วันพุธที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2566

โครงการศึกษาแหล่งเรียนรู้นอกสถานที่ สายชั้น ป.1

โรงเรียนเทศบาล 1 สว่างวิทยา อ.เมืองหนองคาย  นำนักเรียนชั้น ป.1 ศึกษาหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ในทัองถิ่นควบคู่ศิลปะ ณ บ้านทุ่งศิลป์ครูแดง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย


วันที่ 6 ธ.ค. 2566  ที่ บ้านทุ่งศิลป์ครูแดง หมู่ 3 บ้านทุ่ม ต.น้ำโมง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ดร.พัชรินทร์ ชัยจันทร์ ผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาล 1 สว่างวิทยา อ.เมืองหนองคาย  จ.หนองคาย พร้อมคณะผู้บริหารโรงเรียนฯ และบุคลากรทางการศึกษา ได้จัดโครงการศึกษาแหล่งเรียนรู้นอกสถานที่ สายชั้น ป.1 โดยมีนายเฉลิมศักดิ์ ธรรมเรืองฤทธิ์ (ครูแดง บ้านศิลป์ไทย) ให้การต้อนรับพร้อมนำณะครูและเหล่าบรรดานักเรียน เดินเยี่ยมชมสถานที่บ้านพื้นที่ 19 ไร่เศษ ซึ่งครูแดง บ้านศิลป์ไทย ได้พัฒนาพื้นที่ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ต่างๆ ไว้ให้แก่ผู้ที่มาทัศนศึกษา ทั้งการเรียนรู้เกี่ยวกับพืชผัก การดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในเบื้องต้น รวมทั้งได้สัมผัสกับภาพ 3 มิติ ที่ครูแดงได้รังสรรค์ขึ้น โดยบรรดาเก็กนักเรียนและคณะครูต่างก็มาถ่ายรูปกัน สร้างความสนใจให้กับนักเรียนโรงเรียนเทศบาล 1 สว่างวิทยา เป็นอย่างดี จากนั้นได้ให้นักเรียนได้เรียนรู้เกี่ยวกับศิลปะการวาดรูป



ทั้งนี้ โรงเรียนเทศบาล 1 สว่างวิทยา ได้มุ่งเน้นการพัฒนากระบวนการเรียนรู้แบบบูรณาการ จากแหล่งความรู้ในท้องถิ่นท้องถิ่นจังหวัดหนองคาย และยังเป็นการจัดกิจกรรมที่สอดคล้องกับแนวดำเนินการของหลักสูตรแกนกลาง  การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551  ที่เน้นการจัดการเรียนการสอนให้มีความสัมพันธ์ เชื่อมโยงหรือบูรณาการทั้งภายในกลุ่มสาระการเรียนรู้ และบูรณาการระหว่างกลุ่มสาระการเรียนรู้ให้มากที่สุด  เน้นกระบวนการเรียนกระบวนการคิดอย่างมี เหตุผลและสร้างสรรค์ และกระบวนการกลุ่ม ผู้เรียนได้ปฏิบัติจริงมากที่สุด และเน้นให้เกิดความคิดรวบยอดในกลุ่มสาระการเรียนรู้ต่าง ๆ



สำหรับการจัดโครงการดังกล่าว เพื่อให้นักเรียนตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงของโลกในปัจจุบัน การจัดการด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้ตามแหล่งเรียนรู้ที่เสมือนจริงจากแหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่นจังหวัดหนองคาย  นักเรียนได้พัฒนาศักยภาพให้สูงขึ้นในทุกด้าน โดยการบูรณาการการเรียนรู้ในกลุ่มสาระการเรียนรู้ทุกกลุ่มสาระเข้าด้วยกัน รวมทั้งส่งเสริมคุณภาพผู้เรียนให้มีพัฒนาการเกี่ยวกับการใช้ชีวิตร่วมกัน เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างครูและนักเรียนได้ทำกิจกรรมร่วมกันระหว่างศึกษาดูงาน โดยมีนักเรียนเข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 68 คน























วันอาทิตย์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2566

จ.หนองคาย ทลายแก้งหนี้นอกระบบ ตรวจยึดรถยนต์ 23 คัน รถจักรยานยนต์ 11 คัน



ผจว.หนองคาย เผยฝ่ายปกครองสนธิกำลังร่วมตำรวจ เดินหน้าแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ รวบจับขบวนการรับจำนำรถ รีดดอกเบี้ยโหด ตรวจยึดรถยนต์ 23 คัน รถจักรยานยนต์ 11 คัน ย้ำ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนหนี้นอกระบบสามารถลงทะเบียน


วันที่ 3 ธ.ค. 2566 เวลา 08.45 น. ที่  สถานีตำรวจภูธรโพนพิสัย อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย นายราชันย์ ซุ้นหั้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย พร้อมด้วย พล.ต.ต.พิรัชย์ อุดมพิสุทธิคุณ ผบก.ภ.จ.หนองคาย , พ.ต.อ.ธนากร พัฒนนันแก้ว ผกก.สภ.โพนพิสัย , นายถาวร สังขะมาน นายอำเภอโพนพิสัย พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 4 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.โพนพิสัย และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ได้ร่วมกันแถลงข่าวการทลายขบวนการรับจำนำรถหนี้นอกระบบ  โดยได้ควบคุมตัวผู้ต้องหา จำนวน 2 ราย เป็นชายอายุ 67 ปี และชายอายุ 49 ปี พร้อมทั้งตรวจยึดรถยนต์ได้จำนวน 23 คัน , รถจักรยานยนต์ 11 คัน และอาวุธปืน 3 กระบอก เครื่องกระสุน จำนวน 10 นัด ที่เจ้าหน้าที่ร่วมกันตรวจยึดได้ในพื้นที่ หมู่ 6 บ้านดงสะพัง  ต.นาหนัง อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 2566 ที่ผ่านมา



การตรวจยึดครั้งนี้ จากการสืบสวนของเจ้าพนักงานตำรวจ กก.สืบสวน 1 บก.สส.ภ.4 และเจ้าพนักงานตำรวจ สภ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ซึ่งได้รับข้อมูลบุคคลที่มีพฤติการณ์รับจำนำรถในลักษณะเรียกดอกเบี้ยที่เกินกว่ากฎหมายที่กำหนด โดยหากจะไถ่ถอนรถยนต์คืนต้องจ่ายดอกเบี้ยสูงเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ในพื้นที่ ต.นาหนัง อ.โพนพิสัย จ. หนองคาย และได้รับการร้องเรียน

เจ้าหน้าที่จึงได้ลงพื้นที่ไปสังเกตการณ์ของกลุ่มที่มีพฤติการณ์รับจำนำรถในพื้นที่ อ.โพน พิสัย จ.หนองคาย จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเข้าตรวจค้น จำนวน 2 จุด ตามหมายค้นศาลจังหวัดหนองคาย ซึ่งเป็นสถานที่จอดซุกซ่อนรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ ที่รับจำนำรถเรียกอัตราดอกเบี้ยซึ่งเกินกว่ากฎหมายกำหนด หรือเป็นหนี้นอกระบบ โดยทาง ตำรวจภูธรภาค 4 จะได้ทำการสืบสวนสอบสวนขยายผลดำเนินคดีถึงกลุ่มนายทุนรายใหญ่ที่ อยู่เบื้องหลัง รวมถึงกลุ่มนายทุนอื่น ๆ ที่มีลักษณะพฤติการณ์ในการปล่อยเงินกู้นอกระบบในลักษณะดังกล่าว เพื่อเป็นการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับเงินกู้นอกระบบตามนโยบายของรัฐบาลต่อไป


นายราชันย์ ซุ้นหั้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เปิดเผยว่า จังหวัดหนองคาย ได้นำนโยบายของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ประกาศเดินหน้า “การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ” เป็นวาระแห่งชาติ โดยเร่งขับเคลื่อนให้เกิดผลจริง ฟื้นฟูความเป็นอยู่ คืนศักดิ์ศรี และความหวัง สร้างความมั่นคงให้กับประชาชนคนไทย ด้วยการบูรณาการร่วมกันปฏิบัติการตามแผนระดมกวาดล้างอาชญากรรม ระหว่างกระทรวงมหาดไทยและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยจังหวัดหนองคายมีผู้ลงทะเบียนหนี้นอกระบบ ณ วันที่ 3 ธันวาคม 2566 เวลา 15.30 น. รวมทั้งสิ้น 321 ราย รวมมูลหนี้ 10,261,553.53 บาท มีเจ้าหนี้ จำนวน 165 ราย แบ่งเป็นการลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ 305 ราย และการลงทะเบียน ณ ศูนย์อำนวยการแก้ไขหนี้นอกระบบ 16 ราย






“พิพัฒน์” รมว.แรงงาน ตรวจศูนย์แรกรับฯ และด่านตรวจคนหางาน จ.หนองคาย

“พิพัฒน์” รมว. กระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่เยือนหนองคาย ตรวจศูนย์แรกรับฯ และด่านตรวจคนหางาน จ.หนองคาย เพิ่มศักยภาพการให้บริการรองรับการนำเข้าแรงงานตาม MOU


วันที่ 3 ธ.ค. 2566 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยนายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน นายสมชาย มรกตศรีวรรณ ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการจัดหางาน และผู้บริหารกระทรวงแรงงานลงพื้นที่จังหวัดหนองคาย ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของศูนย์แรกรับเข้าทำงานและสิ้นสุดการจ้าง  และด่านตรวจคนหางานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดหนองคาย โดยมีนายราชันย์ ซุ้นฮั้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย นายรัฐศาสตร์ ชิดชู รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย และหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงแรงงานให้การต้อนรับ




นายพิพัฒน์ รมว.กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า การลงพื้นที่จังหวัดหนองคาย ในครั้งนี้เพื่อเป็นหารือกับทางผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคายประเด็นแรงงานต่างประเทศที่เดินทางเข้ามาทำงานในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก โดยผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเริ่มที่ จะใช้แรงงานจากประเทศเพื่อนมากขึ้นโดยเฉพาะแรงงานจาก สปป.ลาว ซึ่งเป็นแรงงานที่สื่อสารทางด้านภาษาที่เข้าใจกันง่าย ทั้งนี้เลยจัดตั้งศูนย์แรกรับฯ และด่านตรวจคนหางาน จ.หนองคาย เพื่ออบรมเกี่ยวกับการทำงาน รับทราบสิทธิ ค่าจ้าง สัญญาจ้าง สวัสดิการ การปฏิบัติตัวเมื่ออยู่ในประเทศไทย รวมถึงขั้นตอนการขอรับความช่วยเหลือหากเกิดปัญหาขึ้น โดยการอบรมที่ศูนย์ฯแรงงานจะไม่เสียค่าใช้จ่ายใดใด และศูนย์ยังมีหน้าที่สำคัญในการตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่างๆ รวบรวมข้อมูล จัดทำประวัติ ให้กับแรงงานชาวลาวที่เข้ามาทำงานตาม MOU เป็นจุดพักรอของแรงงานต่างชาติที่เดินทางเข้ามาหรือนายจ้างที่มารอรับแรงงานเพื่อไปทำงาน รวมทั้งตรวจสอบคัดกรองแรงงานก่อนอนุญาตให้เดินทางเข้ามาทำงานในประเทศไทย เพื่อป้องกันปัญหาการค้ามนุษย์ จากนั้นเดินทางไปยังด่านตรวจคนหางานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดหนองคาย ณ ด่านพรมแดน สะพานมิตรภาพไทย-ลาว ตำบลมีชัย อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย โดยด่านตรวจคนหางานทำหน้าที่ในการรับแจ้งการเดินทางออกไปทำงาน - รับแจ้งการเดินทางกลับเข้ามาในราชอาณาจักร ตรวจสอบพฤติการณ์ผู้ที่จะลักลอบไปทำงานในต่างประเทศโดยผิดกฎหมาย และให้คำปรึกษาการไปทำงานต่างประเทศอย่างถูกต้อง 



ทั้งนี้ รมว.กระทรวงแรงงาน ยังเน้นย้ำเกี่ยวกับเรื่องแรงงานพี่น้องประเทศเพื่อนที่เดินทางเข้ามาทำงานที่ลักลอบเข้ามาอย่างผิดกฎหมายนั้นไม่สมควรเป็นอย่างยิ่งเนื่องจากทางฝ่ายป้องกันของจังหวัดนั้นได้มีการตรวจอย่างเคร่งครัด เลยขอประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องแรงงานเข้ามาทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย กระทรวงแรงงานดูแลแรงงานอย่างเท่าเทียม ทั้งแรงงานไทยและแรงงานต่างชาติ ศูนย์แรกรับซึ่งเป็นด่านแรกที่ให้ความรู้แรงงานชาวลาวที่จะเดินทางเข้ามาทำงานในประเทศไทย เพื่อรับฟังปัญหาอุปสรรคในการทำงาน และให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์สามารถนำไปพัฒนาประสิทธิภาพการให้บริการ การจ้างแรงงานต่างชาติถูกกฎหมาย






จ.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา" เฉลิมพระเกียรติฯ

สนง.พช.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา...