นรข.หนองคาย จับหนุ่มหนองคาย ลักลอบนำรถ จยย.ข้ามแม่น้ำโขงส่งขายลาว ตรวจค้นยังพบยาบ้าอีก 47 เม็ด

เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 2565  ที่ สถานีเรือหนองคาย หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง เขตหนองคาย  น.ท.เจษฎา ปัญญา ผบ.หมู่เรือที่ 4 รักษาราชการ หัวหน้าสถานีเรือหนองคาย  ,ตชด.245,กอ.รมน.หนองคาย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่ง ร่วมกันแถลงผลการจับกุมนายกิตติพงษ์   ตันตะสุด อายุ 32 ปี ชาวบ้านหมีน้อย ต.กวนวัน อ.เมือง จ.หนองคาย พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ 1 คัน ยี่ห้อ HONDA WAVE I 125 หมายเลข เครื่องยนต์ JC93E - 2018318 ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ไม่พบเอกสาร หลักฐานผู้ครอบครอง เตรียมส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน, ยาบ้า จำนวน 47 เม็ด ได้ที่บริเวณเขื่อนป้องกันตลิ่งใกล้ สะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 1 ต.มีชัย อ.เมือง จ.หนองคาย

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 14 ธ.ค.65 น.ท.เจษฎา  ปัญญา ผบ.หมู่เรือที่ 4 รักษาราชการ หัวหน้าสถานีเรือหนองคาย  ได้รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีการลักลอบนำรถจักรยานยนต์ข้ามไปยังฝั่ง สปป.ลาว ที่บริเวณ เขื่อนป้องกันตลิ่งใกล้ สะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 1 จึงได้รายงานให้ น.อ.จิรัฏฐ์  ผูกทอง ผู้บังคับหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง เขตหนองคาย ทราบ พร้อมจัดชุดปฏิบัติการของ สน.เรือหนองคาย เข้าถึงพื้นที่ กระทั่งเวลาประมาณ 19.30 น. ได้ตรวจพบชายต้องสงสัย 1 คน ทราบชื่อ นายกิตติพงษ์ ตันตะสุด อายุ 32 ปี ชาวบ้านหมีน้อย ต.กวนวัน อ.เมืองหนองคาย กำลังนำรถจักรยานยนต์ลงไปยังบันใดขึ้น - ลง แม่น้ำโขง จึงแสดงตัวขอตรวจคันผู้ต้องสงสัย และรถจักรยานยนต์ พบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 47 เม็ด ซุกช่อนไว้ใต้เบาะรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว

จากนั้น จนท.นรข. จึงได้ควบคุมผู้ต้องสงสัย และรถจักรยานยนต์กลับมาตรวจสอบที่ สน.เรือหนองคาย จากการตรวจสอบ เป็นรถจักรยานยนต์ สีเทา ตราอักษร HONDA WAVE I 125 หมายเลข เครื่องยนต์ JC93E - 2018318 ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ไม่พบเอกสาร หลักฐานผู้ครอบครองรถใดๆ และพบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้า จำนวน 47 เม็ด เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองคาย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะโรงเรียนท่าบ่อ นำนักเรียนชั้นมัธยมปลาย ทัศนศึกษาค่ายเกษตรศิลป์ ตามโครงการศึกษาดูงานและจัดทำคลิปถอดบทเรียน ณ บ้านทุ่งศิลป์ครูแดง

วันที่ 18 ธ.ค.2565 ที่ บ้านทุ่งศิลป์ครูแดง ต.น้ำโมง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นางสาววิไลวัลย์ พรหมมา รองผู้อำนวยการ ฝ่ายบริหารงานทั่วไปโรงเรียนท่าบ่อ เป็นประธานเปิดโครงการศึกษาดูงานและจัดทำคลิปถอดบทเรียน ของกลุ่มสาระเรียนรู้ศิลปะโรงเรียนท่าบ่อ จัดโครงการฯขึ้น เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดทักษะกระบวนการคิดอย่างสร้างสรรค์ มีความรู้ ความเข้าใจในงานศิลปะมากยิ่งขึ้น และเกิดกระบวนการเรียนรู้จากประสบการณ์ตรง และแลกเปลี่ยนความรู้ ทัศนคติที่ได้รับจากการศึกษาดูงาน รวมถึงการได้เปิดโลกทัศน์ใหม่ นอกเหนือจากการเรียนรู้ในชั้นเรียน โดยมีครูแดงบ้านศิลป์ไทย พร้อมทีมงานร่วมให้การต้อนรับ และพาเยี่ยมชมพืชผัก ผลไม้ ภายในบริเวณบ้านทุ่งศิลป์ครูแดง ก่อนให้ความรู้ศิลปะกับนักเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรม

ทั้งนี้ครูแดงบ้านศิลป์ไทย ได้น้อมนำหลักเกษตรทฤษฎีใหม่ และเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาค่อยๆ ปรับใช้ เพื่อให้เกิดเรื่องราวอันทรงคุณค่าบนเนื้อที่ 9 ไร่เศษ ทั้งการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ดิน น้ำ ป่า และการถ่ายทอดองค์ความรู้ ด้านภูมิปัญญา นวัตกรรมเกษตร สู่การปฏิบัติและปรับประยุกต์ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน ควบคู่กันไปกับการสอนศิลปะ 

นายนัฐธิกร สุวัฒนะ รองหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ กล่าวว่า กิจกรรมทัศนศึกษาค่ายเกษตรศิลป์ ตามโครงการศึกษาดูงานและจัดทำคลิปถอดบทเรียน ณ บ้านทุ่งศิลป์ครูแดง ครั้งนี้ เป็นกิจกรรมการเรียนรู้นอกชั้นเรียนอย่างหนึ่ง ที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนเกิดทักษะกระบวนการคิดริเริ่มสร้างสรรค์ มีจินตนาการ เห็นคุณค่าและชื่นชมความงามทางศิลปะ อีกทั้งเป็นกิจกรรมการบูรณาการหน่วยการเรียนรู้ ตัวชี้วัด ตามหลักสูตรสถานศึกษากับแหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 38 คน

อบต.โพนสา สืบสานมรดกวัฒนธรรมทางสายน้ำ จัดแข่งเรือกีบพื้นบ้าน 5 ฝีพาย ประจำปี 2566

วันที่ 17 ธ.ค. 2565 ที่ ริมฝั่งแม่น้ำโขง บ้านศิลาเลข หมู่ 6 ต.โพนสา อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นายอภิสิทธิ์ วงศรีแก้ว นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโพนสา เป็นประธานเปิดการแข่งขันเรีอกีบพื้นบ้าน  5 ฝีพาย ประจำปี 2566 ซึ่ง อบต.โพนสา และภาคประชาชนในเขตตำบลโพนสา พร้อมใจสืบสานมรดกวัฒนธรรมทางสายน้ำจัดให้มีการแข่งขันขึ้น โดยแบ่งเป็นประเภททีมชาย และประเภททีมหญิง มีชุมชนต่างๆ ให้ความร่วมมือส่งทีมเรือเข้าร่วมการแช่งขันทั้งสิ้น 8 ชุมชน โดยมีนางสาวสุดาพร ทอพิมาย ปลัด อบต.โพนสา กล่าวรายงาน ซึ่งมีประชาชนในชุมชนพื้นที่ตำบลโพนสาและพื้นที่ใกล้เคียงให้ความสนใจเดินทางมาร่วมชมการแข่งขันกันเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ การแข่งขันเรือตำบลโพนสา ถือเป็นงานประเพณีที่สำคัญเป็นมรดกวัฒนธรรมทางสายน้ำที่สะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตของคนในชุมชนตำบลโพนสา ที่มีความผูกพันกับลำแม่น้ำโขงมาอย่างยาวนาน  อีกทั้งให้เยาวซน และประชาชนในตำบลโพนสาได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ โดยการเล่นกีฬาออกกำลังกาย เสริมสร้างพลานามัยให้สมบูรณ์แข็งแรง และใช้กิจกรรมการเล่นก็ฬาการพายเรือ เป็นสื่อในการสร้างความสามัคคี ความสมานฉันท์ในท้องถิ่น มีน้ำใจเป็นนักกีฬา อันนำไปสู่ชุมชนเข้มแข็ง ห่างไกลจากปัญหายาเสพติด และเพื่อประชาสัมพันธ์ ส่งเสริมการท่องเที่ยวหาดท่มะเฟืองของตำบลโพนสา อีกด้วย

โดยการแข่งขันเรือกีบพื้นบ้าน 5 ฝีพาย ที่จัดขึ้นครั้งนี้ไม่จำกัดรุ่น อายุ และไม่มีค่าสมัครในการแข่งขัน ส่วนการแข่งจะมีการแบ่งสายให้ทีมผู้แข่งขัน พายเรือแข่งกันครั้งละ 2 ทีม แบบพบกันหมดภายในสาย เพื่อหาผู้ชนะอันดับ 1 และ 2 ก่อนจะนำผู้ชนะของแต่ละสายมาแข่งขันกันหาทีมผู้ชนะเลิศ โดย 4 ทีมที่แข่งขันกันรอบสุดท้าย จะได้รับเงินพร้อมถ้วยรางวัลตามลำดับ ซึ่งบรรยากาศในการแข่งขันค่อนข้างคึกคักพอสมควร เนื่องจากการแข่งเรือในพื้นที่ อบต.โพนสา ไม่ได้จัดแข่งเรือ มายาวนานถึง 9 ปี รวมทั้งกิจกรรมถนนอาหาร ทำให้ประชาชนในพื้นที่ตื่นตัวเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากสร้างรายได้ และกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่