขนไม้ โดยจะนำไม้ไปในพื้นที่ อ.รัตนวาปี ก่อนจะนำลงเรือข้ามแม่น้ำโขงไปประเทศเพื่อนบ้าน 

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งความผิดฐานพยายามลักลอบส่งออก ไม้หวงห้าม ตามมาตรา 242 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 และ พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 48,69 และ 70 จากนั้นจะนำตัวผู้ต้องหาและของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.โพนพิสัย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จ.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา" เฉลิมพระเกียรติฯ

สนง.พช.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา...