วันเสาร์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

เทศบาลเมืองหนองคาย จัดการประชุมประชาคมเทศบาลเมืองหนองคาย ระดับเมือง เพื่อจัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่น 5 ปี (พ.ศ.2566-2570)

ที่ห้องประชุมโรงแรมพันล้าน บูติค รีสอร์ท อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย นายอุรุยศ เอียสกุล นายกเทศมนตรีเมืองหนองคาย , คณะผู้บริหารเทศบาลเมืองหนองคาย , คณะกรรมการพัฒนาเทศบาลเมืองหนองคาย และประชาคมท้องถิ่น ได้ร่วมกันประชุมประชาคมเทศบาลเมืองหนองคาย 





การประชุมประชาคมเทศบาลเมืองหนองคายในครั้งนี้ เป็นการดำเนินการประชุมในระดับเมือง เพื่อจัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่น (พ.ศ.2561-2565) ฉบับทบทวน (เพิ่มเติม) ครั้งที่ 10 , แผนพัฒนาท้องถิ่น (พ.ศ.2566-2570) เพิ่มเติม ครั้งที่ 1 และแผนพัฒนาท้องถิ่น 5 ปี (พ.ศ.2566-2570) เปลี่ยนแปลง ครั้งที่ 1 ของเทศบาลเมืองหนองคาย ตามระเบียบของกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการจัดทำแผนพัฒนาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2548 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2561 ข้อ 20 (2) และข้อ 22/2 โดยผู้ร่วมประชุมประชาคมได้ร่วมกันพิจารณาให้ความเห็นชอบ และแสดงความคิดเห็นในการจัดทำแผนฯ ดังกล่าวข้างต้น











วันศุกร์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

ทหารกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี -กิ่งกาชาดอำเภอท่าบ่อ และเทศบาลเมืองท่าบ่อ ลงช่วยชาวบ้านที่ประสบเหตุไฟไหม้บ้านทั้งหลัง พร้อมมอบเครื่องยังชีพ เงินสดใช้แก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน

วันที่ 6 พ.ค. 2565 ที่บ้านของนางตุ่น  วงษ์สุวรรณ อายุ 53 ปี ชุมชนดอนเขียวใหญ่ หมู่ 12 ต.กองนาง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นายนวน โทบุตร นายอำเภอท่าบ่อ, จ่าสิบเอกยุทธนา สุขเกษม ผู้บังคับหมวดสกัดกั้นยาเสพติดที่ 1 กองร้อยสกัดกั้นยาเสพติดที่ 2 กองบังการควบคุมที่ 2 กกล.สุรศักดิ์มนตรี, นายอัมพร บุญทัน รองนายกเทศมนตรีเมืองท่าบ่อ พร้อมด้วยคณะกรรมการกิ่งกาชาดอำเภอท่าบ่อ, เจ้าหน้าที่ทหาร และสมาชิกสภาเทศบาลเมืองท่าบ่อ ลงพื้นที่ไปมอบสิ่งของยังชีพ น้ำดื่ม และเงินส่วนหนึ่งให้แก่นางตุ่นฯและครอบครัว นอกจากนั้นหมวดสกัดกั้นยาเสพติดที่ 1 บก.ควบคุมที่ 2 กกล.สุรศักดิ์มนตรี ยังได้มอบเตียงไฟฟ้าให้แก่นายประสงค์ วงษ์สุวรรณ อายุ 54 ปี ซึ่งเป็นสามีของนางตุ่นฯ ซึ่งป่วยติดเตียงมาตั้งแต่ปี 2549 หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้เผาผลาญบ้านเรือนจนวอดเสียหายทั้งหลังไม่เหลืออะไรเลย ทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า เสื้อผ้า และสิ่งของอื่น ๆ ถูกเพลิงไหม้เสียหายทั้งหมด คงเหลือแต่โครงเสาไม้เป็นซากปรักหักพังดำไหม้เกรียมจากเปลวเพลิง เป็นเหตุให้ผู้ที่อยู่อาศัยภายในบ้านรวม 6 ชีวิตไม่มีที่อยู่อาศัย ต้องไปขออาศัยเพื่อนบ้านอยู่ชั่วคราว โดยเหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. ของคืนวันที่ 4 พฤษภาคมที่ผ่านมา



โดยหมวดสกัดกั้นยาเสพติดที่ 1 บก.ควบคุมที่ 2 กกล.สุรศักดิ์มนตรี ยังได้จัดกำลังพลเข้าช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัยครั้งนี้ ด้วยการรื้อถอนซากปรักหักพังไปจนกว่าจะเสร็จสิ้นภารกิจ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนด้านแรงงาน และเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้กับผู้ประสบภัยในครั้งนี้อีกด้วย











รองนายกเมืองท่าบ่อ ลงพื้นที่แสดงความเสียใจผู้สูญเสีย และให้กำลังใจผู้ประสบภัยไฟไหม้ที่ชุมชนดอนเขียวใหญ่ พร้อมมอบเงินช่วยเหลือเยียวยาเบื้องต้น

วันที่ 6 พ.ค. 2565 ที่ ชุมชนดอนเขียวใหญ่ หมู่ 12 ต.กองนาง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นายกิตติศักดิ์  วรรณวิเชษฐ์ นายกเทศมนตรีเมืองท่าบ่อ ได้มอบหมายให้ นายอัมพร บุญทัน รองนายกเทศมนตรีเมืองท่าบ่อ พร้อมด้วยสมาชิกสภาเทศบาลเมืองท่าบ่อ ประกอบด้วย นายครุฑ  ใจดี, นางชุติมา ชัยเวช (เจ๊สี นาดาว), ร.ต.ต.สุนทร กรมธรรมมา, นายอำนาจ  หมอยา รองประธานชุมชนศรีบุญเรือง พร้อมด้วยนางสุวัน  แก้วดวงดี รองนายกกิ่งกาชาดอำเภอท่าบ่อ ได้นำสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น พร้อมด้วยเงินจำนวมหนึ่งมอบให้แก่นางตุ่น วงษ์สุวรรณ อายุ 53 ปี และครอบครัว



ทั้งนี้ จากสถานการณ์อัคคีภัยเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. ของคืนวันที่ 4 พฤษภาคมที่ผ่านมา  โดยต้นเพลิงเริ่มลุกไหม้จากชั้นบนบ้านที่เก็บเครื่องการเกษตร ยาเส้น กล่องกระดาษบรรจุยาเส้น โดยไฟได้ลุกไหม้อย่างรวดเร็วและลามไปติดบ้านพักอีกหลังที่เป็นบ้าน 2 ชั้นครึ่งไม้ครึ่งปูน เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและรถน้ำจากเทศบาลเมืองท่าบ่อ และพื้นที่ค้างเคียงเร่งเข้าให้ความช่วยเหลือทันทีที่ได้รับแจ้งเหตุ จนกระทั่งเพลิงสงบในเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ทำให้บ้านของนางตุ่นฯโดนไฟไหม้หมดทั้งสองหลัง โดยไม่สามารถนำเอาทรัพย์สินอะไรออกมาจากบ้านได้ เพราะห์ดีผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านทั้ง 6 ชีวิตรอดออกมาได้ โดยไม่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด





ขบวนการลักลอบขนยาเสพติดข้ามชาติ เจอเจ้าหน้าที่ที่ไปดักซุ่ม ตัดสินใจทิ้งรถและยาบ้ากว่า 300,000 เม็ด ดอกกัญชาแห้ง 185 ห่อ วิ่งหลบหนีไปได้

วันที่ 5 พ.ค.2565 ที่ สถานีเรือรัตนวาปี หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง เขตหนองคาย น.อ.ราฆพ  เทวะประทีป ผบ.นรข.เขต หนองคาย และหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ แถลงข่าวผลการตรวจยึดยาบ้า จำนวนกว่า 300, 000 เม็ด กัญชาแห้ง จำนวน 185 ห่อ ที่ลักลอบนำเข้าจากประเทศเพื่อนซุกด้านหลังศาลาเอนกประสงค์ บ้านตาลชุม ต.รัตนวาปี  อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย




การตรวจยึดครั้งนี้เนื่องจากเมื่อวันที่ 4 พ.ค.65 เวลาประมาณ 17.00 น. น.ท.ภาณุทัต ทิพย์วงษ์ทอง หน.สน.เรือรัตนวาปี ได้รับแจ้งจากสายว่า จะมีขบวนการค้ายาเสพติดลักลอบนำยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้าน ข้ามมาส่งที่บริเวณบ้านตาลชุม จึงได้รายงานให้ น.อ.ราฆพ เทวประทีป ผบ.นรข.เขตหนองคาย ทราบ จากนั้นได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ จัดกำลังเข้าดักซุ่ม บริเวณใกล้เคียงกับบันไดขึ้น- ลง ท่าน้ำหน้าศาลากลางบ้านบ้านตาลชุม จากนั้นเวลาประมาณ 20.00 น .เจ้าหน้าที่ได้ใช้กล้องตรวจการณ์กลางคืนตรวจพบ ชายต้องสงสัย 4 คน กำลังแบกกระสอบขึ้นมาจากท่าน้ำ เดินเข้าไปด้านหลังศาลาเอนกประสงค์ แล้วนำใส่ไว้ในรถยนต์ที่จอดรออยู่



เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวขอตรวจสอบ เมื่อทั้งหมดเห็นเจ้าหน้าที่จึงได้ทิ้งรถและของกลางวิ่งหลบหนีไปได้ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบพบรถเก๋ง HONDA FEED สีขาว หมายเลขทะเบียน 1 กพ 568 กรุงเทพมหานคร ภายในรถพบกระสอบต้องสงสัยสีขาว จำนวน 4 กระสอบ และตรวจสอบพื้นที่ใกล้เคียง ยังพบกระสอบสีดำตกอยู่ 1 กระสอบ เจ้าหน้าที่จึงได้เปิดตรวจสอบดู พบภายในเป็นยาเสพติด จึงตรวจยึดของกลางทั้งหมดมาทำการตรวจนับอย่างละเอียดที่สถานีเรือรัตนวาปี  เป็นยาบ้า นับได้รวมจำนวน 300,000 เม็ด และกัญชาแห้งเกรดพีเมี่ยมซึ่งเป็นดอกกัญชาแห้งอีก 185 ห่อ    ก่อนนำของกลางส่ง พนักงานสอบสวน สภ.รัตนวาปี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พันธลภ แสงทอง ภาพ/ข่าว จังหวัดหนองคาย 




จ.หนองคาย พร้อมเปิดด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 1 อ.เมืองหนองคาย

วันที่ 5 พ.ค. 2565 ที่ ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 1 อ.เมืองหนองคาย นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะได้เดินทางตรวจติดตามการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ในการเดินทางเข้าราชอาณาจักร รับทราบข้อมูล และปัญหาต่างๆ ก่อนจะไฟเขียวในการเปิดด่าน จากนายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  ด้านมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19  ในการเดินทางเข้า-ออก





ช่วงวันที่ 1-3 พ.ค.65 มีผู้เดินทางเข้า-ออก ประเทศ โดยผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย มีคนไทยเดินทางเข้า-ออก 205 คน , คนลาว 506 คน, คนต่างชาติ 46 คน เนื่องจากการเดินทางยังมีข้อจำกัดหลายอย่าง แม้ว่าจะมีการเปิดด่านสากลแล้วก็ตาม แต่การเดินทางออกนอกประเทศของคนไทย ไปยัง สปป.ลาว ก็ยังไม่สามารถนำรถยนต์ส่วนบุคคลเข้าไปได้ จะเดินทางไปได้เฉพาะลักษณะคนทำงานที่ไปทำงานในบริษัทรับรองหรือนักท่องเที่ยวแบบกรุ๊ปทัวร์เท่านั้น สำหรับคนลาวที่ต้องการเดินทางเข้าประเทศไทย จะต้องเข้าระบบไทยแลนด์พาสต์ มีเอกสารบอร์เดอร์พาส ใบรับรองวัคซีนครบโดส สามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้ โดยไม่ต้องตรวจ RT-PCR หรือ ATK  แต่หากใครมีความประสงค์ต้องการจะตรวจ ATK  จะมีค่าตรวจคน  250 บาท และไม่จำเป็นต้องตรวจทุกคน ส่วนการกรอกข้อมูลในระบบไทยแลนด์พาส ของคนลาวที่ผ่านมาพบว่าติดขัดในการกรอกข้อมูลไม่เข้าในในภาษาอังกฤษและภาษาไทย ทำให้เกิดช่องทางหากินสำหรับเอกชนในการรับจ้างกรอกข้อมูลให้แล้วเรียกเก็บเงินค่าดำเนินการ ถึง 4,000 บาทต่อคน เป็นเงินที่สำหรับคนลาว ทำให้คนลาวเดินทางเข้าไทยจำนวนน้อย



นายชัยวัฒน์  ชื่นโกสุม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ที่เดินทางมาครั้งนี้ ตนได้รับทราบปัญหาทั้งหมด และจะนำเรื่องเข้าที่ประชุมโดยด่วน เพื่อการพิจารณาอนุญาตเมื่อทุกฝ่ายทั้งไทยและ สปป.ลาว มีความพร้อมให้รถยนต์ส่วนบุคคลเดินทางเข้า-ออกประเทศได้ ก็จะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจระหว่างประเทศ และการท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี

พันธลภ  แสงทอง –ภาพ-ข่าว  จังหวัดหนองคาย






จ.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา" เฉลิมพระเกียรติฯ

สนง.พช.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา...