ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์และเปิดอาคารกองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอท่าบ่อ ที่ 6

วันที่ 31 ต.ค. 62 ที่อาคารกองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอท่าบ่อ ที่ 6 อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์อาคารกองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอท่าบ่อ ที่ 6 โดยมี นายวรรณพล ต่อพล นายอำเภอศรีเชียงใหม่ รักษาราชการแทนปลัดจังหวัดหนองคาย นายศรัณย์ศักด์ ศรีเครือเนตร นายอำเภอท่าบ่อ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ลูกจ้าง เจ้าหน้าที่ อส. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผรส. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนร่วมประกอบพิธี

โดยได้นิมนต์พระกิตติวรคุณ เจ้าคณะจังหวัดหนองคาย (ธ) เจ้าอาวาสวัดอรัญญวาสี และพระสงฆ์ รวม 10 รูป เจริญพระพุทธมนต์  จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคายได้เป็นประธานเปิดอาจกองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอท่าบ่อ ที่ 6 โดยได้นิมนต์พระศรีญาณวงศ์ รองเจ้าคณะจังหวัดหนองคาย (ม) เจ้าอาวาสวัดศรีชมภูองค์ตื้อ ทำพิธีเจิมอาคารเพื่อความเป็นสิริมงคล พร้อมร่วมกันปลูกต้นไม้ (ต้นรวงผึ้ง) จำนวน 2 ต้น และมอบผ้าห่มกันหนาวให้แก่เจ้าหน้าที่ อส. และ ผรส. เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ผู้ปฎิบัติงาน

สำหรับกองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอท่าบ่อ จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2511 เป็นอาคาร 2 ชั้นครึ่งไม้ครึ่งปูน ใช้เป็นสถานที่ในการปฏิบัติภารกิจกองอาสารักษาดินแดนมาจนถึงปี พ.ศ.2561 รวมเป็นระยะเวลาประมาณ 50 ปี กระทั่งปี 2559 กองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอท่าบ่อ ที่ 6 ได้ยื่นหนังสือขอสนับสนุนงบประมาณก่อสร้างอาคารกองร้อยหลังใหม่จากกรมการปกครองเนื่องจากตัวอาคารกองร้อยทรุดโทรมตามอายุการใช้งาน และได้ติดตามความคืบหน้าการอนุมัติงบประมาณก่อสร้างอยู่เป็นระยะๆ จนเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2561 เวลาประมาณ 17.00น. ได้เกิดพายุฝนฟ้าคะนองและมีลมกรรโชกแรง ลมได้พัดกองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอท่าบ่อ ที่ 6 ส่งผลให้ตัวอาคารกองร้อยได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก จนไม่สามารถใช้การต่อไปได้ จึงได้รวบรวมข้อมูลความเสียหายทั้งหมดรายงานต่อนายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวังหนองคาย ตำแหน่งผู้บังคับกองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดหนองคาย เพื่อติดตามเร่งรัดการขอรับการสนับสนุนงบประมาณในการก่อสร้างกองร้อยหลังใหม่จากกรมการปกครอง และได้รับการอนุมัติงบประมาณในการสร้างกองร้อยอาสารักษาดินแดนตามแบบมาตรฐานขนาดกลางเป็นเงินทั้งสิ้น 8,322,200 บาท จากกรมการปกครอง โดยได้ลงนามในสัญญาจ้างกับกิจการร่วมค้า บจก.สถาปนวิศน์ และ ห.จ.ก.ขวัญชัยเคหะภัณฑ์ เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2562 ภายในวงเงิน 6,244,100 บาท

ศุลกากรหนองคาย รวบสาวเชียงรายวัย 19 ขนโคเคน 3 กิโลกรัมซุกเสื้อกันหนาว มูลค่า 24 ล้านบาท สารภาพได้ค่าจ้างจากแฟนหนุ่มเนปาล 50,000 บาท

 
เมื่อคืนวันที่ 29 ต.ค. 62  ที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย – ลาว อำเภอเมืองหนองคาย พ.ต.อ.ณรัชต์พล เลิศรัชตะปภัสส์ นายด่านศุลกากรหนองคาย,นายสมบัติ   ฆ้อนทอง หน.ผ่ายป้องกันและปราบปรามด่านศุลกากรหนองคาย, พ.ต.อ.เกษม มุทาพร ผกก.สภ.เมืองหนองคาย พร้อมเจ้าหน้าที่ ได้ร่วมกันจับกุมแถลงข่าวการจับกุม นางสาวขนิษฐ์สุดา ประกอบแสง อายุ 19 ปี ชาว ตำบลผางาม อำเภอเวียงชัย จังหวัดเชียงราย ได้พร้อมของกลางโคเคน 3 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 24 ล้านบาท ซุกมาในเสื้อกันหนาว
     

การจับกุมครั้งนี้ เมื่อเวลาประมาณ 19.20 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ เจ้าหน้าที่สังเกตุเห็นนางสาวขนิษฐ์สุดา ประกอบแสง หิ้วกระเป๋าเดินทางสีดำ ลงจากรถโดยสารระหว่างประเทศ เวียงจันทน์ – กรุงเทพ และเข้าทำพิธีการผ่านแดน ท่าทางมีพิรุธ เจ้าหน้าที่ศุลกากรจึงได้เรียกตรวจค้นกระเป๋าเดินทาง จากการตรวจค้นพบภายในกระเป๋ามีเสื้อกันหนาวขนาดใหญ่ 4 ตัว น้ำหนักผิดปกติและมีรอยเย็บใหม่ เจ้าหน้าที่จึงแกะดูพบว่าภายในเสื้อซุกซ่อนโคเคนจำนวนดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อหา นำยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคเคน) เข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และมายาเสพติดประเภท 2 (โดเคน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย จากนั้นได้ควบคุมตัวพร้อมของกลางมาทำการสอบสวน
       

 
จากการสอบสวนเบื้องต้น นางสาวขนิษฐ์สุดา ให้การรับสารภาพว่า ตนได้รับจ้างจ้างแฟนหนุ่มชาวเนปาน ให้นำเสื้อกันหนาว จำนวน 4 ตัว ที่ซุกโดเคน ไปส่งให้เพื่อนคนไทยที่หมู่บ้านปรีชา 8 ซอยหัวหมาก 29 กรุงเทพฯ  ตนได้ค่าจ้าง 50,000 บาท แต่ก็มาถูกจับกุมไดเสียก่อน
         
เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองคาย ดำเนินการตามกฎหมายและทำการขยายผลต่อไป

จังหวัดหนองคาย ประชุมพิจารณาให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน

วันที่ 29 ต.ค. 62 ที่ห้องประชุมสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดหนองคาย ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดหนองคาย นายณัฐวัสส์ วิริยานภาภรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติจังหวัดหนองคาย หรือ (ก.ช.ภ.จ.หนองคาย) ครั้งที่ 10/2562  เพื่อพิจารณาประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ตลิ่งทรุดเนื่องจากน้ำกัดเซาะ) และพิจารณาการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัย)

การประชุมครั้งนี้ ที่ประชุมได้แจ้งเรื่อง สรุปวงเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน วงเงิน 20 ล้านบาท ณ วันที่ 28 ตุลาคม 2562, ประกาศกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดหนองคาย เรื่อง เขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย ตลิ่งทรุดเนื่องจากน้ำกัดเซาะ พื้นที่อำเภอโพนพิสัย ,เขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน อุทกภัย พื้นที่อำเภอศรีเชียงใหม่ อำเภอเฝ้าไร่ และอำเภอเมืองหนองคาย จากนั้นที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ตลิ่งทรุดเนื่องจากน้ำกัดเซาะ) ในพื้นที่อำเภอโพนพิสัย ,การพิจารณาอนุมัติให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัย) ตามมติที่ประชุม ก.ช.ภ.อ.ในแต่ละอำเภอ โดยใช้งบกลางของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์พื้นที่ และการพิจารณาขอขยายระยะเวลาการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัย) ออกไปอีก 30 วัน (นับจากวันที่สิ้นสุดการให้ความช่วยเหลืออำเภอแรกสิ้นสุดวันที่ 19 พฤศจิกายน 2562)

สรุปภาพรวมการขออนุมัติงบกลางจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรณีอุทกภัย รวม 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอศรีเชียงใหม่ อำเภอเฝ้าไร่ และอำเภอเมืองหนองคาย การช่วยเหลือด้านพืช จำนวน 893 ราย จำนวนเงิน 10,014,495.75 บาท และการช่วยเหลือด้านประมง 155 ราย จำนวนเงิน 1,662,664.25 บาท รวมวงเงินให้การช่วยเหลือ 11,677,160 บาท

อำเภอศรีเชียงใหม่ จัดทอดกฐินสามัคคี ประจำปี 2562 ณ วัดถ้ำปู่หล้า ต.พระพุทธยาท อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย

วันที่ 27 ต.ค. 62 เวลา 10.00 น. ที่วัดถ้ำปู่หล้า หมู่ 2 บ้านพระยาท ตำบลพระพุทธบาท อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย นายวรรณพล ต่อพล นายอำเภอศรีเชียงใหม่ (รักษาราชการแทนปลัดจังหวัดหนองคาย) เป็นประธานนำข้าราขการ ส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน พ่อค้า และประชาชนชาวอำเภอศรีเชียงใหม่และใกล้เคียง ร่วมทอดกฐินสามัคคีอำเภอศรีเชียงใหม่ ประจำปี 2562  ซึ่งจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี เพื่อให้ส่วนราชการทุกภาคส่วนในพื้นที่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจ และกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ได้สร้างบุญสร้างกุศลร่วมกับประชาชนในท้องถิ่น ซึ่งเป็นประเพณีอันดีงามของชาวพุทธศาสนิกชนที่ปฏิบัติสืบต่อกันมาเป็นระยะเวลายาวนาน

สำหรับการทอดกฐินในครั้งนี้ได้ยอดเงินจำนวน 267,230 บาท เพื่อทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา รักษาขนบธรรมเนียมอันดีงามไว้ให้อยู่คู่กับอำเภอศรีเชียงใหม่ต่อไป และเพื่อทำนุบำรุงศาสนสถานวัดถ้ำปู่หล้า ตำบลพระพุทธบาท อำเภอศรีเขียงใหม่ จังหวัดหนองคาย

หน่วยเรือโพนพิสัย นรข.เขต หนองคาย รวบ 2 หนุ่มใหญ่ชาวโพนพิสัย ได้พร้อมยาบ้าจำนวน 6,128 เม็ด ยาไอซ์ น้ำหนักประมาณ 15.46 กรัม สารภาพรับจ้างท้าวไล 2,000 บาท

       
วันที่ 26 ต.ค.62  ที่หน่วยเรือโพนพิสัย นรข.เขตหนองคาย,น.ต.การันต์  มินวงษ์ หัวหน้าหน่วยเรือโพนพิสัย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยงานเกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันจับกุม นายจักรรินทร์  วรรณโส อายุ 43 ปี ,นายอัมรินทร์  ฉัตรแก้ว อายุ 38 ปี ทั้ง 2 เป็นชาวบ้านบ้านปากสวย ต.วัดหลวง อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ได้พร้อมยาบ้า จำนวน 6,128  เม็ด ยาไอซ์ น้ำหนักประมาณ 15.46   กรัม,เรือกีบเพลายาว จำนวน 1 ลำ ได้ที่บริเวณริมฝั่งห้วยปากสวยสุดเขื่อนป้องกันตลิ่งทรุด บ.ปากสวย ม.14 ต.วัดหลวง อ.โพนพิสัย จ. หนองคาย ภายใต้การอำนวยการของ พลเรือตรี สมพงษ์  ศรอากาศ ผบ.นรข., นาวาเอกชัชวาลย์  โตรุ่ง  ผบ.นรข.เขตหนองคาย, นายถาวร  สังขะมานนายอำเภอโพนพิสัย,พันตำรวจเอก ภูวิศ ศิริพานิช ผกก.สภ.โพนพิสัย,พันเอกพิทยา   นงค์ภา ศปก.ฝขว.ทบ. 
         

การจับกุมครั้งนี้ เนื่องจากเมื่อวันที่ 25  ต.ค. 62   น.ต.การันต์  มินวงษ์ หัวหน้าหน่วยเรือโพนพิสัย นรข.หนองคาย ได้รับแจ้งจากสายว่า จะมีการลับลอบส่งยาเสพติดบริเวณริมดังกล่าว  จึงได้รายงานให้ นาวาเอกชัชวาลย์  โตรุ่ง ผบ.นรข.เขตหนองคาย ทราบ และวางแผนจับกุม โดยได้สนธิกำลังหน่วยเกี่ยวข้อง เข้าวางกำลังดักซุ่มตามจุดที่ได้รับแจ้ง จนกระทั่งพบเรือกีบเพลายาวต้องสงสัย 1 ลำขับพบผู้ต้องสงสัย 2 คน นั่งมาในเรือตรงตามสายแจ้งมา เข้ามาจอดห้วยปากสวยตรงที่ จนท.ดักซุ่มอยู่จากนั้นชายต้องสงสัยทั้ง 2 คน ได้เดินขึ้นมาจากเรือ เจ้าหน้าที่ จึงได้แสดงตัวเพื่อทำการตรวจค้นพบยาบ้าซุกซ่อนอยู่ที่กลางลำเรือ โดยมีเสื่อปกคุมไว้ เจ้าหน้าที่ จึงควบคุมตัวทั้ง 2 คน ไปทำการสอบสวนที่ หน่วยเรือโพนพิสัย
   

จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้ง 2 รับสารภาพว่า พวกตนเป็นเพียงคนรับจ้างจากท้าวลัย(ไม่ทราบชื่อ-สกุลจริง) ราษฎร  บ.ถิ่นเที่ยง ม.ปากงึม กำแพงนครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว ให้นำยาบ้าและยำอซ์ไปส่งให้นายป๊อก (ไม่ทราบชื่อ-สกุลจริง) ราษฎร ต.บ้านโพธิ์ อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย จะได้ค่าจ้างจากนางป๊อก 2,000 บาท และยาบ้า 1 ถุง นายป๊อกได้มาหาที่บ้านพักได้ให้ตนและนายอัมรินทร์ ฯ ไปรับยาบ้าที่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ขณะเดินทางกลับตนและนายอัมรินทร์ฯ ก็มาถูกเจ้าหน้าที่ จับกุมดังกล่าว

เจ้าหน้าที่ จึงแจ้งข้อกล่าวหาร่วมมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์ ,ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ก่อนควบคุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน  สภ.โพนพิสัยดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จังหวัดหนองคาย จัดโครงการคืนคลองสวยทั่วไทย สุขใจเที่ยวท้องถิ่นอย่างยั่งยืนเเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ณ บริเวณลำห้วยกาหม ต.ด่านศรีสุข อ.โพธิ์ตาก

วันที่ 25 ต.ค. 62 ที่ลำห้วยกาหม หมู่ 3 บ้านศูนย์กลาง ตำบลด่านศรีสุข อำเภอโพธิ์ตาก จังหวัดหนองคาย นายศุภกร มูลสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานเปิดโครงการคืนคลองสวยทั่วไทย สุขใจเที่ยวท้องถิ่นอย่างยั่งยืน เฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก โดยมีหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 25 สำนักงานพัฒนาภาค 2  หน่วยทหารพัฒนา นำกำลังพล ยุทโธปกรณ์และยานพาหนะร่วมกับส่วนราชการ หน่วยงาน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำหมู่บ้าน/ชุมชนและจิตอาสาพระราชทาน 904 วปร. เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก

ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแห่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงห่วงใยและทรงคำนึงถึงความอยู่ดีมีสุขของประชาชนเป็นสำคัญ และทรงมีพระราชปณิธานแน่วแน่ที่จะทำให้ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความผาสุกร่มเย็น รวมทั้งสืบสาน รักษา และต่อยอดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริต่างๆ ดังพระปฐมพระราชโองการ ความว่า "เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอดและครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาประชาราษฎรตลอดไป" กระทรวงมหาดไทยร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงได้ดำเนินโครงการ “คืนคลองสวยทั่วไทย สุขใจเที่ยวท้องถิ่นอย่างยั่งยืน” เฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

จังหวัดหนองคาย ได้พิจารณาคัดเลือกและกำหนดให้ "ลำห้วยกาหม" หมู่ 3 บ้านศูนย์กลาง ตำบลด่านศรีสุข ให้เป็นคลองน้ำสาธารณะเฉลิมพระเกียรติฯ ของอำเภอโพธิ์ตาก โดยร่วมกันกำจัดวัชพื้ชในแหล่งน้ำและริมตลิ่ง เพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศน์และปรับปรุงภูมิทัศน์พื้นที่สาธารณะในชุมชนให้สวยงามต่อไป