พุทธศาสนิกชนร่วมโปรยดอกไม้ แทนการสรงน้ำองค์หลวงพ่อพระใสขณะแห่รอบพระอุโบสถ 3 รอบ เน้นลดคนแห่ และเข้มมาตรการป้องกันโควิดอย่างเข้มงวด

วันที่ 13 เม.ย. 64 เวลา 09.09 น. ที่หน้าพระอุโบสถ วัดโพธิ์ชัย พระอารามหลวง อ.เมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย พระราชรัตนาลงกรณ์ เจ้าคณะจังหวัดหนองคาย/รักษาการเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ชัย พระอารามหลวง เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และนายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานฝ่ายฆราวาส  ประกอบพิธีอัญเชิญองค์หลวงพ่อพระใสพระคู่บ้านคู่เมืองหนองคายลงจากพระอุโบสถ แห่รอบพระอุโบสถ 3 รอบ โดยให้ประชาชนได้โปรยดอกไม้แทนการสรงน้ำองค์หลวงพ่อพระใส                

    

     

สำหรับปีนี้ได้มีการปรับรูปแบบพิธีอัญเชิญฯ คือมีการกำหนดจำนวนคนที่ร่วมอัญเชิญ ทั้งคนที่หามและผู้ที่เข้าร่วมพิธีอัญเชิญ หลังอัญเชิญหลวงพ่อพระใสลงจากพระอุโบสถแล้ว ก็จะจัดรูปขบวนแห่รอบพระอุโบสถ จำนวน 3 รอบ ผู้ที่อยู่ในขบวนแห่ จะประกอบด้วย องค์หลวงพ่อพระใส พระเถระผู้ใหญ่ ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุที่กำหนดไว้เท่านั้น  และไม่อนุญาตให้ประชาชนเข้าไปร่วมในขบวนแห่ ไม่มีการสาดน้ำ แต่จะมีการกำหนดจุดให้ประชาชนอยู่และร่วมกันสวดมนต์ขณะที่กำลังแห่หลวงพ่อพระใสรอบพระอุโบสถ 

จากนั้นก็จะอัญเชิญหลวงพ่อพระใสขึ้นประดิษฐานบนแท่นปะรำพิธีในพลับพลาหลวงพ่อพระใสหน้าพระอุโบสถ  ไม่มีการแห่รอบเมือง แต่ยังเปิดให้ประชาชนได้สรงน้ำในพลับพลาหลวงพ่อพระใสและบำเพ็ญกุศล โดยปีนี้มีการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเข้มงวด เข้าออกวัดทางเดียว

ด่วน! ปิดหาดริมโขง สนามกีฬา กิจกรรมรวมคนหมู่มาก ฝ่าฝืนโทษหนัก

ประกาศ คำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหนองคาย ฉบับที่ 9 / 2564 เรื่อง ปิดสถานที่และงดกิจกรรมที่มีโอกาสเสี่ยงต่อการติดและแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) ในจังหวัดหนองคาย ดังนี้

1. ทุกกิจกรรมที่มีการรวมคนจำนวนมาก ให้ระงับหรือเลื่อนออกไป เช่น การอบรมสัมมนา งานเลี้ยงสังสรรค์ การจัดงานคอนเสิร์ต งานกิจกรรมกีฬา สภากาแฟ เป็นต้น ยกเว้น กิจกรรมทางศาสนา งานประเพณีท้องถิ่น ที่ได้กำหนดและดำเนินการตามมาตรการในการป้องกันควบคุมโรคฯ ไว้อย่างเข้มงวดแล้ว

2. ให้ปิดสนามกีฬาที่อยู่ในความรับผิดชอบของทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งมีผู้ชมเป็นจำนวนมาก และที่ผู้เล่นที่มีโอกาสสัมผัสตัวกัน เช่น ชกมวย ฟุตบอล บาสเก็ตบอล วอลเล่ย์บอล เป็นต้น

3. ให้ปิดสถานที่มีการจำหน่ายอาหาร สุรา เครื่องดื่มอื่นๆ หรือการให้บริการ เฉพาะพื้นที่ชายหาดริมแม่น้ำโขง

หากผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้อาจมีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมีความผิดตามมาตรา 18 แห่งพะราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตั้งแต่วันที่ 14 เมษายน 2564 จนไปถึงวันที่ 30 เมษายน 2564

สะเทือนใจคนขี้ร้อน! สั่งปิดหาดริมแม่โขง ไม่มีที่เที่ยวคลายร้อน ส่วนบรรดาพ่อค้าแม่ค้าโอดเดือดร้อนหนัก ทุนหายกำลัยหด

วันที่ 11 เม.ย. 64 บรรยากาศการท่องเที่ยวช่วงไกล้เข้าสู่เทศกาลสงกรานต์ พบว่าประชาชนและนักท่องเที่ยว ส่วนใหญ่ยังคงเดินทางไปท่องเที่ยวแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เนื่องจากสภาพอากาศร้อนจัดอุณหภูมิสูงถึง 35 องศาเซลเซียส ทำให้ประชาชน นักท่องเที่ยว จะพากันไปเล่นน้ำคลายร้อนในช่วงเย็นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะหาดพานพร้าววัดชุมพล ต.พานพร้าว อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ชาวบ้านในพื้นที่ได้พลิกวิกฤติเป็นโอกาส ปรับหาดทรายกลางน้ำโขงช่วงหน้าแล้ง จัดทำซุ้มอาหาร บริการอาหาร เครื่องดื่ม รวมถึง บริการอุปกรณ์เล่นน้ำ เช่าห่วงยาง บานาน่าโบท เจ็ทสกี ให้ประชาชน นักท่องเที่ยว ได้เล่นน้ำ รับประทานอาหาร ท่ามกลางธรรมชาติสองฝั่งโขง ที่ไม่แพ้บรรยากาศทะเล

จนกระทั่งมีประกาศจากขณะกรรมการหมู่บ้าน ว่าวันนี้เปิดหาดให้เล่นน้ำเป็นวันสุดท้าย หลังจังหวัดมีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่ 3 ราย เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงของการแพร่ระบาดของโรค จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องหาทางลดการแพร่ระบาดของโรคในสถานที่ ที่มีความเสี่ยงสูง ทำให้ประชาชน นักท่องเที่ยวที่พาครอบครัวเดินทางมารับประทานอาหาร เล่นน้ำคลายร้อน ต่างไม่เห็นด้วยหากมีคำสั่งปิด เพราะเป็นสถานที่คลายเครียด ไม่สมควรปิดหาด เพราะควรปิดที่คนกลุ่มเสี่ยงเท่านั้น

ส่วนบรรดาพ่อค้าแม่ค้าริมหาด ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ตอนนี้ได้รับความเดือดร้อนมาก เพราะลงทุนกันไปเยอะมาก บางรายลงทุนซื้อโต๊ะเก้าอี้เสริม เตรียมรับคนมาเล่นน้ำ หวังจะมีรายได้บ้างในช่วงนี้ มีคำสั่งปิดหาดอย่างนี้ ไม่รู้จะเอาอะไรกิน จะมีอะไรมาชดเชยกันได้บ้าง ปีที่ผ่านมากำลังจะได้เงินก็มาถูกสั่งปิด มาปีนี้อีกยังมาถูกสั่งปิด ท่าไม่ให้เปิดหาดก็ควรไม่ให้เปิดตั้งแต่แรก น่าจะให้โอกาสกันบ้าง ลงทุนกันไปเยอะมาก แต่กลับไม่ได้เงินคืน จะหาเงินที่ไหนมาใช้หนี้ เพราะปีนึงมีแค่ครั้งเดียว ปีที่ผ่านมาก็ขาดทุน มาปีนี้อีก จะให้อยู่อย่างไร

โควิดฯหนองคาย พบผู้ติดเชื้อใหม่อีก 2 ราย โดยรายแรกเป็นนักศึกษาชาว อ.โพนพิสัย เชื่อมโยงสถานบันเทิงในเชียงใหม่ ส่วนรายที่สองเป็นน้องชายของผู้ป่วยชาว อ.เฝ้าไร่ ที่กลับมาผ่อนผันการเกณฑ์ทหาร ผู้ว่าฯหนองคาย ขอความร่วมมือชาวจังหวัดหนองคายการ์ดอย่าตก ย้ำให้ปฏิบัติตามมาตรการที่ ศบค.และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดฯได้ให้แนวทางไว้อย่างเคร่งครัด พร้อมกับงดเปิดหาดเล่นน้ำ

เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 11 เม.ย. 64 ที่ห้องประชุมปทุมเทวาภิบาล ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดหนองคาย นายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย , นพ.ชัชวาลย์ ฤทธิ์ฐิติ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดหนองคาย , นายณัฐวัสส์ วิริยานภาภรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย  และนางสาวสิริมา วัฒโน รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ได้มีการประชุมร่วมกับคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหนองคายและหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ครั้งที่ 7/2564 

ก่อนเข้าวาระการประชุม นายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ก็ได้แถลงรายละเอียดกรณีพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด-19 ที่มีการแพร่ระบาดระลอกใหม่ ในพื้นที่จังหวัดหนองคาย ในการระบาดระลอกใหม่ช่วงเดือนเมษายน 2564 ที่ในจังหวัดหนองคาย พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เพิ่มอีก 2 ราย รวมเป็นผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด-19 ในการระบาดระลอกใหม่ช่วงเดือนเมษายน 2564 ในจังหวัดหนองคาย จำนวน 3 ราย สรุปจังหวัดหนองคาย มีผู้ป่วยยืนยันฯ สะสม ตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แล้ว ทั้งหมด 8 ราย รักษาหายแล้ว 5 ราย

สำหรับผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 2 ราย ที่ตรวจพบในจังหวัดหนองคาย รายแรก ผู้ป่วยเป็นนักศึกษาชายไทย อายุ 21 ปี สัญชาติไทย มีภูมิลำเนาอยู่ที่ตำบลเหล่าต่างคำ อ.โพนพิสัย จังหวัดหนองคาย แต่ไปเรียนที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ เดินทางกลับมาจังหวัดหนองคายเพื่อขอผ่อนผันการเกณฑ์ทหาร ซึ่งก่อนเดินทางกลับฯพบมีประวัติไปเที่ยวสถานที่เสี่ยงในจังหวัดเชียงใหม่ ส่วนอีกรายเป็นเด็กอายุ 11 ปี อยู่ที่ ต.หนองหลวง อ.เฝ้าไร่ เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง คือเป็นน้องชายของผู้ป่วยยืนยันระลอกใหม่เดือนเมษายน 2564 รายที่ 1 ที่ตรวจพบก่อนหน้านี้ ซึ่งผู้ป่วยฯทั้ง 2 ราย ได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลหนองคาย

นายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ได้ขอความร่วมมือในการแชร์ Timeline ของผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด-19 ที่ไม่ใช่ของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดหนองคาย ทำให้ประชาชนเกิดการสับสน จนไม่รู้จะเชื่ออะไร จึงขอให้แชร์เฉพาะที่เป็นของทางราชการ คือของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดหนองคาย เท่านั้น และขอให้หยุดแชร์ Timeline มาจากที่อื่น

 

ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ยังได้มีข้อสั่งการ หรือมาตรการในการรัดเข็มขัด สรุปได้ว่า กิจกรรมที่มีการรวมคนมากกว่า 50 คน เช่นกิจกรรมนั่งผ้าหนองคายใส่บาตรริมโขง กิจกรรมสภากาแฟ รวมไปถึงการจัดประชุมสัมมนาของส่วนราชการและเอกชน ในช่วงนี้ขอให้เลื่อนไปก่อนจนถึงวันที่ 30 เมษายน 64 หากพบว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลาย ก็จะกลับมาจัดกิจกรรมได้ตามปกติ แต่หากสถานการณ์ยังไม่คลี่คลายก็จะมีการพิจารณาแนวทางการอีกครั้ง ในส่วนของตลาดสด ก็มีมาตรการที่จะปิด แต่ขอให้ทุกแห่งมีการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดฯอย่างเข้มงวด หากพบมีการร้องเรียนหรือเจ้าหน้าที่ตรวจพบว่ามีความหย่อนยานไม่ปฏิบัติตามมาตรการฯที่กำหนด อาจจะถูกปิดเป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์ได้

ในส่วนของสวนสาธารณะนั้น ก็ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเข้าไปกำกับดูแล เพื่อให้มีการปฏิบัติตามป้องกันการแพร่ระบาดฯอย่างเคร่งครัด ส่วนการแข่งขันกีฬาที่มีการประทะกัน มีเหงื่อและสารคัดหลั่ง เช่นฟุตบอล และบาสเก็ตบอล ก็ขอความร่วมมือช่วงนี้ให้งดไว้ก่อน รวมไปถึงหาดทรายริมโขง ก็ให้งดไว้ก่อนเช่นเดียวกัน

จ.หนองคาย พบผู้ป่วยโควิด-19 ระลอกใหม่เพิ่ม 1 ราย ชาว อ.เฝ้าไร่ เป็นนักศึกษา ม.เชียงใหม่ กลับมาผ่อนผันการเกณฑ์ทหาร มีประวัติเสี่ยงสัมผัสผู้ป่วยโควิดที่สถานบันเทิงในเชียงใหม่

วันที่ 10 เม.ย. 64 เวลา 13.00 น. ที่ห้องประชุมปทุมเทวาภิบาล ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดหนองคาย นายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย พร้อมด้วยนายณัฐวัสส์ วิริยานภาภรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย, นายแพทย์ชัชวาลย์ ฤทธิ์ฐิติ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดหนองคาย และนางสาวสิริมา วัฒโน รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ร่วมกันแถลงข่าวพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 1 ราย เมื่อวันที่ 9 เมษายน ที่ผ่านมา เป็นผู้ป่วยชาย อายุ 21 ปี อาชีพนักศึกษา ภูมิลำเนาอยู่ที่ ต.หนองหลวง อ.เฝ้าไร่ จ.หนองคาย  แต่ไปเรียนที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมื่อปิดเทอมจึงกลับมาบ้านเพื่อขอผ่อนผันการเกณฑ์ทหาร ผู้ป่วยอาศัยอยู่กับครอบครัวรวม 4 คน ก่อนเดินทางมาจังหวัดหนองคาย 14 วัน มีประวัติเสี่ยงสัมผัสผู้ป่วยโควิด โดยได้ไปที่สถานบันเทิงในจังหวัดเชียงใหม่

สำหรับไทม์ไลน์ของผู้ป่วยมีดังนี้

วันที่ 20 มี.ค. 64 เวลา 16.00 น. เดินทางไปห้างเซ็นทรัลเฟสติวัล จ.เชียงใหม่

วันที่ 2 เม.ย. 64 เวลา 11.00 น. ไปโรงอาหารในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่, เวลา 20.00-24.00 น.ไปร้านทูไนท์ จ.เชียงใหม่ (สถานที่เสี่ยง)

วันที่ 3 เม.ย. 64 เวลา 19.30 น. กลับหนองคายโดยรถทัวร์เพชรประเสริฐ สายเซียงใหม่-นครพนม ที่ขนส่งอาเขตเชียงใหม่

วันที่ 4 เม.ย. 64 เวลา 07.30 - 09.30 น. ถึง บขส.หน้าเซนทรัลอุดรฯ นั่งรถโดยสารประจำทาง อุดรฯ-โซ่พิสัย, เวลา 12.30 น. ถึง อ.เฝ้าไร่ ลงรถบริเวณหน้าร้านกุ๊กกิ๊กดิจิตอล นั่งรถสามล้อรับจ้างกลับบ้าน ต.หนองหลวง อ.เฝ้าไร่

วันที่ 5 เม.ย. 64 เวลา 09.30-09.45 น. ไปที่ว่าการอำเภอเฝ้าไร่กับน้องชาย เพื่อติดต่อเอกสารการคัดเลือกทหารกองเกิน, เวลา 13.00 น. ช่วยพ่อทำงานก่อสร้างบ้าน  ต.หนองหลวง อ.เฝ้าไร่, เวลา 18.00 น. กลับบ้าน

วันที่ 6 เม.ย. 64 เวลา 07.00 น. ถวายจังหันที่วัดป่าหนองหลวง, เวลา 13.30 น.ไป อ.โพนพิสัย กับพระ 2 รูปและคนขับรถ 1คน เพื่อหาซื้อโทรศัพท์, เวลา 13.45 น. ไปร้านโทรศัพท์ ร้านป๊อปสโตร์ไอทีโฟน ร้านเอเชียสโตร์ ร้านบีโฟน และร้านบ้านมือถือ (สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาและใช้ระยะเวลาน้อยกว่า 5 นาที), เวลา 14:30 น. แวะ ปตท.ถิ่นดง อ.โพนพิสัย เข้าเซเว่นและอเมซอน (สวมหน้ากากตลอดเวลา), เวลา 15.30 น. ถึงห้างสรรพสินค้าอัศวรรณหนองคาย ตึกไอที ร้าน ทีจีโฟน, เวลา 16.20 น. แวะส่งพระ 1 รูป ที่วัดป่าแสงธรรมมงคล บ้านไผ่ ม.5 ต.วัดหลวง อ.โพนพิสัย, เวลา 17.30 น. กลับถึงบ้าน เริ่มมีอาการครั่นเนื้อครั่นตัว มีไข้ ปวดศีรษะ เจ็บคอ ซื้อยาลดไข้กินเอง

วันที่ 7 เม.ย. 64 เวลา 07.00-12.00 น. เดินทางไปกับน้องชายเพื่อไปผ่อนผันทหาร ณ ที่ว่าการอำเภอเฝ้าไร่, เวลา 12.00 น. เดินทางกลับบ้าน

วันที่ 8 เม.ย. 64 เวลา 13.00 น. ทราบข่าวว่าเพื่อนในมหาวิทยาลัยติดเชื้อโควิด-19 และมีประวัติไปสถานที่เสี่ยง ผู้ป่วยจึงเดินทางไปยัง รพ.เฝ้าไร่ เพื่อขอรับการตรวจหาเชื้อโควิด รอผล และกักตัวที่บ้าน กระทั่งเวลา 01.00 น. ทราบผลทางห้องปฏิบัติการตรวจพบเชื้อโควิด-19

วันที่ 9 เม.ย. 64 เวลา 09.30 น. รพ.เฝ้าไร่รับผู้ป่วยมาที่ห้องความดันลบ รพ.เฝ้าไร่ จากนั่นเวลา 14.30 น. ส่งต่อผู้ป่วยไปรักษาที่รพ.หนองคาย

สำหรับสถานการณ์โควิด-19 ของจังหวัดหนองคาย มีผู้ป่วยยืนยันโรคโควิด-19 รายใหม่ จำนวน 1 ราย (สะสม 3ราย รวมสะสมจากปี 2563 รวมเป็น 6 ราย รักษาหายและกลับบ้าน 5 ราย) ผู้เข้าเกณฑ์สอบสวน 8 ราย (สะสม 591 ราย) รอผลตรวจ 8 ราย การเฝ้าระวังผู้เดินทางจากพื้นที่เสี่ยง (ข้อมูลตั้งแต่ 14 มิ.ย. 63) SQ ต่างประเทศ จำนวน 732 ราย กักตัวที่บ้านพัก (HQ) ครบ 732 ราย การกักตัวในสถานกักตัวของภาครัฐ (LQ) จำนวน 2,229 ราย ครบ 2,144 ราย คงเหลือ 85 ราย

ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า จะเห็นได้ว่า การระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่นี้ ยังคงมีความน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง จึงฝากขอความร่วมมือสื่อมวลชน ประชาชน และทุกภาคส่วน ให้ปฏิบัติตนตามคำแนะนำของบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ได้แก่  การเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล 1-2 เมตร, การใส่หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย, การล้างมือด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ให้สะอาดอยู่เสมอ, การวัดอุณหภูมิก่อนเข้าไปในสถานที่ และการลงทะเบียนเข้าไปในสถานที่ด้วยการใช้แอพลิเคชั่นไทยชนะ

สำหรับผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง สงสัยว่าตัวเองเสี่ยง ขอให้แจ้งแก่ผู้นำชุมชน หรือ อสม. และขอให้ดูแลตัวเอง โดยกักตัวเองสังเกตอาการที่บ้านพัก 14 วัน หากมีอาการอย่างน้อย 1 อาการ ดังต่อไปนี้ คือ มีไข้/วัดอุณหภูมิร่างกายได้ตั้งแต่ 37.5 องศาเซลเชียสขึ้นไป ไอ มีน้ำมุก เจ็บคอ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส หายใจเร็ว หายใจเหนื่อย หรือหายใจลำบาก ให้รีบพบแพทย์โดยด่วน  โดยการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ล้างมือด้วยน้ำและสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์บ่อยๆ ปิดดปากจมูกด้วยกระดาษทิชชู่ทุกครั้งที่ไอจาม หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดบุคคลอื่นในที่พักอาศัย โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง และอยู่ห่างจากคนอื่นไม่น้อยกว่า 1 - 2 เมตร หรือ 1 - 2 ช่วงแขน ใช้เวลาพบปะผู้อื่นให้สั่นที่สุด แยกห้องนอน แยกของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น เสื้อผ้า ผ้าเช็ดหน้า ผ้าห่ม ผ้าเช็ดตัว จาน ชาม ช้อน แก้วน้ำ หลอดดูดน้ำ โทรศัพท์ รวมทั้งให้แยกทำความสะอาด แยกน้ำดื่มเฉพาะ แยกสำรับอาหาร ไม่รับประทานอาหารร่วมกับคนในครอบครัว เป็นต้น ที่สำคัญเมื่อพบแพทย์ ห้ามปกปิดข้อมูลเป็นอันขาด

ตอนนี้วัคซีนป้องกันโควิดเริ่มทะยอยเข้ามา และได้มีการฉีดให้แก่กลุ่มเป้าหมายต่างๆแล้ว คาดว่าเดือนมิถุนายน ปีนี้ ก็จะได้ฉีดกันอย่างทั่วถึง แต่ถึงแม้ได้รับวัคซีนแล้ว ก็คงยังจะต้อง "สวมแมส อยู่ห่าง ล้างมือ"ให้เป็นนิสัยปกติต่อไป