วันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

สลดผาตากเสื้อ! นักท่องเที่ยววัย 52 ปี ขึ้นถ่ายรูปเซลฟี่ลานหินใหญ่บนหน้าผา เกิดสะดุดร่องหินร่วงตกหน้าผาสูง 30 เมตร เสียชีวิต


วันที่ 12 ก.พ.64 ที่วัดผาตากเสื้อ ต.ผาตั้ง อ.สังคม จ.หนองคาย เจ้าหน้าที่กู้ภัยประจักษ์หนองคาย ได้ระดมกำลังลงไปนำร่างของนักท่องเที่ยว ที่ผลัดตกจากก้อนหินบนหน้าผาของวัดผาตากเสื้อ ใกล้กับสกายวอล์ก ด้วยความทุลักทุเล เนื่องจากบันไดที่เดินลงไปถ้ำใต้หน้าผานั้นไม่แข็งแรง อาจจะเป็นอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ได้  เมื่อถึงด้านล่างพบศพผู้เสียชีวิต สวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงยีนขายาว นอนหงายเสียชีวิตอยู่บนโขดหินในป่าลึก สภาพคอหัก แขน-ขาหัก เจ้าหน้าที่กู้ภัยประจักษ์ ต้องใช้เชือกผูกมัดร่างติดกับเบาะเคลื่อนย้ายนำร่างผู้ชีวิต ดึงขึ้นมาตามขั้นบันได ใช้เวลากว่า 4 ชั่วโมง ถึงนำร่างผู้เสียชีวิตขึ้นมาจากหน้าผาได้




เบื้องต้นทราบชื่อผู้ตายว่า นายเสกสรร ธิมาพันธุ์ อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 201/43 ถนนพิชัยฯ หมู่ 9 ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี ซึ่งเพื่อนผู้เสียชีวิตเล่าว่า พวกตนพร้อมผู้ตายเดินทางมาเที่ยวสกายวอล์กที่วัดผาตากเสื้อ ทั้งหมด 6 คน ระหว่างที่กำลังจะเดินขึ้นไปชมวิวสกายวอล์ก ผู้ตายมองเห็นวิวสวยงามและมีโขดหินยื่นออกไปจากหน้าผา ผู้ตายได้ขึ้นไปถ่ายรูปบนก้อนหินขนาดใหญ่ เท้าเกิดไปสะดุดร่องหินทำให้เสียหลักลื่นพลัดตกเหวสูงกว่า 30 เมตร และเสียชีวิตโดยไม่มีใครสามารถช่วยเหลือได้ทัน เพื่อนที่มาด้วยจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ช่วยเหลือ



ทั้งนี้บริเวณที่เกิดเหตุเป็นหินก้อนใหญ่ วางซ้อนหินที่ยื่นออกจากหน้าผา ที่ผู้ตายตกลงไปนั้น เป็นจุดชมวิวยอดฮิตอีกจุดหนึ่ง ที่นักท่องเที่ยวมักจะไปถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกัน ของวัดผาตากเสื้อ นอกจากจะเป็นที่สกายวอล์ก ซึ่งไม่ห่างกัน อยู่บริเวณด้านหลังที่พักแม่ชี  ซึ่งไม่มีรั้วกั้น ก้อนหินยังขยับได้ด้วย และเมื่อ 2 วันที่ผ่านมาเกิดฝนตกในพื้นที่จังหวัดหนองคาย อาจทำให้พื้นก้อนหินลื่น จนทำให้เกิดอุบัติเหตุดังกล่าว เบื้องต้นหลังจากได้ให้แพทย์ทำการชันสูตรพลิกศพแล้ว และทางญาติไม่ได้ติดใจถึงสาเหตุการเสียชีวิต เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงให้กู้ภัยนำร่างของผู้ตายไปเก็บไว้ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ เพื่อให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป ส่วนบริเวณที่เกิดเหตุได้ปิดไม่ให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปถ่ายภาพ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นอีก


ขอบคุณภาพจากกู้ภัยประจักษ์หนองคาย





วันพฤหัสบดีที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

พุทธศาสนิกชนตั้งตารับหลวงตาบุญชื่น รอถวายน้ำเปล่า รับพรจากม้วนสบงเคาะหัวตลอดเส้นทาง คุณยายวัย 73 เผยเป็นบุญบารมีอย่างยิ่งที่ได้พบหลวงตา

วันที่ 11 ก.พ. 64 ที่ริมถนนหลวงหมายเลข 211 สายอ.ท่าบ่อ-อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย บรรดาพุทธศาสนิกชนจำนวนมาก ต่างทยอยเดินทางมาปูเสื่อเพื่อนั่งรอกราบไหว้หลวงตาบุญชื่น ปัญญาวุฒิโก อายุ 72 ปี ตลอดเส้นทางที่หลวงตาบุญชื่นจะเดินธุดงค์ผ่านตามรอยเกจิดัง "หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต" พร้อมนำน้ำเปล่า-เครื่องดื่มชูกำลังมาถวายให้กับหลวงตา และนำผ้ามาวางเพื่อให้หลวงตาเหยียบย้ำเพื่อเก็บไว้บูชา และรอให้หลวงตาใช้สบงที่ม้วนเป็นท่อนเคาะศรีษะให้พรเพื่อเป็นสิริมงคล โดยไม่ขอรับปัจจัย โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย และเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลช่วยอำนวยความสะดวกดูแลความปลอดภัยบนท้องถนนให้กับหลวงตาบุญชื่น ที่จะเดินธุดงค์มุ่งหน้าไปยังอ.ศรีเชียงใหม่ อ.สังคม จ.หนองคาย เข้าสู่อ.ปากชม จังหวัดเลย



คุณยายบุญช่วย ศรีภูมิภักดิ์ อายุ 73 ปี ชาวบ้านลำดวน หมู่ 4 ต.บ้านว่าน อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย กล่าวว่า ลูกสาวได้โทรมาจากเมืองนอกบอกว่าหลวงตาบุญชื่นจะเดินธุดงค์ผ่านอำเภอท่าบ่อ จึงเดินทางมาพร้อมครอบครัวลูก-หลาน เพื่อรอกราบไหว้หลวงตาที่สี่แยกไฟแดงน้ำโมงตั้งแต่เช้าก็ไม่พบใคร จึงพากันเดินทางไปที่อำเภอศรีเชียงใหม่ หวังจะได้กราบไหว้หลวงปู่สักครั้ง แต่ก็ไม่พบใครอีกจึงต้องย้อนกลับมาก็พบชาวบ้านมานั่งรอหลวงตาที่ทางเข้าวัดศรีชมภูองค์ตื้อ สี่แยกบ้านห้วยมาง ต.กองนาง อ.ท่าบ่อ ก็เลยพากันนั่งรอ นับว่าเป็นบารมีอย่างยิ่งที่ได้พบหลวงตา วันนี้ก็ได้เตรียมน้ำมาถวายหลวงตาบุญชื่น ด้วย









"โครงการเราชนะ" สร้างรายได้ให้วิสากิจชุมชนกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านกองนาง (แปรรูปปลา) เป็นกอบเป็นกำ แทบผลิตไม่ทัน เผยอยากให้มีโครงการดีๆอย่างนี้อีก

ที่วิสากิจชุมชนกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านกองนาง (แปรรูปปลา) หมู่ 11 ต.กองนาง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย เป็นวิสาหกิจชุมชนอีกกลุ่มที่มีศักยภาพ มีความเข้มแข็ง และช่วงนี้มีรายได้เป็นกอบเป็นกำให้กับสมาชิก หลังเข้าร่วมโครงการ "เราชนะ" โดยนำผลผลิตทางการเกษตรในชุมชนมาแปรรูปเพื่อสร้างมูลค่า โดยเฉพาะการเพาะเลี้ยงปลา ซึ่งในตำบลกองนางเกษตรกรส่วนใหญ่มีอาชีพเพาะเลี้ยงปลาที่ขึ้นชื่อที่สุดของจังหวัดหนองคาย และนำปลานิลที่เป็นต้นทุนในท้องถิ่นมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ OTOP ของตำบล ไม่ว่าจะเป็นปลานิลแดดเดียว ใส้กรอกปลานิล กุนเชียงปลานิล แหนมปลานิล และน้ำพริกปลานิล จนได้รับความสนใจของผู้บริโภคจำนวนมาก




นางถนอม สมศรี กำนันตำบลกองนาง ซึ่งเป็นประธานวิสาหกิจชุมชนฯ กล่าวว่า เนื่องจากในพื้นที่มีเกษตรกรยึดอาชีพเลี้ยงปลาเป็นส่วนใหญ่ จึงมีแนวคิดที่จะแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าทางสินค้า และสตรีของเราก็ว่างงาน จึงได้รวมกลุ่มกันตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชนฯขึ้นมา เพื่อนำปลาที่เป็นต้นทุนในพื้นที่มาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ขึ้นมาในชุมชน ก็จะมีปลานิลแดดเดียว ใส้กรอกปลา กุนเชียงปลา แหนมปลา และน้ำพริกปลานิล โดยราคาปลานิลแดดเดียวอยู่ที่แพ๊คละ 140 บาท, ใส้กรอกปลาแพ๊คละ 100 บาท, กุนเชียงปลาแพ๊คละ 100-150 บาท, แหนมปลาแพ๊คละ 100 บาท และน้ำพริกปลานิลกระปุกละ 25-50 บาท  ซึ่งช่วงนี้ผลิตภัณฑ์ของกลุ่มได้รับความต้องการจากผู้บริโภคจำนวนมาก หลังจากกลุ่มฯได้เข้าร่วมโครงการของรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นโครงการคนละครึ่ง โครงการเราชนะ และโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มีประชาชนเข้ามาใช้สิทธิกันจนทำให้สินค้าของกลุ่มฯแทบผลิตไม่ทัน ปรกติแล้วกลุ่มแม่บ้านจะร่วมกันทำผลิตภัณฑ์สัปดาห์ละครั้งสองครั้ง แต่พอมีโครงการเราชนะเข้ามา จึงต้องรวมกลุ่มกันทำผลิตภัณฑ์ทุกวันและรับออเดอร์ตลอด โดยปลานิลแดดเดียวจะผลิตได้ 40 กก./วัน , แหนมปลานิลจะผลิตได้ 700 ห่อ/วัน , ใส้กรอกปลานิลจะผลิตได้ 20 กก./วัน และกุนเชียงปลานิลจะผลิตได้ 15 กก./วัน ส่วนน้ำพริกปลานิลต้องมีออเดอร์สั่งเข้ามาถึงจะทำ เพราะมีวิธีการทำหลายขั้นตอน ต้องใช้เวลาในการทำน้ำพริก ทำให้สมาชิกของกลุ่มฯมีรายเพิ่มขึ้นสองถึงสามเท่าตัว ท่าเป็นไปได้อยากให้รัฐบาลมีโครงการดีๆแบบนี้อีก เพราะสามารถกระจายรายได้สู่ชุมชนอย่างแท้จริง อีกอย่างยังสามารถช่วยเหลือเกษตรกรในชุมชนได้มีงานทำ และไม่ว่างงานอีกด้วย





สำหรับผลิตภันฑ์ของวิสากิจชุมชนกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านกองนาง (แปรรูปปลา) ยังได้รับการรับรองด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์และมาตรฐานการผลิตสินค้า OTOP การแปรรูปการเกษตร ปี 2562 จากกรมส่งเสริมการเกษตร และผลิตภัณฑ์ยังได้รับการรับรองมาตรฐานจาก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เป็นการการันตีคุณภาพและความปลอดภัยต่อผู้บริโภค ตามหลักเกณฑ์การผลิตอีกด้วย







วันศุกร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

เทศบาลตำบลบ้านถ่อน ร่วมกับกกต.ตำบลบ้านถ่อน เดินหน้าให้ความรู้เกี่ยวกับการเลือกตั้งท้องถิ่นแก้ผู้สมัครนายกเทศบาลและสมาชิกเทศบาล ที่จะมีการเลือกตั้งขึ้นในวันที่ 28 มีนาคมนี้

วันที่ 5 ก.พ.64 ที่ห้องประชุมชั้น 2 สำนักงานเทศบาลตำบลบ้านถ่อน อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นายปราโมทย์ สุทธากรณ์ ปลัดเทศบาลตำบลบ้านถ่อน ร่วมกับนายจำเนียร โคตรชมภู ประธาน กกต.ตำบลบ้านถ่อน และคณะกรรมการการเลือกตั้งตำบลบ้านถ่อน จัดอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการเลือกตั้งในการเลือกตั้งนายกเทศบาลตำบลบ้านถ่อนและสมาชิกสภาเทศบาลตำบลบ้านถ่อนขึ้น เพื่อให้ความรู้และสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมาย ระเบียบ วิธีปฏิบัติในการเลือกตั้งแก่ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้สนับสนุน และผู้ที่เกี่ยวข้อง และหลังการเลือกตั้งแก่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง เพื่อให้การหาเสียงเป็นไปอย่างโปร่งใส ไม่กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ไม่มีการซื้อสิทธิขายเสียงและใส่ร้ายป้ายสีซึ่งกันและกัน โดยมีว่าที่ ร.ต. ดร.สัมพันธ์ แสงคำเลิศ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดหนองคาย เป็นวิทยากรให้ความแก่ผู้สมัครฯ เกี่ยวกับกฏหมายการเลือกตั้ง, การเตรียมเอกสารในการสมัคร, การใช้จ่ายในการหาเสียงต้องทำอย่างไร และอะไรที่ทำได้ อะไรที่ทำไม่ได้เกี่ยวกับการเลือกตั้งเทศบาล 2546 ตาม พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2562 และระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้มีการกระทำที่ผิดกฎหมาย หรือการกระทำที่เข้าข่ายการสนับสนุนผู้สมัครรายใดรายหนึ่ง




ทั้งนี้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติประกาศแผนการจัดการเลือกตั้ง และประกาศกำหนดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล และนายกเทศมนตรี และได้ออกประกาศกำหนดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี ในวันที่ 28 มี.ค.2564 และวันรับสมัครเลือกตั้งระหว่างวันที่ 8-12 ก.พ.2564 















จ.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา" เฉลิมพระเกียรติฯ

สนง.พช.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา...