ไฟไหม้ป่าชุมชน เสียหายกว่า 20 ไร่ หวิดลามจุดชมวิวภูหนอง ต.บ้านม่วง อ.สังคม จ.หนองคาย

วันที่ 21 ก.พ. 63 เกิดเหตุไฟไหม้ป่า ที่บริเวณป่าชุมชนบ้านหนอง หมู่ 3 ต.บ้านม่วง อ.สังคม จ.หนองคาย ซึ่งต้นเพลืงคาดว่าเกิดจากก้นบุหรี่ที่ทิ้งลงข้างทาง แล้วสะเก็ดไฟปลิวลงเข้าป่าชุมชนดังกล่าว ที่มีความแห้งแล้งของต้นไม้ใบหญ้าที่เป็นเชื้อเพลิงได้เป็นอย่างดี ประกอบกับมีลมพัดแรง  จึงทำไฟลุกลามไปยังป่าชุมชนบ้านโนนสว่าง หมู่ 6  และบ้านห้วยค้อ หมู่ 4 ต.บ้านม่วง อ.สังคม

โดยผู้ใหญ่บ้านทั้ง 3 หมู่บ้าน ได้ระดมกำลังลูกบ้าน เครือข่ายทสม. เจ้าหน้าที่ไฟป่าหนองคาย และประสานรถดับเพลิงของ อบต.บ้านม่วง เร่งฉีดน้ำสกัดเพลิงที่โหมลุกไหม้อย่างรุณแรง พร้อมนำเจ้าหน้าที่ไปทำแนวกันไฟไม่ให้ลุกลามเข้าไปใกล้จุดชมวิวภูหนอง ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของตำบลบ้านม่วงในจุดที่รถบรรทุกน้ำขึ้นไปไม่ถึง ส่วนรถบรรทุกน้ำที่ใช้ฉีดน้ำได้เร่งสกัดเพลิงไม่ให้ไฟรามไปไหม้สายไฟฟ้า สายโทรศัพท์ และสายเคเบิ้ลอินเทอร์เน็ต ที่พาดอยู่ที่เสาไฟฟ้าค้างทางไม่ให้ได้รับความเสียหาย

ทั้งนี้ การควบคุมเพลิงเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากในป่ามีหญ้าแห้งและกอไผ่จำนวนมาก และเป็นภูเขาสูงชัน ทำให้เปลวไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็ว กินพื้นที่ไปกว่า 20 ไร่ ต้องใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมไฟป่าไม่รามไปยังจุดชมวิวภูหนองให้ได้รับความเสียหาย

สำหรับป่าชุมชนทั้ง 3 หมู่บ้าน อยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าพานพร้าวและป่าแก้งไก่ ได้รับการประกาศให้เป็นป่าชุมชนโดยกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2562 มีพื้นที่รวมกัน 372 ไร่เศษ

อำเภอศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย และเมืองสีโคดตะบอง นครหลวงเวียงจันทน์ เตรียมเปิดตลาดนัดชายแดน หลังผ่านความเห็นชอบเพิ่มวันทำการ จาก 3 วันเป็น 6 วัน เพื่อสร้างสัมพันธ์การค้าชายแดน กระตุ้นเศรษฐกิจระหว่าง อ.ศรีเชียงใหม่ กับเมืองสีโคดตะบอง

วันที่ 18 ก.พ. 63 ที่ ห้องประชุมกองบัญชาการป้องกันความสงบ ประจำด่านประเพณีหนองดา เมืองสีโคเตะบอง นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว นายเดชมนตรี ผิวเหลือง ปลัดอาวุโสอำเภอศรีเชียงใหม่ รักษาราชการแทนนายอำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย เป็นประธานฝ่ายอำเภอศรีเชียงใหม่ นำเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมหารือกับเมืองสีโคดตะบอง นครหลวงเวียงจันทน์ โดยมีท่านคำมอน บัวพัน รองเจ้าเมืองสีโคดตะบอง พร้อมเจ้าที่ประจำกองการเมือง เอกชนร่วมประชุม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ประจำด่านประเพณีเมืองสังทอง ร่วมประชุมสังเกตการณ์ ด้วย

ในการประชุมหารือครั้งนี้ สืบเนื่องจากจังหวัดหนองคาย โดยกระทรวงมหาดไทย และนครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว ได้มีมติเห็นชอบเรื่องการขยายวันทำการจุดผ่อนปรนเพื่อการค้าชายแดนบ้านหม้อ อำภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย กับด่านประเพณีหนองดา เมืองสีโคดตะบอง นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว จากสัปดาห์ละ 3 วัน คือ อังคาร, พฤหัสบดี และวันเสาร์ เป็นสัปดาห์ละ 6 วัน คือ วันจันทร์ - วันเสาร์ เวลา 06.00 - 17.00 น. โดยให้ประชาชนทั้งฝ่ายเดินทางข้ามไป-มาได้ตามวันเวลาดังกล่าว ห้ามค้างแรม ทั้งนี้เพื่อเป็นการเพิ่มพูนและเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุนระหว่างกัน โดยเฉพาะในด้านการค้าชายแดน ซึ่งถือเป็นสัดส่วนใหญ่ของการค้าไทย-ลาว ให้มีความสะดวกคล่องตัวมากขึ้น และเป็นเวทีการหารือและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระดับพื้นที่ และส่งเสริมการจัดกิจกรรมการค้าชายแดน

นอกจากนี้ ในที่ประชุมยังเห็นชอบที่จะเปิดตลาดนัดชายแดนทุกๆ วันเสาว์ โดยผลัดเปลี่ยนสลับกันเปิดฝ่ายละเสาร์ เวลา 11.00 - 17.00 น. ซึ่งการเปิดตลาดนัดชายแดน เป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการค้าและการลงทุนของทั้งสองฝ่าย รวมทั้งกระตุ้นเศรษฐกิจระหว่างอำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย กับเมืองสีโคดตะบอง นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว โดยจะประชุมเพื่อร่วมกันกำหนดพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ ต่อไป

ตำรวจนำตัวมือปืนทำแผนรับสารภาพสังหารกำนันหญิง หลังตามจับได้พร้อมพวกอีก 4 ชาวบ้านมุงดูเพียบหวิดเดือด ผู้ต้องหาปฏิเสธเข้าขอขมาต่อหน้ารูปและญาติของผู้เสียชีวิต ส่วนสามีเผยอยากให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ถึงประหารชีวิต

จากกรณีคนร้ายใช้อาวุธปืนขนาด 11 มม.บุกยิงศรีษะ นางกรรณิการ์ วงค์ศิริ อายุ 52 ปี กำนันตำบลผาตั้ง หรือ กำนันเตี้ย เสียชีวิตภายในห้องครัวบ้านพัก ที่เปิดเป็นร้านขายของชำและที่ทำการกำนัน หมู่ 6 บ้านดงต้อง ต.ผาตั้ง อ.สังคม จ.หนองคาย เมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา กระทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ 5 ราย  ประกอบด้วย 1.นายสามารถ ทิพยศักดิ์ อายุ 57 ปี ผู้จ้างวาน 2.นายสำริด สังข์สิงห์ อายุ 59 ปี ผู้จ้างวาน 3.นายประสิทธิ์ อินทร์เนื่อง อายุ 55 ปี คนรับงานและดูแลมือปืนในพื้นที่ 4.นายธนภูมิ พรหมมาตร อายุ 37 ปี มือปืน และ 5.น.ส.พนิดา จุนเด็น อายุ 31 ปี ภรรยามือปืนและเป็นคนพามือปืนหลบหนี

ล่าสุดวันนี้ 16 ก.พ. 63 เวลา 16.20 น. พล.ต.ต.สุรชัย สังขพัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย พร้อมชุดตำรวจควบคุมฝูงชน 200 นาย กำลัง อส. และทหาร คุมตัวนายธนภูมิ พรหมมาตร (มือปืน) เข้าทำแผนประกอบคำรับสารภาพบ้านที่เกิดเหตุ รวมทั้งเส้นทางหลบหนีและจุดทิ้งรถ จยย.ในอ่างเก็บน้ำห้วยสระคลองใหญ่ ต.คำด้วง อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ท่ามกลางชาวบ้านมารอดูทำแผนจำนวนมาก พร้องส้งเสียงต่อว่าคนร้ายด้วยอารมณ์โกรธแค้น และพยายามกรูเข้าไปทำร้ายมือปืน เจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันป้องกันอย่างเต็มที่ ทั้งนี้นายธนภูมิ (มือปืน) ได้ปฏิเสธที่จะขอขมาต่อหน้ารูปกำนันกรรณิการ์และญาติของผู้เสียชีวิต ขณะที่ผู้ต้องหารายอื่นๆ ยังให้การปฎิเสธ ซึ่งนายธนภูมิ(มือปืน)ให้การเป็นประโยชน์ทุกคั่นตอน ส่วนผู้ต้องหาอีก 4 รายที่เหลือยังอยู่ระหว่างการสอบสวน ยังไม่ให้การที่เป็นประโยชน์

ด้านนายพิเดช วงค์ศิรฺิ สามีของกำนันกรรณิการ์ กล่าวว่า เสียใจมา ที่รู้ว่าคนบงการฆ่าภรรยาตน เป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน ที่ผ่านมาไม่เคยมีเรื่องโกรธแค้นอะไรกันมาก่อน ตนเสียใจมาก อยากจะถามว่าทำไมถึงต้องมาฆ่ากัน ก็อยากให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุดทั้งผู้บงการ ผู้ฆ่า ทางที่ดีอยากให้ถูกตัดสินประหารชีวิตจะดีที่สุด

หนุมานกองปราบ รวบ 5 ผู้ต้องหา ฆ่ากำนันหญิง เผยจ้างมือปืน 2 แสน ปมเหตุปฏิบัติหน้าที่ขัดผลประโยชน์

จากกรณีคนร้ายเป็นชายสูงประมาณ 170 เซนติเมตร สวมหมวกกันน็อกเต็มใบ ขับรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีแดง ทำทีเข้ามาขอซื้อเครื่องดื่มชูกำลังที่บ้าน นางกรรณิการ์ วงค์ศิริ อายุ 52 ปี กำนันตำบลผาตั้ง หรือ กำนันเตี้ย บ้านดงต้อง ต.ผาตั้ง อ.สังคม จ.หนองคาย ใช้อาวุธปืนขนาด 11 มม. ยิงที่ศีรษะจนเสียชีวิตคาห้องครัว เมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดวันที่ 15 ก.พ. 63 เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้นำตัว 5 ผู้ต้องหา ประกอบด้วย 1.นายสามารถ ทิพยศักดิ์ อายุ 57 ปี ผู้จ้างวาน 2.นายสำริด สังข์สิงห์ อายุ 59 ปี ผู้จ้างวาน 3.นายประสิทธิ์ อินทร์เนื่อง อายุ 55 ปี คนรับงานและดูแลมือปืนในพื้นที่ 4.นายธนภูมิ พรหมมาตร อายุ 37 ปี มือปืน และ 5.น.ส.พนิดา จุนเด็น อายุ 31 ปี ภรรยาและเป็นทั้งมือปืนและคนพามือปืนหลบหนีด้วย

ทั้งนี้นายธนภูมิ มีหมายจับศาลจังหวัดไชยาที่59/2560 ของ สภ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี คดีนี้นายธนภูมิ ให้เมียเก่าขับรถให้ตนมาก่อเหตุดังกล่าว โดยใช้อาวุธปืนขนาด11 มม.สังหาร โดยก่อนเกิดเหตุนายสามารถ คนจ้างวานได้โอนเงินให้นายธนภูมิ 110,000 บาท หลังเกิดเหตุก็โอนให้อีก 70,000บาท รวมเป็นเงิน 180,000บาท

ทั้งนี้คนร้ายนั้นใช้รถยนต์ฮอนด้า ซีวิค ที่ พฐ.ตรวจที่กองปราบปรามเมื่อช่วงกลางวันนั้น นายธนภูมิ และ น.ส.พนิดา ใช้ขับรถซื้อ จยย.และขับไปดูจุดสังหารก่อนวันเกิดเหตุ  โดยวันเกิดเหตุนายธนภูมิ ใช้ จยย.ที่ซื้อมาขี่ไปยิงกำนันเตี้ยก่อนเอาไปทิ้งที่ จ.อุดรธานี แล้วขึ้นรถโตโยต้า วีออส สีขาวขับจากจุดทิ้ง จยย.ไปถึงแยกน้ำโมง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ที่นายประสิทธิ์ รอรับอยู่และได้ขับรถกระบะ นิสสัน นาวารา สีแดงรับนายธนภูมิ ไปหาภรรยาแล้วหลบหนีไป ซึ่งตามจับกุมได้ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี หนองคาย และกรุงเทพฯ

เบื้องต้นชัดเจนว่าสาเหตุของการฆาตกรรมมาจากปมความขัดแย้งเรื่องที่ดินสปก. ในพื้นที่ตำบลผาตั้ง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย ที่กำนันเตี้ยเข้าไปเกี่ยวข้องในบทบาทของเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งทำให้อีกฝ่ายเสียผลประโยชน์

หนองคายปลอดเชื้อไวรัสโคโรน่า ขณะที่จุดผ่านแดนยังคุมเข้มต่อเนื่องอย่างใกล้ชิด

วันที่ 15 ก.พ. 63 ที่ จุดผ่อนปรนเพื่อการค้าขายแดนบ้านหม้อ ต.บ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอศรีเชียงใหม่ อำนวยการโดย นายเดชมนตรี ผิวเหลือง ปลัดอาวุโสอำเภอศรีเชียงใหม่ รักษาราชการแทนนายอำเภอศรีเชียงใหม่ ได้บูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านหม้อ นำโดย นายไพบูลย์ อุทัยวัชรานันท์ ผอ.โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านหม้อ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ตรวจการให้บริการคัดกรองตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 กับประชาชนซึ่งผ่านเข้าออกชายแดนไทย-ลาว โดยการบริการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรน่าผ่านเครื่องเทโมสแกนและล้างมือด้วยเจล ซึ่งจะทำให้ปลอดภัยและห่างไกลเชื้อไวรัส ซึ่งท่าผู้ที่รับตรวจมีไข้สูง 37.5 ขึ้นไป ก็จะทำการแยกเพื่อส่งตรวจต่อไป และจนถึงปัจจุบันนี้พบว่ามีชาว  สปป.ลาว เดินทางเข้าออกเฉพาะวันเปิดทำการไม่ต่ำกว่า 100-200 คน/สัปดาห์ ยังไม่พบผู้ติดเชื้อไวรัสดังกล่าว

ทั้งนี้จังหวัดหนองคาย ได้คุมเข้มการตรวจเชื้อไวรัสโคโรน่าตามจุดผ่านแดนถาวรไทยลาว และจุดผ่อนปรนเพื่อการค้าชายแดนไทย-ลาวอย่างเข้มงวด มอบให้นายอำเภอได้ตรวจติดตามและรายงานผลอย่างใกล้ชิด  ขณะเดียวกันยังได้สั่งการให้ กำนันผู้ใหญ่บ้าน และ อสม. เตือนประชาชนผ่านหอกระจายข่าวหมู่บ้าน ในการดูแลตนเองห่างไกลเชื้อไวรัสโคโรน่าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้จังหวัดหนองคาย ไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 แต่อย่างใด