วันอังคารที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

เทศบาลตำบลศรีเชียงใหม่ ประชุมเตรียมความพร้อมจัดงานประเพณีลอยกระทง ประจำปี 2565 มีประกวดนางนพมาศ ประกวดกระทงสวยงาม แข่งเรือกาบชุมชน และกีฬาพื้นบ้าน

วันที่ 1 พ.ย.2565 ที่ ห้องประชุมช้างเผือก ชั้น 2 เทศบาลตำบลศรีเชียงใหม่ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย นายภุชงค์ ชานันโท นายกเทศมนตรีตำบลศรีเชียงใหม่ เป็นประธานในการประชุมเตรียมพร้อมจัดงานประเพณีลอยกระทง ประจำปี 2565  โดยมี นายชนินทร์ โล่ห์วัชรินทร์ รองนายกเทศมนตรี, นายเจริญศักดิ์ บุญดี รองนายกเทศมนตรี พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ สมาชิกสภา กรรมการชุมชน และผู้ที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม ซึ่งเทศบาลตำบลศรีเชียงใหม่ ร่วมกับชุมชนต่างๆ ในพื้นที่กำหนดจัดงานประเพณีลอยกระทง ประจำปี 2565 ในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2565 ณ บริเวณถนนริมฝั่งแม่น้ำโขงหน้าวัดช้างเผือก





กิจกรรมภายในงานประกอบด้วย การประกวดนางนพมาศ  คุณสมบัติการสมัครต้องส่งในนามชุมชน ผู้เข้าประกวดต้องเป็นเพศหญิง อายุ 15-25 ปี โดยรางวัลชนะเลิศ รับเงินรางวัล 10,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลและสายสะพาย , รองชนะเลิศอันดับ 1 รับเงินรางวัล 7,000 บาทพร้อมถ้วยรางวัล และรองชนะเลิศอันดับ 2 รับเงินรางวัล 5,000 บาทพร้อมถ้วยรางวัล 




นอกจากนี้ยังมีการประกวดประดิษฐ์กระทงฝีมือประเภทเยาวชน ซึ่งปีนี้ได้ทำการประกวดออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ อายุไม่เกิน 12 ปี โดยรางวัลชนะเลิศ 1,500 บาท รองชนะเลิศอันดับ 1 เงินรางวัล 1,000 บาท รองชนะเลิศอันดับ 2 เงินรางวัล 500 บาท , รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี มีเงินรางวัลชนะเลิศ 1,500 บาท รองชนะเลิศอันดับ 1 เงินรางวัล 1,000 บาท รองชนะเลิศอันดับ 2 เงินรางวัล 500 บาท และรุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี  มีเงินรางวัลชนะเลิศ 1,500 บาท รองชนะเลิศอันดับ 1 เงินรางวัล 1,000 รองชนะเลิศอันดับ 2 เงินรางวัล 500 บาท โดยแต่ละรุ่นต้องมีทีมละ 3 คน ขนาดกระทงต้องมีเส้นผ่าศูนย์กลางไม่ต่ำกว่า 15 เซนติเมตร ความสูงเหมาะสม และต้องประดิษฐ์ตกแต่งด้วยวัสดุธรรมชาติ




ภายในงานยังมีการประกวดประดิษฐ์กระทงฝีมือประเภทประชนทั่วไปทั้ง 8 ชุมชน มีเงินรางวัลชนะเลิศ 10,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัล รองชนะเลิศอันดับ 1 รับเงินรางวัล 7,000 บาทพร้อมถ้วยรางวัล และรองชนะเลิศอันดับ 2 รับเงินรางวัล 5,000 บาทพร้อมถ้วยรางวัล และรางวัลชมเชยให้ชุมชนที่ตกรอบ 2,500 บาท สามารถยื่นใบสมัครได้ที่ กองการศึกษาเทศบาลตำบลศรีเชียงใหม่ ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 4 พฤศจิกายน 2565 และงานประเพณีลอยกระทงปีนี้ ทางเทศบาลตำบลศรีเชียงใหม่ยังจัดแข่งขันเรือกาบ 5 ฝีพายภายในชุมชน รวมทั้งกีฬาพื้นบ้านอีกด้วย







รองผู้ว่าฯหนองคาย ลงพื้นที่ประชุมมอบนโยบายผู้บริหารท้องถิ่น ข้าราชการและพนักงานส่วนท้องถิ่นในการบริหารจัดการขยะมูลฝอยชุมชนตามแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนโครงการถังขยะเปียกลดโลกร้อนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดหนองคาย โดยวางเป้าหมายให้ครบ 100 % ภายในเดือนพฤศจิกายน 65

วันที่ 1 พ.ย.2565 ที่ อาคารอเนกประสงค์เทศบาลตำบลศรีเชียงใหม่ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย นางรณิดา เหลืองฐิติสกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานประชุมและมอบนโยบายในการบริหารจัดการขยะมูลฝอยชุมชน ตามแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนโครงการถังขยะเปียกลดโลกร้อนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดหนองคาย โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ , ข้าราชการ , ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น , พนักงานส่วนท้องถิ่น , อสม. , ทีมวันโฮมตำบล และหน่วยงานเกี่ยวข้องร่วมประชุม เพื่อบรรลุเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกและการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ตามโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย (T-VER) ของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ซึ่งจังหวัดหนองคายได้เร่งรัดดำเนินการขับเคลื่อนมาอย่างต่อเนื่อง โดยได้เชิญนายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบโครงการทุกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ ร่วมประชุมเพื่อให้เกิดความรู้และความเข้าใจในการดำเนินงานให้บรรลุตามแนวทางที่กำหนด อันจะเกิดประโยชน์ต่อชุมชน/หมู่บ้าน  และจังหวัดหนองคายได้วางเป้าหมายในการกำจัดขยะเปียกครบทุกครัวเรือนให้ได้ 100 เปอร์เซนต์ภายในเดือนพฤศจิกายน 2565 ซึ่งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง 5 แห่งในพื้นที่อำเภอศรีเชียงใหม่ มีประชากรที่มีการจัดทำถังขยะเปียก คิดเป็นร้อยละ 3.31 จากครัวเรือนทั้งหมด 10,328 ครัวเรือน หรือมีการจัดทำถังขยะเปียก 616 ครัวเรือน คิดเป็นร้อยละ  5.96



ทั้งนี้จังหวัดหนองคาย มีความมุ่งมั่นในการดำเนินการขับเคลื่อนโครงการถังขยะเปียกลดโลกร้อนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พร้อมทั้งได้กำหนดเป้าหมาย แผนงาน และมอบหมายผู้รับผิดชอบในพื้นที่อย่างชัดเจน เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายในการขึ้นทะเบียนโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย ให้สอดคล้องกับกระบวนการรับรองคาร์บอนเครดิต และเพื่อให้มีความพร้อมในการรับการทวนสอบจากผู้ประเมินภายนอก ซึ่งจะทำให้เกิดการประเมินผลเพื่อพัฒนารูปแบบการดำเนินงานให้เกิดประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม และจะส่งผลโดยตรงต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตพี่น้องประชาชน ชุมชน และสังคมให้เกิดยั่งยืนอย่างแท้จริงต่อไป











วันอาทิตย์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2565

จังหวัดหนองคาย จัดกิจกรรมแสงนำใจไทยทั้งชาติ เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 8 เฉลิมพระเกียรติ


 วันที่ 30 ต.ค. 2565 ที่ ลานวัฒนธรรมริมฝั่งแม่น้ำโขง หน้าวัดลำดวน ในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย นายณัฐวัสส์ วิริยานภาภรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย / รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานในพิธีเปิด โครงการแสงนำใจไทยทั้งชาติ เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 8 เฉลิมพระเกียรติ ซึ่งจังหวัดหนองคาย ร่วมกับหลายภาคส่วนจัดขึ้น เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในการป้องกัน ดูแล และรักษาอย่างถูกต้องแก่ประชาชนทั่วไป



นายแพทย์ณรงค์  จันทร์แก้ว นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า จากรายงานการศึกษาโรคและการบาดเจ็บของประชากรไทยพบว่า มีผู้ป่วยเสียชีวิต จากโรคหลอดเลือดและหัวใจทั่วโลกประมาณ 16.7 ล้านคนต่อปี ในจำนวนนี้เกิดจากโรคหลอดเลือดสมอง ประมาณ 5.5 ล้านคน โดยกว่าร้อยละ 80 ของผู้ป่วยโรคนี้เกิดในประเทศกำลังพัฒนา ในประเทศไทยพบผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ประมาณ 1,880 คน ต่อประชากรจำนวนหนึ่งแสนคน หรือร้อยละ 2 ซึ่งถือเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ในเพศหญิง และอันดับ 3 ในเพศชาย รองจากอุบัติเหตุและโรคมะเร็ง นอกจากนั้นโรคนี้ยังมีอัตราความพิการสูง การศึกษาในประเทศไทยพบว่าในผู้ป่วย 100 คน ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจะเสียชีวิตร้อยละ 5 และพิการร้อยละ 70 ซึ่งนอกจากความพิการทางกายแล้ว ยังมีผลทำให้ความจำเสื่อมในภายหลังอีกด้วย ถ้าประชาชนขาดความรู้ด้านการป้องกันหรือรักษาอย่างถูกวิธี โรคหลอดเลือดสมอง  เป็นโรคที่สามารถป้องกันได้ ร้อยละ 90 ถ้าสามารถปรับพฤติกรรมเลี่ยงความเสี่ยงได้ จากรายงานข้างต้นจะเห็นว่าโรคหลอดเลือดสมองเป็นอีกโรคหนึ่งที่ทำลายคุณภาพชีวิตของประชากรจังหวัดหนองคาย ได้ตระหนักถึงปัญหาเหล่านี้จึงได้จัดงาน “โครงการแสงนำใจไทยทั้งชาติ เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 8 เฉลิมพระเกียรติ” ขึ้น 



ในการจัดงานครั้งนี้ มีการขับเคลื่อนโครงการฯ ผ่านเขตสุขภาพ 13 แห่งทั่วประเทศ ในการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ กิจกรรมให้ความรู้โรคหลอดเลือดสมอง และกิจกรรมออกกำลังกายเดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ในทุก 77 จังหวัดทั้งประเทศที่มาร่วมจัดงานพร้อมกัน เพื่อเป็นการตอกย้ำความสำคัญของการออกกำลังกายในการป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมฯ ครั้งนี้เป็นจำนวนมาก








รองอธิบดีฝ่ายก่อสร้าง กรมชลประทาน เป็นประธานทอดกฐินรักจิตรสามัคคี เพื่อสมทบทุนสร้างอาคารที่พักพระภิกษุ สามเณร และปฎิสังขรณ์เสนาสนะวัดจำปาทอง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย รวมยอดกฐินกว่า 4.8 ล้านบาท

วันที่ 30 ต.ค.2565 ที่ วัดจำปาทอง บ้านหนองยางคำ หมู่ 13 ต.กองนาง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นายชูชาติ รักจิตร รองอธิบดีฝ่ายก่อสร้าง กรมชลประทาน เป็นประธานทอดพิธีถวายผ้ากฐิน โดยมีพระศรีญาณวงศ์ ดร. รองเจ้าคณะจังหวัดหนองคาย / เจ้าอาวาสวัดศรีชมภูองค์ตื้อ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์  มีคณะข้าราชการ เจ้าหน้าที่กรมชลประทานจาก โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาห้วยโมง ทั้งในอดีตและปัจจุบัน รวมทั้งคณะเจ้าหน้าที่จากสำนักงานชลประทานที่ 5 เจ้าหน้าที่จากส่วนกลาง หัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พร้อมด้วยพุทธศาสนิกชนผู้มีจิตศรัทธาเข้าร่วมพิธีทอดกฐินรักจิตรสามัคคี ประจำปี 2565 สำหรับการทอดกฐินในครั้งนี้ ได้ยอดเงินทำบุญจากรองอธิบดีฝ่ายก่อสร้าง กรมชลประทาน 4,143,840 บาท รวมกับยอดของผู้มีจิตศรัทธารวมเป็นเงิน 4,807,284.50 บาท





ทั้งนี้เมื่อปี 2562 เจ้าหน้าที่ส่วนวางโครงการที่ 2 สำนักบริหารโครงการ นำโดยนายฉัตรดำรงค์ หงษ์บุญมี ฝ่ายวางโครงการที่ 1 (วค.1/2 บก.) ร่วมกับเจ้าหน้าที่จาก สำนักงานก่อสร้างขนาดกลางที่ 5 เจ้าหน้าที่จากสำนักสำรวจด้านวิศวกรรมและธรณีวิทยา ผู้นำชุมชน เข้าตรวจสอบสภาพพื้นที่โครงการแก้มลิงหนองอ้อ รวมถึงสอบถามแนวทางการพัฒนาของชุมชนที่อยู่บริเวณรอบวัดจำปาทอง พบว่าสภาพปัญหาของพื้นที่ ได้แก่ปัญหาอุทกภัย ปัญหาขาดแคลนน้ำสำหรับการอุปโภค-บริโภค และบริเวณพื้นที่โครงการยังไม่มีการพัฒนาแหล่งน้ำอย่างเป็นระบบ ทำให้มีความจำเป็นที่จะต้องพัฒนาโครงการแก้มลิงหนองอ้อ จึงได้ดำเนินการขุดลอกแล้วเสร็จกว่า 1,000 ไร่ และปัจจุบันกำลังดำเนินการขุดลอกตามโครงการฯ การกว่า 2,500 ไร่ เพื่อทำให้ชาวบ้านในพื้นที่รับน้ำ ได้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี มีน้ำใช้เพื่อการเกษตร เช่นเดียวกับอีกหลายๆ พื้นที่ในภูมิภาคนี้ได้มีแหล่งน้ำในการอุปโภค-บริโภคในครัวเรือน และเพื่อทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา สืบสานประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามของชาวพุทธ และส่งเสริมอัตลักษณ์ในพื้นถิ่น ฝ่ายก่อสร้าง กรมชลประทาน จึงได้ร่วมกับวัดจำปาทอง จัดงานบุญทอดกฐินรักจิตรสามัคคีในครั้งนี้ขึ้น เพื่อสมทบทุนสร้างอาคารที่พักพระภิกษุ สามเณร และปฎิสังขรณ์เสนาสนะวัดจำปาทอง





สำหรับวัดจำปาทอง สร้างเมื่อ พ.ศ.2100 สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ที่ดินตั้งวัดมีเนื้อที่ 13 ไร่ 3 งาน 20 ตารางวา ซึ่งทิศตะวันออกอยู่ติดกับหนองอ้อ ปูชนียวัตถุสำคัญ คือ หลวงพ่ออินทร์แปลง พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ยุคศรีสัตตนาคราช มีขนาดหน้าตัก 109 นิ้ว หรือ 277 เซนติเมตร เป็นพระประธานในอุโบสถ และเจดีย์สุธรรม (เจดีย์พระนางเขียวค้อม) 











จ.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา" เฉลิมพระเกียรติฯ

สนง.พช.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา...