วันเสาร์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

คณะกรรมการเฉพาะกิจแห่งชาติเพื่อการป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 ของลาว แจ้งให้หน่วยงานระดับแขวงเร่งดำเนินการเพิ่มมาตรการเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

หนังสือพิมพ์เวียงจันทน์ ไทม์สรายงานในวันนี้ว่า ทางการได้ดำเนินมาตรการล็อกดาวน์ทุกแขวง แม้ว่าแขวงอัตตะปือ, ไชยสมบูรณ์ และหัวพัน ยังไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ก็ตาม ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการเฉพาะกิจแห่งชาติได้จัดการประชุมทางวิดีโอร่วมกับหน่วยงานระดับจังหวัดเมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยขอให้หน่วยงานท้องถิ่นเพิ่มความพยายามในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

นายกิแก้ว ไขคำพิทูน หัวหน้าคณะกรรมการเฉพาะกิจแห่งชาติเพื่อการป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 กล่าวกับผู้เข้าร่วมการประชุมให้เร่งติดตามตัวผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้ออย่างเร่งด่วนเพื่อนำมาตรวจหาเชื้อโควิด-19

อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ระดับแขวงได้รับคำสั่งให้ทำการลาดตระเวนบริเวณชายแดนต่อไป เพื่อป้องกันไม่ให้มีผู้เดินทางเข้าประเทศลาวอย่างผิดกฎหมาย

นายกิแก้วได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการตรวจสอบสถานที่ต่างๆ ที่ถูกสั่งให้ปิดทำการ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าได้ปฏิบัติตามคำสั่ง

ทั้งนี้ ข้อมูลระบุว่า ลาวมียอดรวมผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วประเทศ 672 ราย และได้รับการรักษาจนหายดีแล้วอยู่ที่ 51 ราย

ด่วน! ผู้ว่าฯหนองคาย ขอความร่วมมือประชาชนงดออกจากบ้านตั้งแต่เวลา 5 ทุ่ม ถึงตี 4 และขอความร่วมมือประชาชนงด หรือชะลอการเดินทางไปในจังหวัดพื้นที่เสี่ยงโควิด-19

วันที่ 30 เม.ย. 64 นายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ได้ลงนามคำสั่ง ฉบับที่ 5 /2564 เรื่อง การปฏิบัติเพื่อควบคุมป้องกันและสกัดกั้นการติดและแพรเชื้อโรคในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิต-19) จังหวัดหนองคาย ระบุว่า ตามที่ได้มีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในประเทศไทย ขณะนี้ได้ทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในหลายพื้นที่และหลายจังหวัดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกวัน ซึ่งมีข้อมูลว่าเป็นเชื้อโรคสายพันธุ์ที่สามารถแพร่ระบาดได้รวดเรีวกว่าสายพันธุ์ปกติ โดยผู้ติดเชื้อบางรายมิได้แสดงอาการของโรค แต่ยังสามารถแพร่เชื้อไปยังผู้สัมผัสใกลัชิตอื่นได้ หากไม่มีการป้องกันโรคที่ดีและเข้มงวด นั้น

เพื่อให้การฝ้าระวังสกัดกั้นยับยั้งป้องกันควบคุมและแพร่โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด -19) ในพื้นที่ จังหวัดหนองดาย เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และสอดคล้องตาใมาตรการควบคุมโรค ของกระทรวงสาธารณสุข ฉะนั้น จึงอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 22 (7) แห่งพระราชบัญญัติโรคติตต่อ พ.ศ.2558 ประกอบกับข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ท.ศ. 2548 (ฉบับที่ 1) ข้อ 7 (1) ลงวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2563 ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเงิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 20) ลงวันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2564 และ ข้อกำหนดออกหามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ถุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 22) ลงวันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2564 ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ในเขตพื้นที่จังหวัดหนองคาย และประธานคณะกรรมการโรคติตต่อจังหวัดหนองคาย โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหนองตาย ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหนองคาย ครั้งที่ 9/2564 เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2564 จึงประกาศ ให้ปฏิบัติตังนี้

1.ขอความร่วมมือประชาชนงด หรือชะลอการเดินทางในช่วงเวลานี้โดยไม่มีเหตุจำเป็น โดยเฉพาะกานหลีกเลี่ยงการเดินทางไปในเขตจังหวัดหรือพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคหรือพื้นที่เฝ้าระวังโรค

2.ให้ผู้บังคับบัญชามีดุลยพินิจและพิจารณาอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ในสังกัด ที่มีประวัติการเดินทางเข้าไปในและกลับจากพื้นที่จัดให้เป็นพื้นที่เสี่ยงและมีการระบาดของโรค ให้ปฏิบัติงานนอกที่ตั้ง (Work From Home) ทั้งนี้ต้องคำนึงถึงประสิทธิภาพและความต่อเนื่องในการปฏิบัติงานเป็นสำคัญ ไม่ส่งผลเสียต่อภารกิจของหน่วยงานและประชาชน

3. ขอความร่วมมือประชาชนงดออกนอกเคหสถานหรือที่ทำนัก ภายหลังเวลา 23.00 น. จนถึงเวลา 04.00 น. ของวันถัดไป เว้นแต่มีเหตุจำเป็นอันมิอาจหลีกเสี่ยงได้

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2564 เป็นต้นไป จนกว่จะมีประกาศเปลี่ยนแปลง

อนึ่ง ข้อกำหนด ประกาศ คำสั่ง หรือการกระทำที่อาศัยอำนาจตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ตามคำสั่งนี้ไม่อยู่ในบังคับของกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง และกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง ตามมาตรา 16 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 คู่กรณีไม่อาจใช้สิทธิโต้แย้งคำสั่งนี้ได้




ผู้ว่าฯหนองคาย ออกคำสั่งปิดสถานที่ สถานบันเทิง ห้ามรวมกลุ่มสังสรรค์ ต้องสวมหน้ากากออกจากบ้าน ส่วนร้านอาหาร เปิดไม่เกิน 5 ทุ่ม ห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านค้าเปิดไม่เกิน 3 ทุ่ม พร้อมให้คัดกรองเข้มผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง และคุมเข้มตามแนวชายแดนตลอด 24 ชม.

.

วันที่ 30 เม.ย. 64 นายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ได้ลงนามคำสั่งที่ 14 /2564 เรื่อง ข้อกำหนดการปฏิบัติตามมาตรการสำคัญเพื่อควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในจังหวัดหนองคาย ระบุว่า ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในประเทศไทย ขณะนี้ได้ทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น โดยมีการกระจายไปในทุกจังหวัดอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้พบว่าปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่มีความสัมพันธ์ต่อการแพร่กระจายของโรค ได้แก่ ในสถานบันเทิง กิจกรรมเสี่ยงที่มีการรวมกันของคนจำนวนมาก งานเลี้ยงสังสรรค์ เป็นต้น จากนั้นได้มีการแพร่ระบาดไปยังบุคคลในครอบครัวเดียวกัน สถานที่ทำงาน สถานบริการ และอาจเป็นเหตุของการลุกลาม แพร่กระจายอย่างรุนแรงขึ้น จนเกินศักยภาพของระบบบริการทางแพทย์และสาธารณสุขได้ หากไม่มีมาตรการและวิธีการเพื่อการป้องกันยับยั้งควบคุมและสกัดกั้นที่เข้มงวดและเหมาะสม


เพื่อให้การเฝ้าระวังสกัดกั้นยับยั้งป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิต -19) ในพื้นที่จังหวัดหนองตาย เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และสอดคล้องตามมาตรการควบคุมโรค ของกระทรวงสาธารณสุข ฉะนั้นอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 22(7) มาตรา 34 มาตรา 35 มาตรา 39 และมาตรา 40 แห่งพระราชบัญญัติโรค พ.ศ.2558 ประกอบกับข้อกำหนดออกตามความมาตรา 9  แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 1) ข้อ 7 (1) ลงวันที่ 25 มีนาคม 2563 ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 15) ข้อ 3  ลงวันที่ 25 ธันวาคม 2563 ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 16) ลงวันที่ 3 มกราคม 2564 ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 17) ลงวันที่ 6 มกราคม 2564 ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 18) ลงวันที่ 29 มกราคม 2564 ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 20) ลงวันที่ 16 เมษายน 2564 และ ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 22) ลงวันที่ 29 เมษายน 2564 ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์กรณีฉุกเฉินใน้ขตพื้นที่จังหวัดหนองคาย และประธานคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดหนองคาย โดยคามเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหนองคาย ลงมติที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดหนองคาย ครั้งที่ 9/2564 ลงวันที่ 28 เมษายน 2564  จึงมีคำสั่งดังนี้

ข้อ 1 ให้ยกเลิก คำสั่งคณะกรรมการโรคติตต่อจังหวัดหนองคายที่ 8/2564 ลงวันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2564 และคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหนองคายที่ 12/2564 ลงวันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2564


ข้อ 2 การปฏิบัติงานของพนักงานเจ้าหน้าที่

2.1 การปฏิบัติการของพนักงานเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ขายแดน ให้หน่วยงานความมั่นคงในจังหวัดหนองคาย ประกอบด้วย กอ.รมน.นค. , หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโซง เขตหนองลาย (นรข.) , กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 245 ให้เข้มงวดควบคุมการลักลอบเข้าประเทศ และการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างตัาว เพิ่มการลาดตระเวนตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเฝ้าระวังและสกัดกั้นป้องกันมีให้มีการลักลอบเดินทางเช้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย หากพบการลักลอบเข้าประเทศ ให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด

2.2 การปฏิบัติการของพนักงานเจ้าหน้าที่ในพื้นที่จังหวัดหนองตาย ให้ตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย, ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดหนองคาย, เจ้าหน้าที่ฝ้ายปกครอง , เจ้าหน้าที่สาธารณสุข รวมทั้งเจ้าหน้าที่ศุลกากรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ดังนี้

-  จัดตั้งจุดคัดกรองบุคคลที่เดินทางเข้ามาในจังหวัดหนองคาย ณ ด่านตรวจหนองสองห้อง ตำบลค่ายบกหวาน อำเภอเมืองหนองตาย โดยให้มีการบูรณาการร่วมระหว่างตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกลรอง และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข โดยมีมาตรการคัตกรองให้เป็นไปตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข

- คัดกรองบุคคลและรถขนส่งสินต้าตามแนวชายแตน กำหนดจุดรับส่งสินค้าให้อยู่ในพื้นที่ และระยะเวลาที่กำหนด โดยถืปฏิบัติให้เป็นไปตามมาตรการทางสาธารณสุขอย่างเศร่งครัด


ข้อ 3 การสกัดกั้นการแพร่กระจายขยงโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(ควิต-19) ในพื้นที่

3.1 ประซาชนที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่จังหวัดหนองศายจากพื้นที่กรุุงเทพมหานคร และอีก 35 จังหวัดต้องรายงานตัวต่อกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.)ในพื้นที่ โดยต้องกักกันตัวที่บ้านหรือที่พักอาศัย (Home Quarantine) อย่างเคร่งครัดและเข้มข้นเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 14 วัน โดยการแยกห้องพัก ห้องสุขา อุปกรณ์เครื่องใช้ส่วนตัว ฯลฯ เว้นแต่เป็นบุคคล ได้แก่ 1.ผู้ใด้รับการฉีดวัครีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบ 2 เข็มมาแล้วระยะเวลาไม่น้อยกว่า 14 วัน และมีใบรับรองการฉีควัคซีน (Vaccine Certifcate : VC) ฉบับจริงแสดงแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ หรือ 2.มีผลการตรวจหาเชื้อโควิต-19 ที่แสดงว่าไม่พบเชื้อด้วยวิธี RT-PCR หรือ Rapid test ในเวลาภายใน 72 ชั่วโมง ทั้งนี้ยังคงต้องเฝ้าระวังสังเกตอาการตนเอง ปฏิบัติตามมาตรการและแนวทางในการป้องกันควบคุมโรคอย่างเข้มงวดและเคร่งครัด (Self-Quarantine) อีกเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 14 วัน

3.2 หากเจ้าหน้าที่ตรวจพบบุคคลที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ที่มีซอบตัวยกฎหมาย อันเป็นพื้นที่เขตติตโรคติตต่ออันตรายและพื้นที่ระบาดต่อเนื่อง ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงผู้สัมผัสและผู้อยู่ในเหตุการณ์ที่พบผู้ป่วยยืนยันและผู้สงสัยติดเชื้อ ต้องเข้ารับการตรวจคัตกรองและคุมไว้ลังเกตตามเกณฑ์ที่กำหนด เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 14 วัน


ข้อ 4 การห้ามดำเนินการหรือจัดกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการแพรโรคใบพื้นที่จังหวัดหนองคาย

4.1 ทุกกิจกรรมที่มีการรวมคนจำนวนมาก ให้ระงับหรือเลื่อนออกไป เช่น การอบรมสัมมนา งานเลี้ยงสังสรรค์ การจัดงานคอนเสิร์ต งานกิจกรรมกีฬา สภากาแฟ เป็นต้น ยกเว้นกิจกรรมทางศาสนา งานประเพณีท้องถิ่น ที่ใด้กำหนดและดำเนินการตามมาตรการในการป้องกันควบคุมโรค ไว้อย่างเข้มงวดแล้ว

4.2 ห้ามการใช้อาคารหรือสถานที่ของโรงเรียนและสถาบันการศึกษาทุกประเภทเพื่อการจัตการเรียนการสอน การสอบ การฝึกอบรม หรือการทำกิจการใต ๆ ที่มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมากทำให้เสี่ยงต่อการแพรโรค เว้นแต่ 1. เป็นการเรียนการสอนหรือกิจกรรมเพื่อการสื่อสารแบบทางไกล (On Line) หรือด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์อื่น ,2. เป็นการใช้อาคารหรือสถานที่เพื่อให้ความช่วยเหลือ สงเคราะห์ อุปถัมภ์ หรือให้การอุปการะแก่บุคคล , 3. เป็นการจัดกิจกรรมทางราชการเพื่อประโยชน์สาธารณะ และได้รับอนุญาตจากผู้ว่ราชการจังหวัดแล้ว และ 4. เป็นโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาที่มีขนาดเล็ก ที่มีจำนวนนักเรียนรวมทั้งโรงเรียนไม่เกินหนึ่งร้อยยี่สิบคน

4.3 ห้ามการจัดกิจกรรมซึ่งมีการรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจำนวนรวมมากกว่าห้าสิบคน เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือเป็นกิจกรรมที่ดำเนินการโดยพนักงานเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ต้องตำเนินการตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนดอย่างเหมาะสมเคร่งครัดและเข้มข้น เช่น มาตรการ D-M-H-T.T.A ของกระทรวงสาธารณสุข ได้แก่ D-Distancing การเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล อย่างน้อย 1-2 เมตร M - Mask Wearing การสวมใส่หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย เมื่อออกจากที่พักอาศัยหรือเข้าไปในที่ชุมชน H.Hand Washing การล้างมือต้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ให้สะอาดอยู่เสมอ T-Temperature Checked การวัดอุณหภูมิก่อนเข้าไปในสถานที่ T-Testing การตรวจคัดกรองหาเชื้อโควิต-19 และ A- Application การมีและใช้แอพลิเคชั่นที่เกี่ยวข้องในการป้องกันโรคโควิต-19 เป็นต้น

4.4 ห้ามมีให้มีการชุมนุม การทำกิจกรรม การมั่วสุมหรือกระทำการใดๆ อันเป็นการสุ่มเสี่ยงต่อการติตและแพร่เชื้อโรคได้ เช่น การรวมตัวเล่นการพนันทุกชนิด เป็นตัน


ข้อ 5 การควบคุมการแพร่กระจายโรคจำแนกตามพื้นที่สถานการณ์

5.1 ให้ร้านอาหาร สามารถบริการจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม โดยสามารถบริโภคในร้านไต้แต่ไม่เกินเวลา 23.00 นาฬิกา

5.2 ให้ร้านอาหารหรือสถานที่จำหน่ายสุรา สามารถให้บริการจำหน่ายสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ไต้ แต่ห้ามการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้าน

5.3 ให้ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ หรือสถานประกอบการอื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน สามารถเปิดตำเนินการไต้ตามเวลาปกติของสถานที่นั้น ๆ แต่ไม่เกินเวลา 21.00 นาฬิกา โดยให้จำกัดจำนวนผู้ใช้บริการและงดเว้นกิจกรรมส่งเสริมการขาย ยกเว้นส่วนที่เป็นตู้เกม เครื่องเล่น ร้านเกม และสวนสนุก ต้องงดการให้บริการ


ข้อ 6 การปิดสถานที่ที่มีโอกาสลุ่มเสี่ยงต่อการติดและแพร่เชื้อโรค ดังนี้

6.1 สนามมวย สนามชนไก่ สนามซ้อมไก่ สนามกัดปลา

6.2 ฟิตเนส สนามฝึกซ้อมมวย

6.3 สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ร้านนวดแผนไทย/แผนโบราณ/ร้านนวดเพื่อสุขภาพ

6.4 สถานที่บริการสักหรือเจาะผิวหนัง หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกาย

6.5 สนามกีฬาที่อยู่ในความรับผิดชอบของทั้งภาครัฐและเอกซน ซึ่งมีผู้ชมเป็นจำนวนมากและที่ผู้เล่นที่มีโอกาสสัมผัสตัวกัน เช่น ชกมวย ทุ่ตบอล บาสเก็ตบอล วอลเล่ย์บอล เป็นต้น สำหรับสนามกีฬาที่ไม่มีลักษณะต้องห้ามดังกล่าว ให้มีใด้เฉพาะกิจกรรมการออกกำลังกายเล่นกีฬาประเภทนั้นืๆ เท่านั้น ห้ามมีให้มีการรับประทานอาหารและเครื่องดื่ม หรือกระทำกิจกรรมอื่นใดในลักษณะเข้าข่ายการรวมกลุ่มหรือการสังสรรค์อย่างเต็ดขาด

6.6 ให้ปิตสถานบริการ สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ หรือสถานที่อื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน


ข้อ 7 การป้องกันการติดเชื้อและแพร่กระจายโรคส่วนบุคคล ให้ประชาชนทุกคน ต้องสวมใส่หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธี เมื่อจำเป็นต้องออกจากเคหสถานหรือสถานที่ทำงาน เพื่อติตต่อธุระหรือกระทำการอื่นใด รวมทั้งเมื่อมีเหตุอันควรต้องสวมใส่ เช่น เมื่อต้องปฏิบัติหน้าที่ในสถานที่ทำงานการอยู่ในสถานที่สุ่มเสี่ยงจะแพร่ หรือได้รับเชื้อโรค การอยู่รวมกันกับคนหมู่มาก เป็นตัน อันเป็นการปฏิบัติตามสุขอนามัยในการป้องกันโรคต่อตัวบุคคล และประชาชนทั่วไป


ข้อ 8 การปฏิบัติสำหรับผู้ยนส่งที่เข้ามาในราชอาณาจักรไทย

8.1 มาตรการก่อนการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย ให้ผู้ขนส่งสินค้าแสดงเอกสารที่ใช้ในการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย ได้แก่ หนังสือแสดงการขนส่งสินค้า ซึ่งระบุเวลาที่จะเข้ามาและออกจากราชอาณาจักรไทย ระบุชนิดและจำนวนสินค้า ชื่อสกุลและสถานที่ที่สามารถติดต่อของผู้ขนส่งสินค้า ผู้ส่งสินค้าและผู้รับสินค้า

6.2 มาตรการเมื่อเดินทางถึป/ระหว่างอยู่ในราซอาณาจักรไทย 1.ให้ผู้ขนส่งสินค้าปฏิบัติภารกิจในการขนส่งสินค้า ในราชอาณาจักรไทยเท่าที่จำเป็น เมื่อเสร็จภารกิจแล้วให้กลับไปโดยเร็ว, 2.ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจตัดกรองอาการทางเดินหายใจ และวัดไข้ผู้ขนส่งสินค้า ณ ด่านควบคุมโรคติตต่อระหว่างประเทศ ก่อนเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร (Entry Screening) , 3. ให้ผู้ขนส่งสินค้านำยานพาหนะไปจอดและขนส่งสินค้า ณ จุดที่กำหนด คือ ศูนย์ควบคุมทางศุลกากร ด่านศุลกากรหนองคาย เท่านั้น เว้นแต่ ผู้ขนส่งสินค้าจะมีหนังสือรับรองการตรวจหาเชื้อโควิต-19 ว่ามีผลเป็นลบ (Covid-Free) ซึ่งตรวจมาแล้วไม่เกิน 72 ชั่วโมง สามารถนำมาใช้ได้ภายใน 7 วัน แสดงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ โดยผู้ขนส่งสินค้าสามารถเข้ามาขนถ่ายสินค้า ได้ในเขตพื้นที่เขตอำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย รวมทั้งให้ใช้ระบบติตตามหรือแอปพลิเคชันเพื่อการติดตามป้องกันโรคโควิต-19 ตามที่ทางราชการกำหนด

อนึ่ง ข้อกำหนด ประกาศ คำสั่ง หรือการกระทำที่อาศัยอำนาจตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ตามคำสั่งนี้ไม่อยู่ในบังคับของกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง และกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง ตามมาตรา 16 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 คู่กรณีไม่อาจใช้สิทธิโต้แย้งคำสั่งนี้ได้


หากผู้ใดฝ้าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้ อาจมีความผิดตามมาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท มาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ มาตรา 54 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจมีความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี ปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง







วันอังคารที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2564

ดำเนินคดี 2 ชายไทยสาวลาวลอบเข้าเมือง ติดเชื้อโควิดปกปิดข้อมูล

กรณีคณะเฉพาะกิจป้องกัน ควบคุม และแก้ไขการระบาดของเชื้อโควิด COVID-19 ของ สปป.ลาว ได้แถลงข่าวการพบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ 2 คน เป็นกรณีที่ 59 และกรณีที่ 60 ของ สปป.ลาว พบไทม์ไลน์ที่เชื่อมโยงกับชายชาวไทย จำนวน 2 ราย ได้ลักลอบข้ามไปยังฝั่ง สปป.ลาว แล้วพาหญิงชาวลาวรายดังกล่าว ตระเวนเที่ยวตาม ผับ ร้านอาหาร และสถานที่ต่างๆ ในเวียงจัน ก่อนจะลักลอบข้ามกลับมาในราชอาณาจักรไทยในเขตพื้นที่ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นั้น

ต่อมา ตม.หนองคาย ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองคาย เพื่อให้ดำเนินคดีกับนายธนกฤต อายุ 31 ปี  ในข้อหา “เป็นบุคคลสัญชาติไทยเดินทางเข้ามาและออกไปนอกราชอาณาจักร โดยไม่ผ่าน เขตท่า สถานี ตามประกาศในกฎกระทรวง และไม่ผ่านการตรวจจากเจ้าพนักงานตรวจคนเข้าเมืองประจำเส้นทางนั้น” และ “จงใจปกปิด บิดเบือนไทม์ไลน์ของตนเองต่อเจ้าพนักงาน” นายชิตพล อายุ 30 ปี ในข้อหา “เป็นบุคคลสัญชาติไทยเดินทางเข้ามาและออกไปนอกราชอาณาจักรโดยไม่ผ่าน เขตท่า สถานี ตามประกาศในกฎกระทรวง และไม่ผ่านการตรวจจากเจ้าพนักงานตรวจคนเข้าเมืองประจำเส้นทางนั้น” และ “ให้ความช่วยเหลือ ซ่อนเร้น หรือให้ความช่วยเหลือด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย ให้พ้นจากการถูกจับกุม” และ “จงใจปกปิด บิดเบือนไทม์ไลน์ของตนเองต่อเจ้าพนักงาน” และ น.ส.ดาววะดี  อายุ 26 ปี ในข้อหา“เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” 

เนื่องจากปรากฏภาพเคลื่อนไหวและภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิดพบว่านายชิตพล และนายธนกฤตได้อยู่บริเวณลานจอดรถหน้าโรงแรมเจือง 2 เมืองจันทะบุลี แขวงนครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว ขณะเที่ยวอยู่ที่ สปป.ลาว ก่อนที่ทั้ง 2 ราย ลักลอบเดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งต่อมาพบว่า นายธนกฤตติดเชื้อโควิด-19 จึงเข้ารับการรักษาตัวที่ รพ.หนองคาย เมื่อวันที่ 15 เม.ย.2564 ส่วนนายชิตพล และ น.ส.ดาววะดี ซึ่งเชื่อว่าลักลอบเดินทางเข้าราชอาณาจักรด้วย เมื่อทราบว่า นายธนกฤต เป็นผู้ติดเชื้อโควิด 19 จึงพากันมาตรวจที่ รพ.หนองคาย ผลปรากฏว่าติดเชื้อโควิด-19  จึงเข้ารับการรักษาตัวที่ รพ.หนองคาย เมื่อวันที่ 16 เม.ย.2564 และจากข้อมูลไทม์ไลน์ที่ นายชิตพล และ นายธนกฤต ได้ให้ไว้กับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ไม่ตรงกันและไม่ตรงกับข้อมูลจากการสืบสวน ตม.หนองคาย  จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองคาย เพื่อให้ดำเนินคดีกับบุคคลทั้ง 3 ราย ตามข้อหาดังกล่าวข้างต้น ตามคดีอาญาที่ 494/2564 ลง 23 เม.ย.64 ของสภ.เมืองหนองคาย 

ทั้งนี้ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 3 ราย อยู่ระหว่างการรักษาโรคโควิด-19 ซึ่งปัจจุบันศาลจังหวัดหนองคาย ได้ออกหมายจับนายชิตพลและ น.ส.ดาววะดีไว้แล้ว ส่วนนายธนกฤต ศาลเห็นว่าความผิดที่ถูกกล่าวหาโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี จึงยังไม่อนุมัติหมายจับ แต่ก็ได้ประสานทำการอายัดตัวไว้แล้ว หากสิ้นสุดการรักษาเมื่อใด จะได้นำตัวเข้าสู่กระบวนการดำเนินคดี จนกว่าคดีจะถึงที่สุดต่อไป

วันศุกร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2564

ด่านศุลกากรหนองคาย และหน่วยงานเกี่ยวข้อง ขยายผลตรวจยึดได้เพิ่ม ยาบ้า 4 แสนเม็ด หลังจับกุมผู้ต้องพร้อมของกลาง 1.8 ล้านเม็ด ซุกมาในแท็งก์น้ำมันหลังไปส่งน้ำมันที่ประเทศเพื่อนบ้าน

วันที่ 23 เม.ย.64   ที่ ด่านศุลกากรหนองคาย พ.ต.อ.ณรัชต์พล  เลิศรัชตะปภัสร์ นายด่านศุลกากรหนองคาย, พ.ต.อ.ออมสิน บุญญานุสนธิ์ รอง ผบก.ภ.จ.หนองคาย, นายอานุภาพ หอมจันทร์ หัวหน้าฝ่ายควบคุมและตรวจสอบทางศุลกากร,นายวศินพิศุต พุทธนิมนต์ หัวหน้าฝ่ายสืบส่วนและปราบปราม,พ.ต.อ.เกษม  มุทาพร ผกก.สภ.เมืองหนองคาย พร้อมเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันขยายผลสามารถตรวจค้นสามารถยึดยาบ้าได้เพิ่มอีก 4 แสนเม็ด ที่ซุกซ่อนไว้ใต้ท้องรถบรรทุกน้ำมัน


การตรวจยึดครั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 21 เม.ย. 64  เจ้าหน้าที่ได้จับกุม นายสงคราม  จันทร์แห่ว อายุ 47 ปี ชาว ต.บ้านโคก อ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู พร้อมยาบ้าจำนวน 1,800,000 ล้านเม็ด ที่ซุกซ่อนมาในแท็งก์น้ำมัน รถบรรทุกน้ำมัน ทะเบียน 71-4636 / 72-9142 ระยอง หลังจากนั้น พ.ต.อ.ณรัชต์พล  เลิศรัชตะปภัสร์ นายด่านศุลกากรหนองคาย, นายอานุภาพ หอมจันทร์ หัวหน้าฝ่ายควบคุมและตรวจสอบทางศุลกากร,นายวศินพิศุต พุทธนิมนต์ หัวหน้าฝ่ายสืบส่วนและปราบปราม เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ได้ทำการสอบสวน ขยายผลนายสงคราม ฯ ผู้ต้องหา และได้ตรวจค้นรถบรรทุกน้ำมันคันดังกล่าวอีกครั้งอย่างละเอียดพบยาบ้าจำนวน 400,000 เม็ดซุกซ่อนมัดติดไว้ใต้ท้องรถบริเวณแหนบล้อหลังด้านซ้าย  เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจหาลายนิ้วมือเพื่อขยายผลหาผู้ที่ร่วมขบวนการต่อไป  

ภายใต้การอำนวยการของ นายพชร  อนันตศิลป์อธิบดีกรมศุลกากร,นายประเสริฐ ลือชาธนานนท์  ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย, พล.ต.บุญสิน  พาดกลาง ผบ.กกล.สุรศักดิ์มนตรี นายศิริชัย  คุณาบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรภาคที่ 2,พล.ต.ต.กิตติศักดิ์  จำรัสประเสริฐ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย ,พ.อ.มงคล  หอทอง ผู้บังคับการกองบังคับกองควบคุมที่ 2 กกล.สุรศักดิ์มนตรี

จากนั้นได้ควบคุมตัวพร้องของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองคาย  ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป 


ผู้ว่าฯหนองคาย สั่งเข้มงวดผู้ขนส่งสินค้าเข้าไทย ป้องกันโควิด-19

 

นายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหนองคาย ได้ลงนามคำสั่งที่ 12 / 2564 เรื่อง มาตรการข้อกำหนดการปฏิบัติสำหรับผู้ขนส่งสินค้าที่เข้ามาในราชอาณาจักรไทย ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโโรนา 2019 (โควิด-19) จังหวัดหนองคาย

ตามที่ได้มีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)ในประเทศไทย ขณะนี้ได้ทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น จังหวัดหนองคายมีข้อมูลผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ตลอดจนประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ได้มีข้อมูลจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน ปัจจุบันนี้มีผู้ขนส่งสินค้าจากประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เข้ามาซื้อสินค้าในพื้นที่จังหวัดหนองคายเป็นประจำ จึงมีโอกาสสุ่มเสี่ยงที่จะมีการแพร่เชื้อโรคจากผู้ขนส่งสินค้าดังกล่าว หากไม่มีมาตรการหรือแนวทางการปฏิบัติเพื่อควบคุมป้องกันและสกัดกั้นโรคไว้อย่างเคร่งครัดและเข้มงวด นั้น

คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหนองคาย โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหนองคาย ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการโรคติตต่อจังหวัดหนองคาย ครั้งที่ 8/2564 เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2565 จึงมีคำสั่ง ดังนี้

ข้อ 1 มาตรการก่อนเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย ให้ผู้ขนส่งสินค้าแสดงเอกสารที่ใช้ในการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย ได้แก่ หนังสือแสดงการขนส่งสินค้า ซึ่งระบุเวลาที่จะเข้ามาและออกจากราชอาณาจักรไทย ระบุชนิดและจำนวนสินค้า ชื่อสกุลและสถานที่ที่สามารถติตต่อได้ของผู้ชนส่งสินค้า ผู้ส่งสินค้าและผู้รับสินค้า

ข้อ 2 มาตรการเมื่อเดินทางถึง/ระหว่างอยู่ในราชอาณาจักรไทย เท่าที่จำเป็น เมื่อเสร็จภารกิจแล้วให้กลับไปโดยเร็ว

2.1 ให้ผู้ขนส่งสินค้าปฏิบัติภารกิจในการขนส่งสินค้า ในราชอาณาจักรไทย

2.2 ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจคัดกรองอาการทางเดินหายใจ และวัดไข้ผู้ขนส่งสินค้า ณ ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ก่อนเตินทางเข้ามาในราชอาณาจักร (Entry Screening)

2.3 ให้ผู้ขนส่งสินค้านำยานพาหนะไปจอดและขนส่งสินค้า ณ จุดที่กำหนด คือศูนย์ควบคุมทางศุลกากร ด่านศุลกากรหนองคายเท่านั้น รวมทั้งให้ใช้ระบบติดตามหรือแอปพลิเคชัน ตามที่ทางราชการกำหนด

อนึ่ง ข้อกำหนด ประกาศ คำสั่ง หรือการกระทำที่อาศัยอำนาจตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ตามประกาศนี้ไม่อยู่ในบังคับของกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง และกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง ตามมาตรา 16 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 คู่กรณีไม่อาจใช้สิทธิโต้แย้งประกาศนี้ได้

"หากผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามประกาศนี้อาจมีความผิดตามมาตรา 51 พระราชบัญญัติโรคติคต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมี่นบาท และอาจมีความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ถุกเฉิน พ.ศ. 2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ" 

ตามรายละเอียดดั้งนี้




ผู้ว่าฯหนองคาย สั่งปิดฟิตเนส สนามฝึกซ้อมมวย สถานประกอบการ สถานที่ ที่มีโอกาสสุ่มเสี่ยงต่อการติดและแพร่เชื้อโรคโควิด-19

นายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหนองคาย ได้ลงนามประกาศคำสั่งฉบับที่ 4 / 2564 เรื่อง ข้อกำหนดการปฏิบัติเพื่อควบคุมป้องกันและสกัดกั้นการติดและแพร่เชื้อโรค ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) จังหวัดหนองคาย

ตามที่ได้มีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในประเทศไทย ขณะนี้ได้ทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในหลายพื้นที่ และหลายจังหวัดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกวัน ซึ่งมีข้อมูลว่าเป็นเชื้อโรคสายพันธุ์ที่สามารถแพร่ระบาดได้รวดเร็วกว่าสายพันธุ์ปกติ โดยผู้ติดเชื้อบางรายมิได้แสดงอาการของโรค แต่ยังสามารถแพร่เชื้อไปยังผู้สัมผัสใกล้ชิดอื่นได้ หากไม่มีการป้องกันโรคที่ดีและเข้มงวด นั้น จึงประกาศ ให้ปิดสถานที่ ที่มีโอกาสสุ่มเสี่ยงต่อการติดและแพร่เชื้อโรค ดังนี้

1. ฟิตเนส สนามฝึกซ้อมมวย

2. สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ร้านนวดแผนไทย/แผนโบราณ /ร้านนวดเพื่อสุขภาพ

3. สถานที่บริการสักหรือเจาะผิวหนัง หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกาย

อนึ่ง ข้อกำหนด ประกาศ คำสั่ง หรือการกระทำที่อาศัยอำนาจตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ตามประกาศนี้ไม่อยู่ในบังคับของกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง และกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง ตามมาตรา 16 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 คู่กรณีไม่อาจใช้สิทธิโต้แย้งประกาศนี้ได้

"หากผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามประกาศนี้อาจมีความผิดตามมาตรา 51 พระราชบัญญัติโรคติคต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมี่นบาท และอาจมีความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ถุกเฉิน พ.ศ. 2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ" 

ตามรายละเอียดดั้งนี้




จ.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา" เฉลิมพระเกียรติฯ

สนง.พช.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา...