วันพุธที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

อดีตครูบำนาญ ผันตัวเองมาเป็นเกษรตรกรปลูกฝรั่งกิมจูริมฝั่งแม่น้ำโขง เผยเคล็ดลับสร้างรสชาติ หวาน กรอบ หอม สร้างรายได้ดีตลอดปี อนาคตเตรียมเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร

ที่สวนเกษตรผสมผสานริมฝั่งแม่น้ำโขงบ้านสะพานพุทธ หมู่ 5 ต.พานพร้าว อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ของนายณรงค์ ผาจันทร์ อดีตข้าราชการครูบำนาญ ได้ปลูกฝรั่งพันธุ์กิมจูไร้เมล็ดปลอดสารพิษ จำนวน 200 ต้น บนพื้นที่ 1 ไร่ ภายใต้มาตรฐานคุณภาพ “หวาน กรอบ หอม พร้อมส่งจากสวน” จนได้รับเสียงการันตีถึงรสชาติความอร่อยจากลูกค้าทั้งภายในท้องถิ่นและต่างจังหวัดเป็นอย่างดี




นายณรงค์ กล่าวว่า หลังจากรับราชการครูได้ครบอายุราชการ 26 ปีก็ได้ขอเออรี่ฯ เป็นข้าราชการบำนาญ หลังจากเออรี่ฯก็เดินทางไปทำงานเป็นพนักงานบริษัทที่สหรัฐอเมริกาและแคนาดา เสาร์อาทิตย์ก็จะมีเวลาว่าง เพื่อนที่เป็นชาวต่างประเทศก็ชวนไปเล่นที่ฟาร์มของเขา โดยเขาจะปลูกหลายอย่าง ซึ่งครอบครัวหนึ่งเขาจะปลูกสี่ถึงห้าร้อยไร่ โดยใช้คนน้อยและผลผลิตได้เยอะ ส่วนใหญ่เขาจะทำการเกษตรตามฤดูกาล เช่น มะเขือเทศ มะนาว ฝรั่ง ที่มีวิธีทำที่ง่ายๆ โดยเฉพาะเขาบริหารเวลาได้ดีมาก ก็ไปเก็บเกี่ยวประสบการที่ต่างประเทศมา 9 ปี ก็มีแรงดลใจว่าจะปลูกอะไรที่สามารถมีรายได้ตลอดทั้งปี ก็ได้ศึกษาหลายอย่างก็พบว่าฝรั่งกิมจู โดยใช้พื้นที่มรดกริมฝั่งแม่น้ำโขงจำนวน 3 ไร่ ทำการปลูกฝรั่งฯ 1 ไร่ โดยเริ่มจากการปลูกที่ละเล็กน้อยไปก่อน ปัจจุบันมีทั้งหมด 200 ต้น ปรากฏว่าไม่พอจำหน่าย ถึงแม้อยู่ในสภาวะวิกฤตโควิด แต่ว่าฝรั่งเป็นผลไม้ที่กินได้ตลอดทั้งปี ซึ่งที่สวนจะใช้เกษตรอินทรีย์ ไม่พึ่งสารเคมี และโปรโมทออนไลน์ไปด้วย ลูกค้ารู้ก็ชอบและก็มีจองกันมามาก ก็ทำการส่งไปตามที่สั่งทางเคอร์รี่ ตอนนี้ยังไม่พอจำหน่าย ว่าจะขยายเพิ่มไปอีกจาก 200 เป็น 400 ต้น เพราะว่าคนที่รับประทานไปแล้วรู้สึกว่าหวาน กรอบ อร่อย หอม ซึ่งพื้นที่นี้นอกจากจะปลูกฝรั่งกิมจูเป็นหลักอยู่แล้ว ในพื้นที่ 3 ไร่เมื่อถึงฤดูทำนาก็จะปลูกข้าว และก็ฟักทอง ซึ่งเป็นพื้นที่เกษตรผสมผสาน ซึ่งตอนนี้กำลังทำซุ้มไม้เลื้อยไม้ไผ่ปลูกเสาวรส  เพื่อเปิดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร เพื่อให้ผู้ที่สนใจได้มาเรียนรู้วิถีเกษตรกรรมริมโขงของชาวชนบท



ส่วนการให้น้ำนั้น ที่สวนแห่งนี้จะใช้ระบบรดน้ำ โดยใช้เครื่องสูบน้ำจากแม่น้ำโขงมาทำการรดแปลงฝรั่งกิมจูวันเว้นวัน เคล็ดลับอย่างหนึ่งก็คือเปิดเพลงกล่อมฝรั่งกิมจูเพื่อเพิ่มผลผลิด สังเกตุได้ว่าต้นไหนใกล้เสียงเพลงจะออกผลจำนวนมากจนต้องใช้ไม้ค้ำ และยังทำให้ต้นฝรั่งกิมจูมีความสดชื่นอยู่เสมอ ท่าจะเก็บผลผลิตขายก็จะหยุดรดน้ำ 2 วัน จะทำให้ฝรั่งกิมจูมีรสชาติหวาน กรอบ อร่อย และหอมตามที่ต้องการ



ส่วนทางด้านกำจัดแมลงศัตรูพืช จะเริ่มมีเข้ามารบกวนในช่วงที่ต้นฝรั่งกิมจูเริ่มแตกใบอ่อน ซึ่งจะใช้วิธีการป้องกันด้วยการน้ำขี้เฒ่าหมักไว้หนึ่งคืน อัตราส่วนก็คือขี้เฒ่าหนึ่งกิโลกรัม/น้ำ 1 ลิตร หลังจากหมักไว้หนึ่งคืนแล้วก็เอาน้ำใสของขี้เฒ่ามาผสมน้ำเปล่าครึ่งต่อครึ่ง มาทำการฉีดพ่นก็สามารถกำจัดศัตรูฝรั่งกิมจู โดยเฉพาะเพลี้ยแป้ง เพลี้ยไฟก็จะหายไปได้



สำหรับเทคนิคการห่อผลฝรั่งนั้น จะใช้ถุงพลาสติกห่อคลุมผลฝรั่ง 1 ชั้น เจาะรูเพื่อระบายน้ำไม่ให้ผลมีการควบแน่น และป้องกันผลเน่า ก่อนที่จะห่อทับอีกชั้นหนึ่งด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์พับให้มีลักษณะเป็นกรวยแล้วใช้ห่อครอบลงมาเพื่อกันแสง เนื่องจากเมื่อมีแสงแดดส่องเข้ามากระทบจะทำให้ภายในถุงพลาสติกเกิดการควบแน่นมีไอน้ำ และส่งผลให้ผิวของผลฝรั่งมีลักษณะเหลืองไหม้ หรือเน่าได้นั่นเอง ซึ่งฝรั่งกิมจูสามารถสร้างรายได้ให้กับครอบครัวถึง 3,000 บาท/สัปดาห์เลยทีเดียว







วันอังคารที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

ผบ.กกล.สุรศักดิ์มนตรี ลงพื้นที่สั่งคุมเข้มชายแดน มอบแนวนโยบายและเป็นกำลังใจเจ้าหน้าที่ ซึ่งปฏิบัติงานตามชายแดน ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19ระรอกใหม่

วันที่ 1 ก.พ. 64 ที่ ห้องประชุมหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย  พล.ต.บุญสิน พาดกลาง ผู้บัญชาการกองกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี  พร้อมด้วย พันเอกประพาส  อ้อชัยภูมิ เสนาธิการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี,พันเอกมงคล  หอทอง ผู้บังคับการกองบังคับการควบคุมที่ 2 และคณะเดินทางลงพื้นที่ชายแดนจังหวัดหนองคาย  มอบนโยบายและเป็นกำลังใจเจ้าหน้าที่ ซึ่งปฏิบัติงานตามชายแดน ในสถานการณ์การลักลอบนำเข้ายาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาในพื้นที่ และการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19ระรอกใหม่

       




พล.ต.บุญสิน พาดกลาง ผู้บัญชาการกองกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี กล่าวว่า การเดินทางลงพื้นที่ครั้งนี้เพื่อดูงานเกี่ยวกับความมั่นคงภายในพื้นที่ชายแดน เพื่อรับทราบปัญหา เกี่ยวกับสถานการณ์ทั่วไปในพื้นที่ชายแดนด้านจังจังหวัดหนองคาย เป็นกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ ซึ่งปฏิบัติงานตามชายแดน ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่  พร้อมมอบแนวทางการปฏิบัติงาน การป้องกันและแก้ไขปัญหา การกระทำผิดกฎหมายตามแนวชายแดน หลังมีปรากฏว่ามีการลักลอบนำเข้ายาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านเป็นจำนวนมาก และมีความถี่ขึ้น ทั้งแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบเข้ามาซึ่งอาจนำเชื้อไวรัสโควิด-19 เข้ามาแพร่ระบาดในไทยได้  

                      

ทั้งนี้ ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ทุกหน่วยได้บูรณาการการทำงานร่วมกัน อย่างเข้มข้นมากขึ้น โดยเฉพาะเกี่ยวกับยาเสพติด หลังจากกลุ่มผู้ผลิต ผู้ค้า ได้เปลี่ยนเส้นทางการลำเลียง จากชายแดนภาคเหนือ เปลี่ยนมาใช้เส้นทางตามแนวชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะด้านจังหวัดหนองคาย  ซึ่งมีระยะทางกว่า 200 กิโลเมตร ที่มีชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน และมีช่องทางธรรมชาติหลายแห่งที่สามารถลักลอบข้าม ในการปฏิบัติงานขอให้คำนึงถึงความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ ผู้ปฏิบัติงาน เป็นสำคัญ โดยเฉพาะในการปฏิบัติงานในยามค่ำคืนและมีความเสี่ยง


วันจันทร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

ผบ.กกล.สุรศักดิ์มนตรี ประชุมติดตามสถานการณ์ การป้องกัน แก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ จ.หนองคาย

วันที่ 1 ก.พ.64 ที่ห้องประชุมชั้น 2 ที่ว่าการอำเภอท่าบ่อ จ.หนองคาย พล.ต.บุญสิน พาดกลาง ผู้บัญชาการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี (ผบ.กกล.สุรศักดิ์มนตรี) เป็นประธานในการประชุมหน่วยงานความมั่นคง ประด้วย ฝ่ายปกครองอำเภอท่าบ่อ, บก.ควบคุมที่ 2 กกล.สุรศักดิ์มนตรี, นรข.เขตหนองคาย, ฉก.ตชด.24 กกล.สุรศักดิ์มนตรี, ตำรวจ สภ.ท่าบ่อ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามสถานการณ์ การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดชายแดน หลังในห้วงที่ผ่านมามีการจับกุมยาเสพติดที่ลักลอบเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้านจำนวนมาก ซึ่งจังหวัดหนองคายพบว่ายาเสพติดที่มีการลักลอบเข้ามามากที่สุดคืออำเภอเมืองหนองคาย รองลงมาคืออำเภอท่าบ่อ เนื่องจากกลุ่มค้ายาต้องเร่งระบายยาเสพติด และคาดว่ามียาเสพติดจ่อทะลักเข้ามายังประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง



ทั้งนี้จากนโยบาย "หยุดยาเสพติดไว้ที่แนวชายแดน" ของกองทัพบกที่มีมาอย่างต่อเนื่องและอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งในปีที่ผ่านมามีความยากลำบากในการปฏิบัติหน้าที่ ภายใต้สถานการณ์ของการแพร่ระบาดโรค โควิด-19 เจ้าหน้าที่ต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างระมัดระวังมากยิ่งขึ้น โดยหน่วยงานความมั่นคง ไม่ว่าจะเป็นทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ชรบ. ได้เสริมกำลังเข้าพื้นที่เสี่ยงบริเวณแนวชายแดนเพื่อหมุนเวียนการปฏิบัติหน้าที่ ทั้งการลาดตระเวนในห้วงเวลากลางวันและกลางคืนตลอด 24 ชั่วโมงในการสกัดกั้นบริเวณแนวชายแดน เป็นผลให้สามารถตรวจยึดยาเสพติดล็อดใหญ่ได้หลายครั้ง สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้หลายราย รวมถึงสกัดกั้นแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายหลายคน 



สำหรับสถานการน์ยาเสพติดในพื้นที่อำเภอท่าบ่อ ซึ่งจากข้อมูลรายงานพบว่าผลการดำเนินการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ผลเป็นที่น่าพอใจและเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดของยาเสพติดในภาพรวมถือว่าอยู่ระดับป่านกลาง เพราะจากการกวาดล้างจับกุมที่ผ่านมา ไม่ปรากฎผู้ค้ารายใหญ่ หรือรายสำคัญในพื้นที่ มีเพียงผู้ค้ารายย่อย และผู้เสพยาเท่านั้น ทั้งนี้หลายหน่วยงานก็ได้มีการบูรณาการออกระดมกวาดร้างจับกุมอยู่อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทั้งผู้ค้า ทั้งผู้เสพหมดไปจากพื้นที่ต่อไป










ผบ.กกล.สุรศักดิ์มนตรี และคณะลงพื้นที่เยี่ยม ชรบ.ต.กองนาง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย เพื่อให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่เสมือนแนวป้องกันชายแดน พร้อมเยี่ยมผู้ป่วยติดเตียง

วันที่ 1 ก.พ.64 ที่ศาลาประชาคมหมู่ 11 ต.กองนาง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย พล.ต.บุญสิน พาดกลาง ผู้บัญชาการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี (ผบ.กกล.สุรศักดิ์มนตรี) พร้อมด้วย พันเอกประพาส  อ้อชัยภูมิ เสนาธิการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี, พันเอกมงคล หอทอง ผู้บังคับการกองบังคับการควบคุมที่ 2 กกล.สุรศักดิ์มนตรี และคณะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ต.กองนาง อ.ท่าบ่อ โดยมีนางถนอม สมศรี กำนันตำบลกองนาง นำผู้ใหญ่บ้าน และ ชรบ.ให้การต้อนรับ พร้อมรายงานผลปฎิบัติงานของ ชรบ.ต.กองนาง ในห่วงที่ผ่านมา ซึ่งได้บูรณาการร่วมหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นหมวด คทร.ที่ 2 บก.ควบคุมที่ 2 กกล.สุรศักดิ์มนตรี, นรข.เขตหนองคาย, ฉก.ตชด.24 กกล.สุรศักดิ์มนตรี และกองร้อย อส.ที่ 6 อ.ท่าบ่อ ในการสอดส่องดูแลการกระทำผิดกฎหมายตามแนวชานแดน จนสามารถยึดยาเสพติดที่ลักลอบนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้านได้หลายรายการ




พล.ต.บุญสิน พาดกลาง ผบ.กกล.สุรศักดิ์มนตรี กล่าวว่า การลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมในครั้งนี้ เป็นการเสริมสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่ ชรบ.และกำลังพลในทุกระดับที่ได้ออกปฏิบัติงานตามแนวชายแดน ซึ่ง ชรบ.ถือเป็นหน่วยงานหนึ่งในการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่หน่วยงานหลักในการป้องกันชายแดน รวมทั้งการให้ความช่วยเหลือดูแลความปลอดภัยและความเป็นอยู่ของประชาชนตามแนวชายแดน การแก้ไขปัญหาความมั่นคงในพื้นที่ เช่น ปัญหาการลักลอบยาเสพติดเข้ามาในพื้นที่ และปัญหาคนต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองเป็นต้น แต่ถึงอย่างไรก็ขอให้ ชรบ.ใช้ความระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายต่อตนเองได้

จากนั้น ผบ.กกล.สุรศักดิ์มนตรี และคณะได้เดินทางไปเยี่ยมผู้ป่วยติดเตียง ติดบ้าน เพื่อมอบสิ่งของอุปโภคและบริโภคที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตให้กับผู้ป่วยติดเตียง ติดบ้านที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จำนวน 9 ราย เพื่อช่วยเหลือเยียวยาและเป็นกำลังใจในการดำเนินชีวิตต่อไป










จ.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา" เฉลิมพระเกียรติฯ

สนง.พช.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา...