วันที่ 26 ก.พ. 63 นายประพาส รวมรส ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคงอำเภอโพธิ์ตาก, นายนิเวศน์ ทองจรัส ปลัดป้องกันอำเภอโพธิ์ตาก, นายสำรวจ ใจซื่อ หัวหน้าหน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้สังคม, นางสาวจารุวรรณ เอนเกษร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 บ้านพรเจริญ พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอโพธิ์ตาก, เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้สังคม, อาสาพิทักษ์ป่าอำเภอโพธิ์ตาก, ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และ ผรส. เข้าตรวจสอบบริเวณเกิดเหตุที่วัดพรเจริญ หมู่ 9 บ.พรเจริญ ต.ด่านศรีสุข อ.โพธิ์ตาก จ.หนองคาย หลังมีแก๊งคนร้ายลักลอบตัดไม้พะยูงเมื่อกลางดึกของวันที่ 26 ก.พ. 63 โดยคนร้ายได้ทิ้งต้นพะยูงที่โค่นลงแล้วภายในวัดหลบหนีไป ก่อนที่ชาวบ้านมาพบเห็น
โดยไม้พะยูงที่ถูกลักลอบตัดครั้งนี้ มีอายุ 27 ปี เป็นต้นไม้ที่ชาวบ้านนำมาปลูกไว้และอยู่คู่กับวัดมานาน อยู่ห่างจากประตูเข้าวัดแค่ 2 เมตร ซึ่งวัดอยู่ติดกับถนนทางเข้าออกหมู่บ้าน และล้อมรอบด้วยสวนยางพาราของชาวบ้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้สังคม ได้เข้าตรวจยึดไม้พะยูงที่คนร้ายไม่สามารถเอาไปได้ โดยทำการตรวจยึดไว้เป็นของกลาง เป็นไม้พะยูงจำนวน 14 ท่อน ปริมาณ 1.779 ลูกบาศก์เมตร โดยขนไม้พะยูงออกจากวัดไปแจ้งความที่ สภ.โพธิ์ตาก ก่อนนำไปเก็บรักษาไว้ที่หน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้สังคม
นางสาวจารุวรรณ เอนเกษร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 บ้านพรเจริญ กล่าวว่า ไม้พะยูงที่ถูกลักลอบตัดครั้งนี้มีอายุ 27 ปี ซึ่งสองสามวันก่อนหน้านี้มีชายแปลกหน้าขับขี่รถจักรยานยนต์วนในหมู่บ้านหลายรอบ กระทั้งเวลาประมาณเที่ยงคืนได้มีรถยนต์กระบะสภาพเก่าๆ ขับขี่มาจากหมู่ 7 บ้านห้วยหมากพริก มาจอดอยู่ใกล้กับวัด จนกระทั่งเวลาประมาณตีหนึ่งถึงตีสอง ได้ยินเสียงดังโครมสนั่นเหมือนเสียงฝ้าผ่า และหมาในหมู่บ้านก็เห่าเสียงดัง และมีชาวบ้านที่กำลังกรีดยางพาราใกล้กับวัด ได้ส่องไฟมาที่วัดดูว่าเกิดอะไรขึ้น ก็เห็นกลุ่มคนกำลังตัดไม้พะยูงในวัดอยู่ คาดว่ากลุ่มคนดังกล่าวเห็นไฟที่ชาวบ้านส่องมาจึงได้พากันหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว พอถึงตอนเช้าชาวบ้านได้มาแจ้งกับตน จึงได้แจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ส่วนต่างๆ เข้ามาตรวจสอบ ซึ่งตอนนี้ชาวบ้านสะเทือนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เป็นอย่างมาก เพราะต้นพะยูงต้นนี้มีผู้เฒ่าผู้แก่นำมาปลูกไว้เพื่อเป็นสิริมงคลแก่หมู่บ้าน โดยวัดนี้มีเจ้าอาวาสอยู่จำพรรษาเพียงรูปเดียว และไม่อยู่วัดเนื่องจากอาพาธหนัก ต้องไปนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนานนับสัปดาห์แล้ว และไม่คิดว่าคนร้ายจะทำการอุกอาจและกล้าตัดไม้ในวัดได้ ยังดีที่ต้นไม้ไม่ล้มทับศาลาการเปรียญวัดพังเสียหาย
