วันศุกร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2564

นรข.เขตหนองคาย สนธิกำลังทหาร กกล.สุรศักดิ์มนตรี ฝ่ายปกครอง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจับยาบ้า 2 เคสใหญ่ รวบ 3 ผู้ต้องหาพร้อมของกลางกว่า 1.674 ล้านเม็ด

วันที่ 3 ก.ย. 2564 ที่ กองบังคับการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง เขตหนองคาย อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย นายณัฐวัฒน์  วิริยานภาภรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย, พันเอกมงคล หอทอง ผู้บังคับการกองบังคับการควบคุมที่ 2 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี (ร.13), นาวาเอกราฆพ เทวะประทีป ผู้บังคับหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงเขตหนองคาย, นายสมควร ใจซื่อ นายอำเภอสังคม, พ.ต.อ.สุรวุฒิ อุรัจฉัท รอง ผบก.ภ.จ.หนองคาย, พ.ต.อ.ณรงค์ ดันดี ผกก.สภ.สังคม  พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สถานีเรือสังคม, สถานีเรือรัตนวาปี, หมวดเคลื่อนที่เร็วที่ 1 กองร้อยเคลื่อนที่เร็ว ที่ 2 กกล.สุรศักดิ์มนตรี, ฝ่ายปกครอง, กอ.รมน.หนองคาย และเจ้าหน้าที่ตำรวจ  ร่วมกันแภลงข่าวในการจับกุมตรวจยึดยาบ้า 2 คดี พร้อมผู้ต้องหา 3 ราย ยาบ้ารวมทั้งสิ้น 1,674,000 เม็ด


โดยคดีแรกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 ก.ย. 2564 เจ้าหน้าที่สถานีเรือสังคม นรข.เขตหนองคาย ร่วมกับทหารชุด คทร.ที่ 1 ร้อย คทร.ที่ 2 กกล.สุรศักดิ์มนตรี ,ฝ่ายปกครองอำเภอสังคม และหน่วยงานข้างเคียง จับกุม นายธีรกร คานดง อายุ 38 ปี บ้านเลขที่ 136/1 หมู่ 4 ต.หนองบัว อ.เมือง จ.อุดรธานี และนายวิชัย ศิลาวงษ์ อายุ 33 ปี บ้านเลขที่ 79/5 หมู่ 2 ต.ลาดตะเคียน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ขับรถยนต์เก๋ง โตโยต้า ยาริส สีส้ม หมายเลขทะเบียน ขข 8308 อุดรธานี มาขนยาบ้าที่วางอยู่บริเวณริมช่องทางลงฝั่งแม่น้ำโขง หลังเมรุบ้านผาแดง ต.สังคม อ.สังคม จ.หนองคาย จำนวน 6 กระสอบ รวมยาบ้าทั้งสิ้น จำนวน 1,350,000 เม็ด



ซึ่งทั้ง 2 คนรับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างจากพ่อค้ายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี ให้มารับยาบ้าที่บริเวณดังกล่าว โดยได้จ่ายเงินเป็นค่าน้ำมันรถให้มาก่อน 5,000 บาท ท่าทำงานสำเร็จก็จะจ่ายส่วนที่เหลือ โดยไม่ยอมบอกว่าได้ท่าไหร่ แต่ก็มาถูกจับกุมเสียก่อน เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันมียาเสพติดโทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต หลังจากนั้นจึงได้ควบคุมตัวนายวิชัยฯ และนายธีรกรฯ พร้อมของกลลางทั้งหมดมาตรวจสอบโดยละเอียดที่ สน.เรือสังคม



ส่วนคดีที่ 2 ในวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่สถานีเรือรัตนวาปี นรข.เขตหนองคาย ได้ทำการจับกุมนายสมชาติ บรรณบดี อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17 หมู่ที่ 11 บ้านรัตนวาปี ต.รัตนวาปี อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย  ขับรถจักรยานยนต์พ่วงข้างไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ยี่ห้อ HONDA DREM สีดำ มาขนยาบ้า จำนวน 1 กระสอบ ที่บริเวณข้างวัดเจริญมิตร กลางหมู่บ้านตาลชุม อยู่ติดกับริมฝั่งแม่น้ำโขง และได้ขับออกไปอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่จึงได้ไล่ติดตาม จนถึงบริเวณถนนสาธารณะระหว่างบ้านตาลชุม หมู่ที่ 3 ถึงบ้านโนนสวรรค์ หมู่ที่ 6 ต.รัตนวาปี อ.รัตนวาปี และได้แสดงตัวเข้าตรวจค้น ซึ่งนายสมชาติฯ ได้ทิ้งรถแล้ววิ่งหลบหนีไป แต่เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวไว้ได้ จึงได้นำผู้ต้องหาพร้อมของกลางมาที่ สน.รัตนวาปี เพื่อตรวจสอบโดยละเอียด พบเป็นยาบ้ารวมทั้งสิ้น จำนวน 324,000 เม็ด ซึ่งผู้ต้องหาได้ยอมรับว่าของกลางทั้งหมดเป็นของตน  ซึ่งหลังจากแถลงข่าว เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน พร้อมของกลางแยกส่งพนักงานสอบสวน สภ.สังคม และ สภ.รัตนวาปี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป









วันพุธที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2564

จ.หนองคาย จัดกิจกรรมกำจัดผักตบชวาแบบบูรณาการ ณ สวนสมเด็จย่าเทศบาลเมืองท่าบ่อ พร้อมวางมาตรการในการดูแลรักษาแหล่งน้ำอย่างยั่งยืน

วันที่ 1 ก.ย. 2564 ที่ สวนสมเด็จย่าเทศบาลเมืองท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นายณัฐวัสส์ วิริยานภาภรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานเปิดกิจกรรมกำจัดผักตบชวาแบบบูรณาการจังหวัดหนองคาย โดยมีนายนวน โทบุตร นายอำเภอท่าบ่อ ให้การกล่าวต้อนรับ มีนายกิตติศักดิ์ วรรณวิเชษฐ์ นายกเทศมนตรีเมืองท่าบ่อ  กล่าวรายงาน พร้อมด้วยผู้บริหารเทศบาล ,หัวหน้าส่วนราชการ, คณะทำงานเพื่อปฏิบัติการแก้ไขปัญหาผักตบชวา ระดับจังหวัด, สมาชิกสภาเทศบาลฯ และพนักงาน/ลูกจ้างเทศบาลร่วมกิจกรรม





ตามที่โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดหนองคาย กรรมการและเลขานุการคณะทำงานเพื่อปฏิบัติการแก้ไขปัญหาผักตบชวา ระดับจังหวัด ได้บูรณาการประสานข้อมูลกับสำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดหนองคาย ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะทำงาน ในการพิจารณาจัดหาพื้นที่แหล่งน้ำที่มีผักตบชวา เพื่อจัดกิจกรรม โดยมีความเหมาะสมของปริมาณผักตบชวา มีสภาพพื้นที่สะดวกปลอดภัยในการทำงานของเครื่องจักรกล มีความพร้อมในการจัดเก็บวัชพืชหลังการกำจัดประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ และความพร้อมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเจ้าของพื้นดำเนินการ จึงได้จัดกิจกรรมการกำจัดผักตบชวาแบบบูรณาการจังหวัดหนองคายที่ สวนสมเด็จย่าฯ ในครั้งนี้ เพื่อกำจัดผักตบขวาและวัชพืชในแหล่งน้ำสาธารณะ และรักษาสภาพแวดล้อมให้มีความสะอาด สวยงาม และปลอดภัย อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการออกกำลังกายของพี่น้องชาวเมืองท่าบ่อ  และเป็นการสนับสนุนการปฏิบัติงานแบบบูรณาการของจังหวัดหนองคาย




สำหรับในพื้นที่จังหวัดหนองคาย คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาผักตบชวา ซึ่งมีปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นประธาน และอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง เป็นเลขานุการ ได้แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อปฏิบัติการแก้ไขปัญหาผักตบชวา  ระดับจังหวัด โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธาน และโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดเป็นเลขานุการคณะทำงาน ซึ่งคณะทำงานฯจังหวัดหนองคาย ได้สำรวจข้อมูลแหล่งน้ำในจังหวัดหนองคาย ทั้งแหล่งน้ำเปิดและแหล่งน้ำปิด ที่มีผักตบชวา พบว่าในปัจจุบัน มีแหล่งน้ำปิด จำนวน 35 แห่ง แหล่งน้ำเปิด จำนวน 12 แห่ง กระจายอยู่ในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสังคม, อำเภอโพธิ์ตาก, อำเภอทำบ่อ, อำเภอเมืองหนองคาย, อำเภอโพนพิสัย, อำเภอเฝ้าไร่ และอำเภอรัตนวาปี รวมปริมาณผักตบชวามากกว่า 70,000 ตัน โดยกำหนดเป็นแผนมาตรการไว้ว่า ต้องกำจัดผักตบชวาให้หมด ภายในเดือนตุลาคม 2564 ซึ่งสวนสมเด็จย่าเทศบาลเมืองท่าบ่อ เป็นหนึ่งในแหล่งน้ำปิดที่กำหนดไว้ในแผนของคณะทำงาน และเมื่อกำจัดผักตบชวาแล้วเสร็จ ก็จะมอบให้เทศบาลเมืองท่าบ่อ ได้หมั่นตรวจสอบกำจัดดูแล ไม่ให้ขยายพันธุ์เกินกำลังที่จะกำจัดได้ เพื่อรักษาสภาพแวดล้อมให้สะอาด สวยงามอย่างยั่งยืน ตลอดไป.









วันอังคารที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2564

เหล่ากาชาดจังหวัดหนองคาย มอบบ้านโครงการ “กาชาดห่วงใย ใส่ใจที่อยู่ ประจำปี 2564” ให้กับประชาชนผู้มีฐานะยากจนและมีความประพฤติดี และออกเยี่ยมผู้ป่วยติดเตียงและผู้สูงอายุ ในพื้นที่ตำบลด่านศรีสุข อ.โพธิ์ตาก จ.หนองคาย

วันที่ 31 ส.ค. 2564 ที่ บ้านเลขที่ 109 หมู่ที่ 3 ต.ด่านศรีสุข อ.โพธิ์ตาก จ.หนองคาย นายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย / นายกเหล่ากาชาดจังหวัดหนองคาย เป็นประธานในพิธีมอบบ้านให้กับนางสาวฤทธิ์ วารินทร์ อายุ 57 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน ตามโครงการ “กาชาดห่วงใย ใส่ใจที่อยู่ ประจำปีงบประมาณ 2564”  โดยมีนางทัศนาวัลย์ วิริยานภาภรณ์ รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดหนองคาย พร้อมด้วยว่าที่พันตรี อภิญญา ศักดินันท์ นายอำเภอโพธิ์ตาก, ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น, หัวหน้าส่วนราชการ, คณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดหนองคาย, กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้ที่เกี่ยวข้องร่วมพิธีมอบบ้านครั้งนี้ 



จากนั้นได้มอบถุงยังชีพให้กับผู้สูงอายุที่ยากไร้จำนวน 8 ราย และยังได้ไปเยี่ยมบ้านและมอบถุงยังชีพให้ผู้สูงอายุที่ป่วยติดเตียงในชุมชนจำนวน 2 ราย ที่กำลังประสบปัญหาความเดือดร้อนและความยากลำบากในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 




สำหรับการมอบบ้านโครงการ “กาชาดห่วงใย ใส่ใจที่อยู่ ประจำปีงบประมาณ 2564” สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดหนองคาย มีเป้าหมายเพื่อสร้างบ้านที่อยู่อาศัยให้กับผู้ที่มีฐานะยากจนและมีความประพฤติดี ในพื้นที่จังหวัดหนองคาย โดยจัดสร้างบ้านที่อยู่อาศัยแบบบ้านชั้นเดียว ในวงหลังละ 100,000 บาท ซึ่งอำเภอโพธิ์ตากได้รับอนุมัติงบประมาณในการก่อสร้างบ้านตามโครงการดังกล่าว ให้กับนางสาวฤทธิ์ วารินทร์ อายุ 57 ปี ซึ่งเป็นบุคคลพิการ เป็นโรคความดันสูง ไม่มีอาชีพ มีสมาชิกในครอบครัวอาศัยอยู่ร่วมกัน จำนวน 9 คน สภาพบ้านอยู่อาศัยเป็นบ้านไม้ยกใต้ถุนไม่มีฝาพนังกั้น ไม่มั่นคงถาวร ฝนตกครั้งใดหลังคาก็จะรั่วซึม มีความเป็นอยู่ลำบาก และต้องเลี้ยงดูหลานซึ่งอายุยังน้อย จำนวน 7 คน สร้างความปลื้มปิติยินดีแก่นางสาวฤทธิ์ วารินทร์ เป็นอย่างยิ่ง ที่ได้มีโอกาสอาศัยอยู่ในบ้านหลังใหม่ อีกทั้งมีความมั่นคง แข็งแรง และปลอดภัยอีกด้วย









วันศุกร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2564

ริเป็นโจรแต่เด็ก! โจรลักรถมอเตอร์ไซค์ชาวบ้าน แท้เป็นเด็กทอมแสบประจำหมู่บ้าน ชอบลักเล็กขโมยน้อย ก่อเหตุลักรถไม่พอ แถมยังขโมยน้ำมันของร้านค้าในหมู่บ้าน ก่อนขับไปรับเพื่อนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่หลบหนี พอถูกจับ ตร.ไม่อยากดำเนินคดี เพราะยังเป็นเด็ก

จากกรณีได้มีคนแจ้งรถ จยย.ยี่ฮ้อฮอนด้า รุ่น MSX สีแดงดำ หมายเลขทะเบียน 1 กช บึงกาฬ 997 หายใครพบเห็นรถยี่ฮ้อนี้ให้แจ้งผู้ใหญ่บ้าน บ้านน้อย หมู่ที่ 1 ต.บ้านเดื่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย รถจยย.หายไปตั้งแต่เมื่อคืนที่ 24 ส.ค.ที่ผ่านมา กระทั่งวันที่ 25 ส.ค. 2564 เวลา13:00 น. ฝ่ายปกครองตำบลบ้านเดื่อ นำโดยนายอุทัย นามมัน กำนันตำบลบ้านเดื่อ พร้อมนายหาร ผิวเหลือง ผู้ใหญ่บ้านเสี่ยน หมู่ 5 ต.บ้านเดื่อ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองตำบล ร่วมกันสกัดจับผู้ที่ลักขโมยรถจยย. 2 คน พร้อมรถของกลาง ได้ที่ทางแยกบ้านเสี่ยน ทางเข้า รร.เดื่อวิทยาคาร แล้วนำตัวทั้ง 2 คนส่งตำรวจ สภ.ท่าบ่อ

.

หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสอบถามเจ้าหน้าที่ ได้ให้ข้อมูลว่า ผู้ที่ลักรถ จยย.คันดังกล่าว มีอายุ 12 ปี และ 13 ปี เป็นราษฎรบ้านน้อย หมู่ 1 ต.บ้านเดื่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย เป็นการเข้าใจผิดกัน เนื่องจากทั้งสองเป็นลูกเป็นหลาน ของคนที่แจ้งรถจยย.หาย และบ้านก็อยู่ติดกัน โดยวันที่เกิดเหตุ ทั้งสองคนเห็นกุญแจเสียบคาไว้ที่รถ จึงชักชวนกันขับออกมาเพื่อขี่เที่ยวเล่น โดยไม่ได้บอกกล่าวใคร หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงแจ้งไปยังเจ้าของรถ ที่ญาติของทั้งสองคน ให้มารับรถคืน พร้อมแยกย้ายกันกลับบ้านไป นั้นกลายเป็นหนังคนละม้วน




ล่าสุดวันที่ 26 ส.ค. 2564 เจ้าของรถจยย.ที่ถูกขโมย ได้ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวมาว่า โจรลักรถจยย.ไปนั้น ไม่ใช่ญาติกัน เป็นเด็กทอมบอย อายุ 13 ปี อาศัยในหมู่บ้านเดียวกัน คืนที่ก่อเหตุเวลาประมาณ 22.00 น. เด็กทอมบอยได้เข้าไปขโมยรถจยย. ที่จอดอยู่ในบริเวณบ้านพักของตน ที่ไม่ได้ถอดกุญแจไว้ หลังจากนั้นเวลาประมาณ 23.30 น. ในคืนเดียวกัน ของวันที่ 24 ส.ค. เด็กทอมบอยคนเดิมยังไปก่อเหตุขโมยน้ำมันของร้านค้าในหมู่บ้านเดียวกัน ได้ไป 2 ถังใหญ่ เพื่อไว้เติมเวลาน้ำมันรถหมด แล้วขับขี่ไปรับเพื่อนชายอายุ 13 ปี จากนั่นก็ขับรถจยย.หนี ทั้งที่เพื่อนชายไม่เกี่ยวอะไรด้วย และไม่ทราบว่ารถที่เด็กทอมบอยขับขี่มารับนั้นขโมยมา โดยหลบหนีไปอำเภอเมืองหนองคาย และตระเวนตามริมแม่น้ำโขงไปเลื่อนๆ

.

จนกระทั่งเมื่อวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา เพื่อนของเจ้าของรถ ได้มาพบทั้ง 2 คนขับขี่รถคันดังกล่าวที่บริเวณหน้า รร.เทคโนโลยีรักไทย ฝั่งขาออกอำเภอท่าบ่อ และรถถูกถอดทะเบียนออก แต่เพื่อนจำได้ ทั้งรถทั้งคน จึงขี่รถตามไป แล้วก็บอกให้จอดรถ แล้วเพื่อนของผู้เสียหายจึงไปยึดกุญแจรถไว้ทันที ก่อนโทรแจ้งตำรวจ สภ.ท่าบ่อ แล้วโทรบอกฝ่ายปกครองตำบลบ้านเดื่อ ตามลำดับ

.

พอไปถึง สภ.ท่าบ่อ พนักงานสอบสวน ได้ทำการเรียกผู้เสียหาย และญาติของเด็กทั้ง 2 คน มาทำการไกล่เกลี่ย เนื่องจากเห็นว่าทั้ง 2 คนยังเป็นเด็ก ถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อน จะดำเนินคดีส่งสถานพินิจไม่ได้ นอกจากครอบครัวจะพาไปเอง จึงได้ยอมความกันไป

.

ทั้งนี้ทราบว่า ทางญาติของเด็กผู้ชายได้มาขอโทษแล้ว เหลือแต่ญาติของเด็กทอมบอย ที่ยังเงียบอยู่ และเด็กทอมบอยที่ขโมยรถไป สาเหตุเพราะเกลียดเจ้าของรถ และยังเป็นเด็กแสบประจำหมู่บ้าน ชอบลักเล็กขโมยน้อยเป็นประจำ แต่ไม่สามารถเอาผิดได้ เพราะยังเป็นเด็ก

วันอังคารที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2564

ซุปเปอร์มาร์เก็ตชุมชน ชาวบ้านด่านศรีสุขเดินเข้าป่าหาเก็บเห็ดมาเลี้ยงชีพและขายสร้างรายได้ช่วงฤดูฝน


วันที่ 24 ส.ค. 2564 ที่ ป่าชุมชนบ้านดอนขนุน หมู่ที่ 5 ต.ด่านศรีสุข อ.โพธิ์ตาก จ.หนองคาย ได้มีชาวบ้านในพื้นที่และพื้นที่ใกล้เคียง รวมกันเข้าป่าเพื่อหาเก็บ “เห็ดระโงกขาว เห็ดระโงกเหลือง" ของดีในป่าป่าชุมชนกว่า 500 ไร่ เป็นผลพวงจากที่มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เห็ดกำลังผุดขึ้นจากดินจำนวนมากในช่วงฤดูฝน หรือที่เกิดขึ้นตามป่า หรือที่คนในพื้นที่เรียกว่า "ซูเปอร์มาร์เก็ตป่าชุมชน"



ทั้งนี้ในป่าจะมีอาหารทุกชนิดตามฤดูกาลเช่น หน้าฝนจะมีเห็ดป่า หวายป่า กระชายขาวป่า หน่อไม้ป่า ดอกกระเจียวป่า ส่วนหน้าแล้งก็จะมีไข่มดแดง เป็นต้น ชาวบ้านต่างแห่ออกไปเก็บมาเพื่อนำมาประกอบอาหารจุนเจือครอบครัว ส่วนที่เหลือก็จะแบ่งขายตามตลาดชุมชนหรือในหมู่บ้าน หารายได้เลี้ยงชีพไปอีก


สำหรับเห็ดระโงก เมื่อโตเต็มที่จะมีลักษณะของดอกแผ่บานขาว ส่วนที่ยังไม่โตเต็มไว ก็จะลักษณะอวบ ดอกสีเหลืองบ้าง สีขาวบ้าง สูงจากดิน 2-4 ซม.โดยชาวบ้านจะใช้เสียมเขี่ยหาตามกองเศษใบไม้ที่ทับถมกันบริเวณโคนต้นไม้ หรือกอหญ้าที่เปียกชื้น นำไปทำเป็นเมนูอาหารเด็ด ที่เหลือก็จำนำไปขายในราคา กิโลกรัมละ 250 บาท สามารถสร้างรายได้วันละ 500-600 บาท เป็นค่าใช้จ่ายในครัวเรือน ถือเป็นการสร้างรอยยิ้มให้กับชาวบ้านในช่วงฤดูแบบนี้ได้เป็นอย่างดี




จ.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา" เฉลิมพระเกียรติฯ

สนง.พช.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา...