วันพฤหัสบดีที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2565

เกษตรกรหนองคาย ปลูกผักริมแม่น้ำโขงปลอดสารเคมี ลูกค้าถูกใจปลอดสารพิษซื้อถึงสวน เผยถึงรายได้จะไม่มาก แต่ก็พออยู่พอกิน

วันที่ 8 ธ.ค. 2565 นายนิกร สร้อยประชา อายุ 60 ปี และนางบุญเต็ม ภูเงิน อายุ 63 ปี สองสามีภรรยา ได้พาชมพื้นที่ปลูกผักริมแม่น้ำโขง เขตพื้นที่บ้านศรีเชียงใหม่ หมู่ 3 ต.พานพร้าว อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ซึ่งก็มีพืชผักหลากหลายชนิด เช่น ถั่วฝักยาว แตงกวา มะระจีนลูกยาว โหระพา กล้วยน้ำว้า มะละกอ คะน้า กะเพรา บวบเหลี่ยม น้ำเต้า  ตะไคร้ พริกขี้หนู มะเขือ มะนาว  เป็นต้น มีลูกค้าเดินทางมาซื้อถึงสวน โดยไม่ต้องไปวางขายที่ตลาด ซึ่งผลผลิตภายในสวนได้ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนตลอดปี สามารถนำออกขายสร้างรายได้ให้กับครอบครัว




โดยสองสามีภรรยาเล่าให้ฟังว่า ตนทั้งสองไม่มีที่ทำกิน จึงไปปรึกษากำนันตำบลพานพร้าว เพื่อขอใช้พื้นที่ริมแม่น้ำโขงปลูกผัก กำนันก็ได้ให้มาทำกินได้ หลังจากได้รับการอนุญาต ตนทั้งสองก็ลงมือแพ่วถางป่าพร้อมปรับพื้นที่ปลูกพืชผักหลากหลายชนิดริมแม่น้ำโขง โดยเริ่มลงมือปรับพื้นที่ปลูกผักไปทีละนิด ทีละหน่อย จนปัจจุบันมีพื้นที่ทำกินประมาณ 2 ไร่เศษ และได้ลงมือปลูกผักริมแม่น้ำโขงมาได้ 3 ปีแล้ว เมื่อผลผลิตออกก็จะเก็บขายเป็นกำ ๆ ละ 10 บาท 20 บาท นำขายบนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างหน้าสวนริมแม่น้ำโขง ชาวบ้านมาวิ่งออกกำลังกายในช่วงเย็นก็จะซื้อกลับบ้าน รวมถึงมาขอซื้อเก็บเองถึงสวนก็มี และที่สำคัญที่สวนจะไม่ใช้สารเคมี จะปลูกแบบอินทรีย์ บำรุงด้วยอาหารเสริม ผลผลิตที่ออกมาจะไม่สวย แต่ลูกค้าชอบ เพราะที่สวนเน้นการปลูกแบบปลอดสารพิษ ส่วนวิทีดูแลก็จะรดน้ำวันละ 2 เวลา เช้า – เย็น และได้ลงมือปลูกพืชผักตามฤดูกาล เพื่อเก็บขายมีรายได้หมุนเวียนสู่ครอบครัววันละ 200-300 บาท  ถึงรายได้จะไม่มาก แต่ก็พออยู่พอกิน

















พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้มูลนิธิกาญจนบารมี จัดหน่วยคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยเครื่องเอกซเรย์เต้านมเคลื่อนที่ (Mammogram) ในสตรีกลุ่มเสี่ยงและด้อยโอกาส ในพื้นที่อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย ระหว่างวันที่ 8-9 ธ.ค.2565

วันที่ 8 ธ.ค. 2565 ที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นายนวน โทบุตร นายอำเภอท่าบ่อ ประธานเปิดโครงการคัดกรองมะเร็งเต้านมโดยเครื่องเอกซเรย์เต้านมเคลื่อนที่ (Mammogram) ในสตรีกลุ่มเสี่ยงและด้อยโอกาส ในโอกาสมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะทรงมีพระชนมพรรษา 70 พรรษา  28 กรกฎาคม 2565  โดยมี นพ.ผดุงสิทธิ์ ละมัยเกศ ผู้แทนมูลนิธิกาญจนบารมี กล่าวรายงานประวัติการดำเนินโครงการฯ มีเจ้าหน้าที่สาธารณสุข หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน และประชาชนในพื้นที่และบริเวณใกล้เคียง เข้าร่วมพิธีเปิด





นายสถิต พูลเพิ่ม สาธารณสุขอำเภอท่าบ่อ  กล่าวว่า ปัจจุบันมะเร็งเต้านม เป็นมะเร็งที่พบมากที่สุด และเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ของสตรีไทย ในปี 2563 พบผู้ป่วยมะเร็งเต้านมรายใหม่ 22,158 ราย และเสียชีวิต 8,266 ราย หรือทุก 1 ชั่วโมงจะพบว่าสตรีไทยเสียชีวิตด้วยมะเร็งเด้านม 1 คน สาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งเต้านมยังไม่แน่ชัด แต่มักสัมพันธ์กับระดับฮอร์โมนในร่างกาย อายุมากขึ้น  ประวัติญาติสายตรงเป็นมะเร็งเต้านม มีพฤติกรรมรับประทานผักผลไม้น้อย และขาดการออกกำลังกาย การป้องกันที่ดีที่สุดคือการค้นหา หรือวินิจฉัยได้ตั้งแต่ระยะเริ่มแรกและรักษาได้เร็ว ซึ่งมีด้วยกัน 2 วิธี คือ การตรวจเต้านมด้วยตัวเอง หรือโดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และการตรวจด้วยเครื่องเอกซเรย์เต้านม"แมมโมแกรม" ซึ่งสามารถคันพบก้อนตั้งแต่ขนาด 2 - 3 มิลลิเมตร ก็จะสามารถรักษาให้หายขาดได้เกือบทั้งหมด  แต่การเอกซเรย์เต้านมด้วยเครื่อง"แมมโมแกรม" ไม่อยู่ในสิทธิประโยซน์หลักประกันสุขภาพแห่งซาติ จึงต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ ไม่สามารถจะเข้าถึงบริการได้





ในโอกาสมหามงคลสมัย พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เจริญพระชนมพรรษาครบ 70 พรรษา ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2565 มูลนิธิกาญจนบารมี จึงได้จัดทำโครงการคัดกรองมะเร็งเต้านม โดยเครื่องเอกซเรย์เต้านมเคลื่อนที่ (Mammogram) กลุ่มเสี่ยงและด้อยโอกาส เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสเจริญพระชนมพรรษาครบ 70 พรรษา และรณรงค์ให้สตรีที่อยู่ห่างไกลและด้อยโอกาส ที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการป่วยจากมะเร็งเต้านม ให้ได้รับการตรวจคันหามะเร็งเต้านมระยะเริ่มแรกด้วยการตรวจเอกซเรย์เต้านม โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น โดยได้ออกให้บริการตั้งแต่เดือนตุลาคม 2557 จนถึงปัจจุบัน ได้ออกให้บริการทั้งหมด 1,500 ครั้ง และสามารถค้นหาผู้ที่เป็นมะเร็งในระยะเริ่มแรก จำนวน 968 ราย





ในวันนี้ มูลนิธิกาญจนบารมึ จึงได้นำขบวนรถเคลื่อนที่มาจำนวน 1 ขบวน ประกอบด้วย รถให้ความรู้เกี่ยวกับมะเร็งเต้านม, รถตรวจเต้านม และรถเอกซเรย์เต้านมเคลื่อนที่ ซึ่งมีกิจกรรมให้ความรู้เรื่องโรคมะเร็งเต้านม และวิธีการตรวจเต้านมด้วยตนเอง , ผู้มีปัจจัยเสี่ยงมะเร็งเต้านมได้รับการตรวจเต้านมโดยแพทย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข , ผู้ที่มีความผิดปกติ พบก้อนที่เต้านม ได้รับการตรวจเอกซเรย์เต้านม (Mammogram) โดยผู้เข้าร่วมการดัดกรองในวันนี้ ประกอบด้วย สตรีที่มีปัจจัยเสี่ยง, ผู้ที่เคยเป็นมะเร็งเต้านมมาก่อน, ญาติสายตรงเป็นมะเร็งเต้านม , ผู้ที่คลำพบก้อนบริเวณเต้านม จำนวน 220 คน และจัดรถตรวจมะเร็งเคลื่อนที่แก่สตรีกลุ่มเสี่ยงและด้อยโอกาสในพื้นที่อำเภอท่าบ่อ เป็นเวลา 2 วัน ระหว่างวันที่ 8 - 9 ธันวาคม 2565 ณ หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย














วันพุธที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2565

"ปุ๋ยแพง" กระทบเกษตรกรปลูกมะเขือเทศริมแม่น้ำโขงหนองคาย เกษตรกรโอดจำเป็นต้องซื้อแม้ราคาพุ่งเท่าตัว ซ้ำมะเขือเทศราคาตก รายได้หายไปเกินครึ่ง

วันที่ 7 ธ.ค. 2565  ที่ แปลงปลูกมะเขือเทศริมแม่น้ำโขง บ้านสะพานทอง หมู่ 5 ต.พานพร้าว อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ของนางประนอม เสาะแสวง อายุ 59 ปี กำลังเก็บผลผลิตมะเขือเทศสุกแดงส่งขายโรงงาน และเก็บมะเขือเทศ 3 สี ขายให้กับพ่อค้าที่รับซื้อถึงสวน



นางประนอม เจ้าของแปลงมะเขือเทศริมแม่น้ำโขง กล่าวว่า ตนมีพื้นที่ปลูกมะเขือเทศริมแม่น้ำโขงทั้งหมด 5 ไร่ ในการปลูกมะเขือเทศนั้นจะมีต้นทุน ไม่ว่าจะเป็นค่าเมล็ด ค่าดูแลรักษา ค่าปุ๋ย ประมาณไร่ละ 2.5 หมื่นบาทต่อไร่ และต่อรอบการปลูก ใช้เวลาปลูกประมาณ 3 เดือน ก็จะเริ่มเก็บผลผลิต และจะเก็บต่อไปได้อีกประมาณ 2 เดือน ผลผลิตที่ได้จะขายส่งโรงงานและพ่อค้าคนกลางที่มารับซื้อ จะได้เงินจากการขายมะเขือเทศประมาณกว่า 100,000 บาทต่อรอบการปลูกหรือต่อปีการผลิต




นางประนอม กล่าวอีกว่า ปีนี้ตนลงมือปลูกมะเขือเทศเมื่อต้นเดือนกันยายนที่ป่านมา แต่ประสบปัญหาน้ำท่วมจากพายุโนรู ทำให้ต้องลงทุนซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกใหม่รอบสอง รวมทั้งการดูแลรักษา โดยเฉพาะค่าปุ๋ยก็มาปรับราคาสูงขึ้นเท่าตัว จากกระสอบละ 900-1,000 บาท ปรับขึ้นเป็นกระสอบละ 1,700 - 1,800 บาท แต่จำเป็นต้องใส่เพราะต้องเร่งผลผลิตให้ทันขายในรอบปีนี้ ซึ่งมะเขือเทศผลสุกแดง จะส่งขายโรงงานทำซอสมะเขือเทศในพื้นที่ ในราคา 3.50 - 4 บาท ซึ่งเป็นราคาที่โรงงานเขารองรับไว้อยู่แล้ว เพราะเป็นเกษตรแปลงใหญ่



แต่สวนทางกับราคาขายมะเขือเทศ 3 สี ปีนี้ราคาตก พ่อค้าคนกลางที่มารับซื้อให้ราคาอยู่ที่ 6-7 บาทต่อกิโลกรัม เทียบกับปีที่ผ่านมา จะได้ราคาอยู่ที่ 30 บาทต่อกิโลกรัม ต่ำสุดไม่เกิน 20-15 บาทต่อกิโลกรัม ตนนั้นลงทุนปลูกมะเขือเทศริมแม่น้ำโขงรอบนี้รวมแล้วกว่า 40,000 บาท ขายมะเขือเทศได้เงินมากว่า 60,000 บาท ถือว่าเป็นรายได้ที่ขาดทุนยับ เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านๆ มารายได้หายไปกว่าครึ่ง







จ.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา" เฉลิมพระเกียรติฯ

สนง.พช.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา...