หนองคาย -
นายกรัฐมนตรีสั่ง กอ.รมน.ส่วนกลางลงพื้นที่ จี้เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องตรวจสอบการดูดทรายในแม่น้ำโขง
ที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนหลังได้รับการร้องเรียน
วันที่ 29 มี.ค. 2561
ที่ห้องประชุมปกครองจังหวัดหนองคาย พลตรีปรเมศวร์
กันมินทร์ รองผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฎิบัติ 4
กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ( ผอ.ศปป 4.กอ.รมน.) พร้อมด้วยคณะทำงาน
เดินทางมาประชุมร่วมกับ นายรณชัย
จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ลุยพื้นที่ตรวจการดูดทรายหลังประชาชนร้องเรียนถึงส่วนกลาง โดยมี พ.อ.สุทธ์พิชญพงษ์ สุธิราวุธ
รอง ผอ.รมน.จังหวัดหนองคาย.(ท) , พันเอก
ปิยะพณห์ ฐิตวัฒนานนท์ เสนาธิการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี นำตรวจ
กรณีได้รับความเดือดร้อนจากฝุ่นละอองที่มีจำนวนมาก
รถบรรทุกทรายทำทรายตกบนถนนผิวการจราจร ในพื้นที่ ตำบลผาตั้ง อำเภอสังคม
จังหวัดหนองคาย จำนวน 4 แห่ง ได้ทำการเรียกหน่วยงานเกี่ยวข้องมาชี้แจง
กรณีข้อร้องเรียนกับทางคณะทำงาน เพื่อทางแนวทางแก้ไขปัญหา ที่เกิดขึ้น ซึ่ง กอ.รมน. ส่วนกลาง
ได้ลงพื้นที่ดูสถานที่จริงพบกองทรายสูงกองติดริมถนน ถมทางน้ำธรรมชาติ
พื้นที่ทำการเกษตรเสียหาย และดูดทรายห่างจากเขื่อนกันทรุดประมาณ 10 เมตร
ซึ่งผิดระเบียบ พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องให้ปฏิบัติงานตามอำนาจหน้าที่อย่างเคร่งครัด
และให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย และหากพบว่า จนท.เกี่ยวข้องส่วนใดไม่ดำเนินการใด
ๆ ในการแก้ปัญหาการดูดทราย ซึ่งเป็นปัญหาเรื้อรังของจังหวัดหนองคาย
มานานที่ไม่ได้รับการแก้ไข หากมีการร้องเรียนเข้ามาอีก จะถือว่า
จนท.ละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ และจะดำเนินการตามระเบียบต่อไป
พลตรีปรเมศวร์ กันมินทร์ กล่าวว่า ที่ศูนย์ประสานการปฎิบัติ 4
กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ลงพื้นที่ ตำบลผาตั้ง อำเภอสังคม
เนื่องจากทางส่วนกลางได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่า
ได้มีบริษัทผู้ประกอบการดูดทรายในแม่น้ำโขง สร้างมวลภาวะฝุ่นละออง
ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ซึ่งทางจังหวัดหนองคายได้แก้ไขปัญหาขั้นต้น
แต่การแก้ไขปัญหานั้นยังไม่ถูกจุด
กอ.รมน.ส่วนกลางจึงได้ลงได้ลงพื้นที่เพื่อช่วยขับเคลื่อนในการแก้ไขปัญหา
ให้เจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยงข้องได้ใช้กฎหมายทุกฉบับเข้ามาแก้ไขปัญหาต่อมวลภาวะสิ่งแวดล้อมและประชาชนให้หมดไป
ซึ่งจะได้นำเรื่องนี้รายงานนายกรัฐมนตรีทราบต่อไป
ด้าน นางสาวศิริกัลยา กิจรักษา
นายอำเภอสังคม กล่าวว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย
ได้สั่งการให้อำเภอสังคมดำเนินการติดตามตรวจสอบเรื่องนี้แม้จะผ่านประชาคมของหมู่บ้านในพื้นที่ก็ตาม
และมีการร้องเรียนว่าการทำประชาคมนั้นไม่โปร่งใส
เพื่อช่วยกันแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน
ซึ่งทางอำเภอสังคมได้สั่งระงับการดูดทรายในแม่น้ำโขงและการขนส่งทรายเป็นเวลา 3 วัน
คือ 26-27 - 28 มีนาคม หากผู้ประกอบการยังฝ่าฝืนไม่ปรับปรุงหรือกระทำความผิด
ก็จะเสนอกรรมการพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตต่อไป
ส่วน นายวีรยุทธ ชานัย ชาวบ้านบ้านปากโสม ตำบลผาตั้ง อำเภอสงคม
กล่าวว่า จากการดูดทราบของบริษัทผู้ประกอบการ
ทำให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนจากฝุ่นละออง ถนนมีทรายหล่นจากรถบรรทุกเนื่องจากเป็นการบรรทุกทรายเปียก
กองทรายมีความสูงเมื่อมีลมพัดก็จะพัดเอาทรายเข้าไปในหมู่บ้าน
และบ้านเรือนของประชาชน
จากนั้นก็เกิดร้านปะยางรถยนต์ขึ้นมาและเข้าไปใช้บริการช่วงเวลาประมาณ ตี 1 ตี 2 ซึ่งจะมีเสียงดังมากทำให้คนแก่นอนไม่ได้
อยากเรียกร้องหากเป็นไปได้ไม่อยากให้มีท่าทรายในพื้นที่ เนื่องจากพื้นที่
อำเภอสังคม เป็นเมืองท่องเที่ยว มีทัศนีย์ภาพที่สวยงาม
เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ และเป็นป่าผืนเดียวของจังหวัดหนองคายที่เหลืออยู่
หากไม่อนุญาตให้มีการดูดทราย ทรายก็จะเกิดกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอีก
ประชาชน นักท่องเที่ยวก็จะได้มาท่องเที่ยวและพักผ่อน ด้านการประมงนั้นปลาไม่สามารถวางไข่ได้
ปลาต้องอพยพไปที่อื่น ทำให้ประชาชนในพื้นที่หากินลำบากยิ่งขึ้น
ส่วนชาวบ้านที่ทำการเกษตรใกล้ท่าทรายต่างดีใจและขอบคุณคณะทำงานของ
กอ.รมน.ส่วนกลาง ที่มองเห็นความเดือดร้อนของประชาชน
ไม่ทิ้งประชาชนเข้ากับประชสาชนได้ดี ไม่ดูหรืออ่านแต่หนังสือรายงาน
การลงพื้นที่จริงรับทราบปัญหาและจะสามารถแก้ไขปัญหาได้ถูกจุด
และชาวบ้านอยากให้ยกเลิกการดูดทรายและอยากได้ลำน้ำธรรมชาติเดิมกลับคืนเนื่องจากถูกนายทุนนำท่อระบายน้ำมาใส่แล้วนำทรายมาทับปิด
ทำให้น้ำที่ไหลลงมาจากภูเขาระบายลงแม่น้ำโขงไม่ทัน ได้เอ่อเข้าท่วมพื้นที่ทำการเกษตรของชาวบ้านได้รับความเสียหาย.