โรงเรียนเทศบาลเมืองท่าบ่อ(ท.1) นำเด็กนักเรียนระดับปฐมวัย เรียนรู้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ตามยุทธศาสตร์การส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีคุณธรรมจริยธรรมและลักษณะอันพึงประสงค์

วันที่ 7 ก.พ.2565 ที่ ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง บ้านทุ่งศิลป์ครูแดง ต.น้ำโมง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นางรัตติยา ณ หนองคาย รองผู้อำนวยการฯ รักษาการผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาลเมืองท่าบ่อ(ท.1) พร้อมด้วยคณะครูและบุคลากรระดับชั้นอนุบาล 1-3 ได้จัดโครงการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่โรงเรียนเทศบาลเมืองท่าบ่อ(ท.1) ระดับปฐมวัย ตามยุทธศาสตร์การส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีคุณธรรมจริยธรรมและลักษณะอันพึงประสงค์ สอดคล้องกับกลยุทธ์การส่งเสริมการเรียนรู้สำหรับเด็กปฐมวัย โดยมีครูแดงบ้านศิลป์ไทย และครูเบิ้มเติมศิลป์ ร่วมให้การต้อนรับ พร้อมพาคณะครูและน้องๆหนูๆ อนุบาล เดินชมพืช ผัก ผลไม้ และภาพวาด 3 มิติ ภายในพื้นที่ 19 ไร่เศษ 

โรงเรียนเทศบาลเมืองท่าบ่อ(ท.1) ได้ตระหนักในความสำคัญและเห็นคุณค่าของหลักเศรษฐกิจพอเพียง ต้องการปลูกฝังให้นักเรียน เยาวชน หรือประชาชนทั่วไป  ได้ทดลองปฏิบัติจริงตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จึงได้จัดทำโครงการฯขึ้น เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตนักเรียน โดยนักเรียนจะได้ศึกษาเรียนรู้ ฝึกปฏิบัติจริงภายในแหล่งเรียนรู้ และสามารถนำประสบการณ์ไปใช้ในชีวิตประจำวันของตนเองได้ และยังเป็นแหล่งการเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงให้กับนักเรียนโรงเรียนในสังกัดเทศบาลเมืองท่าบ่อ(ท1) ที่สนใจอย่างมีประสิทธิภาพต่อไปด้วย โดยมีนักเรียนชั้นอนุบาล 1-3 เข้าร่วมโครงการฯจำนวน 199 คน

สนง.แรงงานจังหวัดหนองคาย ดำเนินโครงการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนด้านอาชีพจังหวัดหนองคาย ประจำปีงบประมาณ 2565 กิจกรรมพัฒนาทักษะฝีมือ หลักสูตรช่างก่อสร้าง สาขาการก่ออิฐ-ฉาบปูน พื้นที่ตำบลบ้านว่าน อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย

วันที่ 7 ก.พ.2565 ที่ ตลาดชุมชนโครงการพัฒนาศักยภาพหมู่บ้าน SML บ้านแสนสุข หมู่ที่ 3 ต.บ้านว่าน อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นางรณิดา เหลืองฐิติกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานปิดโครงการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนด้านอาชีพจังหวัดหนองคาย ประจำปีงบประมาณ  2565 กิจกรรมพัฒนาทักษะฝีมือ หลักสูตรช่างก่อสร้าง สาขาการก่ออิฐ-ฉาบปูน พร้อมมอบถุงยังชีพแก่ประชาชนกลุ่มเปราะบาง 2 ราย และมอบเบี้ยเลี้ยงแก่ผู้เข้าร่วมโครงการฯ โดยสำนักงานแรงงานจังหวัดหนองคาย ดำเนินโครงการฯขึ้น ระหว่างวันที่ 3-7 ก.พ.2565 เพื่อฝึกภาคปฏิบัติในงานก่อสร้างในการยกระดับฝีมือของช่างชุมชน และสร้างสาธารณประโยชน์ต่างๆ เช่น บ้านผู้พิการ วัด โรงเรียน สำนักสงฆ์ และเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนด้านอาชีพจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แก่ประชาชนในพื้นที่บ้านแสนสุข หมู่ที่ 3 ต.บ้านว่าน อ.ท่าบ่อ โดยมีนายประภาส คลังชำนาญ นายกอบต.บ้านว่าน พร้อมคณะผู้บริหาร อบต.,  ผู้อำนวยการ 5 เสือแรงงาน, ผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมพิธีปิดโครงการฯ

นางสมหมาย เทียมกัน แรงงานจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า ตามที่จังหวัดหนองคาย ได้จัดสรรงบประมาณตามโครงการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนด้านอาชีพ ในการดำเนินกิจกรรมพัฒนาทักษะฝีมือ หลักสูตรช่างก่อสร้าง สาขาการก่ออิฐ-ฉาบปูน โดยมุ่งหวังให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรม นำความรู้ที่ได้รับไปต่อยอดในการประกอบเป็นอาชีพ  เพื่อเพิ่มรายได้ในอนาคตต่อไป  

ในการฝึกอบรมในครั้งนี้ ได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากภาคีเครือข่ายด้านแรงงาน อาทิ อาสาสมัครแรงงานผู้นำชุมชน และองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านว่าน ทั้งนี้ได้เลือกบ้านนางหนูนิด ตาตะมิ เป็นสถานที่ดำเนินการฝึกอบรม เนื่องจากเป็นผู้พิการ และมีความเปราะบางด้านที่อยู่อาศัย โดยเป็นการสร้างห้องน้ำ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตประจำวัน โดยมีผู้เข้าร่วมการฝึกอบรมจำนวนทั้งสิ้น 16 คน

รพร.ท่าบ่อ Kick Off ฉีดวัคซีน"ไฟเซอร์ฝาส้ม"ต้านโควิด-19 เด็กอายุ 5-11 ปี กลุ่มเสี่ยง 7 โรค มีผู้ปกครองทยอยนำบุตรหลานเข้าฉีดวัคซีน แต่กลัวเข็ม

วันที่ 4 ก.พ. 2565 ที่ หอประชุมเอนกประสงค์เทศบาลเมืองท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ซึ่งเป็นจุดบริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ โดยวันนี้เป็นการฉีดวัคซีน"ไฟเซอร์ฝาสีส้ม" เป็นวันแรก แก่เด็กอายุ 5-11 ปี ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงมีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค ได้แก่ 1.โรคอ้วน ที่มีภาวะทางเดินหายใจอุดกั้น 2.โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง รวมทั้งหอบหืดที่มีอาการปานกลางหรือรุนแรง 3.โรคหัวใจและหลอดเลือดสมอง 4.โรคไตวายเรื้อรัง 5.โรคมะเร็งและภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ 6.โรคเบาหวาน และ 7.กลุ่มโรคพันธุกรรม รวมทั้งกลุ่มอาการดาวน์ เด็กที่มีภาวะบกพร่องทางระบบประสาทอย่างรุนแรง และเด็กที่มีพัฒนาการล่าช้า มีผู้ปกครองที่สมัครใจพาเด็กมารับวัคซีนตั้งแต่เช้า โดยมีเป้าหมายเด็กอายุ 5-11 ปีกลุ่มเสี่ยง กว่า 300 คน 

โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจคัดกรอง เพื่อประเมินสภาพอาการผู้ป่วย ซึ่งข้อควรระวังที่ควรชะลอหรือเลื่อนฉีดไปก่อน คือ 1. ขณะป่วยมีไข้ ร่างกายอ่อนเพลีย ควรรักษาให้หายดีก่อน จนกว่าจะเป็นปกติ หรือ 2.เด็กที่มีโรคประจำตัวอาการรุนแรงที่อาจอันตรายถึงเสียชีวิต อาการไม่คงที่ ให้รักษาโรคประจำตัวให้ดีก่อน หากสามารถเข้ารับการฉีดได้จะเข้าสู่ขั้นตอนการลงทะเบียน มีการเซ็นใบยินยอม จากนั้นจึงรอเข้ารับการฉีดวัคซีน และหลังจากฉีดวัคซีนแล้ว ก็รอสังเกตอาการ 30 นาทีก่อนกลับบ้าน

บรรยากาศเหมือนจะเป็นไปอย่างเรียบร้อย  แต่เด็กบางคนกลัวเข็มฉีดยา ส่วนใหญ่อายุ 5-8 ปี เห็นเข็มถึงกับร้องลั่น เพราะต้องฉีดวัคซีน ผู้ปกครองและเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ต้องช่วยกันอย่างหนัก พยายามฉีดวัคซีนให้กับเด็ก ทั้งเอาลูกโป่งมาล่อ รวมถึงให้เด็กๆเหลือกลายพลาสเตอร์ติดแผ่นใหน พร้อมกับทีมปลอบใจเด็กไม่ให้กลัว และเด็กทุกคนเมื่อได้รับการฉีดแล้ว ต่างบอกว่าเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่เจ็บเหมือนที่คิดไว้เลย