วันพุธที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

นายอำเภอเมืองหนองคาย มอบถุงยังชีพเครื่องอุปโภค-บริโภค ของเหล่ากาชาดจังหวัดหนองคาย ให้ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุพายุฤดูร้อนพัดถล่ม บ้านเรือนพังเสียหาย ขณะที่ทหารจากชุดพัฒนาสัมพันธ์มวลชน ที่ 2110 กอ.รมน.ภาค 2 จัดกำลังพลร่วมกับชาวบ้าน เร่งซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับผลกระทบพังเสียหายทั้งหลัง

วันที่ 3 พ.ค. 2565 ที่ ศาลาริมฝั่งแม่น้ำโขง วัดศิลาธิคุณ ต.หินโงม อ.เมือง จ.หนองคาย นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย , นางวารุณี ไพศาลธนวัฒน์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดหนองคาย ได้มอบหมายให้นายประทีป อุ่ยเจริญ นายอำเภอเมืองหนองคาย พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองหนองคาย นำถุงยังชีพเครื่องอุปโภค-บริโภค ของสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดหนองคาย มอบให้กับประชาชน หมู่ที่ 1 และหมู่ที่ 8 ตำบลหินโงม อ.เมืองหนองคาย ที่ได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อนพัดบ้านเรือนพังเสียหาย จำนวน 30 ครอบครัว โดยก่อนหน้านี้ได้มอบถุงเครื่องอุปโภค-บริโภคไปแล้ว จำนวน 10 ครอบครัว ส่วนที่เหลือจะได้นำมามอบให้ครบทั้งหมดในครั้งต่อไป ซึ่งพายุฤดูร้อนได้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 00.30 น. – 01.00 น. วันที่ 30 เมษายน 65 ที่ผ่านมา มีบ้านเรือนประชาชนในเขต ต.หินโงม อำเภอเมืองหนองคาย ถูกพายุพัดพังเสียหาย จำนวน 56 หลังคาเรือน วัด 1 แห่ง และบ้านเรือนประชาชนในเขต ต.บ้านเดื่อ ได้รับความเสียหายอีก จำนวน 1 หลัง







ภายหลังมอบถุงเครื่องอุปโภค-บริโภคแล้ว นายประทีป อุ่ยเจริญ นายอำเภอเมืองหนองคาย พร้อมผู้นำชุมชน และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองหนองคาย ได้ตรวจเยี่ยมการซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากพายุพัดพังเสียหาย โดยเฉพาะที่บ้านของนางอรุณ น้อยเมืองคุณ อายุ 82 ปี อยู่บ้านเลขที่ 135 หมู่ที่ 1 ต.หินโงม ที่บ้านถูกพายุพัดหลังคาปลิวออกไปทั้งหลัง และที่อาศัยที่บ้านเพียงคนเดียว ไม่ยอมไปอยู่กับญาติพี่น้องเนื่องจากเป็นห่วงบ้าน โดยมีช่างที่เป็นญาติพี่น้องและทหารจากชุดพัฒนาสัมพันธ์มวลชน ที่ 2110 กอ.รมน.ภาค 2 ช่วยกันเร่งซ่อมแซมบ้าน เนื่องจากเกรงว่าจะมีฝนตกลงมาในพื้นที่อีก










วันอังคารที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

เลี้ยงผึ้งโพรงหลังเกษียณ รายได้ดีกว่าขายข้าว 1 ไร่ ไม่น่าเชื่อจากความคิดแค่เพียงต้องการหาอะไรทำแก้เหงา ชวนชาวบ้านจับกลุ่มตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชน สร้างอาชีพให้กับชาวบ้านอีกกว่า 100 รัง

อ.พีระวัฒน์ ตุ้มมี หรืออาจารย์บี้ อายุ 64 ปี ข้าราชการครูบำนาญ ใช้ชีวิตหลังเกษียณ ด้วยการเพาะต้นไม้ เลี้ยงผึ้งโพรง โดยยึดหลักคำสอนในหลวง ร.9 วิถีพอเพียง ที่วันนี้ผันตัวเองมาเป็นประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเลี้ยงผึ้งโพรงป่าศรีสุวรรณ เลขที่ 60 บ้านฝาง หมู่ 4 ต.น้ำโมง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย เล่าถึงจุดเริ่มต้นของอาชีพใหม่หลังเกษียณว่า  ตนเองชอบปลูกพืช แต่ไม่ค่อยจะติดผล เลยคิดหาวิธีผสมเกษรโดยผึ้ง และเป็นความชอบของตนเองตั้งแต่ช่วงยังเป็นครูสอนนักเรียน ก็ได้พยายามศึกษา เรียนรู้จากหนังสือ และไปดูกับผู้ที่เลี้ยง และมาทดลองเอง โดยทำเป็นกล่องจะกระจายวางไว้ในพื้นที่สวนหลังบ้านและนา ที่เป็นสวนผลไม้ และต้นไม้ ที่มีดอกต่างๆ จะเลี้ยงตามธรรมชาติ ไม่ให้น้ำตาลทราย ซึ่งจะทำให้ผึ้งผลิตน้ำหวานที่ดีมีคุณภาพ หอม หวาน อร่อย ผึ้งจะผลิตน้ำหวาน ขึ้นอยู่กับดอกไม้ด้วย ถ้ามีดอกไม้มากก็จะผลิตน้ำหวานเร็วหน่อย และตนเลี้ยงผึ้งโพรง ประสบผลสำเร็จ สามารถมีรายได้เสริมจากการขายน้ำผึ้ง ซึ่งในการเลี้ยงผึ้งหนึ่งรัง รายได้ดีกว่าปลูกข้าวขายต่อหนึ่งไร่ เพราะราคาข้าวทุกวันนี้ต่ำกว่าราคาน้ำผึ้งซะอีก อีกอย่างการเลี้ยงผึ้งไม่ต้องใช้แรง ไม่ได้ลงทุนมากมาย เพียงแค่ตีกล่องไปล่อผึ้งในป่า




จากนั้นได้ชักชวนชาวบ้าน ให้เข้ามารวมกลุ่มกันเป็นวิสาหกิจชุมชน เนื่องจากเลี้ยงผึ้งโพรงลงทุนไม่มาก การเลี้ยงไม่ยุ่งยาก ถ้ารู้วิธีเลี้ยง โดยไม่ต้องซื้อหาอาหารมาเลี้ยง  แต่ก็ต้องมีใจรักด้วย ส่วนใหญ่ชาวบ้านจะไม่ค่อยกล้าเลี้ยง เนื่องจากกลัวว่าผึ้งจะต่อย โดยเริ่มต้นจากการหาไม้มาทำเป็นโพรงเป็นรัง ให้ผึ้งเกาะ โพรงหนึ่งจะมีรวงประมาณ 8-10 รวง แล้วนำนางพญา ผึ้งงาน มาปล่อยในโพรง นอกจากนั้นก็จะต้องทำเสาไว้สำหรับวางโพรง โดยที่ตัวเสาก็จะต้องหาน้ำมันเครื่องมาทาเสาเพื่อป้องกันมดขึ้น นำไปวางใต้ร่มไม้ที่แดดไม่แรง หรือสวนผลไม้ต่างๆ โดยจะต้องกระจายวางโพรงให้ห่างกัน เพื่อไม่ให้ผึ้งแย่งน้ำหวานกัน




โดยผึ้งงานจำนวนมาก ก็จะเข้ามาในโพรงสร้างรังผลิตน้ำหวานไปเรื่อยๆ ใช้เวลาประมาณ 3-4 เดือน ก็สามารถเก็บนำผึ้งได้ โดยช่วงที่เก็บน้ำหวาน ก็จะเป็นช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม ผึ้งแต่ละรังจะได้น้ำหวาน 3-4 ขวด วิธีการเอาน้ำหวานออกจากรังผึ้งตนจะใช้วิธีกรองด้วยผ้าขาว คลุมด้วยถุงพาสติกใสแขวนไว้ ประมาณ 2- 3 วัน น้ำหวานจะข่อยๆไหลลง   ซึ่งจะได้น้ำผึ้งแท้ 100% จากนั้นก็จะบรรจุใส่ขวดที่เตรียมไว้ขายในราคาขวดละ 350 บาทเท่านั้น สามารถสร้างรายได้เสริมได้เป็นอย่างดี จนทางกลุ่มผลิตไม่ทัน ซึ่งปัจจุบันทางกลุ่มมีผึ้งโพรงรวมกว่า 100 รัง ผู้ที่สนใจอยากได้น้ำผึ้งแท้ 100 % ไปบริโภค สามารถติดต่อได้ที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนเลี้ยงผึ้งโพรงป่าศรีสุวรรณบ้านฝาง หมู่ 4 ต.น้ำโมง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย










สนง.พาณิชย์จังหวัดหนองคาย รณรงค์การบริโภคผลไม้ “พาณิชย์ Fruit Festival 2022” จังหวัดหนองคาย ในระหว่างวันที่ 2-8 พฤษภาคมนี้ เพื่อกระตุ้นการบริโภคผลไม้ เพิ่มช่องทางช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ประกอบการขายผลไม้

วันที่ 2 พ.ค. 2565 ที่ ลานน้ำพุพญานาค ในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย จ.หนองคาย นายวิโรจน์ พิเภก พาณิชย์จังหวัดหนองคาย พร้อมด้วยบุคลากรจากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงพาณิชย์  โดยกรมการค้าภายในกระทรวงพาณิชย์ จัดกิจกรรมรณรงค์การบริโภคผลไม้ "พาณิชย์ fruit festival 2022" จังหวัดหนองคาย เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ประกอบการขายผลไม้ เพิ่มช่องทางการจำหน่ายและบริโภคผลไม้สดจากสวนผลไม้ไทย พร้อมกับจังหวัดอื่นๆ ทั่วประเทศ โดยมี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดงานฯ ผ่านระบบออนไลน์ 




ทั้งนี้สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร คาดการณ์ผลผลิตผลไม้สำคัญ ปี 2565 ได้แก่ ทุเรียน/เงาะ/ลองกอง/ลำไย/ลิ้นจี่/มะม่วงและสับปะรด จะมีปริมาณรวม 7.195 ล้านตัน เพิ่มจากปีที่ผ่านมาร้อยละ 10 โดยจะเริ่มเก็บเกี่ยวได้ตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคมเป็นต้นไป โดยเฉพาะผลไม้ภาคตะวันออก ซึ่งเป็นแหล่งผลิตสำคัญจะออกกระจุกตัวมากในช่วงเดือนมีนาคมเป็นต้นไป โดยเฉพาะผลไม้ภาคตะวันออกซึ่งเป็นแหล่งผลิตสำคัญจะออกกระจุกตัวมากในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม แนวโน้มราคาในปี 2565 คาดว่าจะเคลื่อนไหวอยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำกว่า ปี 2564 ตามภาวะปริมาณผลผลิตที่เพิ่มขึ้นและสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่การส่งออกมีแนวโน้มชะลอตัวจากมาตรการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเข้มงวดของประเทศจีนที่เป็นตลาดส่งออกหลักของผลไม้ไทย เพื่อแก้ไขปัญหาการระบายจำหน่ายผลไม้ในช่วงที่ผลไม้ออกกระจุกตัว กรมการค้าภายใน โดยนโยบายของ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จึงได้กำหนดให้มีการจัดกิจกรรมรณรงค์การบริโภคผลไม้ “พาณิชย์ Fruit Festival 2022” พร้อมกันทั่วประเทศ ในส่วนภูมิภาคมีทั้งหมด รวม 100 จุด โดยจำหน่ายในระหว่างวันที่ 2-8 พฤษภาคม 2565 เพื่อเป็นการรณรงค์กระตุ้นการบริโภคผลไม้ เพิ่มช่องทางการจำหน่ายผลผลิตให้เกษตรกร และเพื่อบรรเทาปัญหาด้านการตลาดและราคาผลไม้ในช่วงผลผลิตออกสู่ตลาดกระจุกตัวมาก





นายวิโรจน์ พิเภก พาณิชย์จังหวัดหนองคาย กล่าวว่า วันนี้ (2 พ.ค.65) เป็นการ Kick Off กิจกรรมรณรงค์การบริโภคผลไม้ “พาณิชย์ Fruit Festival 2022” จังหวัดหนองคาย ที่จัดให้มีขึ้นในระหว่างวันที่ 2-8 พฤษภาคม 2565 ณ ลานน้ำพุพญานาค ในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย จึงขอเชิญประชาชนชาวหนองคายและจังหวัดใกล้เคียง มาเดิน ช้อป ชิม ผลไม้เกรดส่งออก โดยเฉพาะทุเรียนหมอนทอง ที่มาจากจังหวัดจันทบุรี จำหน่ายในราคากิโลกรัมละ 160 บาท นอกจากนี้ยังมีสับปะรดจากอำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย จำหน่ายในราคากิโลกรัมละ 15 บาท และปลานิลกระชัง จังหวัดหนองคาย จำหน่ายราคากิโลกรัมละ 60 บาท หากซื้อทุเรียนไปแล้วพบว่าเป็นทุเรียนอ่อน ทางสำนักงานพาณิชย์จังหวัดหนองคายยินดีรับคืน สำหรับช่วงเวลาในการจำหน่ายเริ่มตั้งแต่เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป จนถึงช่วงเย็น













จ.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา" เฉลิมพระเกียรติฯ

สนง.พช.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา...