ตำรวจประจำด่านตรวจหนองสองห้อง รวบ 4 คนไทยลาว ลักลอบขนไม้พะยูงพ่วงยาบ้า 330 เม็ด ข้ามโขงสารภาพเป็นเพียงผู้รับจ้าง

       

       เมื่อวันที่ 3 ส.ค. 2561  ที่ด่านตรวจหนองสองห้อง ถนนมิตรภาพหนองคาย-อุดรธานี อำเภอหนองคาย  พ.ต.ต.สุชาติ ขวัญใจ รอง สวป.สภ.เมืองหนองคาย หัวหน้าด่านตรวจหนองสองห้อง,ร.ต.อ.วิเชษฐ์  โคตรบุตร,ร.ต.ท.กรกฤช  จันศรี,ร.ต.ต.ประชา รัตนะ,ด.ต.สุริยันต์  พรมสำรี,ด.ตธนศานต์  เนื่องชมพู,ด.ต.อำนวย  แสนเชียงเนา,ด.ต.นิรันดร์  ทุมรักษา เจ้าหน้าที่ตำรวจ ประจำด่านฯ   ได้ทำการจับกุมนายอนุพงษ์ พิสัยพันธ์ อายุ 35 ปี ชาวอำเภอโพนพิสัย , ท้าวตัก ผนบุน อายุ 21 ปี ชาวลาว พร้อมไม้พยุง จำนวน 23 ท่อน/เหลี่ยม ซุกซ่อนมาในรถยนต์เก๋งฮอนด้า สีดำ หมายเลขทะเบียน กค 7312 หนองคาย  และจับกุมนายเสกสรร กิ้ง อายุ 35 ปี ชาวอำเภอโพนพิสัย และท้าวอาม ขันทะพน อายุ 37 ปี ชาวลาว พร้อมยาบ้า  330 เม็ด ที่ซุกซ่อนมาในรถยนต์กระบะ โตโยต้า สีทอง หมายเลขทะเบียน ฆน 8913 กรุงเทพมหานคร ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.เกษม  มุทาพร ผกก.สภ.เมืองหนองคาย,พ.ต.ท.ธรณินทร์  ศรีทอง รอง ผกก.ป.สภ.เมืองหนองคาย

        

       

       การจับกุมครั้งนี้ ขณะเจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ประจำด่านตรวจ  ได้ตรวจรถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า พบยาบ้าซุกซ่อนอยู่ภายในเบาะหลังด้านซ้ายคนขับ  จึงได้ควบคุมตัวนายเสกสรร และท้าวอาม ที่นั่งมาด้วยกัน จากนั้น ได้มีรถยนต์เก๋งสีดำขับมาถึงด่านตรวจ เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจค้นพบไม้พะยูง จำนวน 23 ท่อน/เหลี่ยมซุกซ่อนมาในรถ จึงได้ทำการควบคุมตัวนายอนุพงษ์ และ ท้าวตัก                       

         

       จากการสอบสวนเบื้องต้น  ทราบว่า ผู้ต้องหาทั้ง 4 คน เป็นขบวนการเดียวกัน ให้การว่าหาซื้อไม้พะยูงโดย ท้าวอามลักลอบข้ามโขง  แล้วตระเวนหาซื้อไม้พะยูง  จากนั้นว่าจ้างให้นายอนุพงษ์ นำรถมาขนไปส่งที่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ในเขตอำเภอรัตนวาปี  ในราคาครั้งละ 6,000 บาท ทำมาแล้ว 4 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 โดยนายเสกสรร กับ ท้าวอาม ทำหน้าที่เป็นสเกาท์หน้า  แต่การประสานงานกันผิดพลาดทำให้มาถูกจับกุมได้ทั้งหมด เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองคาย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ฤาษีลภ/มนเดช  ทีมข่าวจังหวัดหนองคาย

ผู้ว่าฯ หนองคาย ลงพื้นที่ตรวจเขื่อนห้วยโมงหลังแม่น้ำโขงสูงขึ้นต่อเนือง โดยเขื่อนห้วยโมงได้เร่งสูบน้ำออกอย่างเต็มที่ สถานการณ์ไม่น่าห่วง ถึงแม้แม่น้ำโขงจะมีระดับสูงกว่า

       วันนี้ 2 ส.ค. 2561 นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย พร้อมคณะได้ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำ ที่อาคารชลประทานโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาห้วยโมง หรือเขื่อนห้วยโมง อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย หลังน้ำในแม่น้ำโขงมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นจนใกล้ถึงจุดวิกฤติ หวั่นกระทบต่อลำน้ำห้วยโมง

       นายอาคม ไชยมงคล ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาห้วยโมง กล่าวว่า สถานการณ์ในอ่างเก็บน้ำห้วยโมง พบว่ามีมวลน้ำที่ไหลมาจากจังหวัดอุดรธานีและหนองบัวลำภู ทำให้วันนี้อ่างเก็บน้ำห้วยโมงมีน้ำอยู่ที่ 163 เมตร ระดับน้ำทะเลปานกลาง(ม.รทก.) ซึ่งยังต่ำกว่าระดับความจุดกักเก็บที่ 165.85 ม.รทก. โดยได้ทำการสูบน้ำจากลำน้ำโมงลงสู่แม่น้ำโขง เฉลี่ย 40 ชั่วโมงต่อวัน ใช้เครื่องสูบน้ำ 4 เครื่อง สูบเครื่องละ 10 ชั่วโมง/วัน สถานการณ์นั้นไม่น่าห่วง ถึงแม้แม่น้ำโขงจะมีระดับสูงกว่าอ่างเก็บน้ำห้วยโมงก็ตาม แต่สามารถสูบน้ำลงสู่แม่น้ำโขงได้ โดยได้ทำการเริ่มสูบน้ำในห้องควบคุมตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2561 ที่ผ่านมา ระบายน้ำได้วันละ 0.360 ล้าน ลบ.ม. เพื่อป้องกันปัญหาอุทกภัย เนื่องจากหลายวันที่ผ่านมามีฝนตกติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง

        ขณะเดียวกันระดับน้ำในแม่น้ำโขงที่หน้าประตูระบายน้ำของเขื่อนห้วยโมง อยู่ที่ 11.48 เมตร ต่ำกว่าตลิ่ง 1.02 เมตร ใกล้จุดวิกฤต  11.50 เมตร ทำให้แม่น้ำโขงล้นตลิ่งเข้าท่วมร้านอาหารที่อยู่ริมฝั่งในพื้นที่ต่ำ เจ้าของร้านต้องเก็บข้าวของหนีให้พ้นจากน้ำที่ท่วมไม่ถึง เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหาย ทั้งบ้านเรือนและการเกษตรกรรม หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ริมโขง เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง

นพค.25 และเทศบาลตำบลกองนาง ผนึกกำลังทุกภาคส่วนนำกระสอบทรายปิดท่อระบายน้ำลำห้วยมาง หวั่นน้ำเข้าสู่พื้นที่ตอนใน กระทบพื้นที่เกษตรและบ่อปลา

       วันนี้ 2 ส.ค. 2561 ที่ริมถนนทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 211 ท่าบ่อ-ศรีเชียใหม่ บริเวณปากท่อระบายน้ำห้วยมาง หมู่ 3 บ้านปากมาง ตำบลกองนาง อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย พ.อ.ปวริศ บริบูรณ์ รองผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 25 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ นพค.25, เทศบาลตำบลกองนาง, ทหาร กกล.รส.จว.หนองคาย, ฝ่ายปกครองอำเภอท่าบ่อ, แขวงทางหลวงหนองคาย, ตำรวจ, กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนในพื้นที่ ช่วยกันกรอกทรายใส่กระสอบและทำแผงกันชั่วคราว นำไปอุดท่อระบายน้ำของลำห้วยมาง เพื่อไม่ให้น้ำเอ่อล้นขึ้นถึงท่อระบายแล้วเข้าพื้นที่เกษตรและบ่อปลาในพื้นที่บ้านหงส์ทอง, บ้านนาบง, บ้านดอนหมี, บ้านป่าสักใต้ และบ้านหนองยางคำ ตำบลกองนาง หลังน้ำในแม่น้ำโขงได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างเนื่องจนหนุนลำห้วยมาง หวั่นกระทบพื้นที่เกษตรกรรมได้รับความเสียหาย อีกทั้งยังเป็นการป้องกันน้ำท่วมบ้านเรือน อีกด้วย

ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย และปลัดจังหวัดอุดรธานี พร้อมคณะ นำธารน้ำใจเงินบริจาค 1 ล้านบาทและสิ่งของเต็มรถบรรทุก 17 คัน ไปส่งมอบให้ทางการลาว เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ในแขวงอัตตะปือ สปป.ลาว

        วันนี้ 1 ส.ค. 2561  ที่ ศาลาว่าการนครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย พร้อมด้วยนายณรงค์ จีนอ่ำ ปลัดจังหวัดอุดรธานี  หัวหน้าส่วนราชการ และภาคเอกชน นำคาราวานรถบรรทุกสิ่งของและเงินสดที่ได้รับการบริจาคทั้งของจังหวัดหนองคายและจังหวัดอุดรธานี  ไปมอบให้กับ ดร.สินละวง คุดไพทูน เจ้าครองนครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย จากเหตุการณ์เขื่อนเซเปียน แขวงอัตตะปือ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว แตก

       สำหรับเงินบริจาคของจังหวัดหนองคาย จำนวน 500,000 บาท พร้อมสิ่งของเต็มรถบรรทุก จำนวน 5 คัน และจังหวัดอุดรธานี เงินบริจาค จำนวน 500,000 บาท พร้อมสิ่งของเต็มรถบรรทุกจำนวน 12 คัน

        ความคืบหน้าสถานการณ์เขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อย แตก ในแขวงอัตตะบือ ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) วันนี้ เฟซบุ๊ก ABC Laos news รายงานว่า ปริมาณน้ำมหาศาลจากเขื่อนไหลทะลักเจ้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในเมืองสะหนามไซ แขวงอัตตะปือ ทางตอนใต้ของลาว ได้รับความเสียหายอย่างหนัก มีผู้เสียชีวิตแล้วจำนวนหนึ่ง และสูญหายหลายร้อยคน ขณะที่ประชาชนอย่างน้อย 6,600 คนต้องไร้ที่อยู่อาศัย และมีประชาชนแจ้งพลัดหลงกับสมาชิกในครอบครัวจำนวนมาก

กองทุนหลักประกันสุขภาพเทศบาลเมืองหนองคาย ร่วมกับภาคีเครือข่ายและโรงพยาบาลหนองคาย จัดโครงการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกในหญิงวัยเจริญพันธุ์ ตรวจแบบ (ไซ เพร็พ แป็บ เทส) ประจำปี 2561

       วันนี้ 1 ส.ค. 2561 ที่หอประชุมเทศบาลเมืองหนองคาย ชั้น 1 เขตเทศบาลเมืองหนองคาย องเมือง จ.หนองคายนายกำภล เมืองโคตร นายกเทศมนตรีเมืองหนองคาย เป็นประธานในการเปิดโครงการ ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกในหญิงวัยเจริญพันธุ์ อายุ 30 – 60 ปี ตรวจแบบ (ไซ เพร็พ แป็บ เทส)มีนางไพวรรณ  จันทร์ดวง ผู้อำนวยการส่วนบริการสาธารณสุข เทศบาลเมืองหนองคาย กล่าวรายงาน  ถึงวัตถุประสงค์ในการจัดงาน  เพื่อให้หญิงวัยเจริญพันธุ์ให้มีความเข้าใจเรื่องโรคมะเร็งปากมดลูกและเป็นการจัดตั้งเครือข่ายแกนนำสตรีต้านภัยมะเร็งปากมดลูกในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย

        สำหรับการจัดโครงการในครั้งนี้ เป็นการ่วมมือระหว่างภาคีเครือข่ายกองทุนหลักประกันสุขภาพเทศบาลเมืองหนองคาย สืบเนื่องจากการตรวจคัดกรองใน 2 ปีที่ผ่านมา ของศูนย์บริการสาธารสุข 1 พบว่าการตรวจคัดกรองมะเร็งปามดลูกในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย จำนวน 2,000 คน ด้วยวิธีแบบ (ไซ เพร็พ แป็บ เทส) เป็นการตรวจที่มีความแม่นยำสูง พบว่ามีความผิดปกติ จำนวน 201 คน คิดเป็นร้อยล่ะ 10 ซึ่งดูจากตัวเลขผู้ที่ผิดปกติ ทำให้เจ้าหน้าที่และภาคีเครือข่ายสุขภาพ ให้ความสำคัญและสร้างความตระหนัก สร้างองค์ความรู้ให้กัลกลุ่มเป้าหมายในการปรับพฤติกรรมสุขภาพให้เหมาะสม และได้มีการตรวจคัดกรองอย่างต่อเนื่อง

       ทั้งนี้ได้รับเกียรติจากวิทยากรจากโรงพยาบาลหนองคาย ,ดรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลมีชัย มาให้ความรู้และการตรวจมะเร็งปากมดลูกให้แก่ผู้เข้าร่วมอบรมกว่า 100 คน