วันพฤหัสบดีที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2565

องค์กรสวัสดิการประชาชนชุมชนเมืองท่าบ่อ-น้ำโมง ขับเคลื่อนโครงการตลาดสดชุมชนน้ำโมงปลอดภัย วิถึใหม่หลังโรคระบาด


วันที่ 7 ก.ค. 2565 ที่ ตลาดสดชุมชนน้ำโมง ต.น้ำโมง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นายมนูญ อิสิ ประธานสภาเทศบาลเมืองท่าบ่อ เป็นประธานเปิดโครงการตลาดสดชุมชนน้ำโมงปลอดภัย วิถึใหม่หลังโรคระบาด ซึ่งองค์กรสวัสดิการประชาชนชุมชนเมืองท่าบ่อ-น้ำโมง จัดให้มีขึ้น ระหว่างวันที่ 7-8 กรกฎาคม 2565 โดยมีนายเจษฎากร พรหมเทศน์ ประธานองค์กรสวัสดิการประชาชนชุมชนเมืองท่าบ่อ-น้ำโมง กล่าวรายงาน มีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดหนองคาย , สำนักงานสาธารณสุขอำเภอท่าบ่อ และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลน้ำโมง ร่วมเป็นวิทยากรในการให้ความรู้เกี่ยวกับการจัดทำบอร์ดประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ในเรื่อง ชุมชนปลอดภัย วิถีใหม่หลังโรคระบาด วิธีการทดสอบสารปนเปื้อนในอาหาร วิธีการล้างมือ การหยิบจับอาหารวิธีการล้างผักและผลไม้ที่ถูกวิธี การเลือกล้างภาชนะ อุปกรณ์ การเลือกใช้เครื่องปรุงรสอาหาร และการแต่งกายที่ถูกสุขลักษณะ  รวมทั้งจัดทำอ่างล้างมือแบบเท้าเหยียบ โดยเป็นการปรับปรุงอ่างล้างมือที่มีอยู่แล้ว ให้เป็นอ่างล้างมือแบบเท้าเหยียบ ตามตันแบบตัวอย่างที่กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)







สำหรับโครงการฯดังกล่าว ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนหลักประกันสุขภาพเทศบาลเมืองท่าบ่อ ประจำปีงบประมาณ 2565 เพื่อให้ผู้ประกอบการ/ผู้ค้ามีการเฝ้าระวังคุณภาพอาหารในตลาด ให้มีความสะอาด ปราศจากเชื้อโรค และสารปนเปื้อนที่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค และสร้างความตระหนักในการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รวมทั้งแก้ไขปัญหาสภาพแวดล้อมของตลาดสดชุมชนน้ำโมง ทั้งในเรื่องขยะ น้ำเสีย ความสะอาดทั่วไป การปนเปื้อนของสารพิษในอาหาร โดยให้ผู้ซื้อ ผู้ขาย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันพัฒนาตลาดสดชุมชนน้ำโมงให้สะอาด ปลอดภัย ได้ตามเกณฑ์มาตรฐาน อย่างต่อเนื่อง โดยมี สมาชิกสภาเทศบาลเมืองท่าบ่อ, ประธานชุมชน , ประชาชน และพ่อค้า-แม่ค้า ร่วมโครงการฯ จำนวน 100 คน













กองทุนแม่ของแผ่นดินบ้านดอนก่อ ต.หนองปลาปาก อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย เข้าร่วมประกวดหมู่บ้านกองทุนแม่ดีเด่น ระดับกรมการพัฒนาชุมชน ประจำปี 2565 ผ่านระบบออนไลน์

วันที่ 7 ก.ค. 2565 ที่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหนองปลาปาก บ้านดอนก่อ หมู่ที่ 3 ต.หนองปลาปาก อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย นายสมคิด จันทมฤก อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน มอบหมายให้ นายคมกริช ชินชนะ ผู้ตรวจราชการกรมการพัฒนาชุมชน รับผิดชอบเขตตรวจราชการที่ 10 กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน (อุดรธานี หนองคาย เลย หนองบัวลำภู และบึงกาฬ) เป็นประธานการประกวดหมู่บ้านกองทุนแม่ของแผ่นดินดีเด่นระดับกรมการพัฒนาชุมชน ประจำปี 2565 โดยมีคณะกรรมการประกวดฯ ประกอบด้วย นายธิติพันธ์ พลสิงห์ นักทรัพยากรบุคคลชำนาญการ (ตัวแทนผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนอุดรธานี) , นางสาววนิชดา สร้อยมณี ผู้อำนวยการงานส่งเสริมและพัฒนาองค์การการเงินชุมชน และนายธนพัฒน์ บุญชู นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการ สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค 4  ร่วมดำเนินการประกวดฯ โดยได้สอบถาม พร้อมให้คำแนะนำการดำเนินการขับเคลื่อนงานกองทุนแม่ของแผ่นดิน แก่ทางคณะกรรมการกองทุนแม่ของแผ่นดินบ้านดอนก่อ หมู่ที่ 3 ต.หนองปลาปาก อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย







โดยมี นายไพโรจน์ โสภาพร พัฒนาการจังหวัดหนองคาย , นายจักรวรรดิ วิทาโน พัฒนาการอำเภอศรีเชียงใหม่ , นายเข็มชาติ จันทิมา ประธานกองทุนแม่ของแผ่นดินบ้านดอนก่อ พร้อมหัวหน้าส่วนราชการระดับอำเภอ , บุคลากรในสังกัดพัฒนาการชุมชน และคณะกรรมการกองทุนแม่ของแผ่นดินบ้านดอนก่อ ร่วมนำเสนอผลการดำเนินการขับเคลื่อนงานของกองทุนแม่ของแผ่นดินฯ ผ่านระบบการประชุมออนไลน์ Zoom Cloud Meetings



ทั้งนี้กองทุนแม่ของแผ่นดิน เป็นกองทุนที่รวมจิตใจของคนในชุมชนเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ทุกข์ยาก ซึ่งน้อมนำยุทธศาสตร์พระราชทานของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงห่วงใยต่อวิกฤตมหันตภัยจากยาเสพติด มีเป้าหมายในการขจัดปัญหาหายาเสพติดให้ได้ผลอย่างยั่งยืนด้วยพลังสามัคคีของชาวบ้านให้พึ่งพาตนเองบนพื้นฐานของทุนทางสังคมที่มีอยู่ของแต่ละชุมชนและต่อยอดไปสู่การแก้ไขปัญหาได้อย่างยั่งยืน



เพื่อสนองพระราชปณิธานฯ ในการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน ให้ประชาชนเกิดความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและตระหนักถึงความสำคัญในกระบวนการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในหมู่บ้าน/ชุมชน ด้วยกองทุนแม่ของแผ่นดิน กรมการพัฒนาชุมชน จึงได้ดำเนินการประกวดหมู่บ้านกองทุนแม่ของแผ่นดินดีเด่น ระดับกรมการพัฒนาชุมชน ปี 2565 ขึ้น



สำหรับกองทุนแม่ของแผ่นดินบ้านดอนก่อ หมู่ที่ 3 ต.หนองปลาปาก อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ได้รับคัดเลือกเข้าร่วมกิจกรรมการประกวดหมู่บ้านกองทุนแม่ของแผ่นดินดีเด่น ระดับจังหวัด ซึ่งได้มีการส่งเสริมสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ ในชุมชน ทั้งกลุ่มเยาวชนกลุ่มอาชีพ เพื่อสร้างความตระหนักรู้ถึงโทษภัยของยาเสพติดและร่วมมือร่วมใจกันในการดำเนินงานของกองทุนแม่ของแผ่นดิน ให้บรรลุวัตถุประสงค์เป้าหมายมีประสิทธิภาพประสิทธิผล มีการสร้างองค์กรเครือข่ายที่เข้มแข็งและระดมทุนในกลุ่มกองทุนแม่ของแผ่นดินบ้านดอนก่อจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมส่งเสริมและพัฒนาอาชีพของสมาชิกครบวงจร การผลิต การพัฒนา และการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ มีกิจกรรมแสวงหาเงินสมทบกองทุน ทั้งทุนศรัทธา ทุนปัญญา เพื่อจัดกิจกรรมของกองทุนเป็นสถานที่ศึกษาดูงานให้แก่หมู่บ้านกองทุนแม่ของแผ่นดิน ในพื้นที่อำเภอ จังหวัด และบุคคลผู้สนใจ มีความโปร่งใส่ในการดำเนินงานและการใช้จ่ายเงินกองทุนโดยมีบัญชีรับ–จ่าย ที่เป็นระบบ สามารถตรวจสอบได้ และมีการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้กับสมาชิก ผ่านช่องทางสื่อทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ ซึ่งผลการประกวดกิจกรรมฯ กรมการพัฒนาชุมชนจะประกาศให้ทราบอีกครั้ง




วันจันทร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2565

องค์กรสวัสดิการประชาชนชุมชนเมืองท่าบ่อ-น้ำโมง (องค์กรสวัสดิการชุมชน) จังหวัดหนองคาย เป็นหนึ่งใน 12 องค์กร ที่ได้รับประทานรางวัล “ประชาบดี” ประจำปี 2564 เชิดชูเกียรติผู้เป็นต้นแบบแห่งการให้ ประเภทองค์กรที่ทำคุณประโยชน์

นายเจษฎากร  พรหมเทศน์ ประธานองค์กรสวัสดิการประชาชนชุมชนเมืองท่าบ่อ-น้ำโมง (องค์กรสวัสดิการชุมชน) ต.น้ำโมง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ได้เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 3 ก.ค. 2565 เวลา 15.00 น. ณ ห้องประชุมปกรณ์ อังศุสิงห์ ชั้น 2 อาคารกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กรุงเทพมหานคร พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ ทรงโปรดให้ พลเอก หม่อมเจ้าเฉลิมศึก ยุคล เป็นผู้แทนพระองค์ มาเป็นประธานในพิธีประทานรางวัล “ประชาบดี” ประจำปี 2564 แก่ผู้ทำคุณประโยชน์ดีเด่นแก่ผู้อยู่ในสภาวะยากลำบากและผู้อยู่ในสภาวะยากลำบากที่ประพฤติตนดีเด่น เพื่อเสริมสร้างแรงจูงใจแก่ผู้ที่ดูแลช่วยเหลือผู้อยู่ในสภาวะยากลำบาก อีกทั้งส่งเสริมเจตคติเชิงบวกในการอยู่ร่วมกันอย่างเอื้ออาทร เห็นคุณค่าและศักดิ์ศรีของผู้อยู่ในสภาวะยากลำบาก โดยมีนายอนุกูล ปีดแก้ว อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ทูลรายงาน



“พระประชาบดี” เทพผู้เป็นที่พึ่งและสงเคราะห์ประชาชน ด้วยพลังแห่งการให้และแบ่งปัน เพื่อช่วยเหลือประชาชนให้รอดพ้นจากสภาวะยากลำบาก กระทรวง พม. จึงได้นำชื่อ “ประชาบดี” มาเป็นชื่อรางวัลแห่งเกียรติยศ ซึ่งที่ผ่านมา ด้วยพระเมตตาของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ ได้เสด็จมาประทาน หรือทรงโปรดให้ผู้แทนพระองค์ มาประทานรางวัล “ประชาบดี” เป็นประจำทุกปีอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกย่องและเชิดชูคุณความดีให้เป็นที่ประจักษ์ต่อสังคม นับเป็นความภาคภูมิใจของต้นแบบความดีที่ช่วยเหลือผู้อยู่ในสภาวะยากลำบากอย่างหาที่สุดมิได้


สำหรับในปี 2564 มีผู้ได้รับรางวัล “ประชาบดี” จำนวนทั้งสิ้น 49 ราย แบ่งออกเป็น 4 ประเภท ดังนี้  1."ประเภทบุคคลผู้ทำคุณประโยชน์ 10 ราย" ได้แก่ 1. พระพรหมวชิรโมลี 2. พระเลอศักดิ์ วราสโภ 3. นายสมพงษ์ พงษ์พัว 4. นางยุวดี  บำรุงบุตร 5. นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล 6. นายอรรณพ จิรกิติ 7. นางสาวหทัยรัตน์  บุญมา 8. ดาบตำรวจสุทธิณัฐ เส้งรอด 9. นางจิตรา มะหะหมัดยูซบ และ 10. นางสาวนกน้อย มีไชยโย


2. "ประเภทองค์กรที่ทำคุณประโยชน์ 12 ราย" ได้แก่ 1. คณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.หนองหิน) จังหวัดเลย 2. เหล่ากาชาดจังหวัดพังงา 3.องค์กรสวัสดิการประชาชนชุมชนเมืองท่าบ่อ-น้ำโมง (องค์กรสวัสดิการชุมชน) จังหวัดหนองคาย 4. ชมรมคนพิการน้ำเกลี้ยงจังหวัดศรีสะเกษ 5.กองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลวังตามัว จังหวัดนครพนม 6. กองทุนบ้านสามแพรกหมู่ 4 จังหวัดสมุทรปราการ 7. วัดบุญนารอบ จังหวัดนครศรีธรรมราช 8. มูลนิธิหลวงตาน้อย จังหวัดนครปฐม 9. ชมรมคนพิการเทศบาลนครตรัง จังหวัดตรัง 10. ศูนย์ประสานงานอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร 11. บ้านเอื้อพร องค์กรเพื่อสาธารณประโยชน์ จังหวัดชุมพร และ 12. บริษัท วิสาหกิจสุขภาพชุมชน จำกัด


3. "ประเภทสื่อสร้างสรรค์ 13 ราย" ได้แก่ 1. รายการเกมต่อชีวิต (รางวัลเกียรติยศ) 2. รายการรักเมืองไทย (รางวัลเกียรติยศ) 3. รายการบ่ายโมงตรงประเด็น 4. รายการวันใหม่วาไรตี้ ช่วงร้องทุก(ข์) ลงป้ายนี้ 5. รายการปัญญาปันสุข 6. รายการรวมใจเป็นหนึ่ง 7. รายการห้องรับแขก 8. หนังสือเรื่อง “เด็กบ้านดอย” โดยมาลา คำจันทร์ 9. นายสลา คุณวุฒิ 10. เพจ Because We Care 11. เว็บไซต์ www.rama.mahidol.ac.th 12. โฆษณาร้อยเรียงความดีสู่สังคม “ความกตัญญู” และ 13. โฆษณา “ยิ้มสู้”


4. "ประเภทต้นแบบคนสู้ชีวิต 14 ราย" ได้แก่ 1. นายสุมิตร ทองเมือง 2. นางพัชราภรณ์ ขำเปลี่ยน 3. นางสาวผาณิต พยัคฆโส 4. นางละมัย มั่งคั่ง 5. นางสาวสมใจ ปั้นพุ่มโพธิ์ 6. นางฉลวย ราชวัตร 7. นางสาวสายหยุด พรมเจียม 8. นายสุวรรณ อุดมผล 9. นางสาวมณีรัตน์  ตัณฑวรรธนะ 10. นางศศิวิมล วงศรียา 11. นายทวี สีมาขันธ์ 12. นางสาววีรญา พิกุลทอง 13. นางกรณิการ์ จิงา และ 14. นายมาโนช มะลิแก้ว


ทั้งนี้กระทรวง พม. ขอแสดงความยินดีและยกย่องเชิดชูเกียรติกับทุกท่านและทุกองค์กรที่ได้รับรางวัลในวันนี้ และขอฝากถึงทุกภาคส่วนในสังคม ว่า พม. ไม่สามารถปฏิบัติภารกิจให้สำเร็จลุล่วงได้โดยลำพัง จึงต้องขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วน มาร่วมเป็นกลไกสนับสนุนและส่งเสริมการพัฒนาสังคม การพิทักษ์และคุ้มครองสิทธิประชาชน โดยเฉพาะผู้ด้อยโอกาสหรือกลุ่มเปราะบางที่ต้องการความช่วยเหลือ เพื่อให้พวกเขาสามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีคุณค่าและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อย่างเท่าเทียมกันอย่างยั่งยืนต่อไป




วันศุกร์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2565

ระทึก! หนุ่มใหญ่ชาวโพนสา ขับรถจยย.ไปหาญาติที่ศรีเชียงใหม่ เกิดไฟไหม้รถจยย.เสียหายทั้งคัน จนท.นรข.เขตหนองคาย ต้องรีบช่วยดับไฟ


วันที่ 1 ก.ค. 2565 เวลาประมาณ 07.15 น. เจ้าหน้าที่ นรข.เขตหนองคาย โดย น.ท.สุรไกร รัตนกุสุมภ์ หน.สถานีเรือศรีเชียงใหม่ และรักษาราชการแทนหัวหน้ายุทธการและการข่าว นรข.เขตหนองคาย ได้จัดกำลังพลชุดเคลื่อนที่เร็ว เข้าให้การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุบัติเหตุไฟไหม้รถจักรยานยนต๋ ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ หมายเลขทะเบียน ขลพ 507 อุดรธานี บริเวณริมถนนหลวง 211 ท่าบ่อ - ศรีเชียงใหม่ ฝั่งตรงข้ามหน้าวัดพานพร้าว ต.พานพร้าว อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย สภาพรถกำลังถูกเพลิงลุกไหม้เสียหายทั้งคัน เจ้าหน้าที่จึงได้นำถังดับเพลิงชนิดผงเคมีแห้ง ช่วยกันระดมฉีดระงับเหตุ โดยใช้เวลาประมาณ 5-10 นาที เพลิงที่ลุกไหม้จึงดับลง 



ขณะเดียวกันในที่เกิดเหตุพบนายชัยวัฒน์ บุญชู อายุ 38 ปี ชาวบ้านโพนสา ต.โพนสา อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย แสดงตัวเป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์คันเกิดเหตุ โดยเจ้าตัวบอกว่า ได้ขับรถจักรยานยนต์ออกจากบ้านพักที่บ้านโพนสา เพื่อจะไปหาญาติในตัวอำเภอศรีเชียงใหม่ จนมาถึงที่เกิดเหตุ เกิดน้ำมันเชื้อเพลิงรั่วไหล และรถเกิดเพลิงไหม้ ด้วยความตกใจตนจึงได้รีบจอดรถแล้ววิ่งหนีออกมา พร้อมกับแจ้ง 1669 ช่วยประสานรถดับเพลิงมาช่วยดับไฟที่กำลังลุกไหม้  ในขณะที่รอรถดับเพลิง ได้มีเจ้าหน้าที่ นรข.เขตหนองคาย มาประสบเหตุและได้เข้ามาทำการช่วยเหลือ จนสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ เบื้องต้นเจ้าของรถไม่ได้ติดใจถึงสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้แต่อย่างใด ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ให้ทางเจ้าของนำรถกลับบ้านเพื่อไปซ่อมแซมต่อไป






หน่วยเรือโพนพิสัย นรข.เขตหนองคาย บูรณาการหน่วยงานความมั่นคง จับแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย พร้อมเรือกีบ 1 ลำ

วันที่ 1 ก.ค. 2565 ที่ หน่วยเรือโพนพิสัย นรข.เขตหนองคาย อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย เรือเอก ธนกร ฤทธิ์จอหอ หัวหน้าหน่วยเรือโพนพิสัย พร้อมเจ้าหน้าที่กองร้อยสกัดกั้นยาเสพติด ที่ 1 บก.ควบคุมที่ 2 กกล.สุรศักดิ์ตรี , กองร้อยทหารพราน ที่ 2105 หน่วยเฉพาะกิจทหารพราน ที่ 21 กกล.สุรศักดิ์มนตรี และฝ่ายปกครองอำเภอโพนพิสัย ร่วมกันแถลงข่าว จับกุมผู้ต้องหาต่างด้าวชาย 3 คน เป็นราษฎรเมืองปากงึม แขวงนครหลวงเวียงจันทน์ พร้อมของกลางเรือกีบ 1 ลำ ได้ที่ริมฝั่งแม่น้ำโขง หลังรีสอร์ท ต.วัดหลวง อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย


สืบเนื่องจากเมื่อเวลาเที่ยงคืน ของวันที่ 1 ก.ค. 2565 นาวาเอก ราฆพ เทวะประทีป ผบ.นรข.เขตหนองคาย ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าว ว่าจะมีการลักลอบเข้าเมือง โดยผิดกฎหมายทางช่องทางธรรมชาติ บริเวณริมฝั่งเเม่โขงหลังรีสอร์ทดังกล่าว จึงได้สั่งการให้ เรือเอก ธนกร ฤทธิ์จอหอ หน.หน่วยเรือโพนพิสัย จัดเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการฯ พร้อมทั้งประสานหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ออกลาดตระเวนซุ่มเฝ้าตรวจบริเวณดังกล่าว จนกระทั่งเวลา 04:30 น. เจ้าหน้าที่ฯ ตรวจพบเรือกีบแล่นข้ามแม่น้ำโขงมาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ตรงมายังบริเวณริมฝั่งเเม่โขง หลังรีสอร์ท ต.วัดหลวง อ.โพนพิสัย มีคนในเรือ 3 คน เมื่อเรือจอดเทียบฝั่ง เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าควบคุมตัวผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 3 ราย และไม่พบผู้ต้องหาเพิ่ม จึงควบคุมตัวทั้งหมดกลับมาที่ หน่วยเรือโพนพิสัย  พร้อมได้นำตัวทั้ง 3 ราย ทำการตรวจคัดกรองหาเชื้อโควิด-19 ผลจากการตรวจอุณหภูมิร่างกาย และผลการตรวจคัดกรองด้วยวิธี ATK ไม่มีความผิดปกติแต่อย่างใด จึงทำบันทึกจับกุม พร้อมนำผู้ต้องหทั้งหมด ส่ง พนง.สอบสวน สภ.โพนพิสัย เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป






จ.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา" เฉลิมพระเกียรติฯ

สนง.พช.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา...