วันพุธที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

อบจ.หนองคาย ทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อการดำเนินงานและบริหารจัดการระบบการแพทย์ฉุกเฉินจังหวัดหนองคาย ระหว่างองค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองคาย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งในเขตพื้นที่จังหวัดหนองคาย โรงพยาบาลเอกชน สมาคม และมูลนิธิกู้ชีพกู้ภัยจังหวัดหนองคาย

วันที่ 25 พ.ค. 2565 ที่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองคาย ได้จัดพิธีบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อการดำเนินงานและบริหารจัดการระบบการแพทย์ถูกเฉินจังหวัดหนองคาย  ระหว่างองค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองคาย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งในเขตพื้นที่จังหวัดหนองคาย, โรงพยาบาลเอกชน , สมาคมและมูลนิธิกู้ชีพกู้ภัย จังหวัดหนองคาย โดยมีนายยุทธนา ศรีตะบุตร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองคาย เป็นประธานในพิธีบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ มีนายมนตรี  หมวกไสว ปลัด องค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองคาย  กล่าวรายงาน







สำหรับการลงนามบันทึกตกลงความร่วมมือครั้งนี้  มีองค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองคาย โดยนายยุทธนา ศรีตะบุตร   องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งในเขตพื้นที่จังหวัดหนองคาย สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดหนองคาย ตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย สมาคมกู้ภัยประจักษ์ สมาคมกู้ภัยร่วมใจ มูลนิธิสว่างคงคา และกู้ภัย 191 ตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย ร่วมลงนาม เพื่อสนับสนุน ส่งเสริมการดำเนินงาน และบริหารจัดการ การแพทย์ฉุกเฉิน ตามพระราชบัญญัติการแพทย์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2551  เพื่อเป็นศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการ การแพทย์ฉุกเฉินจังหวัดหนองคาย เพื่อเพิ่มศักยภาพของบุคลากรในการปฏิบัติงานการแพทย์ฉุกเฉินให้ได้มาตรฐาน และถูกต้องตามระเบียบกฎหมาย เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงระบบบริการการแพทย์กเฉิน ทุกกลุ่มวัย ครอบคลุมทุกพื้นที่ในจังหวัดหนองคาย และพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้โดยผ่านการฝึกอบรมจากหน่วยงานสาธารณสุขจังหวัดหนองคาย และเพื่อส่งเสริมสนับสนุนกิจกรรมสาธารณประโยชน์ในท้องถิ่น โดยมีสถานที่ดำเนินงานที่ กองสาธารณสุข องค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองคาย (อาคารศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการ การแพทย์ฉุกเฉิน จังหวัดหนองคาย ภายในบริเวณสนามกีฬาจังหวัด)










กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี มอบเมล็ดพันธุ์ผักพระราชทาน จำนวน 60 ชุด ให้กับตัวแทนชาวบ้านทั้ง 9 อำเภอ จังหวัดหนองคาย

วันที่ 25 พ.ค.2565 ที่ หอประชุมโรงเรียนหินโงมวิทยาคม อ.เมือง จ.หนองคาย  พันเอกปฎิวัติ ชื่นศรี  รองผู้บังคับการกองบังคับการควบคุมที่ 2 (กรมทหารราบที่ 13) กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี เป็นประธานในพิธีมอบเมล็ดพันธุ์ผักพระราชทาน จากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และกล่าวสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ โดยมีตัวแทนประชาชนทั้ง 9 อำเภอ จังหวัดหนองคาย จำนวน 60 ครัวเรือน เข้ารับมอบเมล็ดพันธุ์ผักพระราชทาน ประกอบด้วย ถั่วฝักยาวลายเสือจักรพันธุ์เบอร์ 1, ฟักทอง, ถั่วพู, มะเขือเทศ, คะน้า, มะเขือเปราะ, บวบหอม, น้ำเต้า และฟักแฟง เพื่อให้ประชาชนนำไปปลูกรับประทาน สร้างความมั่นคงทางอาหารแก่ครอบครัว ที่มีคุณภาพของชุมชน สร้างความมั่นคงทางแหล่งอาหาร ส่งผลให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และสามารถเก็บเมล็ดพันธุ์ไว้ปลูกในรุ่นต่อไปได้ ทั้งยังนำไปให้เกษตรกรและประชาชนเพราะปลูก ให้มีผลผลิตที่ดี ปลอดภัย เป็นปัจจัยช่วยให้เกษตรกรมีรายได้ และมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นรวมทั้งสร้างความมั่นคงทางอาหาร ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งจะเป็นกลไกหลักที่ทำให้คนไทยสามารถรอดพ้นจากโรคระบาด covid 2019 ที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบันอีกทางหนึ่งด้วย












“มนัญญา” รมช.เกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่เยี่ยมชมการดำเนินงานของสหกรณ์การเกษตรท่าบ่อ กำจัด พร้อมมอบมะเล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิและพันธุ์ไม้ให้แก่สมาชิกสหกรณ์ ตามโครงการนำลูกหลานเกษตรกรกลับบ้าน สานต่ออาชีพการเกษตร

วันที่ 25 พ.ค.2565 ที่ สหกรณ์การเกษตรท่าบ่อ จำกัด ต.ท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจติดตาม เยี่ยมชมการดำเนินงานของสหกรณ์การเกษตร ท่าบ่อ จำกัด พร้อมมอบมะเล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิ 105 จำนวน 5 กระสอบ และพันธุ์ไม้ให้แก่สมาชิกสหกรณ์ ตามโครงการนำลูกหลานเกษตรกรกลับบ้าน สานต่ออาชีพการเกษตร ปี 2563 และเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ผลิตภัณฑ์โอทอปของสมาชิกสหกรณ์ฯ โดยมีนายปกรณ์ ศรีหาราช ประธานกรรมการสหกรณ์การเกษตรท่าบ่อ จำกัด กล่าวรายงานผลการดำเนินงานของสหกรณ์ 





ทั้งนี้สหกรณ์การเกษตรท่าบ่อ จำกัด ดำเนินธุรกิจเป็นระยะเวลา 47 ปี มีสมาชิกจำนวน 5,806  คน แบ่งออกเป็นสมาชิกสามัญ จำนวน 4,232 คน สมาชิกสมทบ จำนวน 1,574 คน สำหรับปีบัญชีสิ้นสุด 31 มีนาคม 2565 สหกรณ์มีทุนดำเนินงานทั้งสิ้น 508,000,000 บาทเศษ (508 ล้านบาทเศษ) แบ่งออกเป็น ทุนเรือนหุ้น จำนวน 135,000,000 บาทเศษ (135 ล้านบาทเศษ) ทุนสำรอง จำนวน 35,000,000 บาทเศษ (35 ล้านบาทเศษ) ทุนอื่นๆ จำนวน 10,000,000 บาทเศษ (10 ล้านบาทเศษ) กำไรสุทธิ 15,000,000 บาทเศษ (15 ล้านบาทเศษ) มีมูลค่าธุรกิจรวม 484,000,000 บาทเศษ (484 ล้านบาทเศษ)






สหกรณ์ดำเนินธุรกิจ 5 ด้าน ได้แก่ ธุรกิจสินเชื่อ ธุรกิจเงินรับฝาก ธุรกิจจัดหาสินค้ามาจำหน่าย  ธุรกิจรวบรวมผลผลิตทางการเกษตร ธุรกิจแปรรูปผลิตผลทางการเกษตร และยังดำเนินโครงการส่งเสริมอาชีพแก่สมาชิกได้ขับเคลื่อนงานนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ด้านการส่งเสริมพัฒนาอาชีพให้กับสมาชิกสหกรณ์ เพื่อพัฒนาส่งเสริมทักษะด้านการประกอบอาชีพทางการเกษตร  และสร้างรายได้ให้กับสมาชิกสหกรณ์




ซึ่งในปี 2562 นางสาวธิดารัตน์ ตุ้มมี อายุ 35 ปี ได้เข้าร่วมโครงการนำลูกหลานเกษตรกรกลับบ้าน  สานต่ออาชีพการเกษตร ปี 2563 ได้สมัครเป็นสมาชิกสหกรณ์การเกษตรท่าบ่อ จำกัด โดยนางสาวธิดารัตน์ ตุ้มมี  จบการศึกษาระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เคยทำงานเป็นเจ้าหน้าที่บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี และลาออกจากสถานที่ทำงาน  เนื่องจากสนใจทำอาชีพทางการเกษตร  ประกอบกับต้องการมาพัฒนาถิ่นบ้านเกิด ที่ฟาร์มเกษตรนาปู่ฮักย่า บ้านเลขที่ 60 บ้านฝาง หมู่ 4 ต. น้ำโมง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย บนเนื้อที่ 9 ไร่ โดยทำการเกษตรแบบผสมผสาน เช่น ขุดบ่อเลี้ยงปลา เลี้ยงปลาในกระชัง เลี้ยงเป็ด ไก่ ปลูกพืชต่างๆ ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ยเดือนละ 15,000 บาท สามารถสร้างรายได้และสร้างอาชีพการเกษตรอย่างยั่งยืน












จ.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา" เฉลิมพระเกียรติฯ

สนง.พช.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา...