วันอังคารที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2562

นายอำเภอท่าบ่อนำพุทธศาสนิกชนทำบุญตักบาตรและจัดพิธีบูชาพญาอนันตนาคราชและนาตราชที่คอยดูแลปกปักษ์รักษาผู้คนในแถบลุ่มน้ำโขง เนื่องในวันออกพรรษาบั้งไฟพญานาคโลกหนองคาย ประจำปี 2562



เช้าวันที่ 8 ต.ค.62 ที่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงหน้าวัดกุมภประดิษฐ์ หมู่ 2 ตำบลโพนสา อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย นายศรัณย์ศักด์  ศรีเครือเนตร นายอำเภอท่าบ่อ นำส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำท้องที่/ท้องถิ่น และประชาชน ร่วมกิจกรรมทำบุญตักบาตร เพื่อเป็นการส่งเสริมกิจกรรทางพระพุทธศาสนาเนื่องในเทศกาลออกพรรษาบั้งไฟพญานาคโลก จังหวัดหนองคาย ประจำปี 2562 และยังเป็นการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมแก่ข้าราชการและประชาชนมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน โดยใช้กิจกรรมทางพระพุทธศาสนาเข้ามามีส่วนร่วม ทั้งส่งเสริมประเพณีทางพระพุทธศาสนาอันดีงามของชาติไทย 





จากนั้นในช่วงสาย ได้ประกอบพิธีบวงสรวงพญาอนันตนาคราชและนาตราช โดยในงานพิธีครั้งนี้ได้มีผู้นำจิตวิญญาณของอำเภอท่าบ่อจัดทำพิธี พร้อมบายศรีชุดใหญ่ มีของไหว้ครบเครื่อง ทั้งนี้เพื่อเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม ประเพณีอันดีงามของคนในท้องถิ่น ตลอดจนความเชื่อเกี่ยวกับพญาอนันตนาคราชและนาตราชที่คอยดูแลปกปักษ์รักษาผู้คนในแถบลุ่มน้ำโขง รวมทั้งยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของอำเภอและจังหวัดในช่วงเทศกาลออกพรรษาบั้งไฟพญานาคโลก ประจำปี 2562 ซึ่งอำเภอท่าบ่อจะจัดงาน 2 วัน 2 คืน  8-9 ตุลาคมนี้ โดยแต่ละวันจะมีกิจกรรมให้ผู้เข้าร่วมงานได้ชม ไม่ว่าจะเป็นการแสดงดนตรีโปงลางพื้นบ้าน , การแสดงสรภัญญะตำนานวิถีชีวิตแม่น้ำโขงและบูชาพญานาค รวมทั้งการจำหน่ายสินค้าโอทอปของแต่ละตำบลในพื้นที่ ให้ผู้ร่วมงานได้ช็อป ชิม แชะ และแชร์อย่างมากมาย



















วันจันทร์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2562

คณะนักแสดงแสงเสียงเปิดตำนานบั้งไฟพญานาค ทำพิธีไหว้ครูบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก่อนเปิดการแสดงในช่วงเทศกาลออกพรรษาบั้งไฟพญานาคปีนี้

             
วันที่ 6 ต.ค. 62 ที่บริเวณลานวัดศรีบุญเรือง ริมแม่น้ำโขง เขตเทศบาลเมืองหนองคาย สถานที่จัดการแสดงแสงเสียงเปิดตำนานบั้งไฟพญานาค นายกำภล เมืองโคตร นายกเทศมนตรีเมืองหนองคาย พร้อมด้วยคณะผู้บริหารเทศบาลเมืองหนองคาย และนายยอดยิ่ง ราชตั้งใจ นักวัฒนธรรมชำนาญการ ผู้กำกับการแสดง ได้นำคณะนักแสดงจากชมรมนาฎศิลป์หนองคาย ประกอบพิธีไหว้ครู และบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก่อนการแสดงแสงเสียงเปิดตำนานบั้งไฟพญานาค ปีที่ 22  ชื่อชุด มหาพุทธบูชานาคประทีป นาฎนันทการ เพื่อรำลึกถึงคุณครูอาจารย์ที่ประสิทธิ์ประศาสตร์วิชาการแสดงในแขนงต่าง ๆ  โดยนักแสดงได้รำบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อให้การแสดงประสบความสำเร็จ ไม่มีอุปสรรค  อีกทั้งยังเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจแก่นักแสดงและทีมงานทุกคนด้วย สำหรับการแสดงจะมี 4 วัน ในช่วงเทศกาลวันออกพรรษา ระหว่างวันที่ 10-13 ต.ค.2562  โดยจะเริ่มการแสดงตั้งแต่เวลา 19.00 น. เป็นต้นไป             
             

 
การแสดงแสงสีเสียงเปิดตำนานบั้งไฟพญานาค  ปีนี้เป็นปีที่ 22  มีนักแสดงและทีมงานชมรมนาฏศิลป์หนองคาย  นักเรียนจากโรงเรียนปทุมเทพวิทยาคาร,โรงเรียนหนองคายวิทยาคาร,วิทยาลัยอาชีวศึกษา,วิทยาลัยเทคนิคหนองคายและโรงเรียนอนุบาลวิศิษฐ์ จังหวัดบึงกาฬ กว่า 300 คน ถ่ายทอดเรื่องราวความเชื่อของชาวอีสานโดยเฉพาะชาวหนองคายมีต่อบั้งไฟพญานาค ว่าเกิดจากพญานาคที่มีความศรัทธาต่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้พ่นลูกไฟ ถวายขึ้นเป็นพุทธบูชา ในขณะที่พระพุทธเจ้าเสด็จจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เพื่อโปรดพระมารดา ในค่ำคืนวันเพ็ญ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11








วันจันทร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2562

กลุ่มแม่บ้านสมุนไพรบ้านถ่อนใต้ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย คิดค้นนวัตกรรมกำจัดยุงลายด้วย "ตะไคร้หอม" ภูมิปัญญาพื้นบ้าน ตัวช่วยป้องกันโรคไข้เลือดออก


“ตะไคร้หอม” ถือเป็นสมุนไพรไล่ยุงและถือเป็นภูมิปัญญาพื้นบ้าน ประกอบช่วงนี้ข่าวคราวของโรคไข้เลือดออกระบาดและมีผู้เสียชีวิต ดังนั้นจึงมีคำเตือนเกี่ยวกับการป้องกันโรคดังกล่าวออกมาเป็นระยะ โดยเฉพาะผู้ปกครองที่มีลูกเล็ก หรือกลุ่มคนสูงวัยที่อาศัยอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มียุงลายเป็นพาหะ เช่น มีต้นไม้รกทึบและแหล่งน้ำเน่าเสีย เพื่อเป็นการป้องกันโรคไข้เลือดออก กลุ่มแม่บ้านสมุนไพรบ้านถ่อนใต้ หมู่ 3 ตำบลบ้านถ่อน อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย ได้มีการคิดค้นนวัตกรรมสเปรย์ตะไคร้หอมไล่ยุง เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากวัตถุดิบจากธรรมชาติ ไม่มีสารเคมีที่เป็นอันตรายเจือปน มีกลิ่นหอมของมะกรูดและตะไคร้หอม ซึ่งตะไคร้เป็นพืชที่ปลูกภายในบ้านของสมาชิกกลุ่มทั้ง 21 คน




วิธีการทำ นำมะกรูดมาเฉือนเอาเฉพาะผิว และนำตะไคร้หอมที่มีอายุ 8 เดือนมาหั่น จากนั้นนำผิวมะกรูดน้ำหนัก 4 ขีดห่อด้วยผ้าขาวบาง และตะไคร้หอมน้ำหนัก 4 ขีดห่อด้วยผ้าขาวบาง แล้วนำไปใส่ขวดโหลเพื่อจะทำการหมักด้วยแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ 3 ลิตร ทิ้งไว้ 15 วันก็สามารถนำไปบรรจุในขวดสเปรย์แบบพกพา ขนาด 60 cc จำหน่ายราคา 50 บาท ขนาด 30 cc จำหน่ายราคา 20 บาท  และ 10 cc จำหน่าย 10 บาท  สรรพคุณ ใช้ฉีดพ่นตามแขน ขา ป้องกันยุงและแมลงรบกวน และยังสามารถใช้เป็นสเปรย์ฉีดพ่นปรับอากาศ เช่นในรถยนต์ ตู้เสื้อผ้าได้อีกด้วย เนื่องจากตัวละอองสเปรย์มีกลิ่นหอม และไม่มีสารเคมีที่เป็นพิษเจือปน





นางไพริน โสภานิตย์ เหรัญญิกกลุ่มแม่บ้านสมุนไพรบ้านถ่อนใต้  กล่าวว่า เริ่มแรกที่จะลงมือทำสเปรย์ตะไคร้หอมไล่ยุง ได้มีการแข่งขันประกวดนวัตกรรมแข่งขันกำจัดยุงลายของ รพ.สต.บ้านถ่อนและเทศบาลตำบลบ้านถ่อน ซึ่ง อสม.หมู่ 3 ไม่หยุดการพัฒนาจึงได้คิดค้นวิธีใหม่ในการกำจัดยุงในหมู่บ้าน ก็เลยได้น้ำยาสเปรย์สมุนไพรจากตะไคร้หอมขึ้นมา โดยการค้นคว้าจากยูทูป หลังจากนั้นก็เริ่มทดลองหลายวิธี จนกระทั้งได้ผล กลายมาเป็นส่วนผสมจากสูตรตะไคร้หอมและผิวมะกรูด หมักด้วยแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ ซึ่งเริ่มแรกที่ทำนั้นจะไปซื้อตะไคร้หอมมาจากที่อื่น ทำให้มีต้นทุนเพิ่มขึ้น จึงให้สมาชิกในกลุ่มทั้ง 21 คนปลูกตะไคร้ห้อมภายในบริเวณบ้านของสมาชิกทกคน จะได้ไม่ต้องไปซื้อ และสมาชิกก็มีรายได้จากการทำสเปรย์ตะไคร้หอมจำหน่าย ก็เลยไปจดทะเบียนเป็นสิ้นค้าโอทอปของตำบล ซึ่งการจำหน่ายนั้นก็จะไปตามที่หน่วยงานต่างๆ ที่จัดขึ้น





นายพรชัย รัตนวิบูรย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านถ่อน กล่าวว่า สเปรย์สมุนไพรไล่ยุงโดยทำจากตะไคร้หอม ทางเทศบาลฯและกองทุนหลักประกันสุขภาพ รวมทั้งผู้นำตำบล/หมู่บ้านได้สนับสนุนงบประมาณ และ กศน,ตำบลบ้านถ่อนก็มีส่วนวนร่วมในการทำสเปรย์สมุนไพรไล่ยุง  ซึ่งการคิดค้นตัวนี้ก็คือ ผมจะแนะนำให้ทุกหมู่บ้านทั้ง 8 หมู่บ้านของตำบลบ้านถ่อน โดย อสม.ของแต่ละหมู่บ้านคิดค้นออกมาว่าจะทำอะไรในการกำจัดยุง เพื่อไม่ให้เกิดโรคไข้เลือดออก ซึ่งหมู่ 3 บ้านถ่อนใต้ก็ได้คิดค้นตัวนี้ออกมา ซึ่งเป็นความคิดจากตัว อสม.เองที่ทำเป็นกลุ่มขึ้นมา และก็ได้มีการประกวดโดยเทศบาลตำบลบ้านถ่อน / รพ.สต. และกำนัน ซึ่งหมู่ 3 บ้านถ่อนใต้รับรางวัลชนะเลิศประกวดนวัตกรรมดีเด่น และในการพัฒนาต่อยอดเราไม่หยุดแค่นี้ ซึ้งจะมีการพัฒนาไปเลื่อยๆ เพื่อให้พี่น้องประชาชนในหมู่บ้านได้มีการใช้ทุกครัวเรือน และทุกหลังคาเรือนในตำบลบ้านถ่อน ซึ่งจะขยายพื้นที่ต่อไปเลื่อยๆ ทั้ง 8 หมู่บ้าน ซึ่งเมื่อเราได้จดทะเบียนเรียบร้อยแล้ว ต่อไปก็จะมีการทำการตลาด อาจจะส่งขายในอำเภอ ต่างอำเภอ และต่างจังหวัด เพื่อเป็นการต่อยอดและสร้างรายได้ให้กับกลุ่มแม่บ้าน กลุ่ม อสม.หมู่ 3 บ้านถ่อนใต้ ต่อไป





ส่วนทางด้าน นายอภิวัตน์ โคตรชมพู นายกเทศมนตรีตำบลบ้านถ่อน กล่าวว่า ทางเทศบาลตำบลบ้านถ่อน ได้มีนโยบายเกี่ยวกับการป้องกันควบคุมโรค ซึ่งโรคไข้เลือดออกเป็นโรคที่อันตรายต่อประชาชน จึงได้ตั้งงบประมาณสนับสนุนกลุ่มนี้ เพื่อให้ดำเนินการในการป้องกันโรคให้มีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะให้ประชาชนมีความอยู่ดี กินดี สุขภาพร่างกายแข็งแรง ปลอดจากโรคภัยต่างๆ ซึ่งกลุ่มแม่บ้านสมุนไพรกลุ่มนี้มีความเข้มแข็ง ซึ่งสเปรย์สมุนไพรตะไคร้หอมสามารถป้องกันโรคไข้เลือดออกภายในหมู่บ้านและตำบลได้ และยังเป็นการเสริมรายได้ให้กับกลุ่ม เพื่อที่จะให้มีความอยู่ดีกินดีต่อไป และทางเทศบาลก็สนับสนุนไปเลื่อยๆ จนกว่าจะยั่งยืน ขยายต่อไป สมารถจัดตั้งกลุ่มได้ทั้งตำบล และประชาชนปลอดจากโรคไข้เลือดออก ซึ่งสถานการณ์ปัจจุบันนั้นประชาชนในตำบลไม่มีใครเป็นโรคได้เลือดออกมานานหลายปีแล้ว เนื่องจากเทศบาลได้มีการรณรงค์ให้ความรู้กับพี่น้องประชาชน ประชาสัมพันธ์ มีการส่งเสริมนวัตกรรม ซึ่งแต่ละหมู่บ้านก็มีนวัตกรรมป้องกันควบคุมเพื่อเป็นการลดใช้สารเคมี เช่น การใช้ทรายอะเบท การฉีดพ่นควันไล่ยุงลดลง ซึ่งช่วยให้ประหยัดงบประมาณและทำให้ประชาชนไม่มีสารพิษตกค้าง




จ.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา" เฉลิมพระเกียรติฯ

สนง.พช.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา...