วันอังคารที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

เจ้าหน้าที่ นรข.สังคม, ฝ่ายปกครอง, ทหาร, ตำรวจ สกัดจับแก๊งขนมาลีฮวนน่า 12 กระสอบ ใส่เรือหางยาวแล่นข้ามโขงขึ้นฝั่งไทยใกล้กระบะต้องสงสัย เห็นเจ้าหน้าที่เคลื่อนไหว รีบบีบแตรขับรถเผ่นหนีไปได้

วันที่ 16 พ.ย.2564 ที่ สถานีเรือสังคม อ.สังคม จ.หนองคาย น.อ.ราฆพ เทวะประทีป ผบ.นรข.เขตหนองคาย, นายสมควร ใจซื่อ นายอำเภอสังคม, ร.อ.ธนกร ฤทธิ์จอหอ หัวหน้าสถานีเรือสังคม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอสังคม, หมวดสกัดกั้น ที่ 4 กองร้อยสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด บก.ควบคุมที่ 2 (ร.13) กกล.สุรศักดิ์มนตรี, หน่วยเฉพาะกิจ ตชด.ที่ 24 กกล.สุรศักดิ์มนตรี, กองร้อยทหารพราน 2104 หน่วยเฉพาะกิจทหารพราน 21 กกล.สุรศักดิ์มนตรี, ตำรวจน้ำศรีเชียงใหม่, ตำรวจสภ.สังคม และหน่วยงานที่เกี่ยวขัอง ร่วมกันแถลงข่าวการตรวจยึดกัญชาแห้งอัดแท่ง 480 แท่ง น้ำหนักประมาณ 480 กิโลกรัม ได้ที่บริเวณ บ.ปากโสม ต.ผาตั้ง อ.สังคม จ.หนองคาย




การตรวจยึดในครั้งนี้ เรือเอกธนกร ฤทธิ์จอหอ หัวหน้าสถานีเรือสังคม ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่าจะมีการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในประเทศ บริเวณบ้านปากโสม ต.ผาตั้ง อ.สังคม จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นได้สนธิกำลังหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ จัดชุดหาข่าวเชิงลึกและซุ่มเฝ้าตรวจตามจุดเสี่ยง จนกระทั่งเวลาประมาณ 19.20 น.วันที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่พบเรือหางยาว 1 ลำ มีชายฉกรรจ์นั่งมาในเรือ 2 คน ภายในเรือบรรทุกสิ่งของเต็มลำเรือข้ามแม่น้ำโขง มุ่งหน้ามายังฝั่งไทย แล้วช่วยกันขนกระสอบสีดำมาวางไว้บนฝั่ง



ในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้สังเกตเห็นรถยนต์กระบะสีขาว ไม่ทราบแผ่นป้ายทะเบียน ติดเครื่องอยู่ในบริเวณใกล้เคียง และเห็นเจ้าหน้าที่กำลังเคลื่อนเข้าหา  ก็ได้รีบขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกับบีบแตร จากนั้นก็มีเสียงเครื่องยนต์เรือขับออกไปจากบริเวณที่เกิดเหตุทันที




จากนั้นได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ พบถุงพลาสติกสีดำ จำนวน 12 กระสอบ อยู่ข้างป่าริมตลิ่งแม่น้ำโขง เปิดดูภายในกระสอบ พบเป็นกัญชาแห้งอัดแท่ง จำนวน 480 แท่ง น้ำหนักประมาณ 480 กิโลกรัม ซึ่งคาดว่าเตรียมลำเรียงส่งเข้าพื้นที่ตอนในของประเทศไทย  หลังแถลงข่าวก็จะได้นำของกลางทั้งหมด ส่ง สภ.สังคม เพื่อดำเนินการทางคดีต่อไป










วันจันทร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

หมวดสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดที่ 3 บก.ควบคุมที่ 2 (ร.13) กกล.สุรศักดิ์มนตรี สนธิกำลังหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่สกัดแก๊งยาเสพติดข้ามชาติ ขนยาบ้า 3.16 แสนเม็ด ใส่เรือหางยาวแล่นข้ามแม่น้ำโขงขึ้นฝั่งไทย แต่ผู้ต้องหาอาศัยความมืด กระโดดน้ำหนีไปได้หวุดหวิด

วันที่ 14 พ.ย. 2564 ที่ หมวดสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดที่ 3 กองบังคับการควบคุมที่ 2 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี (กรมทหารราบที่ 13) พล.ต.ณรงค์ สวนแก้ว ผบ.กกล.สุรศักดิ์มนตรี มอบหมายให้ พ.อ.ปฎัวัติ ชื่นศรี รองผู้บังคับการกองบังคับการควบคุมที่ 2 กกล.สุรศักดิ์มนตรี(กรมทหารราบที่ 13)  เป็นผู้แทนร่วมกับ น.อ.ราฆพ เทวประทีบ ผบ.นรข.เขตหนองคาย พ.ต.อ.เตชรัฐ ประทุมชาติ ผกก.สภ.บ้านเดื่อ, น.ท.สุรไกร รัตนกุสุมภ์ รักษาราชการหัวหน้า สน.เรือหนองคาย, พ.ต.พิมล  ประดิษฐ์ด้วง หัวหน้า ชรต.กอ.รมน.จ.หนองคาย และฝ่ายปกครองอำเภอเมืองหนองคาย แถลงผลการตรวจยึดยาบ้า จำนวน 316,000 เม็ด


การตรวจยึดครั้งนี้ ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ณรงค์  สวนแก้ว ผบ.กกล.สุรศักดิ์มนตรี, พล.ต.ต.พุฒิพงศ์ มุสิกูล ผบก.ภ.จว.หนองคาย,พ.อ.จักรพงษ์  โพธิ์นาแค ผบ.บก.ควบคุมที่ 2, น.อ.ราฆพ เทวประทีบ ผบ.นรข.เขตหนองคาย ,พ.ต.อ.เตชรัฐ ประทุมชาติ ผกก.สภ.บ้านเดื่อ


เนื่องจากเมื่อวันที 13 พ.ย.64 ร.อ.ธีระพล  ทัศพงษ์  ผบ.ร้อย สกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดที่ 3 บก.ควบคุมที่ 2 กกล.สุรศักดิ์มนตรี ได้รับแจ้งจากสายว่า จะมีการลักลอบส่งยาเสพติดในพื้นที่ บ้านหินโงม หมู่ 2 ต.หินโงม อ.เมือง จ.หนองคาย  จึงรายงานให้ พ.อ.ปฎัวัติ  ชื่นศรี รองผู้บังคับการกองบังคับการควบคุมที่ 2  ทราบ จากนั้นจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหาร หมวดสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดที่ 3  ได้ทำการลาดตระเวนในภารกิจเฝ้าตรวจชายแดน  ตามนโยบายของ พล.ต.ณรงค์ สวนแก้ว ผบ.กกล.สุรศักดิ์มนตรี พอมาถึงบริเวณดังกล่าว พบเรือและมีชายต้องสงสัยนั่งมาในเรือ 4 คน ขับมาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน มุ่งหน้ามายังฝั่งประเทศไทย จากนั้นได้ดับเครื่องยนต์ปล่อยให้เรือไหลเข้ามาจอดที่ฝั่งไทย จากนั้นมีชาย 3 คน ได้นำถุงดำต้องสงสัยขึ้นมาวางไว้บนฝั่ง ท่าทางมีพิรุธและอีกคนได้โทรศัพท์เชื่อว่าน่าจะโทรประสานกับผู้มารับยาเสพติด เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวขอตรวจสอบ เมื่อทั้ง 3 คน เห็นเจ้าหน้าที่ตกใจวิ่งเข้าป่าและกระโดดลงน้ำอาศัยความมืดหลบหนีไปได้ ส่วนคนที่อยู่ในเรือได้ติดเครื่องเรือแล้วขับมุ่งหน้าไปยังฝั่งประเทศเพื่อนบ้านอย่างรวดเร็ว ขณะนั้นเจ้าหน้าที่ทหารพบรถยนต์กะบะไม่ทราบยี่ห้อและหมายเลขทะเบียนขับออกจากพื้นที่ไปอย่างรวดเร็ว




เจ้าหน้าที่จึงได้ เข้าตรวจสอบพื้นที่ พบถุงดำต้องสงสัย จำนวน 1 ถุง จึงได้เปิดดูพบภายในบรรจุยาบ้า จึงได้ตรวจยึดและนำมาที่หมวดสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดที่ 3 กองบังคับการควบคุมที่ 2 เพื่อตรวจนับอย่างละเอียด นับรวมได้จำนวน 316,000 เม็ด ก่อนนำของกลาง มาแถลงข่าวและส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านเดื่อ อ.เมืองหนองคาย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ฤาษีลภ-ปวีณา//จ.หนองคาย

วันเสาร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

จ.หนองคาย เข้าสู่ฤดูหนาว นักท่องเที่ยวเริ่มเดินทางสัมผัสอากาศหนาว ชมทะเลหมอก และชื่นชมความสวยงามของธรรมชาติบนภูสูง แต่ต้องผิดหวังเล็กน้อย ทะเลหมอกบนสกายวอร์ควัดผาตากเสื้อและผาชมหมอก เมฆมาไม่เต็มพื้นที่

วันที่ 13 พ.ย. 2564 บรรยากาศการท่องเที่ยวในจังหวัดหนองคาย หลังเปิดเมือง "หนองคายสบายดี Sandbox" มาได้ 13 วัน มีนักท่องเที่ยวทยอยเดินทางมาท่องเที่ยวทางธรรมชาติในพื้นที่มีความคึกคักมากขึ้น  จากประชาชนและนักท่องเที่ยวชาวไทย ที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด เพื่อชมความสวยงามของธรรมชาติบนขุนเขา และเพื่อสัมผัสอากาศหนาวเย็น ชมทะเลหมอก 



โดยจุดชมวิวที่ฮิตที่สุดของนักท่องเที่ยว  ก็คือ วัดผาตากเสื้อ ต.ผาตั้ง อ.สังคม โดยเป็นวัดที่มีสกายวอร์คพื้นกระจกใส เป็นจุดชมวิวตั้งอยู่บนเขา ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 500 เมตร และวันนี้ประชาชน และนักท่องเที่ยวที่ขึ้นมาวัด ต่างผิดหวังเล็กน้อย เพราะทะเลหมอกมาไม่เต็ม แต่ก็ยังได้สัมผัสธรรมชาติสวยๆ สองฝั่งแม่น้ำโขงไทย-ลาว สุดลูกหูลูกตา ซึ่งทางวัดได้วางมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเข้มงวด โดยทุกคนต้องผ่านการตรวจอุณหภูมิร่างกาย และมีถุงคลุมรองเท้าพลาสติกหนาอย่างดีสีฟ้า ให้ทุกคนสวมใส่ก่อนเดินขึ้นสกายวอร์ค เพื่อป้องกันเชื้อ ในราคาคู่ละ 20 บาท รายได้มอบให้แก่วัดเพื่อเป็นการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา

 




และไม่ไกลกันนัก ยังจุดมีชมวิวอีกแห่งที่อยู่ในตำบลเดียวกัน คือ "ผาชมหมอก" อยู่ในพื้นที่บ้านดงต้อง มีลักษณะเป็นภูผาสูงชัน มองเห็นธรรมชาติและภูเขาน้อยใหญ่สลับกันสวยงาม เป็นอีกหนึ่งแห่งที่นักท่องนิยมชมชอบ เพราะรถทุกชนิดสามารถเดินทางขึ้นไปถึงได้อย่างสะดวก เพื่อชมแสงแรกของวัน พระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้า และที่สุดประทับใจ ได้ชมทะเลหมอก ถึงจะไม่หนา แต่สวยงามมาก สร้างความตื่นเต้นแก่ทุกคนที่ขึ้นมาครั้งนี้ ถือว่าเป็นความสวยงามที่สุด รับฤดูหนาวปีนี้ที่มาถึง และกำลังเริ่มต้น 




ทั้งนี้ อำเภอสังคม เป็น 1 ใน 4 อำเภอทางตอนเหนือของจังหวัดหนองคาย ที่เป็นอำเภอนำร่องเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยว ร่วมกับอำเภอเมืองหนองคาย, อำเภอท่าบ่อ และอำเภอศรีเชียงใหม่ ภายใต้ชื่อ "หนองคายสบายดี Sandbox" การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพอย่างปลอดภัย และยังเป็นการท่องเที่ยววิถีชีวิตลุ่มน้ำโขง วิถีชุมชน ชมธรรมชาติ เชื่อมโยงกับการพัฒนาเมืองผู้สูงอายุ เพื่อส่งเสริมการค้าขายชายแดน และการรักษาพยาบาล 



โดยเฉพาะอำเภอสังคม ช่วงเทศกาล High Season หรือช่วงเข้าสู่ฤดูหนาวอย่างนี้ จะมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้าพื้นที่เพื่อสัมผัสอากาศหนาว และชมทะเลหมอก ทั้งในพื้นที่ตำบลผาตั้ง มีสกายวอร์ควัดผาตากเสื้อ, ผาชมหมอก และในตำบลบ้านม่วง มีภูหนอง, ภูห้วยอิสัน และภูผาดัก อีกทั้งอำเภอสังคมยังมีธรรมชาติสวยๆ แหล่งท่องเที่ยวธรรมขาติอีกมากมาย สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี





รพ.ศรีเชียงใหม่ บริการฉีดวัคซีนแอสตราฯ เข็มแรก และกระตุ้นเข็ม 3 คนได้ "ซิโนแวค" 2 เข็ม แบบ Walk-in มีประชาชนเดินทางเข้ามารับบริการฉีดวัคซีนอย่างต่อเนื่อง

วันที่ 13 พ.ย. 2564 ที่ ห้องประชุมจามจุรี โรงพยาบาลศรีเชียงใหม่ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ซึ่งเปิดเป็นศูนย์บริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 นายทศพล สินยบุตร นายอำเภอศรีเชียงใหม่ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมศูนย์บริการฉีดวัคซีนฯ ของโรงพยาบาลศรีเชียงใหม่ พร้อมให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ที่มาให้บริการประชาชน รวมทั้งให้กำลังใจพี่น้องประชาชนที่มารับการฉีดวัคซีนดังกล่าว โดยมี นพ.แหลมทอง แก้วตระกูลพงษ์ ผอ.โรงพยาบาลศรีเชียงใหม่ พร้อมด้วยนายอรรคเดช บทมาตย์ รองสาธารณสุขอำเภอศรีเชียงใหม่(รักษาราชการแทนสาธารณสุขอำเภอฯ) และเจ้าหน้าที่แพทย์ พยาบาล รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ



โดยวันนี้โรงพยาบาลศรีเชียงใหม่ ได้เร่งดำเนินการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนทั่วไป ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ทั้งคนไทยและต่างชาติที่อาศัยอยู่ในเขตอำเภอศรีเชียงใหม่ เนื่องจากยังเป็นพื้นที่ระบาด และจะต้องเร่งฉีดวัคซีนให้กับประชาชนให้ได้เกินกว่าร้อยละ 70 เพื่อพร้อมรับนักท่องเที่ยว โดยได้ดำการปรับสูตรฉีดวัคซีนสูตรไขว้สูตรที่ 2 ตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดหนองคาย เป็น"แอสตร้าเซนเนก้า" เข็มแรก และตามด้วย "ไฟเซอร์" เข็มที่ 2 ห่างกัน 8 สัปดาห์ อีกทั้งยังให้บริการฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 เงื่อนไขต้องเป็นผู้เคยได้รับวัคซีน "ซิโนแวค" เข็มที่ 1 และ 2 จากโรงพยาบาลศรีเชียงใหม่ จะได้รับวัคซีน "แอสตร้าเซนเนก้า" เป็นเข็มกระตุ้นเข็มที่ 3 



โดยมีประชาชนเข้ารับวัคซีนเข็มแรกแอสตร้าเซนเนก้า จำนวน 240 คน และประชนเข้ารับวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 จำนวน 60 คน นอกจากนี้ในวันเวลาราชการ ยังได้จัดหน่วยฉีดวัคซีนเคลื่อนที่ออกให้บริการประชาชนในพื้นที่ห่างไกลและมีการเดินทางที่ยากลำบากตามหมู่บ้าน/ชุมชน เพื่อเพิ่มโอกาสให้ประชาชนในพื้นที่สามารถเข้าถึงวัคซีนได้มากขึ้นอีกด้วย







จ.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา" เฉลิมพระเกียรติฯ

สนง.พช.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา...