วันอาทิตย์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2566

ชมรมศิลปะเด็กบ้านศิลป์ไทย จัดกิจกรรม “ค่ายศิลปะเรียนฟรีมีอุปกรณ์กับครูแดงบ้านศิลป์ไทย"เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กที่สนใจได้เรียนรู้การวาดภาพระบายสีขั้นพื้นฐาน

วันที่ 22 ต.ค. 2566 ที่ บ้านทุ่งศิลป์ครูแดง เลขทั่ 124 หมู่ 3 บ้านทุ่ม ต.น้ำโมง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ชมรมศิลปะเด็กบ้านศิลป์ไทย โดยนายเฉลิมศักดิ์ธรรมเรืองฤทธิ์ หรือครูแดง ประธานชมรมฯ พร้อมด้วยนายทศพล ธรรมเรืองฤทธิ์(ครูสดใส) และนางนุชนาฎ ธรรมเรืองฤทธิ์(ครูน้อย) ร่วมจัดกิจกรร “ค่ายศิลปะเรียนฟรีมีอุปกรณ์กับครูแดงบ้านศิลป์ไทย" ซึ่งเป็นค่ายลำดับที่ 85 ขึ้น โดยมีนางวิไลวรรณ โทบุตร (ภริยานายอำเภอ) เป็นประธานเปิดกิจกรรมฯ พร้อมนายประเวศ ศรีปานแก้ว ปศุสัตว์อำเภอท่าบ่อ ,นางวิภา ศรีปานแก้ว ,นายสุนทร นางอมลวรรณ ถิ่นปากมาง ,พ่อแม่ผู้ปกครองของเด็กนักเรียนร่วมในพิธีเปิด



ครูแดง กล่าวว่า บ้านศิลป์ไทย ถือเป็นชมรมที่จัดกิจกรรมสร้างสรรค์หลายรูปแบบให้เด็กและเยาวชนมาเป็นเวลาอันยาวนาน มีโครงการเกี่ยวกับการพัฒนาศักยภาพสนับสนุนส่งเสริมให้กับเด็กและเยาวชนหลายโครงการ


ส่วนการจัดกิจกรรมฯในครั้งนี้เป็นการแบ่งปันน้ำใจโดยการจัดหาอุปกรณ์และสอนให้เด็กๆ และผู้สนใจฟรี ตามหน่วยงาน,องค์กรต่างๆทั่วประเทศ ที่ผ่านมมากกว่า 500 โรงเรียน โดยใช้งบประมาณของตนเองและได้รับการสนับสนุนจากกัลยาณมิตรและผู้ใหญ่ใจดีร่วมสนับสนุนอุปกรณ์



อย่างครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนอุปกรณ์จากคุณสมเพียร เฉิน ตัวแทนชมรมช่างตัดผมอำเภอท่าบ่อ , ได้รับการสนับสนุนน้ำดื่มจากท่านประเวท  สีปานแก้ว ปศุสัตว์อำเภอท่าบ่อ , ได้รับการสนับสนุนของรางวัลจาก"น้องแซลมอน"เด็กชายจตุรภัทร ทองศรี  และขนมจากพ่อแม่ผู้ปกครองนักเรียนที่นำบุตรหลานมาร่วมกิจกรรม



ส่วนรูปแบบกิจกรรมครั้งนี้พาเด็กๆเดินชมสวนศึกษาเรียนรู้พืชผักชนิดต่างๆและถ่ายภาพ 3 มิติ ภายในบริเวณอาคารบ้านทุ่งศิลป์ครูแดง เมื่อเด็กๆได้เรียนรู้ได้เห็นได้สัมผัสสิ่งต่างๆ แล้วนำเอาความประทับใจมาสร้างสรรค์จินตนาการ ด้วยการวาดภาพระบายสี สร้างความสุขสนุกสนาน สร้างเสียงหัวเราะและความประทับใจให้กับตัวเด็กและผู้ปกครองที่มาร่วมกิจกรรม มีผู้ปกครองส่งบุตรหลานอายุระหว่าง 4-12 ขวบ จำนวน 40คน เข้าร่วมโครงการ ส่วนค่ายต่อไปเดือนพฤศจิกายน"ค่ายศิลปะการเกี่ยวข้าว"














วันเสาร์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2566

“บุกยึดแบคโฮลอบขุดดินในที่ดิน สปก.” จนท.ฝ่ายปกครองอำเภอโพธิ์ตาก ร่วมกับตำรวจ ผู้นำท้องถิ่น และสื่อมวลชนลงตรวจสอบพื้นที่หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านกรณี มีการลักลอบขุดดินในพื้นที่ สปก. โดยผิดกฎหมาย มีนักการเมืองท้องถิ่นอยู่เบื้องหลัง สื่อเจอดีได้ยินเสียงคล้ายเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด

เมื่อวันที่ 20 ต.ค. 2566 เวลาประมาณ 11.00 น. นายประธาน  ภู่ธนะพิบูล  นายอำเภอโพธิ์ตาก, พ.ต.อ.สันติ บุญชู ผกก.สภ.โพธิ์ตาก ได้มอบหมายให้ นายประภาส  รวมรส ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง,นายอาทิตย์  สุดแสง ปลัดอำเภองานป้องกัน ร่วมกับ พ.ต.ท. รักษา ไชยนา รอง ผกก.สส.สภ.โพธิ์ตาก ,นายสมจิตร  หวังหมู่กลาง กำนันตำบลโพนทอง,นางเบญจรวรรณ  นิชจำนงค์ กำนันตำบลด่านศรีสุข ,สมาชิกกองอาสารักษาดินแดนอำเภอโพธิ์ตาก และตำรวจชุดสืบสวน สถ.โพธิ์ตาก ออกตรวจสอบพื้นที่ตามที่ได้รับแจ้งจากชาวบ้านและสามารถตรวจยึดรถแบคโฮขนาดเล็กสีเหลือง-ดำ ยี่ห้อยันมาร์  ที่ลักลอบขุดดินลูกรังในบริเวณไร่มันสำประหลังพื้นที่ บ้านโคกบุญสนอง หมู่ 11 ต.โพนทอง เขตรอยต่อบ้านศูนย์กลาง หมู่ 3 ต.ด่านศรีสุข อ.โพธิ์ตาก จ.หนองคาย พบร่องรอยการขุดดิน เป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดประมาณ 12×12 เมตร ลึกประมาณ 2 เมตร ดินถูกขุดขึ้นประมาณ 288 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งเป็นดิน สปก.โดยมีรถแบคโฮคันดังกล่าวจอดอยู่ริมขอบบ่อขุด ในบุ้งกี๋รถแบคโฮยังมีดินอยู่ในบุ้งกี่ ลักษณะเตรียมพร้อมในการขนย้ายใส่รถบรรทุกแต่ไม่พบรถบรรทุก และปรากฎว่ารายรอบขอบบ่อไม่มีดินที่ถูกขุดขึ้นวางอยู่ เชื่อได้ว่าดินที่ขุดขึ้นได้ถูกเคลื่อนย้ายไปที่อื่น ส่วนผู้กระทำผิดคาดว่าได้หลบหนีไปก่อน จนท.จะมาถึง



นายสมจิตร  หวังหมู่กลาง กำนันตำบลโพนทอง อ.โพธิ์ตาก กล่าวว่า ที่ดินแปลงที่ถูกขุดนี้เป็นที่ดิน สปก. -401  มี นายบุญทัน  พรมสมบัติ ชาวบ้านโคกบุญสนอง หมู่ 11 ต.โพนทอง อ.โพธิ์ตาก จ.หนองคาย เป็นผู้ครอบครอง ก่อนเกิดเหตุผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ว่ามีการลักลอบขุดดินในพื้นที่ สปก. โดยผิดกฎหมาย จึงได้ลงตรวจสอบพื้นที่โดยขับรถอ้อมไปจอดฝั่งตรงข้าม และได้ยินเสียงเครื่องจักรกำลังทำงาน พบรถแมคโฮขนาดเล็กกำลังลักลอบขุดดิน และรถบรรทุกดิน 6 ล้อ 2 คันจอดอยู่ จึงได้ลงจากรถและกำลังจะเดินไปเพื่อบันทึกภาพ จู่ๆก็ได้ยินเสียงคล้ายเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด เห็นว่าไม่ปลอดภัยจึง ได้โทรศัพท์แจ้งไปยังนางเบญจรวรรณ  นิชจำนงค์  กำนันตำบลด่านศรีสุข ให้แจ้งประสานไปยังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและตำรวจ สภ.โพธิ์ตาก เข้าทำการตรวจสอบ



หลังการตรวจสอบของ จนท. พบว่ารถแบคโฮคันดังกล่าวจอดอยู่ในที่เกิดเหตุและทราบภายหลังว่าเป็นของนักการเมืองท้องถิ่นรายหนึ่ง มีตำแหน่งระดับผู้บริหาร ส่วนรถบรรทุก 6 ล้อ ได้หลบหนีไปได้ จนท.จึงทำการตรวจยึดรถแบคโฮ จำนวน 1 คัน มาทำการลงบันทึกประจำวันที่ สภ.โพธิ์ตาก โดยกล่าวหาว่า ผู้กระทำความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 334 และ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420 จากนั้นนำของกลางส่ง พนักงานสอบสวน สภ.โพธิ์ตาก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป  









หนองคายพร้อมรับ นทท.ชมบั้งไฟพญานาค 29 ตุลาคมนี้ พร้อมกิจกรรมตระการตาไปกับการแสดงแสง สี เสียง ใน 6 อำเภอตามริมแม่น้ำโขง

เมื่อวันที่ 20 ต.ค. 2566 เวลา 18.00 น. ที่ ลานวัฒนธรรมริมแม่น้ำโขง วัดลำดวน เขตเทศบาลเมืองหนองคาย นายราชันย์ ซุ้นหั้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย, นายประทีป อุ่ยเจริญ ปลัดจังหวัดหนองคาย, พ.ต.อ.ปรีชา กองแก้ว รอง ผบก.ภ.จ.หนองคาย, นพ.ณรงค์ จันทร์แก้ว นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดหนองคาย และนางธนภร พูลเพิ่ม ผอ.ททท.สำนักงานอุดรธานี ร่วมกันแถลงข่าวงานประเพณีออกพรรษาและบั้งไฟพญานาคโลก ประจำปี 2566 โดยมีผู้บริหารระดับจังหวัด ผู้บริหารระดับอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้ที่เกี่ยวข้อง ประชาชน และนักท่องเที่ยวร่วมกิจกรรมจำนวนมาก



นายราชันย์ ซุ้นหั้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า งานประเพณีออกพรรษาบั้งไฟพญานาค เป็นงานที่ชาวหนองคายจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี ในวันออกพรรษาจะได้ชมปรากฏการณ์ธรรมชาติ บั้งไฟพญานาค ซึ่งปีนี้ตรงกับวันอาทิตย์ ที่ 29 ต.ค.66 โดยสถิติบั้งไฟพญานาคเมื่อปี 2565 ที่ผ่านมา จากข้อมูลของป้องกันจังหวัดหนองคาย รวบรวมได้ 260 ลูก เกิดบั้งไฟพญานาคในพื้นที่ อ.โพนพิสัย 20 ลูก และ อ.รัตนวาปี 240 ลูก ส่วนในปีนี้นอกจากการชมปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคแล้ว ยังมีกิจกรรมรองรับนักท่องเที่ยวใน 6 อำเภอริมแม่น้ำโขง ประกอบด้วย อ.สังคม อ.ศรีเชียงใหม่ อ.ท่าบ่อ, อ.เมืองหนองคาย อ.โพนพิสัย และ อ.รัตนวาปี โดยแต่ละอำเภอจะมีกิจกรรมตระการตาไปกับการแสดงแสง สี เสียง ทั้งงานแสดงวัฒนธรรม กิจกรรมบนเวที ถนนอาหาร การแข่งขันเรือยาว และการรำบวงสรวงบูชาพญานาค


พ.ต.อ.ปรีชา กองแก้ว รองผบก.ภ.จ.หนองคาย กล่าวถึงมาตรการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินและการจัดการจราจรในช่วงการจัดงานว่า จะมีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการในทุกอำเภอ จัดกำลังเจ้าหน้าที่เพื่อดูแลความเรียบร้อยให้บริการประชาชน พร้อมการสนธิกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน วางมาตรการการระบายรถ การเดินรถ การบังคับใช้กฎหมายจราจร การเปิดเส้นทางเดินรถทางเดียวในช่วงเวลาที่กำหนดเพื่อให้ประชาชนนักท่องเที่ยวได้รับความสะดวกมากที่สุด



นางธนภร พูลเพิ่ม ผอ.ททท.สำนักงานอุดรธานี กล่าวว่า ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาชมปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคจำนวนมาก สร้างรายได้ให้กับจังหวัดหนองคายปีละหลายร้อยล้านบาท จึงขอเชิญชวนประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ร่วมสัมผัสปรากฏการณ์แห่งศรัทธาและร่วมกิจกรรมในงานประเพณีออกพรรษาบั้งไฟพญานาค ซึ่งจะได้มีโอกาสร่วมทำกิจกรรมที่เป็นสิริมงคลกับชีวิตและสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวตามความเชื่อและศรัทธาในเรื่องของพญานาคอีกหลายแห่งในจังหวัดหนองคาย








วันพฤหัสบดีที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2566

รวบยกแก๊ง!! ตร.ท่าบ่อ ตามรวบ 3 คนร้ายกระชากสร้อยคอทองคำคุณป้าวัย 59 ปี เอาไปจำนำกับญาติก่อนแบ่งกันใช้



ตร.ท่าบ่อ ตามรวบ 3 คนร้ายขี่ จยย.ก่อเหตุกระชากสร้อยคอทองคำคุณป้าวัย 59 ปี หนีไปกบดานในตัวเมืองหนองคาย สารภาพเอาสร้อยไปจำนำกับญาติก่อนแบ่งเงินกันใช้


วันที่ 19 ต.ค. 2566 เวลา 10.00 น. ที่ หน้าสถานีตำรวจภูธรท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย พ.ต.อ.ประเสริฐ ธรรมชัย ผกก.สภ.ท่าบ่อ, พ.ต.ท.ก้องภพ สีหาชัย รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.ท่าบ่อ, พ.ต.ท.สิทธิรักษ์ สิริสิงห รอง ผกก.สส.สภ.ท่าบ่อ, พ.ต.ท.อรรถวิทย์ กันยา รอง ผกก.ป.สภ.ท่าบ่อ, พ.ต.ท.สุธิชัย ธิราช สว.สส.สภ.ท่าบ่อ, พ.ต.ท.นักรบ แสงจันโท สวป.สภ.ท่าบ่อ, ร.ต.ต.อรุณ กองศิลป์ รอง สวป.สภ.ท่าบ่อ, ร.ต.ต.บุญสนอง สามารถ รอง สวป.สภ.ท่าบ่อ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าบ่อ ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาที่ก่อเหตุกระชากสร้อยคอทองคำ จำนวน 3 ราย ประกอบด้วย นายทวีผล พิลาคง อายุ 42 ปี นายชลนที พิลาคง อายุ 37 ปี ทั้ง 2 คน เป็นพี่น้องกัน ชาว ต.พานพร้าว อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย และนายสุรพล ภูมิฐาน อายุ 57 ปี ชาว ต.ท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย พร้อมของกลาง รถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ 2 คัน ยี่ห้อฮอนด้าดรีมซุปเปอร์คับ สีเขียว ทะเบียน 7กด 2168 กทม. และยี่ห้อฮอนด้าคลิกสีดำแดง ทะเบียน 1กง 8801 หนองคาย พร้อมเสื้อผ้าที่ใช้ในการก่อเหตุ ซึ่งเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมได้ที่ห้องเช่าซอยพรหมสมบัติ 1 ต.โพธิ์ชัย อ.เมืองหนองคาย จ.หนองคาย เมื่อวันที่ 18 ต.ค. ที่ผ่านมา



สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 13 ต.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 12.35 น. คนร้ายทั้ง 3 ได้ขับขี่ จยย.ดังกล่าว ก่อเหตุกระชากสร้อยคอทองคำของนางทองพัน ชัยแสง อายุ 59 ปี ชาวบ้านโพนพระ ต.โคกคอน อ.ท่าบ่อ จำนวน 1 เส้น น้ำหนัก 1 บาท เหตุเกิดที่บริเวณซอบบังกาโล 149 ต.ท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ หลังก่อเหตุคนร้ายได้หลบหนีไปทางถนนท่าบ่อ-บ้านผือ  

พ.ต.อ.ประเสริฐ ธรรมชัย ผกก.สภ.ท่าบ่อ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกฝ่ายบูรณาการในการทำงานเพื่อสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายให้ได้โดยเร็ว โดยแบ่งกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่คาดว่าคนร้าใช้ยหลบหนี และพบว่าคนร้ายหลบหนีเข้ามาทางท่าบ่อ มุ่งหน้าไปทาง อ.ศรีเชียงใหม่ กล้องวงจรปิดที่สี่แยกไฟแดงน้ำโมงสามารถจับภาพบุคคลต้องสงสัยเอาไว้ได้อย่าชัดเจน ต่อมา จนท.ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือว่าคนร้ายที่ก่อเหตุ(คนขับรถฮอนด้าดรีมสีเขียว) มีตำหนิรูปพรรณตรงกับนายทวีผล พิลาคง ชาวบ้านพานพร้าว อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ชุดสืบสวนจึงได้ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานข้างเคียงเพื่อหาแหล่งที่พักอาศัย และสืบทราบว่านายทวีผลฯ ไปพักอาศัยอยู่กับแม่ที่ซอยพรหมสมบัติ 1 ต.โพธิ์ชัย อ.เมืองหนองคาย



จึงได้สนธิกำลังเข้าตรวจสอบ และได้พบตัวบุคคลทั้งสาม จากการซักถามยอมรับว่าได้ร่วมกันก่อเหตุกระชากสร้อยคอทองคำที่เขต อ.ท่าบ่อฯจริง ซึ่งสร้อยคอทองคำที่ได้ก็นำไปจำนำกับญาติ ก่อนจะนำเงินมาแบ่งกันไปใช้จ่าย จนท.ได้แจงข้อหาร่วมกันวิ่งราวทรัพย์ ร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป โดยทำด้วยประการอื่นเพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม จึงนำผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าบ่อ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

                    



จ.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา" เฉลิมพระเกียรติฯ

สนง.พช.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา...