อำเภอศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย และเมืองสีโคดตะบอง นครหลวงเวียงจันทน์ ร่วมกันเปิดจุดผ่อนปรนทางการค้าและด่านประเพณี จาก 3 วัน เพิ่มเป็น 6 วัน เพื่อสร้างสัมพันธ์การค้าชายแดน กระตุ้นเศรษฐกิจระหว่างทั้งสองฝั่ง และร่วมมือกันเป้องกันโรค ไวรัส โควิด 19

วันที่ 7 มี.ค. 63 ที่ จุดผ่อนปรนทางการค้าบ้านหม้อ ต.บ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย และด่านประเพณีหนองดา(เก้าเลี้ยว) เมืองสีโคดตะบอง นครหลวงเวียงจันทน์  นายเดชมนตรี  ผิวเหลือง ปลัดอาวุโส รักษาราชการแทนนายอำเภอศรีเชียงใหม่ และ นายวีระสัก นามบุนตี  เจ้าเมืองสีโคดตะบอง  ร่วมกับส่วนราชการ ภาครัฐ ภาคเอกชน  เปิดทำการ จุดผ่อนปรนทางการค้าบ้านหม้อ ต.บ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ กับด่านประเพณีหนองดา(เก้าเลี้ยว) เมืองสีโคดตะบอง นครหลวงเวียงจันทน์ จาก 3 วัน เพิ่มเป็น 6 วัน ต่อสัปดาห์  วันจันทน์ – วันเสาร์ และร่วมมือกันตรวจเข้มป้องกันโรค ไวรัส โควิด 19 โดยมีเจ้าหน้าที่ แต่ละฝ่าย ตรวจสแกนแจกผ้าปิดจมูก เจลล้างมือ แจกโบร์ชัวร์แน่ะนำวิธีป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด 19 แก่ผู้ที่ข้ามมาจาก สปป.ลาว

อำเภอศรีเชียงใหม่ กับเมืองสีโคดตะบอง  มีความสัมพันธ์อันดีมายาวนาน บนพื้นฐานไมตรีจิต มิตรภาพความร่วมมือร่วมใจ แบบบ้านใกล้เรือนเคียง ประชาชนทั้งสองฝ่ายรักใคร่กันมาอย่างยาวนาน  พัฒนามาถึงปัจจุบัน ซึ่งจุดผ่อนปรนทางการค้าบ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย กับด่านประเพณีหนองดา(เก้าเลี้ยว) เมืองสีโคดตะบอง นครหลวงเวียงจันทน์  ได้เปิดทำการครั้งแรก เมื่อ 29 พฤษภาคม 2549  เปิดทำการเพียง 2 วัน ต่อสัปดาห์ เมื่อปี 2556 ได้เปิดเพิ่มเป็น 3 วัน ต่อสัปดาห์ คือวันอังคาร พฤหัสบดีและวันเสาร์ เป็นการเปิดให้ราษฎรข้ามไปมาหาสู่กัน  การค้าขายสินค้าอุปโภคบริโภค การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ศิลปะ วัฒนธรรมอันดี ส่งผลให้เกิดความเจริญ การพัฒนาบ้านเมือง ราษฎรมีงานทำ เศรษฐกิจเติมโตอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งมูลค่าทางการค้า-การส่งออก กว่า 800 ล้านบาทต่อ ปี  เป็นการใช้ลางลำเลียงสินค้าลงสู่เรือ และขนส่งไปขึ้นด่านประเพณีหนองดา(เก้าเลี้ยว) เมืองสีโคดตะบอง เมื่อเปิดเพิ่มวันทำการ จาก 3 วัน เป็น 6 วัน ต่อสัปดาห์ จะเพิ่มมูลค่าทางการค้าขึ้นเท่าตัว อีกทั้งช่วยลดการจราจรจากที่บริเวณด่านพรมแดนมิตรภาพไทย-ลาว ในการระบายสินค้าออกได้เพิ่มมากขึ้น และเป็นการสร้างงานสร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่

การเปิดวันทำการเพิ่มจากเดิม 3 วันต่อสัปดาห์เป็น 6 วันต่อสัปดาห์ ในวันนี้ เกิดจากความร่วมมืออันดีระหว่างเมืองสีโคดตะบอง กับอำเภอศรีเชียงใหม่ โดย นายวรรณพล  ต่อพล ปลัดจังหวัดหนองบัวลำภู ครั้งเป็นนายอำเภอศรีเชียงใหม่ และหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องได้เสริมสร้างสัมพันธ์อันดีมาโดยตลอด  พร้อมใจกันผลักดันและร่วมกันเปิดเพิ่มวันทำการในวันนี้  และจะร่วมมือร่วมใจกันผลักดัน เพื่อการพัฒนายกฐานะให้ขึ้นเป็นด่านพรมแดนบ้านหม้อ และด่านท้องถิ่นหนองดา เพื่อให้เกิดการพัฒนาในทุกๆมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ วัฒนธรรม ความมั่นคง การแลกเปลี่ยนสินค้า และการท่องเที่ยวชายแดน ให้มั่นคงและยั่งยืนต่อไป

จ.หนองคาย น้ำโขงลดต่ำลงอย่างต่อเนื่อง ชาวบ้านในอำเภอศรีเชียงใหม่ ถือโอกาสปรับพื้นที่หาดทรายริมโขงให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเล่นน้ำคลายร้อน ยาวไปจนถึงเทศกาลสงกรานต์

จากระดับน้ำในแม่น้ำโขงที่ไหลผ่านจังหวัดหนองคาย ยังคงมีระดับลดลงอย่างต่อเนื่อง จนเกิดหาดทรายและสันดรทรายหลายจุดของอำเภอที่อยู่ติดริมน้ำโขง ตั้งแต่อำเภอสังคม, อำเภอศรีเชียงใหม่ , อำเภอท่าบ่อ, อำเภอเมือง อำเภอโพนพิสัย และอำเภอรัตนวาปี

โดยเฉพาะอำเภอศรีเชียงใหม่ บริเวณบ้านพานพร้าวและบ้านหัวทราย ต.พานพร้าว ที่มีชายหาดติดกันเป็นบริเวณกว้างใหญ่กว่าทุกๆปี เนื่องจากผลกระทบของน้ำโขงลดระดับต่ำลงกว่าทุกปีที่ผ่านมา และยังส่งผลกระทบกับวิถีชีวิตของชาวบ้านริมฝั่งแม่น้ำโขงทั้งในด้านการเกษตรและการประมง(จับปลา) ทำให้ผู้นำหมู่บ้านและชาวบ้านในพื้นที่ ถือโอกาสในช่วงนี้ ลงปรับพื้นที่หาดทรายให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เล่นน้ำ ชมวิถีชีวิตของชาวบ้านทั้งไทยและลาว ทิวทัศน์ริมฝั่งโขง โดยมีการทำซุ้มบริการอาหารและเครื่องดื่มรองรับนักท่องเที่ยวมากกว่า 160 ซุ้ม ซึ่งจะเริ่มเปิดหาดตั้งแต่เดือนมีนาคม - เทศกาลสงกรานต์ปีนี้

จ.หนองคาย จัดกิจกรรมจิตอาสาหน่วยแพทย์พระราชทานเคลื่อนที่ให้บริการกับผู้ต้องขังเรือนจำจังหวัดหนองคาย ภายใต้โครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความดีด้วยหัวใจ เพื่อให้บริการตรวจโรคทั่วไป และการให้ความรู้เรื่องโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โควิด-19

        

วันที่ 6 ม.ค. 63 ที่ เรือนจำจังหวัดหนองคาย อำเภอเมืองหนองคาย  นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานเปิดกิจกรรมจิตอาสาหน่วยแพทย์พระราชทานเคลื่อนที่ให้บริการกับผู้ต้องขังเรือนจำจังหวัดหนองคาย ภายใต้โครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความดีด้วยหัวใจ ตามพระบรมราโชบายของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นองค์ประธานที่ปรึกษาโครงการและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงเป็นรองประธานที่ปรึกษาโครงการฯ พระองค์ทรงมีพระราชดำริพระราชทานความช่วยเหลือผู้ต้องขับในด้านการรักษาพยาบาลและการดูแลสุขภาพ เพื่อยกระดับสุขภาพผู้ต้องขังในเรือนจำให้สามารถเข้าถึงบริการสาธารณสุขได้อย่างเท่าเทียม พร้อมกับต่อยอดแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เกี่ยวกับการดูแลและพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ต้องขัง ให้สามารถดำเนินชีวิตในสังคมได้อย่างมีคุณภาพหลังพ้นโทษ

         

สำหรับกิจกรรมจิตอาสาหน่วยแพทย์พระราชทานเคลื่อนที่ให้บริการกับผู้ต้องขังเรือนจำจังหวัดหนองคาย ประกอบด้วย การตรวจรักษาโรคทั่วไป การบริการด้านทันตกรรม การคัดกรองวัณโรค การให้ความรู้เรื่องโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โควิด-19 การให้ความรู้เรื่องการช่วยฟื้นคืนชีพ หรือ CPR การให้คำปรึกษาด้านจิตเวช การคัดกรองสุขภาพจิตและการทำกายภาพบำบัดให้กับผู้ต้องขัง

ศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทานจังหวัดหนองคาย มอบใบประกาศนียบัตรและปิดการอบรมหลักสูตรชุดปฏิบัติการจิตอาสาภัยพิบัติประจำองค์การบริหารส่วนตำบลโพนทอง อ.โพธิ์ตาก

วันที่ 6 มี.ค. 63 เวลา 13.30 น. ที่ ศูนย์ฝึกหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง เขตหนองคาย อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย นายศุภกร มูลสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานในพิธีมอบใบประกาศนียบัตรและปิดการฝึกอบรมหลักสูตรชุดปฏิบัติการจิตอาสาภัยพิบัติประจำองค์การบริหารส่วนตำบลโพนทอง อำเภอโพธิ์ตาก ที่ได้ดำเนินการฝึกอบรมเป็นเวลา 3 วัน ระหว่างวันที่ 4-6 มีนาคม 2563

นายธีระวัฒน์ วันวาสี นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโพนทอง กล่าวว่า โครงการฝึกอบรมชุดปฏิบัติการจิตอาสาภัยพิบัติ ประจำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในครั้งนี้ ชุดฝึกอบรมได้ตั้งเป้าหมายไว้ 4 ประการ ได้แก่ 1.เพื่อเสริมสร้างศักยภาพและความเข้มแข็งให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้มีบุคลากรที่สามารถปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือเจ้าพนักงานในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ  2.เพื่อเสริมความรู้ด้านการจัดการสาธารณภัยเบื้องต้นระบบบัญชาการเหตุการณ์ การควบคุมสั่งการ การบริหารจัดการสาธารณภัยพิบัติในพื้นที่เกิดเหตุ ที่มีรูปแบบและมาตรฐานเดียวกันให้กับชุดปฏิบัติการจิตอาสาภัยพิบัติประจำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  3.เพื่อพัฒนาระบบการปฏิบัติงานกู้ภัยในภาวะฉุกเฉินให้เป็นระบบ รวดเร็ว และทันต่อเหตุการณ์ และ 4.เพื่อสนับสนุนให้จิตอาสาพระราชทาน มีความเข้มแข็งและทักษะความรู้ ความชำนาญในการจัดการภัยพิบัติ อันจะส่งผลให้ประชาชนในชุมชนมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน

โดยการจัดการฝึกอบรมครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมรับการฝึกอบรมจำนวน 50 คน ในรูปแบบการฝึกอบรมประกอบด้วย กิจกรรมการบรรยาย กิจกรรมการฝึกการปฏิบัติ และนันทนาการ เช่น การป้องกันและระงับอัคคีภัย ความรู้เบื้องต้นสารเคมี การฝึกสถานการณ์จำลอง การค้นหาผู้ประสบภัย การกู้ฟื้นคืนชีพ การฝึกระเบียบแถว การโรยตัวลงแนวดิ่ง เป็นต้น