วันเสาร์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2566

หนองคายพร้อมรับ นทท.ชมบั้งไฟพญานาค 29 ตุลาคมนี้ พร้อมกิจกรรมตระการตาไปกับการแสดงแสง สี เสียง ใน 6 อำเภอตามริมแม่น้ำโขง

เมื่อวันที่ 20 ต.ค. 2566 เวลา 18.00 น. ที่ ลานวัฒนธรรมริมแม่น้ำโขง วัดลำดวน เขตเทศบาลเมืองหนองคาย นายราชันย์ ซุ้นหั้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย, นายประทีป อุ่ยเจริญ ปลัดจังหวัดหนองคาย, พ.ต.อ.ปรีชา กองแก้ว รอง ผบก.ภ.จ.หนองคาย, นพ.ณรงค์ จันทร์แก้ว นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดหนองคาย และนางธนภร พูลเพิ่ม ผอ.ททท.สำนักงานอุดรธานี ร่วมกันแถลงข่าวงานประเพณีออกพรรษาและบั้งไฟพญานาคโลก ประจำปี 2566 โดยมีผู้บริหารระดับจังหวัด ผู้บริหารระดับอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้ที่เกี่ยวข้อง ประชาชน และนักท่องเที่ยวร่วมกิจกรรมจำนวนมาก



นายราชันย์ ซุ้นหั้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า งานประเพณีออกพรรษาบั้งไฟพญานาค เป็นงานที่ชาวหนองคายจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี ในวันออกพรรษาจะได้ชมปรากฏการณ์ธรรมชาติ บั้งไฟพญานาค ซึ่งปีนี้ตรงกับวันอาทิตย์ ที่ 29 ต.ค.66 โดยสถิติบั้งไฟพญานาคเมื่อปี 2565 ที่ผ่านมา จากข้อมูลของป้องกันจังหวัดหนองคาย รวบรวมได้ 260 ลูก เกิดบั้งไฟพญานาคในพื้นที่ อ.โพนพิสัย 20 ลูก และ อ.รัตนวาปี 240 ลูก ส่วนในปีนี้นอกจากการชมปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคแล้ว ยังมีกิจกรรมรองรับนักท่องเที่ยวใน 6 อำเภอริมแม่น้ำโขง ประกอบด้วย อ.สังคม อ.ศรีเชียงใหม่ อ.ท่าบ่อ, อ.เมืองหนองคาย อ.โพนพิสัย และ อ.รัตนวาปี โดยแต่ละอำเภอจะมีกิจกรรมตระการตาไปกับการแสดงแสง สี เสียง ทั้งงานแสดงวัฒนธรรม กิจกรรมบนเวที ถนนอาหาร การแข่งขันเรือยาว และการรำบวงสรวงบูชาพญานาค


พ.ต.อ.ปรีชา กองแก้ว รองผบก.ภ.จ.หนองคาย กล่าวถึงมาตรการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินและการจัดการจราจรในช่วงการจัดงานว่า จะมีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการในทุกอำเภอ จัดกำลังเจ้าหน้าที่เพื่อดูแลความเรียบร้อยให้บริการประชาชน พร้อมการสนธิกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน วางมาตรการการระบายรถ การเดินรถ การบังคับใช้กฎหมายจราจร การเปิดเส้นทางเดินรถทางเดียวในช่วงเวลาที่กำหนดเพื่อให้ประชาชนนักท่องเที่ยวได้รับความสะดวกมากที่สุด



นางธนภร พูลเพิ่ม ผอ.ททท.สำนักงานอุดรธานี กล่าวว่า ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาชมปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคจำนวนมาก สร้างรายได้ให้กับจังหวัดหนองคายปีละหลายร้อยล้านบาท จึงขอเชิญชวนประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ร่วมสัมผัสปรากฏการณ์แห่งศรัทธาและร่วมกิจกรรมในงานประเพณีออกพรรษาบั้งไฟพญานาค ซึ่งจะได้มีโอกาสร่วมทำกิจกรรมที่เป็นสิริมงคลกับชีวิตและสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวตามความเชื่อและศรัทธาในเรื่องของพญานาคอีกหลายแห่งในจังหวัดหนองคาย








วันพฤหัสบดีที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2566

รวบยกแก๊ง!! ตร.ท่าบ่อ ตามรวบ 3 คนร้ายกระชากสร้อยคอทองคำคุณป้าวัย 59 ปี เอาไปจำนำกับญาติก่อนแบ่งกันใช้



ตร.ท่าบ่อ ตามรวบ 3 คนร้ายขี่ จยย.ก่อเหตุกระชากสร้อยคอทองคำคุณป้าวัย 59 ปี หนีไปกบดานในตัวเมืองหนองคาย สารภาพเอาสร้อยไปจำนำกับญาติก่อนแบ่งเงินกันใช้


วันที่ 19 ต.ค. 2566 เวลา 10.00 น. ที่ หน้าสถานีตำรวจภูธรท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย พ.ต.อ.ประเสริฐ ธรรมชัย ผกก.สภ.ท่าบ่อ, พ.ต.ท.ก้องภพ สีหาชัย รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.ท่าบ่อ, พ.ต.ท.สิทธิรักษ์ สิริสิงห รอง ผกก.สส.สภ.ท่าบ่อ, พ.ต.ท.อรรถวิทย์ กันยา รอง ผกก.ป.สภ.ท่าบ่อ, พ.ต.ท.สุธิชัย ธิราช สว.สส.สภ.ท่าบ่อ, พ.ต.ท.นักรบ แสงจันโท สวป.สภ.ท่าบ่อ, ร.ต.ต.อรุณ กองศิลป์ รอง สวป.สภ.ท่าบ่อ, ร.ต.ต.บุญสนอง สามารถ รอง สวป.สภ.ท่าบ่อ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าบ่อ ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาที่ก่อเหตุกระชากสร้อยคอทองคำ จำนวน 3 ราย ประกอบด้วย นายทวีผล พิลาคง อายุ 42 ปี นายชลนที พิลาคง อายุ 37 ปี ทั้ง 2 คน เป็นพี่น้องกัน ชาว ต.พานพร้าว อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย และนายสุรพล ภูมิฐาน อายุ 57 ปี ชาว ต.ท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย พร้อมของกลาง รถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ 2 คัน ยี่ห้อฮอนด้าดรีมซุปเปอร์คับ สีเขียว ทะเบียน 7กด 2168 กทม. และยี่ห้อฮอนด้าคลิกสีดำแดง ทะเบียน 1กง 8801 หนองคาย พร้อมเสื้อผ้าที่ใช้ในการก่อเหตุ ซึ่งเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมได้ที่ห้องเช่าซอยพรหมสมบัติ 1 ต.โพธิ์ชัย อ.เมืองหนองคาย จ.หนองคาย เมื่อวันที่ 18 ต.ค. ที่ผ่านมา



สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 13 ต.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 12.35 น. คนร้ายทั้ง 3 ได้ขับขี่ จยย.ดังกล่าว ก่อเหตุกระชากสร้อยคอทองคำของนางทองพัน ชัยแสง อายุ 59 ปี ชาวบ้านโพนพระ ต.โคกคอน อ.ท่าบ่อ จำนวน 1 เส้น น้ำหนัก 1 บาท เหตุเกิดที่บริเวณซอบบังกาโล 149 ต.ท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ หลังก่อเหตุคนร้ายได้หลบหนีไปทางถนนท่าบ่อ-บ้านผือ  

พ.ต.อ.ประเสริฐ ธรรมชัย ผกก.สภ.ท่าบ่อ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกฝ่ายบูรณาการในการทำงานเพื่อสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายให้ได้โดยเร็ว โดยแบ่งกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่คาดว่าคนร้าใช้ยหลบหนี และพบว่าคนร้ายหลบหนีเข้ามาทางท่าบ่อ มุ่งหน้าไปทาง อ.ศรีเชียงใหม่ กล้องวงจรปิดที่สี่แยกไฟแดงน้ำโมงสามารถจับภาพบุคคลต้องสงสัยเอาไว้ได้อย่าชัดเจน ต่อมา จนท.ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือว่าคนร้ายที่ก่อเหตุ(คนขับรถฮอนด้าดรีมสีเขียว) มีตำหนิรูปพรรณตรงกับนายทวีผล พิลาคง ชาวบ้านพานพร้าว อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ชุดสืบสวนจึงได้ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานข้างเคียงเพื่อหาแหล่งที่พักอาศัย และสืบทราบว่านายทวีผลฯ ไปพักอาศัยอยู่กับแม่ที่ซอยพรหมสมบัติ 1 ต.โพธิ์ชัย อ.เมืองหนองคาย



จึงได้สนธิกำลังเข้าตรวจสอบ และได้พบตัวบุคคลทั้งสาม จากการซักถามยอมรับว่าได้ร่วมกันก่อเหตุกระชากสร้อยคอทองคำที่เขต อ.ท่าบ่อฯจริง ซึ่งสร้อยคอทองคำที่ได้ก็นำไปจำนำกับญาติ ก่อนจะนำเงินมาแบ่งกันไปใช้จ่าย จนท.ได้แจงข้อหาร่วมกันวิ่งราวทรัพย์ ร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป โดยทำด้วยประการอื่นเพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม จึงนำผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าบ่อ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

                    



นพค.25 กองบัญชาการกองทัพไทย ปล่อยขบวนยานพาหนะและเครื่องจักรกลช่วยเหลือ ปชช.ในพื้นที่รับผิดชอบ

ผบ.นพค.25 สนภ.2 นทพ. กองบัญชาการกองทัพไทย ปล่อยขบวนยานพาหนะและเครื่องจักรกลเพื่อออกปฏิบัติงานตามแผนงาน/โครงการ ประจำปีงบประมาณ 2567 เพื่อช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบ 


วันที่ 19 ต.ค. 2566 ที่ บริเวณลานรวมพล กองบังคับการหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 25 สำนักงานพัฒนาภาค 2 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย บ้านศูนย์กลาง หมู่ 3 ต.ด่านศรีสุข อ.โพธิ์ตาก จ.หนองคาย พันเอก ณัฏฐาภูมิ นิกร ผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 25 เป็นประธานในพิธีปล่อยขบวนยานพาหนะและเครื่องจักรกลเพื่อออกปฏิบัติงานตามแผนงาน/โครงการ ประจำปีงบประมาณ 2567 ตามแผนงานยุทธศาสตร์การพัฒนาศักยภาพ การป้องกันประเทศ และความพร้อมเผชิญภัยคุกคามทุกมิติ โครงการพัฒนาศักยภาพด้านการพัฒนาประเทศ และช่วยเหลือประชาชรในพื้นที่รับผิดชอบ




โดยมีพื้นที่ในการพัฒนาตำบลเป้าหมายตำบลหลัก คือ ต.น้ำโมง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ,ตำบลรอง จำนวน 2 ตำบล คือ ต.บ้านถ่อน อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย และ ต.พระธาตุบังพวน อ.เมืองหนองคาย จ.หนองคาย ประกอบด้วย 1. งานก่อสร้างเส้นทางคมนาคม จำนวน 18 โครงการ ระยะทางรวม 33.045 กิโลเมตร เป็นงานทางลาดยาง แบบ Cape Seal จำนวน 3 โครงการ งานก่อสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก จำนวน 1 โครงการ และซ่อมผิวทางจราจรลูกรัง จำนวน 14 โครงการ , 2. งานจัดหาน้ำกินน้ำใช้ จำนวน 18 โครงการ  แบ่งเป็นงานขุดลอกแหล่งน้ำ จำนวน 8 โครงการ งานขุดลอกหนองน้ำ จำนวน 6 โครงการ ปริมาตรดิน ไม่น้อยกว่า 1,015,558 ลูกบาศก์เมตร / งานก่อสร้างอาคารบริการน้ำดื่มระบบ RO อัตราผลิต 250 ลิตรต่อชั่วโมง จำนวน 3 แห่ง และงานก่อสร้างระบบประปาหมู่บ้านมาตรฐานและระบบผลิต (น้ำผิวดิน ตามแบบเลขที่ กกช.54241 จำนวน 1 โครงการ , 3. งานพัฒนาและช่วยเหลือประชาชน จำนวน 4 โครงการ , 4. งานเกษตรผสมผสานตามแนวทางพระราชทานเศรษฐกิจพอเพียง จำนวน 1 โครงการ รวมทั้งสิ้น 41 โครงการ งบประมาณ 54,528,080 บาท



ซึ่งโครงการทั้งหมด  เป็นการพัฒนาในพื้นที่ตำบลเป้าหมายหลักและตำบลเป้าหมายรอง รวมทั้งเป็นการสนับสนุนการปฏิบัติงานของสำนักงานพัฒนาภาค 2 ในการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน ด้วยการพัฒนาเส้นทางคมนาคม พัฒนาแหล่งน้ำ เพื่อการอุปโภค บริโภค และน้ำเพื่อการเกษตร ซึ่งสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของรัฐบาล ตลอดจนนโยบายของผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญซาการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ที่ว่า "นักรบสีน้ำเงิน ต้องเป็นที่พึ่งของประชาชน ในทุกที่ ทุกเวลา และทุกโอกาส"




วันพุธที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2566

อบจ.หนองคาย เตรียมจัดแข่งขันเรือยาวประเพณีชิงถ้วยพระราชทาน 23-25 ต.ค. 66 มีทีมเรือไทย-ลาว เข้าร่วมชิงชัยเป็นเจ้าแห่งสายน้ำ 26 ทีม

อบจ.หนองคาย เตรียมจัดการแข่งขันเรือยาวประเพณีชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ครั้งที่ 1 ระหว่าง 23-25 ตุลาคม 2566 ณ บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงตลาดอินโดจีน(ตลาดท่าเสด็จ) มีทีมเรือทั้งไทย-ลาวเข้าร่วมชิงชัยเป็นเจ้าแห่งสายน้ำ 26 ทีม พร้อมชมขบวนแห่ถ้วยพระราชทานฯ อย่างสมพระเกียรติฯ จาก อบจ.ถึงบริเวณจัดการแข่งขัน


วันทึ่ 18 ต.ค. 2566 เวลา 10.00 น. ที่ ห้องประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองคาย นายยุทธนา ศรีตะบุตร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองคาย พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ตัวแทนจากนครหลวงเวียงจันทน์ คณะกรรมการจัดการแข่งขันเรือยาว สมาชิกสภาจังหวัด และผู้จัดการทีมเรือ ร่วมกันแถลงข่าวโครงการจัดการแข่งขันเรือยาวประเพณีชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ครั้งที่ 1 ประจำปี 2566 พร้อมจับสลากแบ่งสายการแข่งขัน ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23-25 ตุลาคม 2566 ณ บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงตลาดอินโดจีน(ตลาดท่าเสด็จ) จากท่าน้ำวัดหายโศก เข้าเส้นชัยท่าน้ำวัดศรีคุณเมือง ระยะทางการแข่งขัน 650 เมตร




นายยุทธนา ศรีตะบุตร  นายก อบจ.หนองคาย กล่าวว่า นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานถ้วยรางวัลชนะเลิศ โดยในวันที่ 23 ต.ค. จะมีพิธีอันเชิญถ้วยพระราชทานฯ ที่ยิ่งใหญ่ตระการตา สมพระเกียรติ จาก อบจ.หนองคาย เคลื่อนขบวนไปตามถนนสายหลักในพื้นที่อำเภอเมืองหนองคาย จนถึงบริเวณท่าน้ำวัดหายโศก การแข่งขันเรือยาวจะแบ่งเป็น 3 ประเภท คือ เรือยาวใหญ่ทั่วไปไทย-ลาว 50-55 ฝีพาย ชิงถ้วยพระราชทานฯ  โดยได้รับการตอบรับฝีพายเรือจากนครหลวงเวียงจันทร์ สปป.ลาว เข้าร่วมแข่งขัน 6 ทีม ร่วมกับเรือดังจากทั่วประเทศไทยที่ให้ความสนใจส่งทีมเข้าร่วมแข่งขันด้วย 6 ทีม เข้าร่วมชิงชัยในการเป็นเจ้าแห่งสายแม่น้ำโขง , ประเภทเรือยาวใหญ่ภายในจังหวัดหนองคาย 50-55 ฝีพาย มีทีมเรือเข้าร่วมแข่งขัน 7 ทีม และเรือโบราณภายในจังหวัดหนองคาย ไม่เกิน 45 ฝีพาย มีทีมเรือเข้าร่วมแข่งขัน 7 ทีม





สำหรับการแข่งขันที่จัดขึ้น 3 วัน คือ วันที่ 23 ต.ค. จะเป็นเรือยาวโบราณภายในจังหวัดหนองคาย เป็นการแข่งวันเดียวจบ วันที่ 24 ต.ค. จะเป็นรอบคัดเลือกเรือยาวทั่วไปไทย-ลาว และเรือยาวภายในจังหวัดฯ ให้เหลือประเภทละ 4 ทีม เข้าชิงชัยในวันที่ 25 ต.ค. นี้ ซึ่งการแข่งขันเรือยาวชิงถ้วยพระราชทานฯ ก็เพื่อต้องการให้จังหวัดหนองคายเป็นสนามแข่งขันเรือยาวที่ใหญ่และได้มาตรฐานที่สุดในประเทศไทย และกระตุ้นการท่องเที่ยว รวมถึงกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดหนองคายให้คึกคักตลอดช่วงการจัดงาน จึงขอเชิญชวนประชาชนและนักท่องเที่ยวไปร่วมกิจกิจกรรม และชมการแข่งขันเรือยาวชิงถ้วยพระราชทาน ในระหว่างวันที่ 23–25 นี้ด้วย












จ.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา" เฉลิมพระเกียรติฯ

สนง.พช.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา...