วันพฤหัสบดีที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

ชาวสวนหนองคายหันมาพึ่งการขายออนไลน์ช่วยทำตลาดสู้วิกฤตโควิด-19 สามารถระบายผลไม้ส่งออกจำนวนมาก

ที่ร้านสวนส้มเจ้าจอมขวัญ วิสาหกิจชุมชน อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ของนางสาวฤดี พวงจำปา หรือเจ้ไก่ ที่เป็นเจ้าของร้านและเป็นเจ้าของสวนส้มเจ้าแรกและเจ้าเดียวของจังหวัดหนองคาย ที่ปลูกส้มเขียวหวานสายพันธุ์เขียวดำเนิน ภายใต้ชื่อแบรนท์ "เขียวหนองคาย" กำลังเร่งส่งออกพลไม้ให้กับลูกค้าที่ สปป.ลาว หลังลงประกาศขายช่องทางออนไลน์เพื่อสู้วิกฤตโควิด-19 ทำให้มีลูกค้ารายใหญ่ๆ ที่ สปป.ลาว รู้จักมากขึ้นจากช่องทางออนไลน์ และสั่งผลไม้จากฝั่งไทยนำไปจำหน่ายช่วงตรุษจีนจำนวนมาก






เจ้ไก่ กล่าวว่า ที่ผ่านมาทุกปีในสถานการณ์ปกติ ก็จะนำผลผลิตที่สวนส่งออกทางจุดผ่อนปรนชายแดนบ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ แต่พอเกิดการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ทุกอย่างต้องหยุดชะงักหมด รายได้ก็ไม่มีจะไปจ่ายหนี้ ยังดีที่รัฐบาลได้ออกมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรด้านพักชำระหนี้ ก็คิดว่าโรคโควิดนี้คงอยู่ไม่ได้นาน แต่พอไกล้ครบกำหนดการพักชำระหนี้ แต่ด่านก็ยังไม่เปิดเลย เราก็ต้องคิดหาเงินมาจ่ายหนี้ ก็คือจะต้องขายผลไม้ภายในอำเภอศรีเชียงใหม่ โชคดีกลุ่มผู้ทำเฟสบุ๊กเพจให้เราโพสต์ขายออนไลน์ในเฟสบุ๊กเพจ จนมีออเดอร์สั่งซื้อแต่ละวันเยอะมาก และลูกค้าเดินทางซื้อที่ร้านจำนวนมาก ส่วนการขายส้มที่สวนคือส้มที่สวนได้รับรองมาตรฐานของกรมส่งส่งเสริมการเกษตร ทำให้ส้มในสวนสามารถขายในห้างสรรพสินค้าได้ และไปรษณีย์ไทยยังได้ช่วยเหลือนำส้มที่สวนไปจำหน่ายให้ด้วย




เจ้ไก่ กล่าวต่อว่า ช่วงที่เกิดโควิดใหม่ๆ สินค้านั้นไม่สามารถส่งออกไปขายยังประเทศเพื่อนบ้านได้เลย แต่พอมาปรับเปลี่ยนขายทางช่องทางออนไลน์ ทำให้พ่อค้าแม่ค้าที่สปป.ลาวรู้จักมากขึ้น และต้องการผลไม้ที่เป็นเกรดพรีเมี่ยม เราก็ต้องไปหาผลไม้ที่เขาต้องการแล้วก็โพสต์ภาพให้ลูกค้าดู เมื่อลูกค้าพอใจเราก็ส่งตามออเดอร์ที่ลูกค้าต้องการ โดยจะส่งออกไปทางสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 ที่ได้ผ่อนปรนให้เฉพาะสินค้าในการส่งออกได้ ซึ่งจากการประกาศขายสินค้าทางช่องทางออนไลน์ก็มีลูกค้ารายใหม่ที่สปป.ลาวเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นร้านค้าขายพลไม้รายใหญ่ในเวียงจันทน์ คือ "ร้านดีมาร์ท" ขายอยู่ที่ดวงพะลาน และร้านหมากไม้สีหอม สี่แยกเซ็นเตอร์พอยท์ ซึ่งสองร้านนี้ต้องการสินค้าออกแกนิค บังเอินว่าทางร้านได้รับการรับรองสินค้ามาตรฐานจากกรมส่งเสริมการเกษตร จึงทำให้ทั้งสองร้านค้าเชื่อมั่นในตัวสินค้าที่จะส่งไปให้ โดยเฉพาะช่วงนี้จะเข้าตรุษจีน จึงมีออเดอร์สั่งผลไม้ที่เป็นเซ็ตสำหรับตรุษจีนจำนวนมาก จึงต้องเร่งส่งออกตามที่ลูกค้าต้องการ ทำให้ตอนนี้มีรายได้พอประครองตัวได้ในช่วงวิกฤตโควิดนี้ หากลูกค้าสนใจผลไม้เกรดพรีเมี่ยมในราคาส่ง สามารถสั่งผ่านทางช่องออนไลน์ที่ เฟสบุ๊กเพจ "สวนส้มเจ้าจอมขวัญ" หรือติดต่อที่เฟสบุ๊กชื่อ "ขอจงรัก ภัคดี"










วันพุธที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

อดีตครูบำนาญ ผันตัวเองมาเป็นเกษรตรกรปลูกฝรั่งกิมจูริมฝั่งแม่น้ำโขง เผยเคล็ดลับสร้างรสชาติ หวาน กรอบ หอม สร้างรายได้ดีตลอดปี อนาคตเตรียมเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร

ที่สวนเกษตรผสมผสานริมฝั่งแม่น้ำโขงบ้านสะพานพุทธ หมู่ 5 ต.พานพร้าว อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ของนายณรงค์ ผาจันทร์ อดีตข้าราชการครูบำนาญ ได้ปลูกฝรั่งพันธุ์กิมจูไร้เมล็ดปลอดสารพิษ จำนวน 200 ต้น บนพื้นที่ 1 ไร่ ภายใต้มาตรฐานคุณภาพ “หวาน กรอบ หอม พร้อมส่งจากสวน” จนได้รับเสียงการันตีถึงรสชาติความอร่อยจากลูกค้าทั้งภายในท้องถิ่นและต่างจังหวัดเป็นอย่างดี




นายณรงค์ กล่าวว่า หลังจากรับราชการครูได้ครบอายุราชการ 26 ปีก็ได้ขอเออรี่ฯ เป็นข้าราชการบำนาญ หลังจากเออรี่ฯก็เดินทางไปทำงานเป็นพนักงานบริษัทที่สหรัฐอเมริกาและแคนาดา เสาร์อาทิตย์ก็จะมีเวลาว่าง เพื่อนที่เป็นชาวต่างประเทศก็ชวนไปเล่นที่ฟาร์มของเขา โดยเขาจะปลูกหลายอย่าง ซึ่งครอบครัวหนึ่งเขาจะปลูกสี่ถึงห้าร้อยไร่ โดยใช้คนน้อยและผลผลิตได้เยอะ ส่วนใหญ่เขาจะทำการเกษตรตามฤดูกาล เช่น มะเขือเทศ มะนาว ฝรั่ง ที่มีวิธีทำที่ง่ายๆ โดยเฉพาะเขาบริหารเวลาได้ดีมาก ก็ไปเก็บเกี่ยวประสบการที่ต่างประเทศมา 9 ปี ก็มีแรงดลใจว่าจะปลูกอะไรที่สามารถมีรายได้ตลอดทั้งปี ก็ได้ศึกษาหลายอย่างก็พบว่าฝรั่งกิมจู โดยใช้พื้นที่มรดกริมฝั่งแม่น้ำโขงจำนวน 3 ไร่ ทำการปลูกฝรั่งฯ 1 ไร่ โดยเริ่มจากการปลูกที่ละเล็กน้อยไปก่อน ปัจจุบันมีทั้งหมด 200 ต้น ปรากฏว่าไม่พอจำหน่าย ถึงแม้อยู่ในสภาวะวิกฤตโควิด แต่ว่าฝรั่งเป็นผลไม้ที่กินได้ตลอดทั้งปี ซึ่งที่สวนจะใช้เกษตรอินทรีย์ ไม่พึ่งสารเคมี และโปรโมทออนไลน์ไปด้วย ลูกค้ารู้ก็ชอบและก็มีจองกันมามาก ก็ทำการส่งไปตามที่สั่งทางเคอร์รี่ ตอนนี้ยังไม่พอจำหน่าย ว่าจะขยายเพิ่มไปอีกจาก 200 เป็น 400 ต้น เพราะว่าคนที่รับประทานไปแล้วรู้สึกว่าหวาน กรอบ อร่อย หอม ซึ่งพื้นที่นี้นอกจากจะปลูกฝรั่งกิมจูเป็นหลักอยู่แล้ว ในพื้นที่ 3 ไร่เมื่อถึงฤดูทำนาก็จะปลูกข้าว และก็ฟักทอง ซึ่งเป็นพื้นที่เกษตรผสมผสาน ซึ่งตอนนี้กำลังทำซุ้มไม้เลื้อยไม้ไผ่ปลูกเสาวรส  เพื่อเปิดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร เพื่อให้ผู้ที่สนใจได้มาเรียนรู้วิถีเกษตรกรรมริมโขงของชาวชนบท



ส่วนการให้น้ำนั้น ที่สวนแห่งนี้จะใช้ระบบรดน้ำ โดยใช้เครื่องสูบน้ำจากแม่น้ำโขงมาทำการรดแปลงฝรั่งกิมจูวันเว้นวัน เคล็ดลับอย่างหนึ่งก็คือเปิดเพลงกล่อมฝรั่งกิมจูเพื่อเพิ่มผลผลิด สังเกตุได้ว่าต้นไหนใกล้เสียงเพลงจะออกผลจำนวนมากจนต้องใช้ไม้ค้ำ และยังทำให้ต้นฝรั่งกิมจูมีความสดชื่นอยู่เสมอ ท่าจะเก็บผลผลิตขายก็จะหยุดรดน้ำ 2 วัน จะทำให้ฝรั่งกิมจูมีรสชาติหวาน กรอบ อร่อย และหอมตามที่ต้องการ



ส่วนทางด้านกำจัดแมลงศัตรูพืช จะเริ่มมีเข้ามารบกวนในช่วงที่ต้นฝรั่งกิมจูเริ่มแตกใบอ่อน ซึ่งจะใช้วิธีการป้องกันด้วยการน้ำขี้เฒ่าหมักไว้หนึ่งคืน อัตราส่วนก็คือขี้เฒ่าหนึ่งกิโลกรัม/น้ำ 1 ลิตร หลังจากหมักไว้หนึ่งคืนแล้วก็เอาน้ำใสของขี้เฒ่ามาผสมน้ำเปล่าครึ่งต่อครึ่ง มาทำการฉีดพ่นก็สามารถกำจัดศัตรูฝรั่งกิมจู โดยเฉพาะเพลี้ยแป้ง เพลี้ยไฟก็จะหายไปได้



สำหรับเทคนิคการห่อผลฝรั่งนั้น จะใช้ถุงพลาสติกห่อคลุมผลฝรั่ง 1 ชั้น เจาะรูเพื่อระบายน้ำไม่ให้ผลมีการควบแน่น และป้องกันผลเน่า ก่อนที่จะห่อทับอีกชั้นหนึ่งด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์พับให้มีลักษณะเป็นกรวยแล้วใช้ห่อครอบลงมาเพื่อกันแสง เนื่องจากเมื่อมีแสงแดดส่องเข้ามากระทบจะทำให้ภายในถุงพลาสติกเกิดการควบแน่นมีไอน้ำ และส่งผลให้ผิวของผลฝรั่งมีลักษณะเหลืองไหม้ หรือเน่าได้นั่นเอง ซึ่งฝรั่งกิมจูสามารถสร้างรายได้ให้กับครอบครัวถึง 3,000 บาท/สัปดาห์เลยทีเดียว







วันอังคารที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

ผบ.กกล.สุรศักดิ์มนตรี ลงพื้นที่สั่งคุมเข้มชายแดน มอบแนวนโยบายและเป็นกำลังใจเจ้าหน้าที่ ซึ่งปฏิบัติงานตามชายแดน ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19ระรอกใหม่

วันที่ 1 ก.พ. 64 ที่ ห้องประชุมหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย  พล.ต.บุญสิน พาดกลาง ผู้บัญชาการกองกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี  พร้อมด้วย พันเอกประพาส  อ้อชัยภูมิ เสนาธิการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี,พันเอกมงคล  หอทอง ผู้บังคับการกองบังคับการควบคุมที่ 2 และคณะเดินทางลงพื้นที่ชายแดนจังหวัดหนองคาย  มอบนโยบายและเป็นกำลังใจเจ้าหน้าที่ ซึ่งปฏิบัติงานตามชายแดน ในสถานการณ์การลักลอบนำเข้ายาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาในพื้นที่ และการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19ระรอกใหม่

       




พล.ต.บุญสิน พาดกลาง ผู้บัญชาการกองกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี กล่าวว่า การเดินทางลงพื้นที่ครั้งนี้เพื่อดูงานเกี่ยวกับความมั่นคงภายในพื้นที่ชายแดน เพื่อรับทราบปัญหา เกี่ยวกับสถานการณ์ทั่วไปในพื้นที่ชายแดนด้านจังจังหวัดหนองคาย เป็นกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ ซึ่งปฏิบัติงานตามชายแดน ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่  พร้อมมอบแนวทางการปฏิบัติงาน การป้องกันและแก้ไขปัญหา การกระทำผิดกฎหมายตามแนวชายแดน หลังมีปรากฏว่ามีการลักลอบนำเข้ายาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านเป็นจำนวนมาก และมีความถี่ขึ้น ทั้งแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบเข้ามาซึ่งอาจนำเชื้อไวรัสโควิด-19 เข้ามาแพร่ระบาดในไทยได้  

                      

ทั้งนี้ ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ทุกหน่วยได้บูรณาการการทำงานร่วมกัน อย่างเข้มข้นมากขึ้น โดยเฉพาะเกี่ยวกับยาเสพติด หลังจากกลุ่มผู้ผลิต ผู้ค้า ได้เปลี่ยนเส้นทางการลำเลียง จากชายแดนภาคเหนือ เปลี่ยนมาใช้เส้นทางตามแนวชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะด้านจังหวัดหนองคาย  ซึ่งมีระยะทางกว่า 200 กิโลเมตร ที่มีชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน และมีช่องทางธรรมชาติหลายแห่งที่สามารถลักลอบข้าม ในการปฏิบัติงานขอให้คำนึงถึงความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ ผู้ปฏิบัติงาน เป็นสำคัญ โดยเฉพาะในการปฏิบัติงานในยามค่ำคืนและมีความเสี่ยง


วันจันทร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

ผบ.กกล.สุรศักดิ์มนตรี ประชุมติดตามสถานการณ์ การป้องกัน แก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ จ.หนองคาย

วันที่ 1 ก.พ.64 ที่ห้องประชุมชั้น 2 ที่ว่าการอำเภอท่าบ่อ จ.หนองคาย พล.ต.บุญสิน พาดกลาง ผู้บัญชาการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี (ผบ.กกล.สุรศักดิ์มนตรี) เป็นประธานในการประชุมหน่วยงานความมั่นคง ประด้วย ฝ่ายปกครองอำเภอท่าบ่อ, บก.ควบคุมที่ 2 กกล.สุรศักดิ์มนตรี, นรข.เขตหนองคาย, ฉก.ตชด.24 กกล.สุรศักดิ์มนตรี, ตำรวจ สภ.ท่าบ่อ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามสถานการณ์ การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดชายแดน หลังในห้วงที่ผ่านมามีการจับกุมยาเสพติดที่ลักลอบเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้านจำนวนมาก ซึ่งจังหวัดหนองคายพบว่ายาเสพติดที่มีการลักลอบเข้ามามากที่สุดคืออำเภอเมืองหนองคาย รองลงมาคืออำเภอท่าบ่อ เนื่องจากกลุ่มค้ายาต้องเร่งระบายยาเสพติด และคาดว่ามียาเสพติดจ่อทะลักเข้ามายังประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง



ทั้งนี้จากนโยบาย "หยุดยาเสพติดไว้ที่แนวชายแดน" ของกองทัพบกที่มีมาอย่างต่อเนื่องและอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งในปีที่ผ่านมามีความยากลำบากในการปฏิบัติหน้าที่ ภายใต้สถานการณ์ของการแพร่ระบาดโรค โควิด-19 เจ้าหน้าที่ต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างระมัดระวังมากยิ่งขึ้น โดยหน่วยงานความมั่นคง ไม่ว่าจะเป็นทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ชรบ. ได้เสริมกำลังเข้าพื้นที่เสี่ยงบริเวณแนวชายแดนเพื่อหมุนเวียนการปฏิบัติหน้าที่ ทั้งการลาดตระเวนในห้วงเวลากลางวันและกลางคืนตลอด 24 ชั่วโมงในการสกัดกั้นบริเวณแนวชายแดน เป็นผลให้สามารถตรวจยึดยาเสพติดล็อดใหญ่ได้หลายครั้ง สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้หลายราย รวมถึงสกัดกั้นแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายหลายคน 



สำหรับสถานการน์ยาเสพติดในพื้นที่อำเภอท่าบ่อ ซึ่งจากข้อมูลรายงานพบว่าผลการดำเนินการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ผลเป็นที่น่าพอใจและเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดของยาเสพติดในภาพรวมถือว่าอยู่ระดับป่านกลาง เพราะจากการกวาดล้างจับกุมที่ผ่านมา ไม่ปรากฎผู้ค้ารายใหญ่ หรือรายสำคัญในพื้นที่ มีเพียงผู้ค้ารายย่อย และผู้เสพยาเท่านั้น ทั้งนี้หลายหน่วยงานก็ได้มีการบูรณาการออกระดมกวาดร้างจับกุมอยู่อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทั้งผู้ค้า ทั้งผู้เสพหมดไปจากพื้นที่ต่อไป










จ.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา" เฉลิมพระเกียรติฯ

สนง.พช.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา...