วันอาทิตย์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

พุทธศาสนิกชาวหนองคาย เข้าวัดทำบุญตักบาตรเนื่องในวัน"วิสาขบูชา"บางตา คาดน้ำมันแพงทำให้คนไม่กลับภูมิลำเนา ถึงแมัจะเป็นวันหยุดยาว

วันที่ 15 พ.ค.2565 ที่ บ้านน้ำโมง ต.น้ำโมง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย พุทธศาสนิกชนชาวบ้านน้ำโมงได้ทำบุญตักบาตรเนื่องใน "วันวิสาขบูชา" ซึ่งเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา และวันสำคัญสากลของโลก ประจำปี 2565 เป็นวันที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน ซึ่งเกิดขึ้นในวัน และเดือนเดียวกัน คือ ในวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 เพื่อน้อมรำลึกถึงพระวิสุทธิคุณ พระปัญญาคุณ และพระมหากรุณาธิคุณ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่มีต่อมวลมนุษย์ และสรรพสัตว์ อีกทั้งเพื่อเป็นการรำลึกถึงเหตุการณ์อันน่าอัศจรรย์ทั้ง 3 ประการ ที่มาบังเกิดในวันเดียวกัน และนำหลักธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์มาเป็นแนวทางในการประพฤติปฏิบัติ รวมทั้งองค์การสหประชาชาติ กำหนดให้วันวิสาขบูชา เป็นวันสำคัญของโลก




โดยชาวบ้านได้นำอาหารหวานคาวข้าวสารอาหารแห้ง ดอกไม้ธูปเทียนมาร่วมในพิธีทำบุญตักบาตรพระภิกษุสงฆ์จำนวน 4 วัด 3 สำนักสงฆ์ ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่บ้านน้ำโมงหมู่ 1 และหมู่ 2 ต.น้ำโมง อ.ท่าบ่อ ออกเดินบิณฑบาตรับภัตตาหารจากพุทธศาสนิกชนที่เดินทางมาร่วมทำบุญตักบาตร




หลังจากนั้นพุทธศาสนิกชนก็จะทำบุญถวายภัทตราหารเช้าพระภิกษุสงฆ์ สามเณร ที่ศาลาการเปรียญวัดศรีชมภูองค์ตื้อ บ้านน้ำโมง ต.น้ำโมง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย โดยมีพระศรีญาณวงศ์ รองเจ้าคณะจังหวัดหนองคาย เจ้าอาวาสวัดศรีชมภูองค์ตื้อ ขึ้นธรรมาสน์แสดงพระธรรมเทศนาต่อพุทธศาสนิกชน ซึ่งพบว่ามีพุทธศาสนิกชนออกมาทำบุญบางตา ไม่คึกคักอย่างที่เคย โดยปกติวันสำคัญทางพุทธศาสนาอย่าง "วันวิสาขบูชา" พุทธศาสนิกชนจะเดินทางมาทำบุญแสดงตนเป็นพุทธมามกะกันจนแน่น แต่ปีนี้กลับบางตา คาดว่าเกิดจากสถานการณ์เศรษฐกิจยุคข้าวยากหมากแพง รวมทั้งราคาน้ำมันแพง ทำให้คนที่ทำงานอยู่เมืองใหญ่ๆไม่กลับภูมิลำเนา ถึงแม้จะเป็นช่วงวันหยุดยาวก็ตาม เพื่อเป็นการประหยัดค่าใช้จ่าย แต่ถึงอย่างไรทางวัดยังเปิดให้พุทธศาสนิกชน เข้ากราบนมัสการหลวงพ่อพระเจ้าองค์ตื้อภายในวิหารได้อย่างปกติในวันสำคัญทางพุทธศาสนาเช่นนี้





สำหรับในวันวิสาขบูชา นอกจากการทำบุญตักบาตรกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลแล้ว ยังต้องปฏิบัติธรรมฟังพระธรรมเทศนา โดยพุทธศาสนิกชนต่างพากันน้อมรำลึกถึงพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์ ด้วยการไปชุมนุมตามพระอารามต่างๆ เพื่อกระทำการบูชาปูชนียวัตถุ อันได้แก่ พระธาตุเจดีย์หรือพระพุทธปฏิมา ที่เป็นพระประธานในอุโบสถ ในวิหาร ด้วยเครื่องบูชามีดอกไม้ ธูปเทียนที่วัดใกล้บ้าน







วันเสาร์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

กกล.สุรศักดิ์มนตรี โดยสถานีเรือสังคม นรข.เขตหนองคาย บูรณาการหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ตรวจยึดยาบ้าจำนวน 456,000 เม็ด เรือกีบเหล็กเพลายาว 1 ลำ พบสัญลักษณ์อักษรใหม่บนหีบห่อยาบ้า ส่วนผู้ต้องหาอาศัยความมืดวิ่งเข้าป่าหลบหนีไปได้หวุดหวิด

วันที่ 14 พ.ค.2565 ที่ สถานีเรือสังคม นรข.เขตหนองคาย อ.สังคม จ.หนองคาย น.อ.ราฆพ เทวะประทีป ผบ.นรข.เขตหนองคาย มอบหมายให้ น.ท.สุรไกร รัตนกุสุมภ์ หัวหน้าสถานีเรือศรีเชียงใหม่ และรักษาราชการแทน หัวหน้ายุทธการและการข่าว (รกก.หน.ยก.ขว.) นรข.เขตหนองคาย , เรือเอกไพรสน พลเสน หัวหน้าสถานีเรือสังคม ,ร.อ.พงษ์ศักดิ์ สุขรมณ์ ผบ.ร้อย ฉก.ทพ.2104 ฉก.ทพ.21 , ร.ต.อ.เรืองศักดิ์ ผาเจริญ ผบ.มว.ตชด.2453 พร้อมหน้าเจ้าหน้าที่สถานีเรือสังคม, ร้อย ฉก.ทพ.2104 , มว.สกัดกั้นฯที่ 1 บก.ควบคุมที่ 2 กกล.สุรศักดิ์มนตรี , มว.ตชด.2453 , ฝ่ายปกครองอำเภอสังคม และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง โดยการอำนวยการของ พลเรือตรีสมบัติ จูถนอม ผบ.นรข. , พล.ต.ณรงค์ สวนแก้ว ผบ.กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี , น.อ.ราฆพ เทวะประทีป ผบ.นรข.เขตหนองคาย , พ.อ.อุทัย นิลเนตร ผบ.ฉก.ทพ.21 , พ.ต.อ.กวีพงษ์ ชลการ ผกก.ตชด.24 , นายสมควร ใจซื่อ นายอำเภอสังคม ร่วมกันแถลงผลการตรวจยึดยาบ้า จำนวน 456,000 เม็ด เรือกีบเหล็กเพลายาวพร้อมเครื่องยนต์ จำนวน 1 ลำ ได้ที่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงริมถนนสาย 211 บ.ปากโสม ต.ผาตั้ง อ.สังคม จ.หนองคาย


สืบเนื่องจากวันที่ 13 พ.ค.65 เวลาประมาณ 17.30 น. เรือเอกไพรสน พลเสน หัวหน้าสถานีเรือสังคม นรข.เขขหนองคาย ได้รับแจ้งว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ข้ามมายังฝั่งไทยบริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 76-77 ถนนสาย 211 บ.ปากโสม ต.ผาตั้ง อ.สังคม จ,หนองคาย จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมทั้งประสานหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ จัดชุดซุ่มเฝ้าตรวจสังเกตการณ์บริเวณพื้นที่ตามที่ได้รับแจ้ง  จนกระทั่งเวลาประมาณ 20.00 น. จนท.พบเรือกีบเพลายาว 1 ลำ มีผู้โดยสารมากับเรือ จำนวน 2 คน โดย 1 คนเป็นคนขับเรือ และ 1 คนเป็นผู้โดยสารแล่นมาจากทางฝั่งประเพื่อนบ้าน  ข้ามแม่น้ำโขงเข้ามาจอดดับเครื่องยนต์บริเวณตลิ่งฝั่งไทยใกล้กับจุดที่จนท.ดักซุ่มอยู่  จากนั้นมีชาย 2 คน แบกห่อวัตถุต้องสงสัยขนาดใหญ่ จำนวน 2 ท่อ ขึ้นจากเรือ เดินขึ้นมาบนฝั่งบริเวณกองหินริมถนนสาย 211 จนท.จึงได้แสดงตัวเพื่อขอทำการตรวจค้น ชาย 2 คนเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่แสดงอาการตกใจทิ้งห่อวัตถุต้องสงสัย แล้วอาศัยความมืดวิ่งข้ามถนนสาย 211 ไปยังฝั่งตรงกันข้ามหายเข้าไปในป่าอย่างรวดเร็ว จนท.ได้ไล่ติดตามแต่ชาย 2 คนได้อาศัยความมืดหลบหนีไปได้



เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจสอบพื้นที่บริเวณดังกล่าว พบห่อกระสอบวัตถุต้องสงสัยทรงสี่เหลี่ยมสีฟ้าวางตกอยู่ จำนวน 2 กระสอบ และยังได้ตรวจพบเรือกีบเหล็กเพลายาว จำนวน 1 ลำ จอดดับเครื่องยนต์อยู่ติดกับตลิ่งริมฝั่งแม่น้ำโขงตรงจุดเกิดเหตุ เมื่อตรวจสอบพบเป็นเรือกีบลำที่ชาย 2 คน ได้ใช้โดยสารมา จากนั้นได้แกะห่อกระสอบวัตถุต้องสงสัย เบื้องต้นพบยาบ้าบรรจุอยู่ภายในจำนวนหนึ่ง จึงได้ร่วมกันตรวจยึดและนำของกลางทั้งหมดมาที่ สน.เรือสังคม เพื่อทำการตรวจสอบโดยละเอียด พบเป็นยาเสพติดให้โท๋ประเภท 1 (ยาบ้า) ลักษณะมีตราอักษร WY ประทับอยู่ด้านหนึ่ง อีกด้านหนึ่งผิวเรียบ  และยาบ้าลักษณะกลมแบนสีเขียวมีตราอักษร A ประทับอยู่ด้านหนึ่ง อีกด้านหนึ่งมีตราอักษร Y1 บรรจุอยู่ภายในถุงพลาสติกสีน้ำเงินและสีชมพูแบบกดปิดเลื่อนเปิด ห่อทับด้วยพลาสติกสีใสห่อด้วยกระดาษไขสีครีมพันทับด้วยเทปกาวสีเหลืองจนแน่น ลักษณะเป็นก้อนทรงสี่เหลี่ยม ประทับตราอักษร Y1 (Y1 สีเขียว Z สีน้ำเงิน) รวมจำนวน 72 ก้อน ก้อนละประมาณ 6,000 เม็ด รวมจำนวนยาบ้าประมาณ 432,000 เม็ด, ยาบ้าก้อนละประมาณ 4,000 เม็ด จำนวน 6 ก้อน รวมจำนวนประมาณ 24,000 เม็ด บรรจุอยู่ในห่อพลาสติกสีใส จำนวน 4 ห่อ บรรจุอยู่ภายในกระสอบปุ๋ยเคมียี่ห้อตรากระต่ายสีฟ้า จำนวน 2 กระสอบ รามจำนวนยาบ้าทั้งหมดประมาณ 456,000 เม็ด หลังแถลงข่าวเจ้าหน้าที่ได้นำของกลางทั้งหมดส่ง สภ.สังคม เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป




ทั้งนี้ยาบ้าที่ตรวจยึดได้ในครั้งนี้ เป็นอักษร Y1 โดยอักษรเขียนห้อยที่หางตัว Y ทุกห่อคือตัวอักษร Z เป็นยาบ้ารูปแบบใหม่ที่ทำการตรวจพบเป็นครั้งแรกในพื้นที่จังหนองคาย ซึ่งเจ้าหน้าที่จะประสานหน่วยงานเกี่ยวข้อง ทำการตรวจสอบแหล่งข่าวเชิงลึกถึงแหล่งที่มา และส่วนผสมของเม็ดยา เพื่อหาทางสกัดกั้นขบวนการลักลอบขนสารเคมีผ่านชายแดนไทยต่อไป





วันพฤหัสบดีที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

โรงเรียนบ้านสร้างก่อ จ.อุดรธานี ร่วมกับชมรมศิลปะเด็กบ้านศิลป์ไทย จ.หนองคาย จัดกิจกรรมค่ายศิลปะสร้างสีสันแห่งชีวิต พิชิตความเครียดในสถานการณ์โควิด-19 เตรียมความพร้อมสู่การเรียน ON-SITE ปีการศึกษา 2565

ที่ หอประชุมโรงเรียนบ้านสร้างก่อ ต.สร้างก่อ อ.กุดจับ จ.อุดรธานี นางสาวดารุณี อัคเทพ ผู้อำนวยการโรงเรียนฯ เป็นประธานเปิดค่ายศิลปะสร้างสีสันแห่งชีวิต ซึ่งโรงเรียนบ้านสร้างก่อ ร่วมกับชมรมศิลปะเด็กบ้านศิลป์ไทย จ.หนองคาย จัดกิจกรรมขึ้นระหว่างวันที่ 11-12 พฤษภาคม 2565 โดยมี นางกาญจนา โคตรโยธา รองผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านสร้างก่อ กล่าวรายงาน มีครูแดง บ้านศิลป์ไทย ประธานชมรมศิลปะเด็กบ้านศิลป์ไทย จ.หนองคาย, ครูเบิ้ม เติมศิลป์ และนางคำเตือน ธรรมเรืองฤทธิ์ ซึ่งบุคคลทั้ง 3 เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะ ที่มีผลงานได้รับรางวัลทั้งในระดับชาติ ระดับนานาชาติและระดับโลก อีกทั้งทีมวิทยากรยังมีการดำเนินกิจกรรมสร้างสรรค์เด็กและเยาวชนให้รักศิลปะอย่างต่อเนื่อง ร่วมเป็นวิทยากร




สำหรับการจัดกิจกรรมค่ายศิลปะสร้างสีสันแห่งชีวิต ครั้งนี้ เพื่อพัฒนาศักยภาพ ความรู้ ความเข้าใจ และความสามารถด้านศิลปะแก่นักเรียน  เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนที่มีความสนใจและความสามารถทางศิลปะได้มีโอกาสแสดงออก เพื่อขจัดความเครียดแก่นักเรียนและเตรียมความพร้อมสำหรับการเรียน ON-SITE ในสถานการณ์โควิด -19




นางสาวดารุณี อัคเทพ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านสร้างก่อ กล่าวว่า การจัดการเรียนรู้ตามหลักสูตีแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ มุ่งให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจ มีทักษะ ความสามารถทางศิลปะ และมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ แต่สภาพปัจจุบันโรงเรียนบ้านสร้างก่อ ยังขาดครูวิชาเอกศิลปะ การจัดการเรียนรู้วิชาศิลปะที่ผ่านมาไม่บรรลุตามเป้าหมายที่หลักสูตรกำหนด  นักเรียนที่มีความสนใจและมีความสามารถทางศิลปะขาดโอกาสในการแสดงออกในเวทีประกวดต่างๆ ดังนั้นเพื่อพัฒนาศักยภาพทางด้านศิลปะของนักเรียน เสริมสร้างจินตนาการสร้างสรรค์ทางศิลปะ และพัฒนาการเรียนการสอนทางด้านศิลปะให้มีคุณภาพยิ่งขึ้น ตลอดจนเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการเรียน 0N-SITE ในสถานการณ์โควิด-19 ปีการศึกษา 2565 ให้นักเรียนรู้สึกผ่อนคลาย ไม่เครียด โรงเรียนบ้านสร้างก่อจึงได้จัดกิจกรรมค่ายศิลปะขึ้น โดยเชิญวิทยากรที่มีความสามารถทางด้านศิลปะ มาให้ความรู้ สร้างความเข้าใจ และฝึกทักษะเกี่ยวกับการวาดภาพระบายสีให้แก่นักเรียน ครูและบุคลากรที่สนใจ กลุ่มเป้าหมายของการจัดกิจกรรมครั้งนี้ มีนักเรียนโรงเรียนบ้านสร้างก่อ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวนไม่น้อยกว่า 300 คน ครู และบุคลากรโรงเรียนฯ จำนวน 20 คน เข้าร่วมกิจกรรม











จ.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา" เฉลิมพระเกียรติฯ

สนง.พช.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา...